Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต 166

ตอนที่ 166

ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

บทที่ 166: ไร้หนทางหนี

พวกเขาทั้งหมดเงยหน้าขึ้นฟ้าพร้อมทั้งเห็นว่ามีเมฆครบทั้งห้าธาตุจริง ทัณฑ์แห่งสายฟ้าทั้งห้านั้นเชื่อกันว่ามีความรุนแรงกว่าสายฟ้าธรรมดาถึงสิบเท่า

ตั้งแต่อดีตจนถึงขณะนี้ไม่เคยมีผู้ใดรอดพ้นจากสายฟ้าชนิดนี้มาก่อน กล่าวก็คือเจ้าอ้วนกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายอย่างมาก

ในขณะที่จ้าวสำนักและภรรยากำลังกังวลถึงสถานการณ์ของเจ้าอ้วนที่กำลังร้องเพลงอย่างผ่อนคลายอยู่นั้น ในตอนท้ายทัณฑ์เมฆาดูเหมือนว่าจะรวบรวมพลังเสร็จสมบูรณ์แล้ว เกิดแสงสว่างวาบอยู่ด้านในเมฆเป็นระยะ

ปรากฏแสงสีแดงภายในเมฆอย่างมากมายราวกับมังกรกำลังแหวกว่ายอยู่ในบ่อน้ำขนาดใหญ่ ส่งผลให้มันดูน่าเกรงขาม ความยิ่งใหญ่นี้อาจทำลายภูเขาทั้งลูกให้หายไปในพริบตาได้

ในขณะที่ต้องเผชิญกับพลังที่น่าเกรงขามเช่นนี้ เจ้าอ้วนหาได้เกรงกลัวแต่อย่างใด เขากล่าวออกมาอย่างสุขุม “สีแดงงั้นหรือ มันก็คงจะเป็นสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์แห่งอัคคี งั้นข้าจะใช้ดาบศักดิ์สิทธิ์แห่งวารีเพื่อทำลายมัน!”

ในขณะที่เขากล่าวออกมาเช่นนั้น เขาตั้งใจแสดงท่าทีที่สง่างามออกมาด้วยการไขว้มือซ้ายไว้ด้านหลัง พร้อมใช้มือขวาเรียกดาบออกมา รวมเข้ากับเสียงคำรามของท้องฟ้าที่อยู่เหนือศีรษะของเขา ทำให้ดูเหมือนว่าเขาเป็นผู้สูงส่งและไม่หวาดเกรงสิ่งตรงหน้าอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตามแม้ว่าเจ้าอ้วนจะอยู่ในความสงบ สิ่งที่เขาไม่ได้คาดคิดก็คือดาบศักดิ์สิทธิ์แห่งวารีของเขาไม่ปรากฏออกมา!

กล่าวก็คือเขามีเพียงท่าทีที่สง่างามเท่านั้น แต่กลับไม่มีสิ่งใดปรากฏออกมาเลย ขณะที่เขากำลังตระหนักได้ว่าดาบไม่ออกมาตามคำสั่ง มันก็สายเกินกว่าจะแก้ไขสิ่งใดแล้ว

สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์แห่งอัคคีของทัณฑ์เมฆารวบรวมพลังอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีการป้องกันที่สูงมาก แต่ในตอนนี้มีบางอย่างผิดพลาด เจ้าอ้วนไม่มีโอกาสได้เปลี่ยนความคิด สายฟ้าขนาดใหญ่ฟาดลงบนศีรษะของเขาอย่างไร้ความปราณี

หลังจากการปะทะจนเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่ว เกิดเป็นฝุ่นตลบอบอวนไปทั่วบริเวณกินพื้นที่นับร้อยลี้ สิ่งเดียวที่สามารถมองเห็นได้ในตอนนี้คือเจ้าอ้วนล่วงลงไปกองอยู่บนพื้นดินอย่างน่าสังเวช

เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนั้น จ้าวสำนักรวมถึงภรรยาของเขา หงหยิงและฉุ่ยจิ้งตื่นตระหนกอย่างรุนแรง จ้าวสำนักคำรามออกมาดังลั่นภูเขา “อ้วนน้อย เจ้ามัวทำสิ่งใดอยู่? เหตุใดจึงไม่ใช้อุปกรณ์วิเศษเพื่อปกป้องตนเอง!”

