Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต 165

ตอนที่ 165

ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

บทที่ 165: ทัณฑ์สายฟ้าแห่งธาตุทั้งห้า

เมื่อเห็นเช่นนั้น เจ้าอ้วน ฉุ่ยจิ้ง และหงหยิงตกอยู่ในความตกใจทันที ความจริงก็คือทัณฑ์สวรรค์ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย! มันคือฝันร้ายของเหล่าผู้ฝึกตน! อยู่เหนือผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินยังมีอีกสี่ระดับนั่นก็คือ เฟินเสิน เลี่ยนจือ เหอตี้ และต้าเชิ่ง โดยปกติแล้วเมื่อผู้ฝึกตนเข้าสู่ระดับต้าเชิ่ง พวกเขาจะต้องรับทัณฑ์สวรรค์ ถ้าหากว่าสามารถผ่านพ้นไปได้ จะได้เข้าสู่สวรรค์ทันที แต่ถ้าหากไม่ บุคคลเหล่านั้นจะถูกบดขยี้เหลือเพียงธุลี

ในอดีตที่ผ่านมา มีเพียงหนึ่งในสิบของผู้ฝึกตนระดับต้าเชิ่งเท่านั้นที่สามารถอดทนและผ่านพ้นการทดสอบของทัณฑ์สวรรค์ได้! แม้กระทั่งผู้ที่ฝึกฝนมายาวนานนับหมื่นปีและครอบครองสมบัติวิญญาณมากมายก็ยังไม่อาจต้านทานทัณฑ์สวรรค์ได้เลยแม้แต่น้อย ความน่ากลัวของมันมากถึงเพียงใดกัน? ตำนานกล่าวไว้ว่าทัณฑ์สวรรค์สามารถทำลายล้างโลกใบนี้ได้ อีกทั้งยังสามารถทำให้พื้นที่นับหมื่นแสนลี้กลายเป็นเถ้าธุลีได้อย่างง่ายดาย! ผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินเปรียบได้กับมดงานเท่านั้นเมื่ออยู่ต่อหน้าทัณฑ์สวรรค์! ในตอนนี้สิ่งที่น่าเกรงกลัวที่สุดได้ปรากฏอยู่เบื้องหน้าของพวกเขาแล้ว ผู้ใดกันที่จะกล้าหาญท้าทายพลังนี้?

หงหยิงร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ “สวรรค์! เป็นไปได้อย่างไร? อย่าบอกข้านะว่ามีอาวุโสระดับต้าเชิ่งอยู่ในเทือกเขาแห่งนี้และกำลังเข้ารับการทดสอบของทัณฑ์สวรรค์?”

“เป็นไปไม่ได้!” จ้าวสำนักกล่าวออกมาอย่างสงบก่อนเริ่มอธิบาย “มองไปที่ทัณฑ์เมฆา เหมือนว่ามันจะไม่กว้างนัก แม้ว่าปริมาณของปราณจิตวิญญาณจะน่าประหลาดใจอยู่บ้าง แต่ทว่าข้ายังสามารถจัดการกับมันได้ นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ฝึกตนระดับต้าเชิ่งต้องเข้าการทดสอบ!”

“ว่าอะไร? นอกเหนือจากผู้ฝึกตนระดับต้าเชิ่ง ใครกันเล่าที่เหมาะสมจะเข้าการทดสอบของทัณฑ์สวรรค์?” หงหยิงถามกลับอย่างตกใจ

“ใช่แล้ว!” ภรรยาจ้าวสำนักอธิบาย “ปกติแล้วทัณฑ์สวรรค์จะใช้ในการทดสอบผู้ฝึกตนระดับต้าเชิ่ง แต่ทุกสิ่งอย่างบนโลกนี้มีข้อยกเว้น ถ้าหากผู้ใดที่ฝึกฝนด้วยเคล็ดวิชาที่มีคุณภาพสูงมาก พวกเขาจะได้รับการทดสอบจากทัณฑ์สวรรค์เมื่อเข้าสู่ระดับ เลี่ยนจือ เหอตี้หรือเฟินเสิน! แต่ระดับความยากอาจจะลดลงตามลำดับ! ในตอนนี้ที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าของเราเป็นเพียงทัณฑ์เมฆาระดับต่ำเท่านั้น!”

