A Warrior Exiled by the Hero and His Lover 25

ตอนที่ 25

คืนที่ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวพร่างพราย

 

 

ฉันกับคาเอเดะกำลังมุ่งหน้าไปที่คฤหาสน์หลังหนึ่ง

 

 

ตามที่ได้ยินข่าว รู้สึกว่างานประมูลจะถูกจัดขึ้นที่นั่น

 

 

และด้วยการที่มันมีระบบสมาชิกด้วยจึงทำให้คนภายนอกไม่สามารถเข้าไปได้ตามปกติ

 

 

อย่างไรก็ตาม หากมีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไข ก็สามารถที่จะเข้าร่วมได้

 

 

หนึ่งในเงื่อนไขนั้นคือได้รับการแนะนำโดยสมาชิก

 

 

ฉันได้รับการแนะนำจากท่านเคานต์แล้ว ดังนั้นการเข้าร่วมจึงไม่มีปัญหา

 

 

หากกลัวว่าจะมีปัญหาเราก็สามารถซ่อนตัวตนของเราได้

 

 

ถึงแม้ว่าผู้จัดงานจะรู้ตัวตนของผู้เข้าร่วม แต่โดยปกติผู้เข้าร่วมงานจะมาที่นี่โดยการซ่อนใบหน้าและตัวตนของพวกเขา

 

 

แน่นอนว่าห้ามการสอดแนมโดยเด็ดขาด ดูเหมือนจะเป็นมาตรการเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็น

 

 

ดังนั้นเราจึงสวมหน้ากากเพื่อปิดบังใบหน้าของพวกเราด้วย

 

 

มีทหารที่ดูแข็งแกร่งยืนเฝ้าที่ประตูทางเข้าอยู่

 

 

เขามองตรงมาที่เรา

 

 

“นี่จดหมายแนะนำ”

 

 

“ขอโทษด้วยครับท่าน เชิญผ่านเข้าไปได้เลยครับ”

 

 

เรายินจดหมายที่ท่านเคานต์ให้มากับทหารแล้วเดินผ่านประตูมา

 

 

ในพื้นที่กว้างขวางมีสวนที่สวยงามอยู่

 

 

“คฤหาสน์ใหญ่จังนะคะ ของใครกันนะ?”

 

 

“ดูเหมือนว่าจะเป็นบ้านของคยุคคนหนึ่งในเมืองหลวง และผู้จัดงานก็เป็นดยุคด้วย ดูจากมีทหารที่เฝ้าอยู่กับการที่ผู้เข้าร่วมต่างปกปิดตัวตนก็ทำให้เข้าใจได้โดยปริยายอยู่แล้ว”

 

 

ไม่สำคัญว่าใครจะเป็นผู้จัดงาน บางทีทุกคนก็คงคิดเหมือนกัน

 

 

แค่มีสินค้าที่ต้องการและจะเสนอราคาได้มากแค่ไหน

 

 

เรามองเห็นอาคารสีขาวขนาดใหญ่

 

 

ที่หน้าทางเข้ามีกลุ่มผู้ร่วมงานกำลังสนทนากับอยู่โดยแต่ละคนก็มีเครื่องดื่มอยู่ในมือ

 

 

มันยังไม่ถึงเวลาเริ่มงาน ดังนั้นพวกเขาก็เลยต้องหาอะไรฆ่าเวลา

 

 

ฉันเดินเข้าไปในอาคาร มีชายชราคนหนึ่งโค้งคำนับเรา

 

 

“ขอบคุณที่ท่านมาร่วมงานของเราในคืนนี้ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่ท่านได้เข้าร่วมงานเช่นนี้ ผมขออนุญาติตรวจสอบจดหมายรับรองได้หรือไม่?

