A Warrior Exiled by the Hero and His Lover 30

ตอนที่ 30

 

ฉันจับด้ามของดาบแล้วใส่แรงลงไป

 

 

” ฮึ้บ “

 

 

มีแสงระยิบระยับออกมาจากตัวดาบ

 

 

ฉันชูดาบขึ้นไปเหนือหัว

 

 

ดูเหมือนแสงของดาบจะไม่ลดลงเลยแม้แต่นิด มันยิ่งสว่างเจิดจ้าขึ้นไปอีกจนทำให้ทั่วทั้งห้องกลายเป็นสีขาว

 

 

เมื่อแสงจางลงดาบในมือขวาของฉันก็หายไป

 

 

“นั่นชุดเกราะใหม่ของนายท่าน วิเศษไปเลยค่ะ!”

 

 

“มันเบากว่าที่ฉันคิดเอาไว้ซะอีก แต่ฉันคิดว่ารูปลักษณ์จะเป็นแบบเกราะหนักเหมือนของลอร์ดเสียอีก”

 

 

“คิ้ว~”

 

 

เมื่อฉันสัมผัสที่บริเวณหน้าอก ฉันก็พบว่ามันเป็นเกราะโลหะเช่นกัน มีบางส่วนที่เป็นโลหะ เช่น แขน,ขา,ลำตัว

 

 

รูปลักษณ์เรียบง่ายและไม่เด่นสะดุดตาจนเกินไป

 

 

ฉันจินตนาการถึงเกราะแบบเต็มตัวแต่แค่นี้ก็พอใช้ได้แล้วล่ะ

 

 

เพราะหากว่าเดินทางอยู่แบบนี้จะดูสะดวกกว่า

 

 

“ใส่สบายมั้ยคะ”

 

 

“มันเบามาก ฉันคิดว่านํ้าหนักมันใกล้เคียงกับโลหะหายากเช่นมิธริล แต่ฉันไม่แน่ใจว่ามันจะแข็งแกร่งมากขนาดไหน แต่มันเป็นเกราะศักดิ์สิทธิ์เพราะงั้นมันก็น่าจะสุดยอดนะ”

 

 

มาลองคิดดูฉันยังไม่เคยลองประเมินเกราะศักดิ์สิทธิ์มาก่อน ถือโอกาสนี้ให้คาเอเดะดูหน่อยแล้วกัน

 

 

“ประเมิน?”

 

 

“อืม ใช่แล้ว”

 

 

“…คือว่าฉันไม่สามารถดูมันได้เพราะว่าเลเวลไม่พอค่ะ และถึงจะเพิ่มเลเวลไปขนาดไหนฉันก็คิดว่าฉันไม่สามารถประเมินมันได้อยู่ดี”

 

 

“เธอหมายถึงอะไร?”

 

 

“มันไม่เหมือนชุดปกติ มันดูพร่ามัวเลือนลาง เหมือนมีการปกปิดระดับสูงอยู่ค่ะ”

 

 

ฉันก็คิดว่าคงไม่สามารถที่จะเข้าใจตัวตนของคนสร้างเกราะศักดิ์สิทธิ์ได้หรอก

 

 

อุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ก็ยังคงมีแต่ปริศนา

 

 

ถ้าหากว่าสามารถประเมินมันได้ ก็คงจะรู้ได้ว่ามันถูกสร้างขึ้นที่ไหน เมื่อไหร่ ยังไง และใช้วัสดุหรือเทคโนโลยีใดสร้าง

 

 

“ถึงเวลาไปที่หมู่บ้านลับของแฟรี่แล้ว!”

 

 

“แน่นอน”

 

 

เราเดินทางออกจากวิหารกันทันที

 

 

 

 

เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ เสียงกิ่งไม้กำลังแห้งแตกอยู่ในกองไฟ

 

 

“ฟี้~,ฟี้~”

 

 

“นาย-นายท่าน…..”

