อยากกินไหมล่ะ 752

ตอนที่ 752

อาหารชื่อดังทางอินเตอร์เน็ต

ไม่เพียงหยวนโจวจะอนุญาตให้ถ่ายภาพจากนอกร้านได้ แต่เขายังอนุญาตให้เข้ามาถ่ายรูปในร้านได้หลังเวลาเปิดร้าน แน่นอนว่าย่อมมีข้อแม้

“สิ่งหนึ่งที่ต้องจำเอาไว้ก็คือห้ามเข้าไปในครัว พวกนายสามารถถ่ายรูปได้เฉพาะบริเวณที่ลูกค้าทานอาหารเท่านั้น นั้นก็คือกฏ”

“ไม่มีปัญหาครับ” กั๋วรุ่ยตอบตกลงอย่างรวดเร็ว นับเป็นเรื่องน่ายินดีที่พวกเขาได้รับอนุญาตให้ถ่ายรูปในร้านได้ด้วย

เมื่อเสร็จธุระแล้ว ทั้งสองคนก็ออกจากร้านแล้วเริ่มเดินเตร่กันอยู่บริเวณถนนเถ่าซือเพื่อค้นหาตำแหน่งดีๆสำหรับรูปแต่งงานของพวกเขา

“ร้านขายอุปกรณ์ ร้านขายของชำ ร้านอาหารและบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ฉันไม่เคยสังเกตเลยว่าถึงแม้นี่จะเป็นถนนสายสั้นๆ แต่กลับดูเหมือนจะมีแต่ร้านค้าอยู่ที่นี่กันทั้งนั้นเลย”

กั๋วรุ่ยกล่าวหลังจากพวกเขาเดินเตร่กันอยู่บริเวณถนน ฉินหลัวทำไม้ทำมือเป็นคำตอบ

“ถูกต้องเลยล่ะ เถ้าแก่หยวนเป็นตัวอย่างที่ดีของผู้ที่ดูท่าทางเย็นชาแต่อันที่จริงแล้วเป็นคนอบอุ่น เห็นได้ชัดว่าเขาใจกว้างมากพอที่จะให้เราถ่ายรูปที่ร้านของเขาได้แต่เขากลับพูดด้วยน้ำเสียงไม่แยแสเสียอย่างนั้น ถ้ามีคนไม่รู้ว่าพวกเรามาที่นี่เพราะอะไร พวกเขาคงคิดว่าพวกเราเป็นพวกทวงหนี้แหงๆเลย” กั๋วรุ่ยเห็นด้วยกับท่าทางฉินหลัวแสดงออกมา

ฉินหลัวยกมือแล้วโบกราวกับแมวนำโชค เมื่อกั๋วรุ่ยเห็นเช่นนั้น เขาก็ระเบิดหัวเราะออกมาพลางกล่าวว่า “ฉันรู้ ฉันรู้ เธอพูดถูกเสมอแหละ ฉันจะฟังเธอนะ”

กั๋วรุ่ยพูดพลางดึงมือฉินหลัวลง เขาดูจนปัญญาตอนที่พูด แต่อันที่จริงเขากำลังพูดด้วยท่าทางเปี่ยมรัก

ฉินหลัวพยักหน้าเป็นคำตอบพร้อมยิ้มกว้าง

นี่คือวิธีการที่พวกเขามักจะใช้สื่อสารกัน พวกเขาจะไม่ใช้สัญญาณมือตามปกติแต่ไม่ว่าฉินหลัวจะทำไม้ทำมืออย่างไร กั๋วรุ่ยก็สามารถเข้าใจเธอได้

พวกเขาช่างเป็นคู่ที่สวรรค์สรรสร้างจริงๆ

หลังจากกั๋วรุ่ยกับฉินหลัวจากไปแล้ว หยวนโจวก็มาหน้าร้านพร้อมเก้าอี้เนื่องจากเขาเตรียมที่จะเริ่มการแกะสลักอีกครั้ง

“เจ้าสองคนนี้มันกระหนุงกระหนิงกันจริงๆเลย” หยวนโจวตัวสั่นเมื่อเห็นว่าทั้งสองคนทำตัวกระหนุงกระหนิงกันขนาดไหนจากระยะไกล