 

 

“นี่ครับ”

 

 

ชายชรามองดูซองจดหมายแล้วยิ้ม

 

 

“ผมแน่ใจว่ามันเป็นของแท้ เช่นนั้นขอต้อนรับสู่งานประมูลอีกครั้ง เรามีสินค้ามากมายให้ท่านเลือกในคืนนี้ หากท่านสนใจได้โปรดลองร่วมประมูลด้วย”

 

 

“ว่าแต่ที่นี่เราจะเรียกคนอื่นกันยังไง”

 

 

“ผู้ที่เข้าร่วมงานจะได้ป้ายที่มีตัวเลขกำกับอยู่ ดังนั้นท่านสามารถแทนตัวผู้อื่นว่า มิสเตอร์ [คุณผู้ชาย] หรือ มิสซิส [คุณผู้หญิง] แล้วตามด้วยหมายเลขของผู้นั้น ก็ได้ครับ”

[ สั้นๆว่า”คุณ”ตามด้วยเลขแล้วกัน]

 

 

เลขที่ถูกมอบให้ฉันคือ 31

 

 

ฉันคิดหมายเลขไว้ที่หน้าอก

 

 

จากนี้ฉันคือ คุณ 31

 

 

ต้องระมัดระวังไม่ให้ชื่อของเราเล็ดลอดออกมาโดยไม่ตั้งใจ

 

 

เมื่อฉันเข้าไปที่ด้านหลังของอาคารก็มีห้องขนาดใหญ่

 

 

มีเวทีที่เป็นรูปจันทร์ครึ่งเสี้ยวในห้องและมีเก้าอี้มากมายเรียงรายอยู่หน้าเวที

 

 

มีคนบางส่วนนั่งรอที่เก้าอี้อยู่แล้ว

 

 

เราหาที่นั่งด้านหลังสุด

 

 

ถึงมันจะไกลจากเวทีมาก แต่เพราะฉันกับคาเอเดะเรามีสายตาที่มองได้ไกล เคสจึงมองเห็นได้อย่างชัดเจน

 

 

“ทำไมถึงนั่งข้างหลังล่ะคะ?”

 

 

“เพราะฉันไม่รู้ว่าต้องทำยังไง  เพราะงั้นฉันเลยตัดสินใจดูอยู่ห่างๆก่อน”

 

 

และยิ่งอยู่ข้างหน้าเท่าไหร่ก็ยิ่งได้รับความสนใจมากขึ้นด้วย ฉันไม่อยากทำตัวเด่นสักเท่าไหร่

 

 

“คุณลูกค้า เชิญครับ”

 

 

“ขอบคุณ”

 

 

มีบริกรส่งแก้วมาให้สองใบ เห็นได้ชัดว่ามันคือแชมเปญ

 

 

“คิ้ว~?”

 

 

“อย่าออกมานะ”

 

 

แพนด้าออกจากตราประทับโดยที่ไม่ได้รับอนุญาติ

 

 

เขามองเข้าไปในแก้วด้วยความอยากรู้อยากเห็น

 

 

จากนั้นก็เข้าไปในอ้อมแขนของคาเอเดะอย่างพอดีแล้วหลับตาอย่างมีความสุข

 

 

ต่างจากโรสุเกะ เขาสามารถเข้าออกตราประทับได้อย่างอิสระ

 

 

ฉันกังวลมากว่าเขาจะออกมาในช่วงเวลาสำคัญ และอาจทำให้คนรอบข้างแปลกใจ

 

 

แขกจำนวนมากเริ่มเข้ามาในนี้แล้ว และคนที่ดูเหมือนจะเป็นผู้ดำเนินงานก็ยืนอยู่บนเวที

 

 

“ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมงานกันในคํ่าคืนนี้ เรามาเริ่มงานประมูลกันดีกว่า กติกานั้นก็ง่ายๆ ท่านไหนเสนอราคาสินค้ามากกว่าก็จะเป็นผู้ที่ได้รับสินค้าไป เอาล่ะเรามาเริ่มกันเลย!”

