Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต 220

ตอนที่ 220

ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK

สารบัญ อาณาจักรวิญญาณ

••••••••••••••••••••

บทที่ 220: แผนการของราชันเหยี่ยวฟ้า

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เหลยซานเอ๋อได้ปล่อยพวกเขาแล้ว เขาก็ไม่อาจขอให้จับพวกเขากลับไปอีกอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่กัดฟันและยอมรับความจริง!

หลังจากที่เหลยซานเอ๋อปล่อยทุกคนเรียบร้อย นางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ซ่งจง วันนี้เป็นวันที่ดีมาก ข้าหวังว่าเราจะได้พบเจอกันอีกในสักวัน!” หลังจากนางกล่าวจบ นางไม่รอให้ซ่งจงกล่าวอะไรตอบพร้อมกับบินจากไปทันที

แน่นอนว่าเหลยซานเอ๋อสามารถบินได้อย่างรวดเร็ว และซ่งจงไม่อาจกล่าวอะไรได้ทัน

ในขณะนั้นเหล่าอินทรีย์สายฟ้าหันหลังกลับมาพร้อมกล่าวกับเหลยซานเอ๋อด้วยภาษามนุษย์ “ลูกพี่หญิง เจ้าไขมันบัดซบนั่นต้องการเพียงศิษย์น้องของเขาเท่านั้น ทำไมท่านจึงปล่อยทุกคนไป? เราจะไม่สูญเสียมากเกินไปหน่อยงั้นหรือ?”

ที่จริงแล้วอินทรีย์สายฟ้าเหล่านี้มีความสามารถเทียบเท่ากับผู้ฝึกตนระดับจินตัน แม้ว่ามันจะไม่สามารถเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ได้ แต่พวกมันกลับพูดจาภาษาของมนุษย์ได้ อินทรีย์ตนนี้เป็นน้องชายของเหลยซานเอ๋อ

“เหอะ พวกมันเป็นเพียงมนุษย์ไม่กี่คน แม้ว่าวันนี้เราจะสูญเสีย แต่มันจะสักเท่าไหร่กัน? ไขมันบัดซบนั่นคิดว่าตนเองชนะ แต่อีกสักพักมันจะทราบว่าตัวมันพ่ายแพ้ครั้งใหญ่!”

“จริงหรือ? ลูกพี่หญิงทำไมเจ้าไขมันบัดซบนั่นถึงพ่ายแพ้?”

“เหอะ เจ้ารู้อะไรบ้าง? ถ้าหากข้าปล่อยคนให้มันเพียงสองถึงสามคน แน่นอนว่ามันจะสามารถจากไปโดยง่ายดาย เจ้าไขมันคนนี้มันทำให้ข้าต้องเดินทางอย่างไร้ความหมาย แล้วข้าจะยอมให้มันจากไปโดยง่ายได้อย่างไร? ดังนั้นข้าจึงปล่อยคนทั้งห้าสิบคนไว้กับพวกมัน ด้วยจำนวนคนที่มากเช่นนี้ แน่นอนว่ามันจะไม่สามารถละทิ้งเกาะแห่งนั้นไปได้โดยง่าย อีกทั้งยังไม่สามารถฆ่าทิ้งหรือลืมพวกเขาไว้ข้างหลัง ดังนั้นมันจะไม่มีทางเลือกนอกจากบินกลับไปช้า ๆ! การเดินทางในครั้งนี้ของมันจะต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน!”

“มันจะพบปัญหาแบบไหนกัน? ไม่ว่าเจ้าไขมันนั่นจะเคลื่อนที่ได้ช้าเพียงใด มันมีสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์คอยปกป้องอยู่ แล้วเราจะสามารถทำอะไรได้?”

“เจ้าโง่ เจ้าไม่รู้จักการยืมมือคนอื่นเพื่อฆ่ามันหรือไง? แม้ว่าเราจะไม่สามารถต่อกรได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มีใครทำได้!”

