อยากกินไหมล่ะ 855 ปลาเล็กก็กินปลานะ

ตอนที่ 855 ปลาเล็กก็กินปลานะ

อยากกินไหมล่ะ 美食供应商

บทที่ 855 ปลาเล็กก็กินปลานะ

“ปลาย่างงั้นรึ? ปลาตัวใหญ่หรือปลาตัวเล็กกันเล่า?” เฉินเหว่ยถามด้วยความข้องใจ

“แม้ว่าจะไม่มีเบียร์สด แต่มีปลาย่างก็ไม่เลวเลยนะ ปลาอะไรงั้นรึ?” ลูกค้าปลดผ้าพันคอออกแล้วถามด้วยความตื่นเต้น

“ว้าว! ในที่สุดก็มีปลาย่าง ฉันชอบมากเลย ฉันขอปลาย่างสักที่ก็แล้วกัน” หญิงสาวผมยาวประบ่าและไว้ผมหน้าม้าตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้นแล้วสั่งอาหารทันที

ชื่อของหญิงสาวช่างเหมาะเจาะนัก เธอมีนามว่าเจ้าปลาน้อย เธอมาร้านหยวนโจวเพราะเคบับอยู่หลายครั้งและทุกๆครั้งที่เธอมา เธอจึงเช็คว่าจะมีปลาย่างมาเสิร์ฟหรือไม่อยู่เงียบๆ

ตามที่เธอเล่ามา เธอได้เติบโตขึ้นเป็นปลาตัวใหญ่แม้ว่าเธอจะมีนามว่าเจ้าปลาน้อยก็ตามที และปลาใหญ่ก็น่าจะกินปลาเล็ก ดังนั้นเธอจึงชอบกินปลาที่สุดเลย

แน่นอนว่าแต่ก่อนเธอไม่ชอบกินปลาเอาเสียเลยจริงๆ แต่เพราะตอนเด็กๆเธอมักจะก้างปลาติดคออยู่เสมอ เธอจึงสาบานว่าจะไม่เลิกกินปลาจนกว่าจะไม่ติดคออีกต่อไป แล้วเธอก็ค่อยๆชอบกินปลาขึ้นมาทีละเล็กทีละน้อย

บางทีความชอบอะไรสักอย่างก็สามารถบ่มเพาะกันได้

“ขนาดกลางพร้อมน้ำหนักสุทธิ 0.6กก.” หยวนโจวกล่าวอย่างชัดเจนและรวบรัด

“อาหารจานใหม่ไม่มีส่วนลดใช่ไหม?” หลิงหงมักจะเอาแต่สนใจว่าอาหารจะมีส่วนลดหรือไม่ ถึงอย่างไรเขาก็ไม่สามารถกินปลาย่างในวันนี้ได้หากมีส่วนลดซึ่งน่าจะดูน่าสังเวชยิ่งกว่าเฉินเหว่ยเสียอีก

“คนละที่หรือไม่จำกัดจำนวน?” มีคนสนใจเรื่องปริมาณขึ้นมาบ้างแล้ว

“ไม่มีส่วนลด ได้คนละที่แล้วก็ไม่อนุญาตให้สั่งซ้ำด้วย” ขณะที่พูดอยู่นั้น หยวนโจวก็จัดการย่างไปด้วย

“อย่างที่คิดเอาไว้เลย” บรรดาลูกค้าต่างมีความรู้สึกเช่นนั้น

ถึงอย่างไรก็ไม่มีอะไรในร้านหยวนโจวที่สามารถซื้อได้โดยไม่จำกัดแต่อย่างใด แม้แต่เบียร์ก็ยังสั่งได้แค่ห้าแก้วเท่านั้นเอง

“น้ำหนักสุทธิเหมาะกับฉันแล้วล่ะเถ้าแก่หยวน งั้นฉันขอเคบับแล้วก็ปลาย่างอย่างละที่ก็แล้วกันนะ” เฉินเหว่ยครุ่นคิดอยู่สักครู่แล้วเริ่มสั่งอาหาร

เฉินเหว่ยใช้แรงเยอะอยู่ทุกวี่ทุกวันจึงทำให้เขากินเยอะ เขาไม่ค่อยได้มากินเคบับในยามปกติเสียเท่าใดนัก ถึงอย่างไรเคบับแค่ที่เดียวก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกเสียจากจะกระตุ้นความอยากอาหารของเขา เขาจึงกินไม่อิ่มเลย