 

 

สินค้าชิ้นแรกที่ถูกนำขึ้นมาบนเวทีดูเหมือนว่าจะเป็นอัญมณีที่เม็ดใหญ่พอๆกับกำปั้น ส่องแสงสว่างเป็นประกายระยิบระยับ

 

 

“2000”

 

“2500”

 

“3000”

 

“5100”

 

 

ราคาของมันกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

 

 

อัญมณีถูกขายที่ราคา 330 ล้านใน 10 นาทีต่อมา

 

 

ฉันรู้สึกว่ามีเหงื่อออกให้กับความไร้สาระที่เกิดขึ้นนี้

 

 

ที่นี่มันบ้าคลั่งกว่าที่ฉันคิดไว้ตอนแรกซะอีก

 

 

ใช้เงินหลายร้อยล้านภายในระยะเวลาไม่กี่นาที

 

 

ที่นี่มีแต่คนที่รวยระดับอภิมหึมามหาเศรษฐีอยู่เต็มไปหมด

 

 

ฉันรู้สึกว่าเงิน 1200 ล้านที่ฉันมีมันอาจไม่เพียงพอก็ได้

 

 

ขุนนางช่างน่ากลัว

 

 

หลังจากนั้นก็มีสินค้าอีกหลายชิ้นถูกนำขึ้นมาประมูล และการประมูลก็ดำเนินต่อไป

 

 

 

 

“เอาล่ะ ได้เวลาสำหรับสินค้าที่มีมูลค่ามหาศาลแล้ว ก่อนอื่นหนึ่งในไฮไลท์ของคํ่าคืนนี้ “ม้วนคัมภีร์ปิดผนึกสกิล” เปิดราคาที่ 1 ล้าน!”

 

 

นี่เป็นสินค้าชิ้นแรกที่ฉันสนใจ

 

 

ม้วนสกิลเป็นหนึ่งในวัตถุโบราณที่เผ่าพันธ์โบราญหลงเหลือเอาไว้

 

 

วิธีการผลิตยังไม่เป็นที่แน่ชัดแม้กระทั่งในปัจจุบัน มันเรียกใช้งานสกิลอันทรงพลัง แต่แลกกับการที่ใช้แล้วทิ้งไป

 

 

และม้วนปิดผนึกสกิลก็เป็นไพ่ตายที่ทรงพลังอย่างยิ่ง ในการต่อสู้กับคนด้วยกันซึ่งจะปิดการใช้งานสกิลของอีกฝ่ายโดยสิ้นเชิง

 

 

หากว่าคุณเป็นนักสู้มันคือไอเทมที่ควรมี

 

 

มันควรจะเป็นแบบนั้น

 

 

แต่สถานที่ประมูลกลับเงียบกริบ แม้แต่ผู้ดำเนินงานก็ยังสับสน

 

 

“เอาล่ะทุกท่านพร้อมกันหรือยัง!”

 

 

ฉันรู้สึกประหลาดใจ แต่ก็เข้าใจในที่สุด ที่นี่มีแต่ชนชั้นสูงที่ไม่สนใจในการต่อสู้พวกเขาไม่จำเป็นต้องผนึกสกิลใคร มันจึงเป็นการเสียเงินเปล่าที่จะประมูลมัน

 

 

ฉันยกมือขึ้น

 

 

“หนึ่งล้าน”

 

 

“มีใครสู้ราคาอีกมั้ย?”

 

 

ดูเหมือนจะไม่มีใครสู้ราคา

 

 

สองนาทีต่อมาฉันก็ได้สิทธิในการซื้อม้วนคัมภีร์

 

 

“นายท่านยกมือทำไมเหรอ?”

 

 

“ในสถานการณ์ฉุกเฉินการผนึกสกิลนั้นสำคัญมาก มันสามารถใช้ได้กับศัตรูคนใดคนหนึ่งได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นราชาปีศาจหรือผู้กล้าก็ตาม”

 

 

“เป็นเครื่องมือที่สุดยอดเลยนะคะ แต่ทำไมถึงไม่มีคนสนใจเลย”

 

 

“ฉันคิดว่าพวกเขาคงไม่สนใจมันและประหยัดเงินไว้ประมูลสินค้าชิ้นต่อๆไป พวกเขาคงไม่อยากเสียเงินโดยใช่เหตุ”

 

 

หลังจากนี้คงเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือด ผู้ร่วมงานหลายคนเริ่มเปลี่ยนไปนั่งข้างหน้า

 

 

“ต่อไปเป็นไฮไลท์ของงานอีกชิ้นหนึ่ง หากมีสิ่งนี้ ก็ไม่ต้องกลัวโดนลอบสังหารอีกต่อไป “อัญมณีต่อชีวิต”ที่จะสามารถปกป้องเจ้าของจากความตายเพียงหนึ่งครั้ง เปิดราคาที่ 2 ล้าน!”