เขาถูคอของตนเองทันทีหลังถูกตำหนิ แต่เขาก็ยังถามต่อ “แต่เจ้าอ้วนอาจจะเป็นข้อยกเว้นถูกไหม? ถ้าหากอาวุโสของเราไม่สามารถดำเนินการได้ ก็จะไม่มีผู้ใดในจักรวรรดิทะเลตะวันออกจัดการกับมันได้”

เหลยซานเอ๋อไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี นางตอบกลับ “เจ้าโง่ ทำไมจึงเข้าใจยากเย็นเช่นนี้? แม้ว่าเจ้าอ้วนมันจะแข็งแกร่ง แต่มีเพียงเราที่รู้ ตราบใดที่เราปกปิดความจริงไว้และให้ผลประโยชน์กับพวกเขาบ้าง ไม่ต้องกลัวหรอกว่าจะไม่มีผู้ใดจะไม่เข้าไปดูแลเจ้าอ้วนนั่น!”

“อย่างนั้นหรือ? ลูกพี่หญิงวางแผนไว้อย่างไร?”

“เหอะ!” หลังจากคิดสักพัก เหลยซานเอ๋อกล่าวออกมา “เรียกหาฉลามดำ! มันเป็นพวกโง่เง่าไม่รู้จักคิด ดีที่สุดที่เราจะหลอกมัน ไปบอกมันว่าข้าถูกรังแกโดยผู้ฝึกตนนามว่าซ่งจง ถ้าหากเขาสามารถนำหัวของซ่งจงกลับมาได้ ข้าจะเลี้ยงอาหารสักมื้อ!”

“แค่นั้นจะพอหรือ?” เขาถามกลับ

“แน่นอนว่าสิ่งนี้ยังไม่มากพอ! แม้ว่าราชันฉลามดำจะโง่เง่าสักเล็กน้อยแต่เขาก็รู้ว่าอะไรที่มันคุ้มค่า หากเขารู้ว่าเจ้าอ้วนนั่นจัดการได้ยาก เขาคงไม่ต่อสู้กับเจ้าอ้วนจนตายตกไปเพียงเพราะต้องการให้ข้าเลี้ยงอาหาร!” เหลยซานเอ๋อหดหู่ทันที

“ถ้าอย่างนั้นเราจะทำอย่างไร?” เขารีบถาม

จากนั้นเหลยซานเอ๋อตอบกลับอย่างกระทันหัน “เหอะ! หนึ่งต้องจ่ายออกไปบางอย่างเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ! งั้นข้าผู้นี้จะไปคุยกับราชันฉลามดำเอง ถ้าหากเขาสามารถนำศีรษะของซ่งจงมาได้ ข้าจะแต่งงานกับเขา! ข้าเชื่อว่าราชันฉลามดำจะต้องใช้ทุกอย่างที่เขามีเพื่อแต่งงานกับข้า!”

เมื่อน้องชายได้ยินเช่นนั้น เขาตกใจทันที “ลูกพี่หญิง ท่านไม่สามารถทำได้! ท่านเปรียบเสมือนนางฟ้าและมีบุรุษนับพันติดตามท่านอยู่! ทำไมถึงคิดว่าไอ้โง่ฉลามดำเหมาะสมกับท่าน?”

“เหอะ เจ้าจะไปรู้อะไร? มันไม่มีอะไรมากไปกว่าการหลอกล่อเหยื่อ! เจ้าคิดว่าซ่งจงนั้นเป็นคนที่สามารถถูกรังแกได้โดยง่ายงั้นหรือ? มันมีสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในการครองครองมากกว่าห้าพันลูก! มันเพียงพอที่จะทำลายลูกน้องของราชันฉลามดำทั้งหมด และแม้ว่าราชันฉลามจะสามารถนำศีรษะของซ่งจงมา มันจะทำอะไรกับข้าได้หากข้าไม่แต่งงาน? ด้วยกองทัพที่รุ่งริ่งของมันก็คงทำได้เพียงโกรธแค้นข้าเท่านั้น!” เหลยซานเอ๋อกล่าวออกมาอย่างรังเกียจ “และแน่นอนว่าข้าผู้นี้จะเข้ายึดครองพื้นที่ของมันทั้งหมด!”