“ลืมไปเสียเถอะ ฉันจะต้องมีสมาธิกับการแกะสลัก” หยวนโจวพึมพำพลางจ้องมองหัวผักกาดในตะกร้า

“โคมไฟเปล่าๆน่าจะเหมาะแก่การแกะสลัก” หยวนโจวตัดสินใจว่าจะแกะสลักอะไรได้ในทันที

อันที่จริงแล้ว หยวนโจวกำลังแกะสลักบางสิ่งบางอย่างที่คล้ายโคมที่มีรูปแบบอันแสนวิจิตรบรรจงอยู่ตรงกลาง

พูดง่ายๆก็คือหยวนโจวกำลังพยายามที่จะแกะสลักบางสิ่งบางอย่างที่ยากยิ่ง ถึงอย่างไรเขาทำเช่นนี้ก็เพื่อพัฒนาฝีมือการแกะสลักของตนเอง

“ฉันจะไม่เริ่มจากเสาโคมหรอก แต่ฉันจะเริ่มจากด้านในที่ว่างเปล่าเสียก่อน” หยวนโจววางแผนพลางศึกษาหัวผักกาดที่เขาถืออยู่ไปด้วย

เขาเริ่มแกะสลักทันทีที่วางแผนเสร็จแล้ว

ระหว่างที่หยวนโจวกำลังคร่ำเคร่งกับการแกะสลักของตัวเองอยู่นั้นก็มีเรื่องเกิดขึ้นในอินเตอร์เน็ต

ต้นเหตุของเรื่องนี้ก็คือเมิ่งเมิ่งกับผู้ชมของเธอนั่นเอง

ทีแรกรูปภาพของเมิ่งเมิ่งแค่แพร่กระจายอยู่ในวงแคบ แต่เมื่อเวลาผ่านพ้นไป ผู้คนก็ยิ่งแพร่กระจายออกไปเรื่อยๆ

สาเหตุของเรื่องนั้นก็ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย มีคนสุ่มแชร์รูปภาพก่อนที่เมิ่งเมิ่งจะถูกลอตเตอรี่ขึ้นมา เรื่องนี้เกิดขึ้นกับคนทั้งสองที่แตกต่างกัน

และเมื่อผู้คนเริ่มแชร์ให้ผู้อื่นมากขึ้นก็ชักจะเริ่มดุเดือดมากเรื่อยๆ

[ฉันนึกว่าโลมาสีชมพูหรือหนุ่มหล่อเป็นที่นิยมแค่ในอินเตอร์เน็ตเสียอีก? แล้วทำไมข้าวขาวธรรมดาถึงได้เป็นที่นิยมมากกว่าเสียได้เล่า?] สี่โมง

[พวกนายมันหลังเขาเสียจริง ฉันรู้ว่ามีไม่กี่คนหรอกนะที่จะถูกลอตเตอรี่หลังจากแชร์รูปภาพ แถมพรุ่งนี้ฉันยังมีสอบด้วยล่ะ ฉันจะพยายามแชร์รูปภาพเพื่อความโชคดีเหมือนกัน ได้ยินมาว่าการแชร์รูปภาพจะทำให้โชคดีจริงๆนะ] uut2527

[เหลวไหลทั้งเพ ตอนสอบคราวที่แล้ว ฉันแชร์รูปปลาไนไปสองสามรูปเพื่อความโชคดีแต่ก็ยังสอบตกเลยอ่ะ] เดินคนเดียว

ในอดีตเคยมีอยู่ครั้งหนึ่งที่อินเตอร์เน็ตติดเทรนด์เรื่องการแชร์รูปภาพปลาไนเพื่อความโชคดี ตอนนี้เรื่องในทำนองเดียวกันกำลังจะเกิดขึ้นกับข้าวนึ่งของร้านหยวนโจว เพราะเหตุนี้ทำให้ร้านหยวนโจวมีชื่อเสียงขึ้นมาอีกครั้งและดึงดูดลูกค้าใหม่ๆได้อีกเป็นจำนวนมาก