 

 

ดูเหมือนว่านี่จะเป็นสิ่งที่พวกเขามองหาอยู่ ราคาประมูลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในระยะเวลาเพียงสั้นๆ

 

 

ราคาสุดท้ายอยู่ที่ 850 ล้าน

 

 

ที่นี่มันมีแต่คนบ้ากันทั้งนั้น

 

 

“ตอนนี้ถึงเวลาสำหรับเหล่าทาสหายากกันแล้ว เฉพาะผู้ที่เป็นเผ่าพันธ์ที่หายากหรือมีสกิลที่ไม่มีที่ไหนในโลกนี้ คนแรกไฮเอลฟ์!!!”

 

 

สาวสวยเอลฟ์คนหนึ่งถูกพาขึ้นมาบนเวที เธอถูกคลุมด้วยผ้าบางๆ แต่ก็ยังคงสามารถมองเห็นสุดส่วนของเธอได้

 

 

ถึงจะไม่เท่ากับคาเอเดะ แต่เธอก็ถูกจัดอยู่ในประเภทที่งดงามเช่นกัน

 

 

เมื่อฉันมองไปที่เธอ คาเอเดะก็ทำเสียงไม่ค่อยพอใจ

 

 

แน่นอนว่าเธอกระตุ้นเหล่าลูกค้าที่เป็นผู้ชาย และถูกขายไปในราคาที่สูงลิ่ว

 

 

ฉันไม่เข้าใจว่าพวกเขาซื้อขายคนกันได้ยังไง ฉันเองก็บ่นออกไปไม่ได้ แต่ฉันรู้สึกไม่ดีเลยที่ได้มานั่งดูอะไรแบบนี้

 

 

“ต่อไปคือเผ่าพันธ์ที่หายากมากที่สุดในโลก เผ่าแฟรี่!!!!”

 

 

เหล่าผู้มาร่วมงานต่างก็ส่งเสียงคึกคัก

 

 

แฟรี่เป็นเผ่าพันธ์ที่มักถูกกล่าวถึงในตำนาน ว่ากันว่าพวกเขาอาศัยอยู่ในป่าที่มนุษย์ไม่สามารถจะเข้าไปได้ ไม่เพียงแต่พวกเขาจะตัวเล็กน่ารักเท่านั้น แต่คุณค่าที่แท้จริงของพวกเขานั้นอยู่ที่ปีก

 

 

“ผงนางฟ้า” ที่อยู่บนปีกของพวกเขา เกล็ดพิเศษที่ทำให้ใครก็ตามสามารถที่จะบินบนฟ้าได้

 

 

แน่นอนว่าฉันไม่ได้พูดถึงบินแบบกัญชาอะไรแบบนี้ แต่บินแบบบินจริงๆ

 

 

คนที่สัมผัสกับผงนางฟ้าสามารถที่จะบินติดต่อกันได้หลายชั่วโมง

 

 

สำหรับคนที่เกิดเหตุอันตรายถึงชีวิต เช่นจู่ๆถ้าเกิดโดนจับกุมหรือโดนปิดทางหลบหนี มันคือความสามารถที่เหมาะจะใช้ในสถานการณ์แบบนั้นมาก

 

 

ความหายาก รูปลักษณ์ และความสามารถ

 

 

พวกเขาต้องเป็นทาสที่น่าสนใจสำหรับผู้มีอำนาจแน่ๆ

 

 

“ถ้าอย่างนั้นเราจะเปิดราคาที่ 5 ล้าน”

 

 

หญิงสาวที่มีปีกเธอถูกนำออกมาในตระกร้าใบเล็กๆ

 

 

เธอตกใจและสั่นกลัวอยู่ที่มุมหนึ่งของตระกร้านั้น

 

 

“ช่วยด้วย!”

