หมอร้ายคลั่งรัก 5

ตอนที่ 5

“หมอนาคินคะ หมอนาคิน” ผมหยุดตามเสียงเรียก แต่ไม่หันไปหรอกนะเพราะถึงยังไงเดี๋ยวเธอก็เดินมาหาผมเอง เอาจริงๆ แค่ได้ยินเสียงว่าเป็นใครผมก็ไม่อยากหยุดแล้ว ถ้าไม่เป็นการเสียมารยาทผมคงเดินไปไกลแล้ว

“หมอผ่าตัดเสร็จแล้วหรอคะ” ถามแปลกเนอะยังไม่เสร็จผมจะมายืนให้ถามอยู่ตรงนี้มั้ย

“ครับ” ผมตอบเสียงเรียบหน้านิ่ง หน้านิ่งคือหน้าปกติของผม ผมจะแสดงออกอยู่ 3 อารมณ์ นิ่งคือ ปกติ ไม่พอใจ โมโห เวลาผมโมโหใครก็เข้าหน้าผมไม่ได้ทั้งนั้นแม้แต่ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยังไม่กล้ากับผมเลย

ผมอยู่โรงพยาบาลรัฐที่แม้แต่ ผอ.ยังต้องเกรงใจผมเพราะท่านเคยเป็นลูกน้องของพ่อผมมาก่อนแล้วท่านก็เป็นคนไปขอร้องให้ผมมาช่วยงานท่านที่นี่ทั้งๆ ที่ผมไม่จำเป็นต้องมาเป็นหมอในโรงบาลรัฐแบบนี้เลย แต่ผมก็ยอมมาไม่ใช่มาเพราะท่านขอร้อง แต่ที่ผมมาก็เพราะผมอยากรักษาคนไข้เท่านั้น งานยิ่งเยอะยิ่งมากประสบการณ์ และยังไม่ถึงเวลาที่ผมจะต้องกลับไปในที่ที่ของผมด้วย ผมพอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนี้มากกว่า

“ไปทานข้าวกับลินนะคะ” หึ ผมหยุดเดินทันทีมองคนข้างๆ ที่ชะงักตามผม

“ขอตัว” พูดแค่นี้ผมก็เดินไปอีกทางเพื่อกลับห้องพักของผม ไม่ได้สนใจเธอคนนั้นอีกเลย

ตอนนี้ 3 โมงเย็น ผมโดนตามตัวตั้งแต่ตี 4 ครึ่ง ทั้งๆ ที่พึ่งนอนไปได้ยังไม่ถึง 2 ชม.เลย แต่เพราะหน้าที่ผมต้องมา ตั้งแต่ถึงโรงพยาบาลผมก็เข้าผ่าตัดยาวถึง 8 ชั่วโมง มีแค่กาแฟแก้วเดียวเป็นอาหาร มีเวลาอีก 2 ชั่วโมง ที่ผมต้องเข้าห้องผ่าตัดอีกรอบ ให้เลือกระหว่างอาหารกับนอนผมเลือกนอน แต่ก็ขอประทังชีวิตด้วยแซนวิซ 2 ชิ้นที่พยาบาลเตรียมไว้ให้บนโต๊ะทำงาน ก่อนหลับตาทุกครั้งผมจะต้องเปิดดูโทรศัพท์ก่อนทุกครั้งเผื่อจะมีงานด่วนแล้วผมไม่รู้

01.30 น.