แม้แต่ผู้ที่กำลังจีบสาวก็พยายามที่จะแชร์รูปภาพเพื่อความโชคดีด้วย

แน่นอนว่าอินเตอร์เน็ตย่อมสุ่มตามเทรนด์ อันที่จริงแล้วมีผู้คนอีกมากมายที่แชร์รูปภาพโดยไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าพวกเขากำลังแชร์อะไรอยู่กันแน่

[เวรเอ้ย จริงเหรอเนี่ย? นายโชคดีจากการแชร์รูปภาพน้ำข้าวงั้นเหรอ?] คล้อยตามเธอ

มีบางคนให้คำอธิบายที่สร้างความเข้าใจผิดเป็นอย่างยิ่งเป็นต้นว่า นายคิดว่านี่คือน้ำข้าวธรรมดาๆงั้นเหรอ? น้ำข้าวถ้วยนี้เป็นถ้วยเดียวกันกับที่ช่วยชีวิตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาเอาไว้เมื่อตอนที่เขายังอดอยากและยากไร้อยู่เชียวนะ

คนผู้นี้ให้คำอธิบายราวกับเป็นเรื่องจริงไปเสียหมด แน่นอนว่าเรื่องต่างๆในอินเตอร์เน็ตไม่อาจหลับหูหลับตาเชื่อได้ ถ้ามีคนเชื่อทุกสิ่งทุกอย่างที่เห็นในอินเตอร์เน็ต คนผู้นั้นก็ออกจะไร้เดียงสาไปสักหน่อยแล้ว มีผู้คนมากมายในอินเตอร์เน็ตและไม่ว่าใครก็สามารถพูดอะไรก็ได้ที่อยากจะพูดตรงนั้นก็ได้

แต่บางสิ่งบางอย่างที่กลายเป็นที่นิยมในอินเตอร์เน็ตก็ดึงดูดให้เกิดการสนทนาในโลกแห่งความเป็นจริงเช่นเดียวกัน ดังนั้นผู้คนที่แวะเวียนมาร้านหยวนโจวบ่อยๆก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ รวมไปถึงญินยาด้วย

“ยาน้อย พักนี้เธอได้ไปร้านหยวนโจวไหม?” เพื่อนร่วมงานของเธอที่นั่งอยู่ตรงหน้าถามขึ้น

ที่นั่งของญินยาถูกเลื่อนไปข้างหน้าในขณะที่เพื่อนร่วมงานของเธอคนนี้เป็นลูกจ้างเก่าของที่นี่ เป็นเรื่องหาได้ยากที่เพื่อนร่วมงานคนนี้จะมาร่วมวงซุบซิบนินทาแบบนี้

“อืม แต่ฉันยุ่งๆเลยไม่ได้ไปที่นั่นมาสัปดาห์นึงแล้วล่ะ” ญินยาตอบพลางยิ้มบาง

“เธอรู้จักข้าวนึ่งไหม?” เพื่อนร่วมงานถามขึ้นพลางพยายามซุกซ่อนความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองเอาไว้

“ข้าวนึ่งงั้นเหรอ? หนึ่งในเมนูข้าวร้อยอย่างสินะ?” ญินยาถามด้วยความอยากรู้

“ใช่แล้ว ใช่แล้ว ถูกต้องเลย เป็นเรื่องจริงหริอเปล่าอ่ะ?” เพื่อนร่วมงานพยักหน้าซ้ำๆแล้วถาม

“เรื่องจริงอะไรงั้นเหรอ?” ญินยารู้สึกสับสน

“โชคดีไง ฉันดูวิดีโอมาน่ะ สตรีมเมอร์คนนั้นถูกลอตเตอรี่ 100,000 หยวนหลังจากแชร์รูปภาพเลยนะ นอกจากนี้ยังมีเรื่องของคนที่ได้แฟนในวันเดียวกันกับที่พวกเขาแชร์รูปภาพด้วยล่ะ” เพื่อนร่วมงานคนนั้นกล่าว