ด้วยความที่เขาเป็นถึงผู้ฝึกตนระดับหยวนหยิน เสียงคำรามของเขาดังไกลหลายพันลี้ เจ้าอ้วนย่อมต้องได้ยิน

ในขณะนี้เจ้าอ้วนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากอยู่กับความทรมานนี้เงียบ ๆ เขาไม่ใช่คนโง่เขลาและรู้ตัวว่าต้องใช้อุปกรณ์วิเศษเพื่อป้องกันพลังของทัณฑ์เมฆา แต่ปัญหาก็คือเขาไม่สามารถเรียกอุปกรณ์ใดออกมาได้เลยในตอนนี้ หลังจากที่เขาถูกทุบตีไปแล้วในครั้งแรก เขาพยายามเรียกพวกมันอีกหลายครั้งแต่ไร้ประโยชน์

ในขณะนั้นวินาทีต่อมา สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์แห่งโลหะได้ปรากฏขึ้นแล้ว เจ้าอ้วนโห่ร้องออกมาอย่างไร้หนทาง “ระฆังทองแดงออกมาช่วยข้า!”

เขาตะโกนออกมาอย่างตรงไปตรงมาแต่น่าเสียดายที่ไม่มีอุปกรณ์ใดปรากฏเลยสักชิ้น สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์แห่งโลหะฟาดลงบนหลังของเขาส่งความเจ็บปวดไปทั่วทั้งร่างกายรวมถึงเส้นลมปราณด้วย เมื่อรวมกับอัคคีก่อนหน้านี้ส่งผลให้เจ้าอ้วนรู้สึกราวกับว่ากำลังอยู่ในนรก ความเจ็บปวดถาโถมอย่างหนักทำให้เหงื่อของเขาหลั่งไหลเช่นน้ำตกและเริ่มมีน้ำตาไหลอาบสองแก้ม

แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าอ้วนกังวลมากที่สุด สิ่งที่ทำให้เขาไม่สามารถเรียกหาดาบแห่งธาตุทั้งห้าได้เป็นเพราะว่าพวกมันอยู่ในมือของทาสทั้งเก้าของเขา แต่ทว่าระฆังทองแดงมันอยู่ในมิติลึกลับของเขาเอง ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่สามารถเรียกใช้งานมัน!

ภายใต้ความสับสนภายในใจ เจ้าอ้วนพยายามเรียกสมบัติที่อยู่ภายในมิติของเขาทั้งหมดเพื่อตรวจสอบว่ามันจะไม่สามารถใช้อะไรได้สักอย่างจริงหรือ แล้วสิ่งที่เขากังวลก็เป็นเรื่องจริง เขาไม่สามารถเรียกสิ่งใดออกมาได้เลย

ในสถานการณ์เช่นนี้ แน่นอนว่าเจ้าอ้วนกำลังพบกับปัญหา! เขาไม่มีสมบัติใด ในตอนนี้เขากลายเป็นไก่ที่ถูกมัดไว้ในตู้เท่านั้น เขามองหาสิ่งของในกระเป๋ามิติอย่างหมดหนทาง ในที่สุดเขาหยิบดาบดำออกมา ซึ่งมันเป็นซากดาบที่ดูเหมือนว่าจะใช้งานมาอย่างยาวนานนับร้อยปีซึ่งได้รับมาจากสำนักในครั้งก่อน นี่คือสิ่งเดียวที่เขามีอยู่ในตอนนี้

เห็นได้ชัดเจนว่าอาวุธนี้ไม่มีพลังแม้แต่จะปกป้องตัวเองเลยด้วยซ้ำ แล้วนับประสาอะไรกับทัณฑ์เมฆา? สถานการณ์ในตอนนี้คือสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์แห่งพสุธากำลังก่อตัวขึ้น แน่นอนว่ามันทำลายดาบของเขาลงไปอย่างไร้เยื่อใยและฟาดลงศีรษะของเจ้าอ้วนอีกครั้ง

ในตอนนี้เจ้าอ้วนถูกโจมตีติดต่อกันถึงสามครั้ง และมีธาตุสามธาตุไหลเวียนอยู่ในร่างกายของเขา พวกมันทั้งหมดราวกับม้าที่ไร้บังเหียนกำลังวิ่งวนไปทั่วเส้นลมปราณอย่างบ้าคลั่ง สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือเจ้าอ้วนไม่สามารถขับไล่มันออกไปได้จนต้องนอนกับพื้นในสภาพไม่ต่างกับขยะเปียก