เมื่อหงหยิงได้ยินเช่นนั้น นางประหลาดใจพร้อมกล่าวออกมา “ท่านพ่อ อย่าบอกข้านะว่าพวกท่านกำลังจะต้องเข้าทดสอบภายในทัณฑ์เมฆาเล็กจ้อยนั่น?”

“ไร้สาระ แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรา” จ้าวสำนักกล่าวออกมาอย่างขื่นขม “ทัณฑ์เมฆาเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากประสบความสำเร็จในการฝึกฝน เราทั้งสองก้าวหน้ามานานนับร้อยปีแล้วและพ้นเวลาที่จะถูกทดสอบไปมากโข”

“อีกอย่าง เจ้ามองครอบครัวของเจ้าสูงเกินไป ถึงแม้ว่าการฝึกฝนของเราจะลึกล้ำอยู่บ้าง แต่กว่าจะได้พบเจอกับทัณฑ์เมฆาก็ในระดับเห่อตี้ ซึ่งมันยังอีกยาวไกลนัก!” ภรรยาจ้าวสำนักกล่าวออกมาอย่างขื่นขม

“เอ่อ ถ้าหากไม่ใช่ท่านทั้งสอง งั้นจะเป็นผู้ใดกัน? อาจารย์ลุงฮัวอวิ๋น? หรือเทพธิดาเหมยฮวากันล่ะ?” หงหยิงถามออกมาอย่างสับสน

ในขณะที่หงหยิงกล่าวเช่นนั้น จ้าวสำนัก ภรรยาของเขา และฉุ่ยจิ้งตกใจไปชั่วขณะ จากนั้นพวกเขาทั้งหมดมองไปที่เจ้าอ้วนเป็นสายตาเดียวกัน

เจ้าอ้วนรู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก เขากล่าวออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “เหตุใดพวกท่านจึงมองข้าเช่นนั้น? อย่าบอกนะว่าพวกท่านคิดว่าเป็นข้า? ข้าเป็นเพียงผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมิ!”

ในขณะที่จ้าวสำนักได้ยินเช่นนั้น เขากล่าวออกมาพร้อมขมวดคิ้วแน่น “ความจริงแล้ว ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนเรื่องที่ผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมิจะเข้าสู่การทดสอบของทัณฑ์เมฆา! แม้แต่ผู้ฝึกตนระดับจินตันยังไม่เคยปรากฏออกมาสักครั้ง! สำหรับผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินนั้นจะปรากฏออกมาสักหนึ่งคนภายในหนึ่งหมื่นปี!”

“แต่ปัญหาก็คือผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินของเราได้เลื่อนขั้นมานานนับร้อยปีแล้วและผ่านพ้นช่วงเวลาที่จะได้ทดสอบ!” ภรรยาจ้าวสำนักกล่าว “เมื่อเร็ว ๆ นี้ยังไม่มีผู้ใดเข้าสู่ระดับจินตันเลย! ในตอนนี้บุคคลที่ก้าวหน้ามีเพียงเจ้าคนเดียวเท่านั้น!”

“มีอีกอย่างหนึ่ง!” ฉุ่ยจิ้งกล่าวเสริม “บรรยากาศสีดำบนใบหน้าของท่านหนาเกินไป มันไม่ใช่ความโชคร้ายแต่ทว่าเป็นพลังของทัณฑ์เมฆา!”

“พลังของทัณฑ์เมฆา?” เจ้าอ้วนงุนงงอย่างถึงที่สุดพร้อมถามออกไป “มันคือสิ่งใดกัน?”