แต่ปลาย่างขนาดพิเศษจะต่างออกไป ดังนั้นเฉินเหว่ยจึงตัดสินใจสั่งอาหาร

“ฉันก็ขอปลากับเคบับอย่างละที่ด้วย” หลิงหงนั่งลงแล้วสั่งอาหารบ้าง

“ฉันต้องการปลา”

“เคบับที่หนึ่ง”

ไม่มีบริกรหญิงในร้านหยวนโจวยามค่ำคืนเมื่อตอนที่เขาจัดเตรียมบาร์บีคิว มีเพียงหยวนโจวกับบรรดาลูกค้าเท่านั้นที่อยู่ตรงนั้น ดังนั้นพวกเขาจึงส่งเสียงดังเป็นพิเศษเมื่อตอนที่พวกเขาสั่งอาหารเพื่อให้หยวนโจวได้ยินพวกเขาได้ชัดเจน

“โอเค รอสักครู่นะ” หยวนโจวตอบรับทุกคนที่นั่งและสั่งอาหารเอาไว้แล้วอย่างจริงจัง

แน่นอนว่าวัตถุดิบของปลาย่างย่อมเป็นปลาที่ถูกนำมาใช้กับโต๊ะจีนปลารวมมิตรที่เจ้าระบบจัดเตรียมมาให้ซึ่งมีอีกชื่อเรียกว่าแท็งก์น้ำมหัศจรรย์

หยวนโจวหยิบสวิงตักปลาขึ้นมาห้าตัวในทันที

“แปะ แปะ” ปลาเป็นๆที่ยังมีชีวิตอยู่ด้านในขยับขึ้นๆลงๆส่งเสียงไพเราะเสนาะหูเมื่อพวกมันแหวกว่ายเข้าหากัน

“ปลาดูสดมากเลยนะเนี่ย” บรรดาลูกค้ามักจะชอบดูหยวนโจวทำอาหารก่อนที่อาหารจะถูกยกมาเสิร์ฟ และตอนนี้พวกเขาก็เริ่มสนทนากันเรื่องปลา

“ทำไมส่วนหางปลาเป็นสีทองแล้วหลังเป็นสีแดงเล่า? ปลาไนงั้นรึ?” เมื่อปลากระโจนขึ้นกลางอากาศก็เผยให้เห็นส่วนหางสีทอง ลูกค้าที่จำได้จึงกล่าวขึ้นมาทันที

“ไม่หรอก มันไม่ใช่ปลาไน หากตัดสินจากลักษณะภายนอกแล้วน่าจะเป็นปลาไนแม่น้ำฮวงโหต่างหากเล่า” เจ้าปลาน้อยผู้ชอบกินปลารู้จักปลาหลากหลายสายพันธุ์มากทีเดียว ทันทีที่เธออ้าปากก็บอกชื่อจริงของปลาไนออกมาได้

“ถ้าหากพวกเราอยู่ที่อื่น ฉันคงคิดว่ามันเป็นปลาไนแม่น้ำฮวงโหของปลอมแน่ๆ แต่ในร้านของเถ้าแก่หยวนมันก็บอกยากนะ ปลาตัวนี้น่าสนใจมากทีเดียว” เฉินเหว่ยจ้องมองไปทางปลาที่กำลังกระโดดขึ้นลงอย่างตื่นเต้น

ปลาไนแม่น้ำฮวงโหคืออะไรน่ะหรือ? มันก็คือหนึ่งในสี่ปลาน้ำจืดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดที่มีมาแต่เดิม แต่ในปัจจุบันไม่พบปลาไนแม่น้ำฮวงโหอีกแล้ว ปลาไนแม่น้ำฮวงโหที่จำหน่ายอยู่ในร้านอาหารส่วนใหญ่ในปัจจุบันนี้จริงแล้วเป็นปลาไนชนิดหนึ่งที่มีชื่อเรียกว่าปลาทองแม่น้ำฮวงโหซึ่งไม่ถือว่าเป็นปลาไนแม่น้ำฮวงโหของแท้

แม้จะเป็นเช่นนั้นแต่รสชาติของปลาทองแม่น้ำฮวงโหก็ยังอร่อยมากอยู่ดีต่างจากปลาไนทั่วไปที่มีรสชาติคล้ายดินและมีเนื้อสัมผัสหยาบ