 

 

คาเอเดะที่นอนอยู่ใกล้ๆฉัน พูดออกมาขณะที่เธอหลับอยู่

 

 

ฉันไม่แน่ใจว่าเธอกำลังฝันถึงอะไรอยู่

 

 

สองวันแล้วที่เราอยู่ในป่าขณะกำลังเดินทางไปที่หมู่บ้านลับของแฟรี่

 

 

ข้างบนนั้นโรสุเกะกำลังแหวกว่ายลอยอยู่ในอากาศ

 

 

เวลาเราตั้งแคมป์พักแรมกัน ฉันมักจะให้เขาคอยช่วยเฝ้ายามเสมอ

 

 

แค่สั่งให้เขากำจัดมอนสเตอร์ที่เข้ามาใกล้เรา

 

 

ต้องขอบคุณเขาฉันถึงสามารถนอนหลับได้อย่างสนิทโดยที่ไม่ต้องอยู่เฝ้ายาม

 

 

แต่อย่างไรก็ตาม ฉันก็ไม่สามารถนอนให้หลับอย่างสนิทได้เพราะนิสัยที่มีมาอย่างยาวนาน ถึงแม้จะรู้ว่าต่อให้นอนก็ยังปลอดภัยก็ตาม

 

 

<< รายงาน: การซ่อมแซม [ สะสมค่าประสบการณ์ ] เสร็จสิ้น >>

 

 

โอ้ ในที่สุดก็เสร็จแล้วงั้นเหรอ

 

 

แต่ฉันไม่ค่อยชอบสักไหร่เพราะมันคอยเก็บค่าประสบการณ์ของฉันเอาไว้ตลอด

 

 

สกิลสะสมของฉันมีมาตั้งแต่เด็ก

 

 

และมันก็ต้องใช้ระยะเวลากว่า 25 ปีมันถึงจะพังและคืนค่าประสบการณ์ที่สะสมไว้ให้ฉัน

 

 

แล้วครั้งต่อไปที่มันจะคืนให้ฉันล่ะ?

 

 

30 ปี? หรือจนกว่าฉันจะตายล่ะ?

 

 

ถึงสุดท้ายแล้วขีดจำกัดของสกิลจะพังทลายออกมา และฉันก็แค่ต้องอยู่ให้ถึงอายุ 50 ก็พอ

 

 

แต่ตอนนี้ฉันพอใจกับเลเวล 300 อยู่ เพราะงั้นช่างมันแล้วกัน

 

 

“นายท่าน……อย่าทิ้งฉันไป….”

 

 

คาเอเดะเอื้อมมือออกมาด้วยใบหน้าที่เจ็บปวด

 

 

ดูเหมือนว่าเธอจะฝันร้าย

 

 

ฉันเข้าไปใกล้ๆและลูบหัวของเธอ

 

 

“ดีใจจัง นายท่านยังอยู่กับฉันสินะ….”

 

 

“ใช่แล้ว ฉันยังอยู่ข้างๆเธอ”

 

 

เธอยิ้มอย่างโล่งใจ

 

 

“ช่วยฉันด้วยนะคะ…….อ….”

 

 

หลังจากนั้นดูเหมือนว่าเธอจะหยุดละเมอแล้ว ฝันดีแล้วสินะ

 

 

เธอคงฝันถึงตอนที่เธออยู่กับพ่อค้าทาสล่ะมั้ง?

 

 

ไม่เป็นไร ฉันจะอยู่เคียงข้างเธอเสมอ ดังนั้นหลับให้สบายล่ะ

 

 

ฉันลูบหัวเธออีกครั้ง

 

 

 

 

“ไฮ่ย่าห์!!”

 

 

เฟราใช้ค้อนของเธอฟาดเข้าไปที่ก๊อบลินตัวหนึ่ง

 

 

หลังจากนั้นเธอก็หมุนตัวด้วยความเร็วสูงเตะก๊อบลินอีกกลุ่มหนึ่ง

 

 

แล้วเธอก็ลงจอดที่กิ่งไม้ข้างหน้าพร้อมกับทำหน้าภูมิใจ

 

 

“เป็นยังไงล่ะเจ้านาย เห็นฝีมือของเฟราแล้วหรือยัง”

 

 

“ฉันไม่ได้ดูถูกเธอสักหน่อย”

 

 

“ไม่จริง! เจ้านายคิดว่าเฟราต่อสู้ไม่ได้เพราะเฟราตัวเล็กน่ารัก ขนาดคาเอเดะยังบอกเลยว่า [ ไม่เป็นไรนะคะ ] เลย”

 

 

“ขอโทษด้วยนะคะ”

 

 

คาเอเดะก้มหัวขอโทษเธอ

 

 

ขอโทษทีฉันสับสนน่ะ

 

 