“โอ้ ลูกพี่หญิงท่านช่างร้ายกาจ!” เขาอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา “ข้าไม่เคยคิดเลยว่าท่านจะสามารถคิดแผนการเช่นนี้ได้ ข้ายอมรับท่านจริง ๆ!”

“หยุดกล่าวไร้สาระและรีบไปได้แล้ว!”

“ตกลง ข้าจะไปเดี๋ยวนี้!” เขาพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วเหลือไว้เพียงแสงบาง ๆ ตรงเส้นขอบฟ้าเท่านั้น

กลับมาที่ฉากตรงหน้าของซ่งจงและทีม หลังจากเหลยซานเอ๋อได้จากไป ทุกคนได้ปรบมือให้กับเขา ทั้งหมดแทบจะไม่เชื่อเลยว่าพวกเขาจะสามารถรอดพ้นจากหญิงสาวชั่วร้ายคนนั้นได้ ราวกับว่ามันเป็นปาฏิหารย์ ทุกคนต่างขอบคุณซ่งจงด้วยความซาบซึ้ง แม้แต่หินยังกล่าวคำขอบคุณออกมา

ซูหยู่และซูหยุ่นที่ก่อนหน้านี้กล่าวไว้ว่าถ้าหากรอดพ้นไปได้จะมอบร่างกายให้ซ่งจงกลายเป็นอับอายและขบขัน ทั้งสองรู้สึกอับอายอย่างมากเมื่อต้องมองหน้าซ่งจง ราวกับไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

เสียงเชียร์ของทุกคนดังขึ้น พร้อมทั้งความอายของทั้งสองก็เพิ่มมากขึ้นด้วย ฝูงชนทำเช่นนี้ราวกับว่าต้องการให้นางกล่าวอะไรสักอย่าง ทั้งสองคนถูกพาตัวไปยืนอยู่ตรงหน้าซ่งจง ใบหน้าของทั้งสองแดงก่ำและร่างกายเริ่มสั่นไหว

เมื่อซ่งจงเห็นเช่นนั้น เขาอดไม่ได้ที่จะหยอกล้อ “ฮี่ฮี่ ศิษย์พี่ ท่านจะต้องรักษาคำพูดของท่านอย่างแน่นอน! ในตอนนี้ข้าทำให้ราชันเหยี่ยวฟ้าเหลยซานเอ๋อจากไปแล้ว ตอนนี้ท่านต้องมอบร่างกายนี้ให้กับข้า!”

“เจ้า!” เมื่อหญิงสาวทั้งสองได้ยินเช่นนั้น พวกนางยิ่งอับอายและไม่สามารถกล่าวอะไรได้อีก สุดท้ายนางตอบกลับมาอย่างโกรธจัด “เจ้าแย่มาก! เห็นได้ชัดว่าเจ้ามั่นใจว่าจะต่อสู้กับเหลยซานเอ๋อได้และเจ้ายังมาล้อเล่นกับพวกข้าอย่างตั้งใจ ทำให้ข้าต้องกล่าวอะไรที่น่าอายเช่นนั้นออกไป!”

“ท่านกล่าวหาข้า! ข้าไม่เคยบังคับให้ท่านทั้งสองกล่าวอะไรเลย! ทุกคนในที่นี้เป็นพยานได้ เห็นได้ชัดว่าท่านทั้งสองกล่าวมันออกมาด้วยตนเอง!”

“ใช่แล้ว!” ตาเฒ่าพิษกล่าวออกมา “ข้าสามารถเป็นพยานได้ว่าเจ้าทั้งสองกล่าวมันออกมาเอง!”

