อยากกินไหมล่ะ 821 น้ำใจของเจ้าระบบ

ตอนที่ 821 น้ำใจของเจ้าระบบ

อยากกินไหมล่ะ 美食供应商

บทที่ 821 น้ำใจของเจ้าระบบ

ต้าไห่ย่อมเป็นผู้กำกับที่มีพรสวรรค์ด้านศิลปะมากที่สุดคนหนึ่งอย่างแน่นอน สำหรับเชฟทั้งสี่คนแรกพวกเขาจะถ่ายทำโดยใช้แสงที่ดูสบายตาผสานเข้ากับดนตรีประกอบฉากเบาๆเพื่อช่วยให้อาหารจานเด็ดเปล่งประกายมากขึ้น

กล่าวได้ว่าก่อนหน้านี้ต้าไห่ได้ทุ่มเทไปกับการตัดต่อเพื่อเพิ่มสาระสำคัญของเนื้อหาวิดีโอ

ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเชฟอู๋กำลังนวดแป้งอยู่นั้น มุมกล้องก็เล็งจากด้านหน้าและด้านบน สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงฝีมือการนวดแป้งอันสมบูรณ์แบบไร้ที่ติของเชฟอู๋ และฉากก็จบลงด้วยภาพระยะประชิดของเขา

แต่ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไปเพราะหยวนโจว แสงจ้าถูกนำมาใช้กับเขาและความสว่างก็เพิ่มขึ้นระหว่างการตัดต่อด้วย ดังนั้นเมื่อผู้ชมดูมาถึงวิดีโอส่วนของหยวนโจว พวกเขาก็มีความรู้สึกราวกับมีเมฆหมอกหลงเหลืออยู่และกำลังก้าวไปสู่แสงอรุโณทัย ลำพังแค่บรรยากาศทั้งหมดรอบตัวหยวนโจวก็มีผลทำให้คุณภาพเพิ่มขึ้นแล้ว

ส่วนดนตรีประกอบฉากของหยวนโจวนั้นกลับเล่นเป็นจังหวะรวดเร็วขึ้น ทว่าหาใช่ดนตรีอันเร่าร้อนรุนแรงแต่อย่างใดแต่กลับเป็นจังหวะที่ฟังแล้วร่าเริงบันเทิงใจ นอกจากนี้ส่วนของหยวนโจวที่ได้รับการตัดต่อก็นับว่าโดดเด่นสะดุดตามากทีเดียว

ในส่วนที่หยวนโจวทำบะหมี่เย็นนึ่งของเขามีการตัดต่อน้อยมาก ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่เทคเดียวแต่มุมกล้องกลับไม่เปลี่ยนทิศทางสักเท่าไหร่นัก

“ว้าว จู่ๆอารมณ์กับดนตรีประกอบฉากก็เปลี่ยนไปเสียดื้อๆเลย”

“อืม ฉันถึงขนาดรีบพุ่งตัวออกมาแล้วก็คิดว่าฉันกำลังดูวิดีโอที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิงอยู่แทนเลยล่ะ”

“เรื่องที่จู่ๆอารมณ์ก็เปลี่ยนไปจะต้องมีอะไรสักอย่างที่แตกต่างออกไปแน่ๆ”

อันที่จริงแล้วก็มีบางอย่างต่างออกไปมากเลยเชียวล่ะ

ทีแรกหยวนโจวค่อยๆเตรียมวัตถุดิบไปแบบสบายๆ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ใช้ฝีมือหรือเทคนิคอันน่าอัศจรรย์ใจแต่อย่างใดเลย ทว่าทุกการเคลื่อนไหวของเขากลับเป็นไปอย่างลื่นไหล ฉากนี้หาใช่สิ่งที่เพลินตาเป็นอย่างยิ่งแต่กลับให้ความรู้สึกสงบนิ่งและไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกกระวนกระวายใจเสียจนทำให้อยากจะรีบพุ่งเข้าใส่วิดีโอ

ขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบและข้อสงสัยของฟางเหิงล้วนถูกต้าไห่บันทึกเอาไว้อย่างชัดเจน

ปกติผู้กำกับจะพยายามสร้างความสงสัยด้วยการถามเชฟว่าสามารถทำได้สำเร็จหรือไม่เมื่อมีคนเกิดความคลางแคลงใจในตัวเชฟ

นั่นอาจจะดูเหมือนเทคนิคการทำให้วิดีโอดูน่าสนใจมากขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้วนั่นกลับเป็นการเพิ่มความลึกลับอันเป็นการดูถูกสติปัญญาของผู้ชมทั้งหลาย

ถึงอย่างไรถ้าหากเชฟไม่สามารถทำได้สำเร็จจริงๆแล้วล่ะก็วิดีโอยังจะออกอากาศได้ตั้งแต่แรกอยู่อีกหรือ? นี่ก็คือวิดีโอโปรโมตอาหารที่ปรุงขึ้นมาจากข้าวสาลี แม้ว่าเชฟจะไม่ล้มเหลวอย่างที่แสดงในวิดีโอแล้วทีมงานฝ่ายผลิตจะไม่สนใจได้หรือ?