แทนที่จะบอกว่าตัวเล็กต้องบอกว่าเลเวลน้อยซะมากกว่า

 

 

ในขณะเดียวกันเธอบินด้วยความเร็วที่สูงมาก ทั้งๆที่ยังเลเวลตํ่า

 

 

แม้แต่ก๊อบลินที่ขี่มอนสเตอร์อยู่ พวกมันมั่นใจในความเร็วของตัวเองก็ยังพ่ายแพ้ต่อเฟรา

 

 

ไม่ต้องสงสัยเลยถ้าเธอเลเวลมากขึ้นพลังของเธอก็ต้องมากขึ้นตาม

 

 

“เอ๋ เลเวล 35!?”

 

 

“นั่นสกิลของฉันเอง ดูเหมือนว่ามันจะมอบค่าประสบการณ์ให้กับปาร์ตี้สองเท่า”

 

 

“เอ๋!!!! สกิลขี้โกงนั่นมันอะไรกัน”

 

 

“ฉันก็คิดอย่างนั้น แต่มันเป็นเรื่องจริงเพราะงั้นก็ช่วยไม่ได้”

 

 

เฟรายิ้มเล็กๆ กำมือขวาแน่นแล้วเธอก็พึมพำว่า “พลัง! กำลังเอ่อล้นออกมา!”

 

 

จากนั้นเธอก็ยังคงเพิ่มเลเวลของตัวเองต่อไป

 

 

ฉันอยากรู้จัง แฟรี่เลเวลสูงๆเขาสู้กันยังไง?

 

 

“เอาล่ะ! เฟราจะเพิ่มเลเวลให้เร็วสุดๆ!!!!”

 

 

“อ๊ะ เดี๋ยวก่อน!”

 

 

เฟราก็หายตัวเข้าไปในป่าเพียงลำพัง

 

 

เธอเป็นไกด์ไม่ใช่เหรอ?

 

 

แล้วฉันจะไปหมู่บ้านลับของแฟรี่ยังไงล่ะ?

 

 

“นั่งรอดีกว่าสินะคะ”

 

 

“ดื่มกาแฟพักสมองสักหน่อยดีกว่า”

 

 

มีเงาเล็กๆโผล่ออกมาจากหลังพุ่มไม้

 

 

ฉันรีบใช้เกราะที่หลังมือป้องกันทันที

 

 

“มนุษย์ ป้องกันการโจมตีของปาเปา [ パパウ ] ได้ยังไง!?”

 

 

ในอากาศมีชายวัยกลางคนที่ตัวใหญ่กว่าเฟราเล็กน้อย บนหลังของเขามีปีกซึ่งบ่งบอกว่าเป็นแฟรี่

 

 

ในมือของเขามีดาบมือเดียวที่สองแสงแวววับ

 

 

“การโจมตีของปาเปาไม่ได้ผล พวกเราลุย!!”

 

 

“””โอ้โอ้โอ้”””

 

 

พวกแฟรี่โผล่ออกมาจากป่าทีละคน

 

 

บางส่วนเป็นผู้หญิง แต่รวมๆกันแล้วมีแฟรี่จำนวนเกือบ50ตน กำลังบินวนไปมาอยู่ในอากาศ

 

 

“เราจะทำยังไงดีคะนายท่าน”

 

 

“ตอนนี้อย่าพึ่งโจมตี พวกเขาอาจเป็นเพื่อนของเฟรา”

 

 

แน่นอนว่าพวกเขาเคลื่อนที่ได้เร็วมาก แต่เราก็ยังคงมองเห็นอยู่ดี

 

 

ฉันกับคาเอเดะรังเลที่จะโจมตีและรอให้เฟรากลับมาก่อน

 

 

“เฮ้ การป้องการของมนุษย์นี่แข็งแกร่งมาก!”

 

 

“ถ้าเราไม่ทำอะไรล่ะก็ ที่ตั้งหมู่บ้านของพวกเราจะถูกมนุษย์เจอได้”

 

 

“ฉันมีแผน พวกเราต้องใช้เวทย์พื้นที่”

 

 

“ไม่มีทางเลือกแล้วสินะ!?”