“ฉันยังไม่เคยกินปลาไนแม่น้ำฮวงโหมาก่อนเลย ฉันเลยสงสัยว่ามันเติบโตขึ้นตามธรรมชาติหรือเปล่าน่ะสิ” เจ้าปลาน้อยมองหยวนโจวเริ่มจัดการกับปลาด้วยท่าทางคาดหวัง

เนื่องจากเนื้อปลามีรสชาติดี หยวนโจวจึงไม่ได้ใช้มีดทำครัวจัดการกับเกล็ดปลา แต่เขากลับใช้แผ่นเซรามิกที่มีรูปทรงคล้ายกับหยกโค้งจัดการแทน

หยวนโจวเอามือซ้ายกดฝาเหงือกของปลาเอาไว้แล้ววางปลาบนเขียง จากนั้นเขาก็หยิบแผ่นเซรามิกรูปทรงโค้งด้วยมือขวาแล้วขอดเกล็ดปลาในทิศทางตรงกันข้ามเริ่มตั้งแต่ส่วนหางปลาสีทองด้วยการเฉือนเพียงครั้งเดียว

หยวนโจวมักจะทำงานอย่างว่องไวอยู่เสมอไม่ว่าเขาจะวางปลาเป็นๆที่ยังมีชีวิตอยู่ลงบนเขียงหรือว่าเขาจะขอดเกล็ดปลาด้วยการเฉือนเพียงครั้งเดียวก็ตามที

ส่วนปลายของแผ่นเซรามิกโค้งคมมากทีเดียว เนื่องจากส่วนปลายอันคมกริบนี้ทำให้หยวนโจวผ่าทำความสะอาดท้องปลาได้ หลังจากนั้นเขาก็ทำความสะอาดกระเพาะอาหารด้วยปลายโค้งของแผ่นเซรามิก

กระเพาะอาหารของปลาที่ถูกล้างทำความสะอาดดูเหมือนจะสมบูรณ์มากทีเดียว แม้แต่ผนังเยื่อบุผิวก็ยังไม่เสียหายยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงเลือดเลยเสียด้วยซ้ำไป ดังนั้นเขียงจึงยังค่อนข้างสะอาดอยู่มาก

ส่วนเกล็ดปลาสีแดงอมทองเองก็จัดเรียงตัวอยู่ทางด้านข้างอย่างเป็นระเบียบ ปลาทั้งตัวสะอาดและสวยงามแถมยังไม่ให้ความรู้สึกคาวเลือดเลยแม้แต่น้อย

“ฉันเดาว่ามีแต่เถ้าแก่หยวนเท่านั้นแหละที่สามารถเชือดปลาได้สนุกสนานออกขนาดนั้น” เจ้าปลาน้อยมองหยวนโจวด้วยสีหน้าบริสุทธิ์ไร้เดียงสา

เธอพูดถูกแล้วล่ะ เมื่อหยวนโจวเชือดปลาเขาไม่เพียงจะกระทำอย่างว่องไวเท่านั้น แต่ยังทำทุกอย่างได้สะอาดเอี่ยมอ่องเสียยิ่งกว่าจะทำให้เกิดฉากนองเลือดอีกต่างหาก อีกอย่างการกระทำของเขาก็ทำให้ผู้อื่นรู้สึกได้ถึงสุนทรียศาสตร์และปลาก็เพียงแค่เงียบไปแทนที่จะกระโดดขึ้นลงด้วยความตกใจ

ไม่นานนักปลาหลายตัวก็ถูกหยวนโจวจัดการจนสิ้น เขาโรยเครื่องปรุงที่ใช้ทำปลาหมักดองลงบนตัวปลาแล้วแขวนพวกมันเอาไว้

ในตอนนั้นเอง หยวนโจวก็เริ่มย่างเคบับ เขากระทำอย่างรวดเร็วยิ่งโดยหาได้มีความล่าช้าแต่อย่างใดไม่

หลังจากเคบับที่หนึ่งพร้อมรับประทานแล้ว ปลาหมักดองที่อยู่อีกทางหนึ่งก็เกือบได้ที่แล้วเช่นกัน ในขณะนั้นเอง เจ้าปลาน้อยก็มองดูหยวนโจวเริ่มย่างปลาโดยไม่กะพริบตา

ถึงอย่างไรมันก็จะเป็นอาหารจานหลักในเวลาถัดมาของเธอ ฉะนั้นเธอจึงให้ความสนใจมันเอามากๆเลย

ก่อนที่จะนำไปย่าง หยวนโจวทาน้ำมันลงบนตัวปลาลงไปก่อนแล้วค่อยเสียบไม้ไผ่ทะลุตัวปลาจากด้านข้าง