“ก่อนที่ทัณฑ์สวรรค์จะปรากฏออกมา แน่นอนว่ามันจะส่งกลิ่นอายออกมาเป็นคลื่นพลังส่งมาถึงผู้ฝึกตนที่ต้องเข้ารับการทดสอบ หลังจากที่กลิ่นอายนั้นได้หายไปแล้วจะปรากฏทัณฑ์สวรรค์ขึ้น” ฉุ่ยจิ้งอธิบาย “ตอนนี้กลิ่นอายเหล่านั้นได้ล้อมรอบท่านไว้แล้ว แน่นอนว่าทัณฑ์สวรรค์ติดตามท่านอยู่!”

“หยุดล้อเล่นกับข้าเสียที!” เจ้าอ้วนโกรธจัด “ข้าไม่เชื่อว่าข้าจะโชคร้ายเช่นนี้ ข้าถึงกับต้องถูกฟ้าผ่าเมื่อเข้าสู่ระดับปฐมภูมิเลยเชียวหรือ!”

“ศิษย์พี่ทำใจให้สบายก่อน ท่านรู้หรือไม่ว่าเหตุใดข้าจึงไม่สามารถทำนายภัยพิบัติของท่านได้?” ฉุ่ยจิ้งกล่าวออกมาพร้อมกับจ้องมองเจ้าอ้วน “สามารถกล่าวได้ว่าเพราะมันเป็นทัณฑ์เมฆา มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับกฎใดในโลกใบนี้ ดังนั้นข้าจึงไม่สามารถทำนายได้!”

“เช่นนี้งั้นหรือ? มันสามารถมีเหตุผลอื่นได้อีกหรือไม่?” เจ้าอ้วนกล่าวออกมาพร้อมกับส่ายหัว

“มันไม่สามารถมีเหตุผลอื่นได้อีกแล้ว!” ฉุ่ยจิ้งกล่าวอย่างมั่นใจ “ข้าสามารถกล่าวได้อย่างเต็มปากว่าสิ่งนี้มาเพื่อท่าน!”

“แต่ว่า….” ในขณะที่เจ้าอ้วนกำลังต้องการที่จะกล่าวบางสิ่งบางอย่าง จ้าวสำนักที่อยู่ด้านข้างยืนขึ้นอย่างใจร้อน เขาคว้าเจ้าอ้วนและเริ่มบินทันที ในขณะนั้นเขากล่าวว่า “ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหรือไม่ แค่ทดสอบก็รู้แล้ว!”

ในขณะที่เขากล่าวเช่นนั้น จ้าวสำนักเรียกใช้งานดาบบินพร้อมบินออกไปนับพันลี้สู่พื้นที่ว่างเปล่า ในขณะที่เขากำลังร่อนลงสู่พื้นดิน ภรรยาจ้าวสำนักได้พาหงหยิงและฉุ่ยจิ้งตามมาด้วย ในขณะนั้นนักบวชฮัวอวิ๋นมาถึงแล้ว เขาตกใจที่ทัณฑ์เมฆาปรากฏและมาที่นี่เพื่อขอคำอธิบายจากจ้าวสำนัก แต่ในขณะที่เขาเห็นหลายคนกำลังบินอยู่ จึงรีบบินตามไปทันที

หลังจากที่ทุกคนลงพื้นดินแล้ว จ้าวสำนักเงยหน้าขึ้นพร้อมมองขึ้นไปบนฟ้า แน่นอนว่าทัณฑ์เมฆาได้ตามพวกเขามาและมันหยุดอยู่บนศีรษะของเจ้าอ้วน เขาจึงกล่าวออกมาอย่างตื่นเต้น “อ้วนน้อยเจ้าไม่ต้องกล่าวสิ่งใดแล้ว! ถูกต้องทุกอย่าง ทัณฑ์สวรรค์กำลังตามเจ้าอยู่!”