แม้แต่หินก็ยังไม่ได้กล่าวอะไร เขายิ้มให้กับซูหยุนและซูหยู่ เห็นได้ชัดว่าเขาเห็นด้วยกับสิ่งที่ตาเฒ่าพิษกล่าว

ซูหยุนและซูหยูไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไปพร้อมกับตะโกนออกมา “พวกเจ้ากำลังข่มเหงพวกข้า!” จากนั้น พวกนางวิ่งหนีไปพร้อมกับเอาผ้าคลุมใบหน้าไว้

หลังจากนั้นทุกคนก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา สำหรับซ่งจงที่เห็นเช่นนั้นแล้ว เขาก็ไม่คิดจะดันทุรังอะไรมากนัก เขาหัวเราะออกมาพร้อมกับโบกมือ “เอาล่ะ พอได้แล้ว เลิกบังคับนางเถิด มาช่วยสหายของเราดีกว่า!”

เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนั้น พวกเขาไม่ได้กล่าวอะไรต่อพร้อมกับรีบช่วยเหลือเหล่าผู้ฝึกตนที่บาดเจ็บ ผู้คนเหล่านี้บาดเจ็บจากการถูกฟ้าผ่าอย่างสาหัส อาการบาดเจ็บของทุกคนนั้นรุนแรงอยู่ภายในซึ่งจัดการมันได้ยากมาก โชคดีที่มียาอายุวัฒนะที่สามารถเยียวยาทั้งหมดได้ จากนั้นเขาพักฟื้นและเริ่มเข้าสู่สภาวะปลอดภัย

ผ่านไปสามชั่วโมง อาการบาดเจ็บของทุกคนได้รับการเยียวยา ซ่งจงนับจำนวนคน เขาตระหนักได้ว่าทั้งหมดมีห้าสิบเจ็ดคน เป็นผู้ฝึกตนชอบธรรมยี่สิบหกคนและผู้ฝึกตนปีศาจสามสิบเอ็ดคน มีสามคนมาจากสำนักเสวียนเทียนและห้าคนมาจากสำนักพันปีศาจ หลังจากที่ใช้ความพยายามอย่างมาก เขาได้ช่วยเหลือชีวิตของศัตรูมากกว่าเพื่อนร่วมสำนักเสียอีก สิ่งนี้ทำให้ซ่งจงหดหู่ไม่น้อย

อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ช่วยชีวิตของพวกเขาไว้แล้ว ซ่งจงไม่อาจสังหารเขาได้ในตอนนี้ ในสถานที่แห่งนี้ความสัมพันธ์ของเพื่อนร่วมสำนักนั้นมีความสำคัญอย่างมาก หลายคนมาจากสำนักพันปีศาจ มันจะลำบากมากถ้าหากซ่งจงคิดจะสังหารพวกเขา ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่เก็บงำความโกรธนี้ไว้ในใจเท่านั้น

อย่างไรก็ตามที่สิ่งทำให้ซ่งจงนั้นประทับใจอย่างมากก็คือการที่เขาได้ช่วยเหลือศิษย์พี่ระดับจินตันซึ่งมาจากสำนักเสวียนเทียน แม้ว่าเขาจะอยู่ในระดับจินตันขั้นต้น แต่สถานะของเขานั้นโดดเด่นและเป็นศิษย์พี่ สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับเขาอย่างมากในอนาคต เพราะนี่นับได้ว่าเขากลายเป็นหนี้ชีวิตซ่งจงไปเสียแล้ว

นอกจากนี้ สิ่งที่ควรค่าแก่การรู้จักกันไว้ก็คือเขานั้นเป็นเพื่อนของพ่อแม่ซ่งจง พวกเขาอยู่ในรุ่นเดียวกัน เพียงแค่เขาเพิ่งจะเข้าสู่ระดับจินตันเมื่อไม่นานมานี้และถือได้ว่าเป็นลุงอาวุโสของซ่งจง