ตุ๊บ

หมดงานแล้วสำหรับวันนี้ หวังว่าคงไม่มีคนไข้ด่วนเข้ามาอีกนะ จริงๆ คืนนี้ผมกำลังจะกลับคอนโดอยู่แล้วตอน 2 ทุ่ม แต่มีคนไข้ฉุกเฉินต้องผ่าตัดด่วน จนถึงเวลานี้ก็คงต้องนอนบ้านหลังที่สามอีกแล้ว ทำไมเป็นบ้านหลังที่สาม หลังแรกบ้านคุณพ่อ คุณแม่ หลังที่สองคอนโด หลังที่สามก็เป็นโรงพยาบาลนี่แหละและเป็นที่ที่ผมใช้บริการมากกว่าบ้านหลังอื่นๆ ด้วยซ้ำ

อาบน้ำเสร็จกำลังจะเข้านอนอยู่ดีๆ ผู้หญิงคนนั้นก็เข้ามาในความคิดผม ผู้หญิงที่เหมือนจะหัวอ่อนแต่กลับแข็งได้มากกว่าที่ทุกคนคิด ผู้หญิงที่ยอมนอนกับผมมาตลอด 6 เดือน โดยที่เธอไม่รู้จักชื่อผม ไม่รู้ว่าผมทำงานอะไร ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับผมเลยสักนิด ไม่เคยจะสนใจอะไรนอกจากมาให้ผมระบายน้ำออกแล้วเธอก็รับเงินกลับไป พูดแล้วช่วงนี้ห่างหายไปนานพึ่งจะใช้บริการเมื่อคืนยังไม่รู้สึกอิ่มเลยเดี๋ยวต้องรีบหาวันว่างไปใช้บริการของเล่นอีกสักหน่อยดีกว่า แค่คิดลูกชายผมก็ปวดขึ้นมาแล้ว จะให้หาพยาบาลแถวนี้มาช่วยผ่อนคลายถามว่าทำได้มั้ยทำได้แต่ผมถือว่าสมภารไม่กินไก่วัด ไม่กินคนที่ทำงานที่เดียวกัน ตอนนี้ทำได้แค่พยายามข่มตาให้หลับดับจิตใจฟุ้งซ่านซะ

เช้าวันต่อมา

“หมอหล่อจัง”

“ถ้ารู้ว่าหมอหล่อขนาดนี้มาตั้งนานแล้วแก”

“หมอมีเมียยังเนี่ย ขอเป็นเมียน้อยก็ยอม”

ทันทีที่ผมเดินเข้ามาในแผนกเดินผ่านขนไข้คนไข้ที่นั่งรอตรวจอยู่ คำพวกนี้ก็ออกจากปากคนไข้ ญาติคนไข้ เพื่อนคนไข้ ผมเจอมาเยอะแล้ว ถามว่าชินมั้ยก็ชินแล้ว วันนี้ผมต้องเจอคนไข้เยอะกว่าทุกวันเพราะวันนี้เป็นเวรผมที่ต้องมาลงตรวจคนไข้ของแผนกศัลยกรรมทั่วไป แล้วมองจากสายตาคนไข้มีไม่ต่ำกว่า 150-200 ราย หมอแค่3 คน เท่ากับหมอแต่ละคนต้องรับคนไข้เกือบ 70 ราย ลาก่อนอาหารเช้า อาหารเที่ยงของผม

21.15 น.

ตุ๊บ ผมทิ้งตัวลงโซฟาตัวหนาอย่างแรง ได้กลับบ้านหลังที่สองสักที สิ่งแรกที่จะต้องทำเมื่อมาถึงคอนโดคือหยิบโทรศัพท์เข้าแอฟพิเคชั่นไลน์ ส่งหาใครบางคนที่จะตอบสนองความต้องการปลดปล่อยของผมได้ และผมก็รอเวลาที่จะปลดปล่อยกับเธอมาหลายวันแล้ว

ของเล่น : 30 นาที

กดส่งเสร็จผมก็โยนโทรศัพท์ไว้บนโซฟา ส่วนตัวผมเองก็เข้าห้องอาบน้ำรอเลยดีกว่า ผมไม่เคยสนว่าเธอจะติดอะไร ทำอะไรอยู่ ผมรู้แต่เมื่อถึงเวลาเธอต้องมาอยู่หน้าห้องผม มาตอบสนองความต้องการของผมเท่านั้นพอ

Options

not work with dark mode
Reset