โชคดีที่ต้าไห่เข้าใจเรื่องนี้แล้วเพียงแค่ถ่ายทำทุกอย่างไปโดยหาได้เติมแต่งสิ่งที่ไม่จำเป็นแต่อย่างใดลงไป

และในที่สุดเมื่อบะหมี่เย็นนึ่งเสร็จเรียบร้อยแล้วก็แสดงภาพระยะประชิดของบะหมี่ให้เห็น แน่นอนว่าผู้ชมย่อมไม่สามารถได้กลิ่นหรือรสชาติได้ แต่ก็ยังเห็นอยู่ดีนั่นแหละว่าบะหมี่ดูน่าอร่อยขนาดไหน

ทุกอย่างดูเหมือนจะกระตุ้นความอยากอาหารมากทีเดียว แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น ต้าไห่ยังรวมเอาส่วนที่บรรดาลูกค้าแถวนั้นกำลังกลืนน้ำลายไม่หยุดหย่อนเอาไว้ด้วย

ถัดมาส่วนที่ยอดเยี่ยมที่สุดก็มาถึงแล้ว ในวิดีโอ หยวนโจวหยิบตะเกียบขึ้นมาแล้วเริ่มกินอย่างเบิกบานใจ

หนึ่งคำ สองคำ การกินของเขาก่อให้เกิดจังหวะบางอย่างขึ้นมา

มีคำกล่าวที่ว่าการแต่งงานเป็นเหตุทำให้มีความสุขทั้งยังเพิ่มความเศร้าโศกอีกรูปแบบหนึ่งได้อีกด้วย

สำหรับผู้ชมแล้ว การกินของหยวนโจวนับเป็นความสำเร็จอันน่าพึงพอใจสำหรับเขาแล้ว ทว่ากลับเป็นความทรมานของผู้ชมที่ได้แต่มองแต่กลับไม่อาจกินได้

นี่คือเรื่องเศร้าอย่างสุดซึ้งเรื่องหนึ่งของเหล่านักชิมเลยก็ว่าได้

แล้วผู้คนก็เริ่มจู่โจมต้นเหตุของเรื่องเศร้านั้นในทันที

“ฉันไม่เคยเห็นใครไร้ยางอายขนาดนี้มาก่อนเลย!”

“ถ้าเขาจะกินอาหารเสียเองก็ไม่เป็นไรหรอกนะ แต่ทำไมพวกเขาถึงต้องเอามาฉายเอาไว้ในวิดีโอด้วย? พวกเขากำลังเยาะเย้ยเราไม่ได้กินอยู่ใช่ไหม?”

“ไอ้เชฟคนนี้มันเป็นใครกัน? เปิดเผยตัวตนออกมาเสียดีๆ! ฉันจะตีนายให้ตายเลยล่ะ!”

“ฉันโคตรหิวเลยอ่ะ ฉันยังไม่ได้กินข้าวกลางวันเลยนะ หลังจากดูวิดีโอนี้แล้ว ฉันก็ยิ่งหิวขึ้นเรื่อยๆแล้ว บ้าจริง เขาออกจะมีความสุขเสียขนาดนั้น นายพยายามที่จะกวนฉันหรือไง?”

เรื่องนี้หาได้กล่าวเกินจริงแต่อย่างใดเลย สำหรับพวกเชฟก่อนหน้าหยวนโจวนั้น หลังจากพวกเขาเตรียมอาหารเสร็จแล้ว ส่วนของพวกเขาจะจบลงพร้อมกับภาพระยะประชิดของอาหารที่เสร็จแล้ว

นี่ก็คือวิธีการนำเสนอทั่วไปของวิดีโอโปรโมต

ด้วยวิธีการนำเสนอดังกล่าว ผู้ชมต่างก็คิดว่าถึงแม้อาหารจะดูน่ากินแต่กลับไม่ใช่สำหรับพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังมีความรู้สึกว่าฝีมือที่แสดงออกมานั้นช่างยอดเยี่ยมเกินไปและอาหารที่หาใช่สิ่งที่ผู้คนจะสามารถกินได้ในชีวิตประจำวันตามปกติกลับให้ความรู้สึกแปลกแยกออกไป