เกี่ยวกับเรื่องที่เขาได้รับการช่วยเหลือจากศิษย์น้อง ผู้ฝึกตนระดับจินตันผู้นี้มีนามว่า ดันฉิงซี อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหดหู่เล็กน้อย การเป็นผู้ฝึกตนระดับจินตันในทะเลตะวันออกสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างสบาย ถึงแม้ว่าจะไม่อาจต่อสู้กับเหล่าอสูรกายได้ แต่เขาควรจะมีความสามารถในการหลบหนี

แต่เมื่อเขาพบกับเหลยซานเอ๋อ ทั้งหมดถูกล้อมรอบและไม่มีโอกาสจะหลบหนี สายฟ้าจากอินทรีย์นั้นร่วงลงมาราวกับเม็ดฝน สมบัติวิเศษของพวกเขาทั้งหมดถูกทำลายอย่างรวดเร็ว เดิมทีเขาคิดว่าเขาได้ตายตกไปแล้ว ไม่เคยคาดหวังว่าจะถูกจับกุมเป็นเชลยเช่นนี้ จากนั้นเหลยซานเอ๋อก็พบกับซ่งจงที่สามารถใช้สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ได้แข็งแกร่งกว่านาง และได้ช่วยเหลือพวกเขาไว้ทั้งหมด เมื่อคิดย้อนไปแล้วดันฉิงซียังคิดว่าตนเองอยู่ในความฝัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ช่วยเหลือเขาไว้ก็คือบุตรชายของเพื่อนร่วมสำนักรุ่นเดียวกัน ทำให้เขารู้สึกตื้นตันอย่างมาก อย่างไรก็ตามแม้จะมีหลายสิ่งที่ต้องการจะพูดคุยกัน แต่พวกเขาไม่มีเวลาจะทำเรื่องเช่นนั้นในตอนนี้ ไม่มีใครรู้ว่าเหลยซานเอ๋อนั้นมีแผนอะไรอีก ดังนั้นทั้งหมดควรจะรีบจากไปโดยเร็วที่สุด! ผู้ที่บาดเจ็บสาหัสนั้นถูกนำขึ้นนาวายักษ์สีดำ ท้ายที่สุดเรือน่าจะรับได้เพียงยี่สิบคน แต่ในตอนนี้มีคนอยู่บนนั้นถึงสี่สิบคน ผู้ฝึกตนที่เหลืออยู่จะต้องบินกลับไปด้วยตนเองแต่ไปด้วยความเร็วที่ต่ำมาก อีกทั้งพวกเขายังต้องพักผ่อนสองถึงสามชั่วโมงหลังจากการบินสักร้อยลี้ แล้วเมื่อไหร่กันกว่าพวกเขาจะกลับถึงบ้านได้?

Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต

Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 234 อ่านนิยาย

( อ่านต่อข้างล่าง )


อัจฉริยะทั้งสองแห่งสำนักถูกลอบสังหาร!
บุตรชายกลับกลายเป็นตกอับ!
ชีวิตนับแต่นั้นเสมือนตกนรก
มีแต่ถูกกลั่นแกล้งสารพัด
เขาสาบาน สักวันหนึ่งจะเอาคืน
จะทวงคืนต่อความอยุติธรรมที่เขาและครอบครัวได้รับ
กาลเวลาผันผ่าน เวลาแห่งการเป็นผู้ใหญ่มาถึง
เขาที่ถูกทอดทิ้งโดยสำนัก
จะต้องโดนเฉดหัวออกเพราะไม่คืบหน้าในการฝึกฝน
ครั้งอับจน เขากลับได้พบมรดกชิ้นหนึ่ง
เป็นไข่มุกดำ บิดาและมารดาของเขาหลงเหลือเอาไว้งานที่เขาถูกกลั่นแกล้งให้กระทำ กลับกลายเป็นสิ่งช่วยชีวิต
ซ่งจงจะทวงคืนความยุติธรรมแก่ตนเองและครอบครัวได้หรือไม่! โปรดติดตามต่อใน โกลาหลแห่งอสนีบาต


Options

not work with dark mode
Reset