ในขณะที่เขากำลังตกอยู่ในอาการอัมพาต ทัณฑ์เมฆาเริ่มเคลื่อนไหวลงไปใกล้เขาราวกับว่าเขาเป็นเพียงกระสอบทรายรอการทุบตีเท่านั้น เป็นความโชคดีที่ร่างกายของเขาแข็งแกร่งอย่างมาก ถ้าหากเป็นผู้อื่นคงตายตกไปตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว

แม้ว่าความจริงเจ้าอ้วนจะอดทนต่อการถูกฟ้าผ่าได้ แต่ทว่าปราณจิตวิญญาณทั้งห้าธาตุที่วิ่งอยู่ในร่างกายของเขาสร้างความลำบากอย่างถึงที่สุด เจ้าอ้วนทำได้เพียงค่อย ๆ ปรับลมปราณเพื่อให้ปฐมกาลแห่งความโกลาหลได้ทำงาน

งานของเจ้าอ้วนในตอนนี้คือการอดทนต่อสายฟ้าเหล่านี้ให้ได้ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องยากลำบากอย่างยิ่ง อีกทั้งยังต้องอดทนกับลมปราณภายในร่างกายของตนเอง อีกทั้งยังต้องระมัดระวังการหมุนเวียนลมปราณซึ่งอาจจะทำลายการฝึกฝนทั้งหมด

สถานการณ์ที่บีบคั้นเช่นนี้ทำให้เจ้าอ้วนอึดอัดอย่างถึงที่สุด มีเพียงความเข้มแข็งของจิตใจของเขาเท่านั้นที่ได้รับการฝึกมาอย่างดีเป็นเวลายาวนานหลายปี ซึ่งมันสามารถอดทนต่อความทุกข์ทรมานเหล่านี้ได้

ตอนนี้เจ้าอ้วนไม่สามารถแม้แต่จะยืนขึ้นได้ เหล่าบุคคลที่ยืนดูอยู่จากระยะไกลต่างก็เป็นห่วง พวกเขามองไม่เห็นแล้วว่าสิ่งใดเกิดขึ้นกับเจ้าอ้วนในตอนนี้ เห็นแค่เพียงเมฆาที่บดบังทุกสิ่งอยู่ตรงนั้น ไม่มีแม้แต่เสียงของเจ้าอ้วนตอบกลับมาด้วยซ้ำ

“ท่านพ่อ ท่านแม่!” หงหยิงดึงมือบิดามารดาของตนอย่างหมดหนทางพร้อมถามว่า “พี่ชายอ้วนทำอะไรอยู่? เกิดอะไรขึ้น? ทำไมเขาไม่ใช่สมบัติวิเศษล่ะ?”

“แล้วข้าจะรู้ได้อย่างไร!” ภรรยาจ้าวสำนักตอบกลับมาอย่างกังวล ในขณะนั้นนางหันไปหาฉุ่ยจิ้งพร้อมคิดว่าจะมีคำพูดดี ๆ จากนางสักอย่าง

ในทางตรงกันข้าม ฉุ่ยจิ้งส่ายหน้าพร้อมกล่าวออกมาอย่างอับจนปัญญา “ข้าต้องขออภัย ทัณฑ์สวรรค์เป็นกฎแห่งสวรรค์ซึ่งข้าไม่สามารถทำนายได้ ไม่มีสิ่งใดที่ข้ารับรู้ได้เลย!”

“แล้วเจ้าคิดว่าอ้วนน้อยเป็นอย่างไรบ้างตอนนี้?” จ้าวสำนักกล่าวออกมาอย่างหดหู่ “ชีวิตของเขากำลังตกอยู่ในอันตรายหรือไม่?”