เจ้าอ้วนไม่ได้มองว่าสถานการณ์เช่นนี้มันเป็นเรื่องที่น่ายินดี เขากล่าวออกมาอย่างหดหู่ “มันไม่ถูกต้อง จะบอกว่าเป็นข้าจริงงั้นหรือ?”

“ไร้สาระ นอกเหนือจากเจ้าแล้วไม่มีผู้ใดที่ก้าวหน้าขึ้น แน่นอนว่ามันจะต้องเป็นเจ้า!” นักบวชฮัวอวิ๋นที่รังเกียจเจ้าอ้วนเข้ากระดูก กำลังมองเห็นว่าเด็กน้อยผู้นี้กระตุ้นการทำงานของทัณฑ์สวรรค์เข้า เขาทั้งรู้สึกอิจฉาและมีความสุขพร้อมกัน เขาอิจฉาที่เคล็ดวิชาการฝึกฝนของเจ้าอ้วนนั้นลึกลับและมีพลังอย่างยิ่ง แต่ทว่ากลับมีความสุขที่ชีวิตของเจ้าอ้วนจะต้องจบลงเพียงเท่านี้ ทัณฑ์สวรรค์ไม่ใช่เรื่องเล่น ในตำนานได้กล่าวไว้ว่าเพียงแค่ทัณฑ์สวรรค์ระดับต่ำก็ยังมีพลังมหาศาล

นักบวชฮัวอวิ๋นคิดว่าเจ้าอ้วนนั้นไม่หลงเหลือสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์อีกแล้ว และดาบแห่งธาตุทั้งห้าก็ไม่อาจใช้งานได้ แล้วเขาจะมีพลังที่ไหนมาต่อกรกับทัณฑ์สวรรค์ระดับต่ำเช่นนี้? เจ้าอ้วนจะต้องตายตกไปอย่างแน่นอน!

เจ้าอ้วนนั้นยังเด็กมากแต่กลับต้องเผชิญหน้ากับทัณฑ์สวรรค์ระดับต่ำ ดังนั้นเขาจึงรีบหันไปหาจ้าวสำนักอย่างวิงวอน “ท่านจ้าวสำนักท่านสามารถช่วยให้ข้าผ่านมันไปได้หรือไม่? ท่านสามารถป้องป้องข้าได้หรือไม่?”

“อย่าได้ฝัน!” ก่อนที่จ้าวสำนักและภรรยาของเขาจะได้ตอบสิ่งใด นักบวชฮัวอวิ๋นกระโดดออกมาพร้อมกล่าวอย่างไร้มารยาท “ทัณฑ์สวรรค์คือเรื่องของเจ้า ถ้าหากมีผู้อื่นเข้าไปแทรกแซง พลังของมันจะเพิ่มขึ้นและเจ้าจะได้รับความลำบาก ถ้าหากจ้าวสำนักยอมช่วยเหลือเจ้า แน่นอนว่าเขาจะถูกเป่าให้เป็นผุยผง จงเป็นสุภาพบุรุษอย่าได้ลากผู้อื่นเข้าไปสู่ประตูนรกกับเจ้า!”

ในขณะที่จ้าวสำนักและภรรยาได้ยินดังนั้น ใบหน้าของพวกเขาหดหู่ทันทีเพราะมันคือความจริง

ฉุ่ยจิ้งกล่าวกับเจ้าอ้วนอย่างอ่อนโยน “ศิษย์พี่ ท่านไม่สามารถรับความช่วยเหลือจากผู้อื่นได้เมื่อเข้าการทดสอบจากทัณฑ์สวรรค์ ถ้าหากทำเช่นนั้น มันจะแข็งแกร่งมากขึ้นจนถึงจุดที่สามารถสังหารบุคคลที่เข้ามาช่วยเหลือท่านทั้งหมด! นี่เป็นเหตุผลที่อาวุโสทุกคนบอกให้ท่านเผชิญหน้ากับมันด้วยตนเอง ถ้าหากพวกเขาทั้งหมดช่วยท่าน แน่นอนว่าจะได้ไปสู่โลกหน้าครบถ้วนทุกคน!”

