เล่ห์รักกลกาล 357 เยี่ยนอยากรู้ความจริง

ตอนที่ 357 เยี่ยนอยากรู้ความจริง

เป่ยเฉินเสียเยี่ยนเอ่ยถามว่า “เจ้าบอกเยี่ยนมาว่า นางทำไปเพราะความจำเป็นใช่หรือไม่”

 

 

ที่เขาไม่เอ่ยปาก นั่นก็เพราะว่านับตั้งแต่ซือหม่าหรุ่ยเอ่ยปากด่าว่าเขา เขาก็เริ่มครุ่นคิดถึงประเด็นสำคัญในเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว

 

 

หากเยี่ยเม่ยไม่รู้สึกอะไรกับเขาอย่างที่พูด ในใจนางมีเพียงกูเยว่อู๋เหินเพียงคนเดียว เช่นนั้นต่อให้ซือหม่าหรุ่ยสนิทกับเยี่ยเม่ยมากกว่านี้ ก็ไม่จำเป็นต้องด่าว่าเขา

 

 

ปัญหาที่เยี่ยเม่ยยังไม่ใส่ใจ แล้วซือหม่าหรุ่ยจะสนใจทำไมกัน

 

 

เขาเชื่อว่าสตรีเหล่านี้หาได้ว่างจนไม่มีอันใดทำ ฮ่องเต้ไม่ร้อนแต่ขันทีรีบ ดังนั้นก็พิสูจน์แล้วว่าความจริง เยี่ยเม่ยใส่ใจ

 

 

อย่างนั้น…

 

 

ก็หมายความว่าเรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำอื่นอีกใช่หรือไม่

 

 

นับตั้งแต่แรกเริ่มนางบอกว่าหลอกใช้เขา เขาก็ไม่เชื่อแล้ว แต่ว่าเมื่อเผชิญกับความเย็นชาไร้หัวใจนางครั้งแล้วครั้งเล่า รวมถึงหลังจากเปิดเผยความสัมพันธ์กับกูเยว่อู๋เหิน เขาก็ไม่อาจไม่เชื่อ

 

 

แต่ในยามนี้…

 

 

ซือหม่าหรุ่ยตะลึงไปแล้ว คิดไม่ถึงว่าความปากไวอดพูดแทนเยี่ยเม่ยไม่ได้ กลับทำให้เป่ยเฉินเสียเยี่ยนจับพิรุธได้

 

 

นางลนลานขึ้นมาทันที ทั้งไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไรเพื่อแก้ไขสถานการณ์

 

 

ด้วยเหตุนี้นางจึงหมุนตัวเดินจากไป ซ้ำเอ่ยด้วยความไม่พอใจว่า “ไม่มี สองสามวันก่อนตอนที่พวกท่านตัดความสัมพันธ์ ข้าก็แค่เห็นใจท่าน ตอนนี้พบว่าตัวเองคิดมากเกินไปแล้ว ท่านไม่น่าเห็นใจเลยแม้แต่น้อยนิด จึงเกิดความโมโหขึ้นมาจึงด่าว่าตำหนิท่านก็เท่านั้นเอง! ท่านอย่าได้คิดมาก!”

 

 

นางจากไปอย่างร้อนรน ดูท่าแล้วต้องมีปัญหาแน่

 

 

เป่ยเฉินเสียเยี่ยนแววตาลุ่มลึก น้ำเสียงชั่วร้ายแฝงไปด้วยความอันตรายเอ่ย “หยุด!”