“สิ่งเดียวที่เราต้องขอบคุณในตอนนี้คือทัณฑ์สวรรค์ได้หยุดการโจมตีชั่วคราว แต่ยังคงปรากฏอยู่เหนือศีรษะของเขา นั่นหมายความว่าศิษย์พี่ซ่งยังคงมีชีวิตอยู่เพราะว่าทัณฑ์สวรรค์จะไม่โจมตีซากศพ!” ฉุ่ยจิ้งขมวดคิ้วแน่นพร้อมกล่าวต่อ “แต่ทัณฑ์สายฟ้าแห่งธาตุทั้งห้านั้นเลวทรามยิ่งนัก หากศิษย์พี่ซ่งสามารถใช้สมบัติวิเศษได้ เขาคงจะไม่ได้รับความเจ็บปวดมากเช่นนี้ แต่ที่ข้าเห็นคือเขาไม่ได้เอาสิ่งใดออกมาและใช้เพียงร่างกายรับสายฟ้าโดยตรง ข้าคิดว่าคงจะมีบางอย่างเกิดขึ้นตรงนั้น นอกจากนี้ปัญหานี้อาจจะยิ่งใหญ่เกินกว่าแก้ไข ไม่ว่าร่างกายของศิษย์พี่จะแข็งแกร่งเพียงใด แต่เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะสามารถต้านทานพลังของทัณฑ์สวรรค์ได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งทัณฑ์สายฟ้าแห่งธาตุทั้งห้า! แม้ว่าจะดูไม่ค่อยน่าฟังเท่าไหร่นักแต่ข้าคิดว่าศิษย์พี่ซ่งกำลังตกอยู่ในอันตราย!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ภรรยาของจ้าวสำนักใบหน้าแปรเปลี่ยนเป็นสีดำทันที สำหรับหงหยิงน้ำตาของนางไหลอาบสองแก้มอย่างรวดเร็วพร้อมกล่าวออกมาว่า “มันเป็นเช่นนี้ได้อย่างไรกัน? เหตุใดจึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้? ศิษย์พี่หญิงท่านกล่าวเองไม่ใช่หรือว่าพี่ชายอ้วนไม่ใช่คนอายุสั้น!”

“ข้ารู้!” ฉุ่ยจิ้งกล่าวออกมาอย่างไร้หนทางพร้อมกับหัวเราะอย่างขื่นขม “ปัญหาก็คือโชคชะตาเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ถ้าหากมีใครเข้าไปยุ่งเกี่ยว แน่นอนว่าโลกนี้จะพบกับอันตราย มากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับบุคคล! ทัณฑ์สายฟ้าแห่งธาตุทั้งห้าที่ศิษย์พี่ได้เผชิญอยู่ในขณะนี้อยู่ในระดับที่สามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของเขาได้!”

“แต่ข้าไม่ต้องการให้พี่ชายอ้วนตาย!” หงหยิงกล่าวออกมาพร้อมร่ำไห้อย่างหนัก

“เฮ้อ ข้าก็ไม่ได้ต้องการให้เขาตายเช่นกัน แต่นี่คือชีวิตและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ด้วยพลังของมนุษย์!” ฉุ่ยจิ้งกล่าวอย่างหมดหนทาง

“เหอะ!” ในขณะที่จ้าวสำนักได้ยินเช่นนั้น เขาโกรธแค้นและทุบกำปั้นลงบนพื้นดิน เกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่อยู่บนภูเขา

แต่ในขณะนั้นได้เกิดเสียงแปลก ๆ ลอยผ่านเข้าหูของทุกคน “คร่อก…!”

เมื่อฟังดูแล้วคล้ายกับเสียงกรน

เมื่อได้ยินเช่นนั้น จ้าวสำนักที่เดิมทีไฟแห่งความโกรธได้สุมแน่นเต็มอกอยู่แล้ว เขาตะโกนออกมาทันที “ใครกันที่มันกล้าหลับนอน? บุตรของข้ากำลังถูกทดสอบโดยทัณฑ์สวรรค์ แต่มันกลับมีอารมณ์ที่จะนอนหลับงั้นหรือ? เบื่อชีวิตแล้วใช่หรือไม่?”

ในขณะที่เขากล่าวเช่นนั้น ดวงตาของเขาที่ลุกเป็นไฟมองสำรวจไปทั่วพื้นที่เพื่อค้นหาต้นเสียง แต่แล้วไม่ว่าเขาจะค้นหาเท่าใดก็ไม่อาจพบเจอ หลังจากนั้นเสียงก็ดังขึ้นมากกว่าเดิมจากครั้งแรก

จ้าวสำนักรู้สึกว่ากำลังถูกท้าทาย! เขาโกรธจัดจนระเบิดออกมาทันทีและต้องการค้นหาเสียงเหล่านั้นให้ได้!