“ข้าเข้าใจแล้ว!” เจ้าอ้วนพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นเขาหัวเราะออกมาอย่างขื่นขม “ดูเหมือนว่าภัยพิบัติจะเกิดขึ้นกับข้าจริงเสียแล้วในวันนี้!”

ในขณะที่เจ้าอ้วนกล่าวคำ ทั้งจ้าวสำนักและภรรยาแสดงอาการเศร้าโศกอย่างถึงที่สุด หงหยิงพุ่งเข้าหาเจ้าอ้วนและกอดเขาไว้พร้อมกับร้องไห้ออกมา มีเพียงนักบวชฮัวอวิ๋นเท่านั้นที่ยืนมองพร้อมกับเผยรอยยิ้มอันชั่วร้าย

สำหรับฉุ่ยจิ้ง นางยิ้มออกมาพร้อมกล่าวอย่างลึกลับ “ศิษย์พี่นั้นถ่อมตนเกินไปแล้ว ข้าเชื่อว่าความแข็งแกร่งของท่านจะสามารถผ่านการทดสอบของทัณฑ์สวรรค์ได้!”

ในขณะที่ฉุ่ยจิ้งกล่าวเช่นนั้น ทุกคนเงียบทันที หงหยิงกล่าวออกมาอย่างยินดี “ศิษย์พี่ฉุ่ยจิ้ง เรื่องนี้เชื่อถือได้หรือไม่?”

“แน่นอน ศิษย์พี่ของเจ้านั้นเป็นบุคคลที่โชคดีที่สุดที่ข้าเคยพบเห็น ชีวิตของเขาไม่มีทางที่จะสั้นเพียงเท่านี้แน่นอน!” ฉุ่ยจิ้งกล่าวพร้อมกับดึงหงหยิงออกมา นางทั้งสองคนเริ่มเดินออกไปด้านนอก ในขณะที่พวกนางกำลังเดินออกไป ฉุ่ยจิ้งหันมากล่าวกับทุกคน “ทัณฑ์เมฆากำลังจะก่อตัวขึ้นแล้ว ทุกคนรีบออกจากสถานที่แห่งนี้และปล่อยให้ศิษย์พี่ซ่งจัดการเรื่องนี้เถิด!”

พวกเขาปลอบโยนเจ้าอ้วนเล็กน้อยก่อนที่จะบินห่างออกไป ทั้งหมดหยุดลงที่ภูเขาใกล้เคียงเพื่อเฝ้าดูเจ้าอ้วนอย่างใกล้ชิด

ในขณะที่ทุกคนออกไปแล้ว เจ้าอ้วนล้มลงบนพื้นดินไร้ซึ่งความสง่างามใด ๆ เขาหยิบเอาขวดไวน์ออกมาจากมิติลึกลับ ในขณะที่กำลังดื่มอยู่นั้น เขากล่าวกับตนเองว่า “เหตุผลที่ศิษย์น้องมั่นใจในตัวข้านั้นไม่ใช่เพราะความสามารถของข้า แต่เป็นเพราะระฆังทองแดงที่ข้ามีต่างหาก! กล่าวกันว่าผู้คนไม่สามารถปฏิเสธเส้นทางแห่งสวรรค์ได้ นี่เป็นเส้นทางที่ข้าจะต้องพบเจอสินะ แม้ว่าระฆังทองแดงของข้าจะไม่ใช่สมบัติในตำนาน แต่ทว่ามันก็เป็นสมบัติวิญญาณเช่นกัน หวังว่าคงจะเพียงพอที่จะต้านทานทัณฑ์สวรรค์ของผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมิ!”