ใช่แล้วล่ะ หยวนโจวไม่ได้เสียงไม้ไผ่เข้าไปในตัวปลาตรงๆ แต่เขากลับเสียบจากทางด้านข้าง มันทะลุตัวปลาตั้งแต่ปากออกมาจากท้องปลาที่แหวกเปิดออกโดยไม่ได้เข้าไปในเนื้อปลาตรงๆ ด้วยเหตุนี้รสชาติของเนื้อปลาโดยรวมจึงไม่ถูกทำลายไปด้วย

หลังจากปลาถูกเชือดและจัดการแล้วจะมีน้ำหนักสุทธิ 0.6กก. หยวนโจวถือปลาสองสองตัวด้วยมือข้างเดียวและอีกสามตัวด้วยมืออีกข้างแล้วนำไปวางเหนือถ่านเพื่อย่างด้วยแรงจากข้อมือของเขาเอง

ในขณะเดียวกัน เขาก็ขยับข้อมือเบาๆไปพร้อมๆกับเปลวไฟโดยไม่ปล่อยให้พวกมันสะดุ้งสะเทือนแต่อย่างใดซึ่งอาจจะส่งผลให้ได้รับความร้อนไม่ทั่วถึงได้ น่าจะมีแค่หยวนโจวเท่านั้นที่สามารถทำได้เนื่องจากมือของเขานิ่งมากแถมยังควบคุมความร้อนได้ดีอีกต่างหาก

หลังจากน้ำมันซึมซาบเข้าสู่เนื้อปลาแล้วส่งเสียงดัง “ฉู่ ฉี่” แล้วเท่านั้นที่หยวนโจวจะนำปลาขึ้นไปย่างบนเตา

“ปลาย่างต้องใช้เรี่ยวแรงเยอะจริงๆ” หยวนโจวผ่อนแรงข้อมือลงเล็กน้อยแล้วก็เริ่มรู้สึกไม่พึงพอใจในตนเองอยู่นิดหน่อย

ดูเหมือนว่าฉันต้องเพิ่มการออกกำลังข้อมือให้หนักขึ้นเสียแล้ว หยวนโจวผ่อนแรงข้อมือแล้วคิดอยู่ในใจ

เขาหาได้นึกถึงการแข่งขันแกะสลักอันน่าตื่นเต้นอีกแต่อย่างใด เขาแค่พยายามอย่างหนักเพื่อความสมบูรณ์แบบตามปกติวิสัยโดยไม่หยุดหย่อน

ช่วงเวลาในการย่างปลาขนาด 0.6กก.ไม่นานเท่าไหร่นัก ระหว่างช่วงเวลาในการย่าง บรรดาลูกค้าก็เริ่มคุยกันเอง แต่เจ้าปลาน้อยก็ยังมองไปทางหยวนโจวอย่างไม่ลดละและดูเหมือนเริ่มอดรนทนไม่ไหวที่จะกินปลาแล้ว

อยากกินไหมล่ะ

อยากกินไหมล่ะ

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 896 อ่านนิยาย

( อ่านต่อข้างล่าง )

ณ ประเทศตะวันออกที่ห่างไกลมีร้านอาหารเล็ก ๆ แปลก ๆ แห่งหนึ่งที่อาจหาญกล้า ‘ปฏิเสธการจัดอันดับสามดาว‘ โดย Michelin Guide อยู่หลายครั้ง อาหารที่นี่ราคาแพงมากข้าวผัดธรรมดาจานหนึ่งกับซุปหนึ่งชาม ราคาก็ปาเข้าไป 288 หยวนแล้ว (ประมาณ 1500 บาท) เคี่ยวขนาดนี้ก็ยังมีคนต่อคิวยาวเหยียดเพื่อจะรอกิน อ้อ… ที่นี่เขาไม่รับจองคิวด้วยนะ! แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีคนจำนวนมากนั่งเครื่องบินส่วนตัวมาเพื่อจองคิวอีก! ทำไมต้องนั่งเครื่องบินน่ะเหรอ ก็เขาไม่มีที่จอดรถให้น่ะสิ ที่นี่บริการแย่ ลูกค้ากินแล้วต้องล้างจานเช็ดโต๊ะเอง ไม่รู้เจ้าของร้านคิดอะไรอยู่… สงสัยคงเป็นคนบ้าคนหนึ่ง

Options

not work with dark mode
Reset