ในขณะนั้น ภรรยาจ้าวสำนักได้จับแขนเขาและส่งสายตาแห่งความประหลาดใจ นางกล่าวออกมาว่า “ดูเหมือนว่าเสียงกรนจะมาจากตรงนั้น!”

“หืม?” เมื่อจ้าวสำนักได้ยินเช่นนั้น เขาตกใจทันที สถานที่ที่ภรรยาของเขาชี้คือที่ที่เจ้าอ้วนอยู่ภายใต้ทัณฑ์สวรรค์ เสียงนั้นเล็ดลอดออกมาจากท้องฟ้าที่กำลังคำรามอยู่

หงหยิงรู้สึกประหลาดใจได้แต่อุทานออกมาว่า “พี่ชายอ้วนกำลังงีบหลับงั้นหรือ!”

“เป็นไปได้งั้นหรือ?” เมื่อจ้าวสำนักได้ยินเช่นนั้น ดวงตาของเขาเบิกโพลงพร้อมกล่าวออกมาอย่างตกใจ “เด็กน้อยผู้นี้สามารถที่จะหลับนอนใต้พลังของทัณฑ์สวรรค์ เรื่องเช่นนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไรกัน?”

แม้แต่นักบวชฮัวอวิ๋นที่ยืนอยู่ด้านข้างยังหมดคำพูด เขาลูบศีรษะของตนเองอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรพร้อมกล่าวออกมาอย่างโง่งม “เจ้าไขมันบัดซบนี่นับว่ามีความกล้าหาญยิ่งนัก นับตั้งแต่ที่จักรวาลนี้ถูกสร้างขึ้นมา เขาคือคนแรกที่กล้านอนหลับภายใต้พลังแห่งทัณฑ์สวรรค์!”

ภรรยาจ้าวสำนักหันมาทางฉุ่ยจิ้งอีกครั้งพร้อมกล่าวว่า “เด็กน้อย เจ้า เจ้าพอจะรู้ไหมว่าเกิดสิ่งใดขึ้นในตอนนี้?”

“ข้าไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น แต่…” ฉุ่ยจิ้งตอบกลับพร้อมกล่าวออกมาอย่างขมขื่น “ดูเหมือนว่าศิษย์พี่ซ่งจะไม่ได้เป็นอะไรมากและเขากำลังผ่อนคลายอยู่!”

“จริงหรือ?” ภรรยาจ้าวสำนักแสดงท่าทีตกใจในขณะที่กล่าวต่อ “ไม่ว่าเขาจะมีความมั่นใจมากเพียงใด แต่เขาก็ไม่สมควรที่จะนอนหลับไม่ใช่หรือ?”

“เรื่องนี้ยากคาดเดา!” ฉุ่ยจิ้งกล่าวอย่างจริงจัง “ศิษย์พี่ซ่งจะใช้เวลาอยู่กับทัณฑ์สวรรค์ไม่เกินหนึ่งชั่วโมง เราต้องรอก่อนสักครู่จึงจะพบกับคำตอบ!”

“อืม!” เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนั้น พวกเขาพยักหน้าและเฝ้ารอกันต่อไป

ในขณะนั้นผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งของสำนักเสวียนเทียนสังเกตเห็นความวุ่นวายที่ปรากฏขึ้นในสถานที่แห่งนี้ ทั้งหมดพากันบินมาดู แต่จ้าวสำนักได้สั่งให้ทุกคนกลับไปเพราะไม่ต้องการให้ใครเข้ามาเพื่อสร้างความวุ่นวาย

นอกเหนือจากการเก็บความลับของเจ้าอ้วนไว้ ยังเป็นการรักษาความปลอดภัยให้แก่ศิษย์เหล่านั้นอีกด้วย เมื่อเวลาผ่านไป หากมีผู้เข้าร่วมในพื้นที่มากขึ้นพลังของทัณฑ์สวรรค์จะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เกลียวของสายฟ้ามีความหนาแน่นมากยิ่งขึ้น อีกทั้งรัศมีของการระเบิดยังเพิ่มขึ้นจนน่าตกใจ