เมื่อคิดเช่นนั้น ความกังวลของเจ้าอ้วนค่อย ๆ หายไป เขาเริ่มดื่มอย่างผ่อนคลาย

เมื่อมองเห็นสถานการณ์จากระยะไกล จ้าวสำนักและภรรยาก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าออกมา

“เป็นเด็กที่เด็ดเดี่ยวมากนัก เวลาเช่นนี้ยังมีแก่ใจอารมณ์ดี จิตวิญญาณของเขากล้าหาญยิ่ง!” จ้าวสำนักกล่าวชมเชยในขณะที่กำลังลูบเคราของตนเอง

“เหอะ ข้าคิดว่ามันคงกลัวจนเสียสติไปแล้วต่างหาก!” นักบวชฮัวอวิ๋นกล่าวออกมาอย่างรังเกียจ

จ้าวสำนักหันไปคำรามใส่เขาทันที “บัดซบ เจ้าคิดว่าอ้วนน้อยของข้าจะมีความสามารถดังเช่นเหล่าขยะที่นอนอยู่ภายใต้การดูแลของเจ้างั้นหรือ? เจ้าเอาเวลานี้ไปหาวิธีให้ขยะพวกนั้นหยุดร้องไห้อยู่บนเถียงเถิด!”

เห็นได้ชัดว่าจ้าวสำนักกล่าวถึงดาบเทวะไร้ผู้ต้านที่ถูกคำสาปของสำนักพันปีศาจ เขาบดขยี้หัวใจของนักบวชฮัวอวิ๋นเต็มแรง อีกฝ่ายได้ยินดังนั้นตอบโต้ทันที “ส่วนไขมันบัดซบของเจ้านั้นก็ต้องร้องไห้เช่นกัน เพราะมันกำลังจะกลายเป็นเถ้าธุลี!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ภรรยาจ้าวสำนักตบหน้าเขาอย่างรุนแรงด้วยความไม่พอใจ “ศิษย์พี่ฮัวอวิ๋น ท่านต้องการให้บุตรของข้าตายตกไปในสภาพเช่นนี้งั้นหรือ?!”

เมื่อเห็นความโกรธเกรี้ยวของภรรยาจ้าวสำนัก เขารู้ทันทีว่าเขาพูดมากเกินไปแล้ว แต่เขาก็ไม่อาจกล่าวขอโทษได้และกล่าวเสริมไปอย่างวางท่า “ข้าเพียงแค่พูดความจริง มองดูทัณฑ์เมฆาสิ พวกมันได้แยกออกเป็นธาตุทั้งห้าแล้ว คนปกติจะสามารถอดทนได้เพียงสองธาตุเท่านั้น แต่ทัณฑ์เมฆาของเจ้าอ้วนนั้นมีถึงห้าธาตุ เหอะ ในเวลานี้แหละที่เขาจะต้องจากโลกนี้ไปเสียที!”

Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต

Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 234 อ่านนิยาย

( อ่านต่อข้างล่าง )


อัจฉริยะทั้งสองแห่งสำนักถูกลอบสังหาร!
บุตรชายกลับกลายเป็นตกอับ!
ชีวิตนับแต่นั้นเสมือนตกนรก
มีแต่ถูกกลั่นแกล้งสารพัด
เขาสาบาน สักวันหนึ่งจะเอาคืน
จะทวงคืนต่อความอยุติธรรมที่เขาและครอบครัวได้รับ
กาลเวลาผันผ่าน เวลาแห่งการเป็นผู้ใหญ่มาถึง
เขาที่ถูกทอดทิ้งโดยสำนัก
จะต้องโดนเฉดหัวออกเพราะไม่คืบหน้าในการฝึกฝน
ครั้งอับจน เขากลับได้พบมรดกชิ้นหนึ่ง
เป็นไข่มุกดำ บิดาและมารดาของเขาหลงเหลือเอาไว้งานที่เขาถูกกลั่นแกล้งให้กระทำ กลับกลายเป็นสิ่งช่วยชีวิต
ซ่งจงจะทวงคืนความยุติธรรมแก่ตนเองและครอบครัวได้หรือไม่! โปรดติดตามต่อใน โกลาหลแห่งอสนีบาต


Options

not work with dark mode
Reset