 

 

เมื่อเสียงนี้ดังออกมา ซือหม่าหรุ่ยที่มีความกล้าหาญยังตกใจจนชะงักฝีเท้า เป่ยเฉินเสียเยี่ยนมีนิสัยอย่างไร คนทั่วหล้าต่างรับรู้ หากนางยังเดินหน้าต่อไป อาจต้องจบชีวิตน้อยๆ นี้ไปจริงๆ แล้ว

 

 

หลังจากหยุดฝีเท้า นางก็ไม่กล้าหันกลับไปมอง ในใจรีบคิดหาแผนการรับมือ

 

 

นี่…

 

 

เยี่ยเม่ยสู้อุตส่าห์ลำบากลำบนเสแสร้ง ถึงได้ตัดสัมพันธ์กับเป่ยเฉินเสียเยี่ยนได้ หากถูกนางทำให้เสียเรื่อง เช่นนั้น…ซือหม่าหรุ่ยคิดทุบตีตัวเองสักครั้ง เพราะอะไรพอเห็นมู่หรงเหยาฉือแล้วก็โมโหจนขาดสติ

 

 

คราวนี้ดีเลย!

 

 

แต่ว่า

 

 

จากคำพูดของอวี้เหว่ย นางรับรู้แล้วว่าระหว่างเป่ยเฉินเสียเยี่ยนกับมู่หรงเหยาฉือไม่เกิดอะไรขึ้นทั้งนั้น ไม่ว่าจะพูดอย่างไร นางคิดว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องดีสำหรับเยี่ยเม่ยกระมัง…

 

 

ครั้นเห็นซือหม่าหรุ่ยหยุดชะงัก

 

 

เป่ยเฉินเสียเยี่ยนค่อยๆ เดินหน้าไปหานาง เอ่ยถามทีละคำว่า “เยี่ยนต้องการฟังความจริง! หากเจ้าโมโหเพราะผู้หญิงคนนั้น เยี่ยนสามารถบีบคอนางให้ตายได้ ขอเพียงเจ้าพูดความจริง ไม่ว่าจะขออะไร เยี่ยนก็จะทำให้เจ้าสมใจ!”

 

 

ขณะเขาเอ่ยก็กวาดตามองมู่หรงเหยาฉือ

 

 

มู่หรงเหยาฉือยามนี้ตกใจจนหน้าซีดเซียว ร้องออกไปอย่างไม่อยากเชื่อว่า “เตี้ยนเซี่ย! ท่านทำเช่นนี้กับข้าได้อย่างไร!”

 

 

ก็แค่แลกกับความจริงประโยคหนึ่ง เขาไม่สนใจ คิดเอาชีวิตนางเข้าแลกเชียวหรือ

 

 

นาง มู่หรงเหยาฉือนับเป็นอะไรในใจของเขากันแน่ อ้อ อันที่จริงนางก็รู้อยู่แล้วว่าไม่นับเป็นอะไรทั้งนั้น แต่นางคิดไม่ถึงเลยว่า เตี้ยนเซี่ยจะไร้หัวใจถึงขั้นนี้

 

 

เป่ยเฉินเสียเยี่ยนไม่เพียงปรายตามองนางเท่านั้น น้ำเสียงร้ายกาจยังเอ่ยว่า “เจ้าบอกว่าชอบเยี่ยนมิใช่หรือ ในเมื่อเยี่ยนไม่สนใจเจ้าเลย อย่างนั้นเจ้าตายเพื่อเยี่ยน ความรักของเจ้าถึงจะมีค่าไม่ใช่หรืออย่างไร เป็นคนสมควรซื่อสัตย์เช่นเยี่ยน ยอมตายเพื่อคนในดวงใจ ถึงเรียกได้ว่าชอบ มิเช่นนั้นก็ไม่คู่ควรเอ่ยว่าชอบ! ส่วนเจ้า ไม่ยินยอมตาย ดังนั้นคำพูดว่าชอบของเจ้าก็เป็นแค่การหลอกลวง ใช่ไหม”

 

 

มู่หรงเหยาฉือหน้าซีดเซียว

 

 

คำพูดนี้นางสมควรตอบอย่างไรดีนะ

 

 

หากบอกว่าชอบ นั่นก็หมายความว่าตนเองยอมตายเพื่อนเตี้ยนเซี่ย หากซือหม่าหรุ่ยต้องการชีวิตนางแลกกับความจริง เช่นนั้นนางก็คงจบเห่แล้ว