ถ้าหากมีผู้ฝึกตนเข้ามาในพื้นที่นี้โดยบังเอิญ ไม่เพียงแต่พวกเขาเหล่านั้นจะถูกสังหาร แต่ว่าเจ้าอ้วนยังต้องพบเจอกับพลังที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย เช่นนี้จ้าวสำนักจึงสั่งห้ามไม่ให้ผู้ใดเข้ามาในพื้นที่นี้เด็ดขาด

ท้ายที่สุดดูเหมือนว่าทัณฑ์สวรรค์จะลดระดับความรุนแรงลงหลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ซึ่งพลังที่หายไปนั้นมากกว่าสามในสี่ แต่ทว่ามันไม่ได้หยุดลงในทันที มันยังคงรวบรวมพลังก่อตัวเป็นลูกบอลสายฟ้า นั่นก็คือทัณฑ์สายฟ้าแห่งธาตุทั้งห้า!

ขณะที่ลูกบอลสายฟ้าพร้อมสำหรับการโจมตี มันผ่าลงมารวดเร็วดั่งเช่นอุกกาบาต เกิดเป็นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว เกิดการปะทะอย่างรุนแรงและส่งเสียงดังไกลหลายพันลี้

หลังจากการปะทะ ท้องฟ้ากลับมาสดใส ทัณฑ์สวรรค์หายไปอย่างไร้ร่องรอย เห็นได้ชัดว่าทุกสิ่งจบลงแล้ว!

เมื่อเห็นว่าทัณฑ์สวรรค์จากไปแล้ว จ้าวสำนักและภรรยาเคลื่อนไหวทันที พวกเขาโบกมือเพื่อปัดฝุ่นทั้งหมดออกจากพื้นที่ จากนั้นพาหงหยิงและฉุ่ยจิ้งเข้าสู่พื้นที่ที่เจ้าอ้วนอยู่และได้พบกับฉากที่น่าตกใจ!

บนพื้นดินเกิดหลุมขนาดใหญ่ลึกหลายร้อยฟุต เต็มไปด้วยคราบเลือดและมีลาวาหยดอยู่บางพื้นที่ มีควันพุ่งออกมาจากทุกหนทุกแห่ง อุณหภูมิของมันมากพอที่จะต้มไข่ได้

อย่างไรก็ตามภายใต้สภาพแวดล้อมที่น่ากลัวเช่นนี้ มีมนุษย์ผู้หนึ่งนอนอยู่ตรงกลางหลุม ร่างกายของเขาสูงใหญ่และแข็งแกร่ง เห็นได้ชัดว่าเขาคือจุดศูนย์กลางของการเผาไหม้นี้อย่างสมบูรณ์ พวกเขาเดินเข้ามาในพื้นที่พร้อมกับได้กลิ่นเนื้อที่ถูกย่างสด บุคคลที่นอนอยู่ตรงนั้นแน่นอนว่าย่อมต้องเป็นเจ้าอ้วน!

Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต

Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 234 อ่านนิยาย

( อ่านต่อข้างล่าง )


อัจฉริยะทั้งสองแห่งสำนักถูกลอบสังหาร!
บุตรชายกลับกลายเป็นตกอับ!
ชีวิตนับแต่นั้นเสมือนตกนรก
มีแต่ถูกกลั่นแกล้งสารพัด
เขาสาบาน สักวันหนึ่งจะเอาคืน
จะทวงคืนต่อความอยุติธรรมที่เขาและครอบครัวได้รับ
กาลเวลาผันผ่าน เวลาแห่งการเป็นผู้ใหญ่มาถึง
เขาที่ถูกทอดทิ้งโดยสำนัก
จะต้องโดนเฉดหัวออกเพราะไม่คืบหน้าในการฝึกฝน
ครั้งอับจน เขากลับได้พบมรดกชิ้นหนึ่ง
เป็นไข่มุกดำ บิดาและมารดาของเขาหลงเหลือเอาไว้งานที่เขาถูกกลั่นแกล้งให้กระทำ กลับกลายเป็นสิ่งช่วยชีวิต
ซ่งจงจะทวงคืนความยุติธรรมแก่ตนเองและครอบครัวได้หรือไม่! โปรดติดตามต่อใน โกลาหลแห่งอสนีบาต


Options

not work with dark mode
Reset