 

 

ฉันได้ยินเสียง….

 

 

เสียงของใครกัน?

 

 

“เผ่าพันธ์ที่ยิ่งใหญ่ ได้โปรดช่วยเฟราออกไปจากที่นี่ด้วยนะคะ!”

[ フラウ = ฟูราอุ > เฟรา อ่านว่า เฟา ]

 

 

เสียงยังคงดำเนินต่อไป

 

 

“นางฟ้าผู้ซื่อสัตย์ที่คอยรับใช้เผ่าพันธ์ที่ยิ่งใหญ่ ได้โปรดยื่นมือมาช่วยเฟราผู้น่าสงสารคนนี้ด้วย”

 

 

มันเป็นเสียงของคำอธิษฐานอ้อนวอน

 

 

ฉันมองไปรอบๆแต่ก็เหมือนจะไม่มีใครได้ยินสักคน

 

 

ฉันยกมือขึ้นตามเสียงอ้อนวอนนั้น

 

 

“200 ล้าน”

 

 

“อ๊ะ! จู่ๆราคาก็กระโดดขึ้นมาแล้วครับ!”

 

 

แต่คนอื่นๆก็ยังเสนอราคาขึ้นมาทีละเล็กทีละน้อย

 

 

หากฉันได้ยินเสียงคำอฐิษฐานอ้อนวอนขอความช่วยเหลือที่มีเพียงแค่ฉันคนเดียวที่ได้ยินแบบนี้ ฉันคงจะทำเป็นนิ่งเฉยไม่ได้ เด็กคนนั้นยังคงพยายามเชื่อในบางสิ่ง

 

 

ไม่สิ ฉันอยากจะเชื่อว่าสิ่งที่เธอเชื่อไม่ใช่เรื่องไร้สาระ

 

 

ฉันไม่ลังเลเลยแม้แต่นิดเดียว

 

 

“300 ล้าน”

 

 

“ราคาพุ่งขึ้นมาอีกแล้วครับ!”

 

 

มีไม่กี่คนที่ให้ความสนใจกับฉัน หลายคนก็เริ่มที่จะไม่สู้ราคาต่อแล้ว

 

 

แต่ก็ยังเหลืออีก 2-3 คนที่ยังไม่ยอมถอย

 

 

พวกเขายังคงเสนอราคาต่อโดยไม่ถอย

 

 

“450 ล้าน”

“460 ล้าน”

“465 ล้าน”

“471 ล้าน”

 

 

ยอมแพ้ไปสักทีสิ

 

 

“600 ล้าน”

“610 ล้าน”

 

 

มีสองคนยอมแพ้ไปแล้วแต่ยังเหลือไอ้หมูอ้วนหัวล้านอยู่คนนึงที่ยังสู้ต่อ

 

 

“ฮุฮุ แฟรี่ตัวน้อยผู้น่าสงสาร ฉันจะสนุกกับเธอทุกวันจนเธอพังไปข้างเลย”

 

 

“800 ล้าน”

 

 

“!?”

 

 

ชายคนนั้นประหลาดใจกันราคาที่ฉันเสนอออกไป

 

 

แต่อย่างไรก็ตามเขายังคงไม่ยอมแพ้

 

 

เขาจะสู้ไปจนถึงเมื่อไหร่กันนะ

 

 

ถ้างั้นฉันคงต้องทุ่มสุดตัวแล้ว

 

 

“1,100 ล้าน”

 

 

“!??”

 

 

ในที่สุดเขาก็สู้ราคาต่อไม่ไหว

 

 

นายแพ้แล้ว

 

 

“เอาล่ะครับ การประมูลทาสคนนี้ ผู้ชนะได้ไปในราคา 1,100 ล้านครับ!!!”

 

 

แขกที่เข้าร่วมงานต่างลุกขึ้นมาปรบมือให้กับการประมูลอันแสนดุเดือดนี้

 

 

Options

not work with dark mode
Reset