แต่หยวนโจวกลับค่อยๆเคี้ยวบะหมี่ราวกับเป็นบะหมี่ที่สามารถกินได้ในชีวิตประจำวันตามปกติ

ดังนั้นผู้ที่ดูมาจนถึงส่วนของเขาจึงรู้สึกหิวเป็นอย่างยิ่ง

“ฉันรู้ว่าเขาเป็นใครด้วยล่ะ เชฟคนนี้โด่งดังมาได้สักพักหนึ่งแล้ว ฉันคิดว่าข้าวนำโชคก็มาจากร้านของเขานี่แหละ

“พวกนายตาบอดกันไปหมดแล้วหรือไง? อ่านคำอธิบายวิดีโอดูสิ เชฟคนสุดท้ายก็คือหยวนโจวที่มีอายุน้อยที่สุดท่ามกลางบรรดาเชฟทั้งห้าคนอย่างไรเล่า หลังจากลองค้นหาในอินเตอร์เน็ตดูแล้วก็พบว่าเขามีประการณ์มาอย่างโชกโชนเชียวล่ะ”

“ฉันอยากกินบะหมี่เย็นนึ่งจะแย่แล้ว”

จุดประสงค์ของวิดีโอโปรโมตก็คือเพื่อโปรโมตอะไรสักอย่าง ต้องขอบคุณวิดีโอนี้ที่ทำให้หยวนโจวกับบะหมี่เย็นนึ่งกวางหยวนได้รับความนิยมมากขึ้นไปอีก

ส่วนบรรดานักชิมทั้งหลายที่เคยไปเยือนร้านหยวนโจวมาก่อนต่างก็มีความรู้สึกเหนือชั้นกว่าผู้อื่นไปอีก

ความรู้สึกเหนือชั้นกว่าผู้อื่นย่อมมาจากการที่พวกเขารู้เรื่องมากกว่าผู้ชมวิดีโอส่วนใหญ่นั่นเอง

“โย่ เถ้าแก่หยวนเคยอยู่บนอินเตอร์เน็ตมาก่อนด้วยล่ะ นายไม่รู้จักร้านหยวนโจวงั้นเหรอ? นี่เป็นเรื่องที่น่าอับอายสำหรับบรรดานักชิมทุกคนเสียจริงๆ อาหารจานเด็ดหลายๆอย่างของร้านหยวนโจวกำลังโด่งดังในฟอรั่มอาหารต่างๆเชียวล่ะ”

“ฉันเคยไปร้านของเขาตอนไปทำธุระที่เฉิงตูด้วยแหละ เขาทำอาหารที่ปรุงขึ้นมาจากข้าวสาลีได้อร่อยอย่างน่าเหลือเชื่อเชียวล่ะ ช่างเป็นเชฟที่มีความสามารถล้นเหลืออย่างแท้จริง”

“บะหมี่เย็นกวางหยวนงั้นรึ? ไปกันเถอะ มีใครอยากจัดทริปเดินทางบ้างไหม?”

บล็อกเกอร์ทางด้านอาหารมืออาชีพก็ขัดจังหวะขึ้นมาว่า: [พวกเขาทั้งห้าคนต่างก็เป็นเชฟกันทั้งนั้นแถมเชฟคนที่ห้ายังมีอายุน้อยที่สุดอีกต่างหาก ถึงแม้ว่าเขาจะมีอายุเพียงเท่านี้ แต่ส่วนของเขากลับสร้างความประทับใจให้ฉันได้มากที่สุดเชียวล่ะ แม้ว่าฝีมือของเขาจะไม่ได้ฉูดฉาดบาดตาหรือสร้างความตื่นตะลึง แต่เขาก็ยังจัดการทุกสิ่งทุกอย่างได้สบายๆเลย เห็นได้ชัดว่าความสำเร็จในการทำอาหารที่ปรุงขึ้นมาจากข้าวสาลีของเขาค่อนข้างสูงทีเดียว]

ส่วนผลการลงคะแนนนั้น หยวนโจวกำลังนำลิ่วเลยล่ะ

ส่วนอีกความคิดเห็นหนึ่งกล่าวว่า: นายต้องดูเชฟคนที่ห้านี่สิ ถ้านายไม่ดูล่ะก็นับเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่เลยเชียวล่ะ ในด้านอาหารที่ปรุงขึ้นมาจากข้าวสาลีมีแค่เชฟคนสุดท้ายเท่านั้นแหละที่ฉันเชื่อถือ