 

 

แฟรี่บินขึ้นไปบนฟ้าแล้วเริ่มสร้างวงเวทย์ขนาดใหญ่ด้วยเวทมนตร์

 

 

เห็นได้ชัดว่าเป็นเวทมนตร์โจมตีเป็นพื้นที่กว้างที่ต้องใช้หลายคนร่าย

 

 

ถ้ามันโดนตรงนี้คงหายไปแน่ๆ

 

 

“เฟรายังไม่มาอีกเหรอคะ”

 

 

“เธอคงกระหายในการเพิ่มเลเวลจนไม่รู้เรื่องรอบข้างแล้วล่ะ”

 

 

เรารอไม่ได้แล้ว

 

 

ฉันต้องหยุดพวกเขาทันที

 

 

เดี๋ยวฉันค่อยไปบ่นยัยเปี๊ยกนั้นทีหลัง

 

 

“เฟรา กลับมาเดี๋ยวนี้ นี่คือคำสั่ง!!”

 

 

เสียงของฉันก้องไปทั้งทั้งผืนป่าและแฝงไปด้วยพลังอำนาจ

 

 

มีบางสิ่งกำลังเข้ามาใกล้ด้วยความเร็วมหาศาล ทะลุแนวต้นไม้จนโค่นล้มเป็นทางยาวตลอดทาง แฟรี่ที่สังเกตุเห็นก็หยุดเคลื่อนไหวเช่นกัน

 

 

ซู่มมมมมมมมมมม ครืนนนนนนนน ต้นไม้ขนาดใหญ่หักครึ่งและล้มลง

 

 

เฟราก็โผล่มาพร้อมกับค้อน พร้อมกับบรรยากาศอึมครึม

 

 

เธอจ้องมองไปที่แฟรี่ตนอื่นอย่างโกรธเคือง

 

 

“ทำอะไรกับเจ้านายขณะที่เฟราไม่อยู่!!!!!”

 

 

“เฟรา! เฟราใช่มั้ย!?”

 

 

ชายที่เรียกตัวเองว่าปาเปาเข้าไปใกล้ๆเฟรา

 

 

“ฮึ่มมมม!!”

 

 

ค้อนของเฟราฟาดเข้าไปที่ปาเปาอย่างสุดแรง จนเขาหายไปในท้องฟ้า

 

 

“ผู้ที่กำลังเห็นอยู่นี้คือเผ่าพันธ์ที่ยิ่งใหญ่ ท่านโทรุ และเฟราก็คือผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของเจ้านาย สิ่งที่พวกเธอกำลังทำอยู่ถือเป็นการดูหมิ่นเผ่าพันธุ์ที่ยิ่งใหญ่และไม่สมควรอย่างยิ่งในฐานะเผ่าของแฟรี่”

 

 

เหล่าแฟรี่ส่งเสียงดัง

 

 

พวกเขาทั้งหมดลงมาที่พื้นแล้วคุกเข่าลงข้างหนึ่ง

 

 

“ไม่มีทางที่เราจะดูหมิ่นเผ่าพันธ์ุที่ยิ่งใหญ่ที่เราเคารพบูชาดุจเทพเจ้า ได้โปรดอภัยให้แก่ความหยาบคายอันยิ่งใหญ่ที่เราได้กระทำลงไปต่อท่านด้วย”

 

 

ชายชราที่ดูเหมือนเป็นตัวแทนกล่าวพร้อมทั้งก้มหัวลง

 

 

หลังจากนั้นทุกคนก็ก้มหัวลงด้วย

 

 

ฉันรู้สึกอึดอัดนิดหน่อย

 

 

คือฉันพึ่งเปลี่ยนจากคนไปเป็นครึ่งมังกรโดยไม่รู้ตัวน่ะ

 

 

เฟราลงมายืนบนแพนด้า

 

 

“หืม…ลองคิดดูสิถ้าเฟราไม่กลับมามันคงเป็นเรื่องใหญ่น่าดูนะ และตอนนี้เฟราก็เป็นทาสของเจ้านายอย่างฉันด้วย จะทำอะไรก็ควรจะระวังสินะ”

 

 

ฉันเอานิ้วแตะไปที่ไหล่ของเธอ แน่นอนพร้อมรอยยิ้มอันแสนอบอุ่น

 

 

“เดี๋ยวเราคงต้องคุยกันหน่อยนะ”

 

 

เฟรามองกลับมาที่ฉันพร้อมกับตัวสั่นเหมือนเจ้าเข้า

 

 

Options

not work with dark mode
Reset