 

 

หากบอกว่าไม่ชอบ

 

 

นั่นก็หมายความว่าคำที่นางบอกว่าชอบเตี้ยนเซี่ยเมื่อคืนเป็นคำลวง การหลอกเตี้ยนเซี่ยจะต้องตกตายอย่างน่าอนาถ

 

 

นางรู้มาตลอดว่า เตี้ยนเซี่ยมีเหตุผลผิดแปลกมากมาย หลายปีนี้คนที่ถูกคำพูดเตี้ยนเซี่ยบีบคั้นจนถึงขั้นฆ่าตัวตายมีนับไม่ถ้วน แต่คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าจะมีวันหนึ่งที่เตี้ยนเซี่ยจะใช้มันกับนาง

 

 

เห็นมู่หรงเหยาฉือตกใจจนหน้าซีดทำตัวไม่ถูก ซือหม่าหรุ่ยได้แต่บอกว่านางอารมณ์ดีขึ้นมาก

 

 

ดูท่าแล้ว เป่ยเฉินเสียเยี่ยนไม่ได้สนใจแม่นักแสดงตัวฉกาจเท่าใดนัก

 

 

แต่ถึงซือหม่าหรุ่ยจะไม่ชอบใจมู่หรงเหยาฉืออยากเห็นอีกฝ่ายตาย แต่นางไม่อาจเอาเรื่องที่เยี่ยเม่ยปิดบังอย่างยากลำบากไปแลกมา

 

 

นางฝืนเอ่ยว่า “ไม่มีความจริงอะไรทั้งนั้น สิ่งที่ท่านเห็นก็คือความจริง หากท่านไม่เชื่อก็ไปถามเยี่ยเม่ยดูได้ อย่าทำให้ข้าลำบากใจเลย ข้าเป็นคนขวัญอ่อน หากทำให้ข้าตกใจหนีไป เยี่ยเม่ยก็จะขาดผู้ช่วยข้างกายไปอีกคนหนึ่ง!”

 

 

เยี่ยเม่ยคงเป็นจุดอ่อนเดียวของเป่ยเฉินเสียเยี่ยนแล้ว ดังนั้นหากพูดกับเขาเช่นนี้ บางทีอาจช่วยชีวิตตนไว้ได้

 

 

เป่ยเฉินเสียเยี่ยนย่อมไม่ปล่อยให้ข้างกายเยี่ยเม่ยขาดนางไปแน่ หากเป็นเช่นนี้ เยี่ยเม่ยต้องไม่ละเว้นเป่ยเฉินเสียเยี่ยนไปง่ายๆ อย่างแน่นอน

 

 

เป่ยเฉินเสียเยี่ยนจ้องซือหม่าหรุ่ยครู่หนึ่ง

 

 

เห็นสีหน้าหนักแน่นของนาง ไม่มีท่าทางจะเล่าความจริงสักน้อย เขานิ่งไป จากนั้นแค่นหัวเราะเย็นชา น้ำเสียงน่าฟังกล่าวว่า “เช่นนั้นก็ดี ในเมื่อเจ้าไม่อยากเอ่ย ข้าจะไปสืบเอง! ข่าวลือที่แพร่ออกมาเมื่อเช้า เยี่ยนคิดว่านางคงไม่ใส่ใจ จึงไม่คิดจะแก้ข่าว แต่ว่าตอนนี้…”

 

 

เขาเว้นวรรคไปเล็กน้อย คล้ายกับว่าตัดสินใจอะไรได้แล้ว อารมณ์ก็ดีขึ้นมาก เขาจ้องมองซือหม่าหรุ่ยกล่าวต่อว่า “รบกวนเจ้าช่วยถ่ายทอดคำพูดของข้าให้นางด้วย ต่อให้นางทอดทิ้งข้าราวกับรองเท้าคู่เก่า แต่สตรีบนโลกใบนี้ นอกจากนางแล้วเยี่ยนยังคงไม่ต้องการใครทั้งนั้น กับแค่มู่หรงเหยาฉือผู้เดียว อย่าว่าแต่คิดจะปีนขึ้นเตียงเยี่ยนเลย แค่ห้องก็ไม่อาจเข้าไปได้แล้ว!”