“โอ้ ฉันรู้ว่าอาหารที่ร้านหยวนโจวอร่อยนะ แต่ฉันไม่รู้ว่ามันนำโชคหรือเปล่า” ญินยายักไหล่อย่างจนปัญญา ถึงอย่างไรอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ ยกตัวอย่างเช่นแฟนเก่าอาจจะหวนคืนมาหลังจากทิ้งเจ้าชายรูปงามของตัวเองไป

“ดีล่ะ งั้นฉันจะลองดูบ้าง” เพื่อนร่วมงานคนนั้นไม่ได้ถามอะไรอีกแล้วหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมา เห็นได้ชัดว่าเธอเตรียมที่จะแชร์รูปภาพเช่นกัน

ญินยาขจัดเรื่องแฟนเก่ากับเจ้าชายรูปงามออกไป เธอจ้องมองเพื่อนร่วมงานของตัวเองแล้วยิ้ม ถ้าหากแชร์รูปภาพแล้วทำให้โชคดีจริงๆ โลกนี้ก็คงไม่มีคนยากจนอีกแล้วล่ะ

แน่นอนว่าเธอยังตัดสินใจที่จะไปเยือนร้านหยวนโจวระหว่างมื้อค่ำด้วย

นอกเหนือไปจากญินยาแล้ว ลูกค้าขาประจำคนอื่นๆของร้านหยวนโจวอย่างอู๋โจวกับจ้าวอิ๋งจวินก็ถูกถามเรื่องนี้เช่นเดียวกัน

ในขณะเดียวกัน หยวนโจวกำลังแกะสลักอย่างคร่ำเคร่ง ไม่ว่าผู้ใดก็สามารถบอกได้ว่าเขาไม่ทำอะไรเลยเว้นแต่จะโดนพายุเฮอร์เคนพัดไปเท่านั้นแหละ

เจ้าระบบแสดงผลออกมาว่า “ติ๊ง ยินดีด้วยนะเจ้านายที่ได้อาหารชื่อดังทางอินเตอร์เน็ตมาแล้ว หัวข้อภารกิจใหม่: ยึดครองอินเตอร์เน็ต”

หยวนโจวที่ไม่เคยถูกรบกวนขณะแกะสลักซ้ำยังเป็นคนที่รักษาความสงบนิ่งขณะแกะสลักได้เสมอมาจู่ๆก็เกิดตัวสั่นขึ้นมาจนแกะสลักล้มเหลว

เขาตั้งสติก่อนที่จะมองดูประกาศ อาหารชื่อดังทางอินเตอร์เน็ตบ้าบออะไรกันเนี่ย?

แล้วภารกิจใหม่นี่มันอะไรกัน? ยึดครองอินเตอร์งั้นเหรอ?

อยากกินไหมล่ะ

อยากกินไหมล่ะ

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 896 อ่านนิยาย

( อ่านต่อข้างล่าง )

ณ ประเทศตะวันออกที่ห่างไกลมีร้านอาหารเล็ก ๆ แปลก ๆ แห่งหนึ่งที่อาจหาญกล้า ‘ปฏิเสธการจัดอันดับสามดาว‘ โดย Michelin Guide อยู่หลายครั้ง อาหารที่นี่ราคาแพงมากข้าวผัดธรรมดาจานหนึ่งกับซุปหนึ่งชาม ราคาก็ปาเข้าไป 288 หยวนแล้ว (ประมาณ 1500 บาท) เคี่ยวขนาดนี้ก็ยังมีคนต่อคิวยาวเหยียดเพื่อจะรอกิน อ้อ… ที่นี่เขาไม่รับจองคิวด้วยนะ! แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีคนจำนวนมากนั่งเครื่องบินส่วนตัวมาเพื่อจองคิวอีก! ทำไมต้องนั่งเครื่องบินน่ะเหรอ ก็เขาไม่มีที่จอดรถให้น่ะสิ ที่นี่บริการแย่ ลูกค้ากินแล้วต้องล้างจานเช็ดโต๊ะเอง ไม่รู้เจ้าของร้านคิดอะไรอยู่… สงสัยคงเป็นคนบ้าคนหนึ่ง

Options

not work with dark mode
Reset