ทำไมถึงได้มีผลขนาดนั้นน่ะหรือ? ง่ายๆเลยนะ พวกเขาต่างก็มีความคิดเหมือนกับต้าไห่นั่นแหละ ในเมื่อพวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานกับการดูหยวนโจวกิน พวกเขาก็อยากจะแบ่งปันความทรมานของตัวเองให้ผู้อื่นบ้างก็เท่านั้นเอง ฉะนั้นพวกเขาก็เลยลงคะแนนให้หยวนโจวโดยหวังว่าจะหลอกให้คนอื่นๆดูวิดีโอส่วนนี้ได้

ทำไมนักชิมคนหนึ่งต้องสร้างปัญหาให้นักชิมอีกคนด้วยน่ะเหรอ? เอาล่ะก็ดันไม่มีใครถามอะไรหลังจากต้องทนทุกข์ทรมานจากการมองหยวนโจวกินนี่นา ดังนั้นยอดเข้าชมวิดีโอนี้จึงเพิ่มขึ้นไม่หยุดหย่อน นอกจากนี้ผู้คนที่รู้ว่าหยวนโจวเป็นเชฟด้านอาหารที่ปรุงขึ้นมาจากข้าวสาลีก็เพิ่มจำนวนขึ้นเช่นเดียวกัน

ทุกอย่างในอินเตอร์เน็ตกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี แต่หยวนโจวกลับรู้สึกอยากจะตีคนขึ้นมาแล้ว

“เจ้าคนหน้าไม่อายอู๋เป็นบ้าไปแล้วหรือไงวะ?” หยวนโจวลุกขึ้นนั่งอย่างช่วยไม่ได้หลังจากอู๋ไห่โทรมาหาเขาอีกครั้ง

ใช่แล้วล่ะ อู๋ไห่เพียรโทรมาหาหยวนโจวทุกๆสี่ชั่วโมงเพื่อเตือนให้เขากินยา ยิ่งไปกว่านั้นอู๋ไห่ยังส่งอาหารกลางวันมาให้เขาอีก

แน่นอนว่าหยวนโจวย่อมต้องรู้สึกประทับใจ ถึงอย่างไรเขาก็ไม่สบายอยู่และไม่คิดที่จะกินอะไรเลย นับเป็นเรื่องน่าประหลาดที่มีคนมาส่งอาหารกลางวันให้เขาด้วย

นี่ก็คือสาเหตุเดียวที่เจ้าคนหน้าไม่อายอู๋ถูกเขาตีจนตาย

“เอาล่ะ ฉันจะไม่งับมือที่คอยดูแลฉันก็ได้ ขอล้างหน้าสักหน่อยเถอะนะ” หยวนโจวลูบหนวดเคราตัวเองและพบว่าไข้ลดลงแล้ว

ทันใดนั้นเจ้าระบบก็แสดงผลขึ้นมาว่า “ขอแสดงความยินดีกับเจ้านายด้วยที่บรรลุภารกิจเชฟด้านอาหารที่ปรุงขึ้นมาจากข้าวสาลีแล้ว”

“บรรลุภารกิจแล้วงั้นรึ?” หยวนโจวชะงักไปแล้วนั่งลงเพื่อตรวจสอบภารกิจ

อยากกินไหมล่ะ

อยากกินไหมล่ะ

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 896 อ่านนิยาย

( อ่านต่อข้างล่าง )

ณ ประเทศตะวันออกที่ห่างไกลมีร้านอาหารเล็ก ๆ แปลก ๆ แห่งหนึ่งที่อาจหาญกล้า ‘ปฏิเสธการจัดอันดับสามดาว‘ โดย Michelin Guide อยู่หลายครั้ง อาหารที่นี่ราคาแพงมากข้าวผัดธรรมดาจานหนึ่งกับซุปหนึ่งชาม ราคาก็ปาเข้าไป 288 หยวนแล้ว (ประมาณ 1500 บาท) เคี่ยวขนาดนี้ก็ยังมีคนต่อคิวยาวเหยียดเพื่อจะรอกิน อ้อ… ที่นี่เขาไม่รับจองคิวด้วยนะ! แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีคนจำนวนมากนั่งเครื่องบินส่วนตัวมาเพื่อจองคิวอีก! ทำไมต้องนั่งเครื่องบินน่ะเหรอ ก็เขาไม่มีที่จอดรถให้น่ะสิ ที่นี่บริการแย่ ลูกค้ากินแล้วต้องล้างจานเช็ดโต๊ะเอง ไม่รู้เจ้าของร้านคิดอะไรอยู่… สงสัยคงเป็นคนบ้าคนหนึ่ง

Options

not work with dark mode
Reset