 

 

มู่หรงเหยาฉือด้านข้างยืนฟังจนหน้าซีดเผือด เกรงว่าชั่วชีวิตนี้นางคงไม่เคยได้ยินคำปฏิเสธที่ตรงไปตรงมาเช่นนี้มาก่อน เขาเอ่ยออกมาต่อหน้าตนไม่ใส่ใจว่าจะดูหมิ่นเกียรติกันเลยสักนิด

 

 

ในคำพูดนั้นแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ใส่ใจตน

 

 

มู่หรงเหยาฉือยามนี้รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ เอามือปิดปากแล้ววิ่งร้องไห้ออกไป เห็นแผ่นหลังของนางที่ทะยานออกไปทั้งน้ำตา ซือหม่าหรุ่ยยิ่งอารมณ์ดีขึ้นไปใหญ่

 

 

เมื่อฟังคำของเป่ยเฉินเสียเยี่ยนจบ นางก็เอ่ยว่า “คำพูดของท่านข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะบอกนาง ส่วนที่ว่านางจะใส่ใจหรือไม่ ข้าก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน!”

 

 

เมื่อเอ่ยจบ ซือหม่าหรุ่ยก็จากไป

 

 

อวี้เหว่ยกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก มองแผ่นหลังซือหม่าหรุ่ย “เตี้ยนเซี่ย เรื่องนี้คล้ายกับว่ามีปัญหาจริงด้วย!”

 

 

“เจ้าระบายอารมณ์หมดแล้วหรือยัง” เป่ยเฉินเสียเยี่ยนกวาดตามองเขาอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน

 

 

“เอิ่ม…” อวี้เหว่ยหวาดกลัว เอ่ยเสียงเบาว่า “ข้าน้อยก็แค่รู้สึกเสียใจแทนท่าน…เห็นแก่ที่ข้าน้อยอาละวาดครั้งนี้ได้ผลลัพธ์ที่ดีอย่างคาดไม่ถึง ทำให้ท่านพบปัญหา ละเว้นข้าน้อยเถอะ! ฮือๆๆ… อวี้เหว่ยของท่านหลั่งน้ำตาบุรุษแล้ว…”

เล่ห์รักกลกาล

เล่ห์รักกลกาล

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 121 อ่านนิยาย

(อ่านตอนต่อไปด้านล่าง)


ขณะเดินทางกลับจากทำภารกิจ เฮลิคอปเตอร์ที่ เยี่ยเม่ย นักฆ่าสาวจากโลกปัจจุบันนั่งก็ปะทะเข้ากับพายุและเกิดการขัดข้องจนตกลงไปในน้ำวนบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา นั่นยังไม่น่าแปลกเท่าไหร่ สิ่งที่ประหลาดกว่านั้นคือเธอกลับทะลุมิติเข้ามาอยู่ในยุคโบราณที่ไม่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์หน้าไหนๆ และได้พบกับเขา ชายหนุ่มฉายาปีศาจร้ายกระหายเลือดผู้เป็นองค์ชายสี่แห่งราชวงศ์เป่ยเฉิน เป่ยเฉินเสียเยี่ยน การพบกันของทั้งคู่เป็นจุดเริ่มต้นในการไขปริศนาความทรงจำที่หายไปของเยี่ยเม่ย เพราะอะไรเธอถึงต้องมาที่นี่และตัวเธอเกี่ยวข้องอย่างไรกับโลกนี้ ปริศนานี้เธอจะต้องไขมันให้ได้

กล่าวกันว่าความบังเอิญไม่มีในโลก หรือบางทีนี่อาจจะเป็นโชคชะตาของเธอ?

Options

not work with dark mode
Reset