รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]บทที่ 724 ตกลงไม่ได้ ทั้งหมดต้องอยู่อย่างเจี๋ยมเจี้ยม!

บทที่ 724 ตกลงไม่ได้ ทั้งหมดต้องอยู่อย่างเจี๋ยมเจี้ยม!

บท​ที่​ 724 ตกลง​ไม่ได้​ ทั้งหมด​ต้อง​อยู่​อย่าง​เจี๋ยมเจี้ยม​!

ผู้อาวุโส​สามผงะ​ ฉงน​กับ​สิ่งที่​เริ่น​ลู่​กล่าว​นิดหน่อย​

หมายความ​อย่างไร​ที่ว่า​ ขา​ของ​เขา​ทั้ง​ตรง​ทั้ง​ยอดเยี่ยม​ ไม่มีทาง​กะเผลก​หรือ​หัก​แน่นอน​?

ทว่า​ต่อมา​ เขา​เริ่ม​ครุ่นคิด​

เริ่น​ลู่​เอ่ย​อยู่​ตลอด​ว่า​ปากนก​ปากกา​เป็น​ ‘พรสวรรค์​’ บางอย่าง​ แล้ว​มาใช้วาจา​เช่นนี้​กับ​เขา​

เห็นได้ชัด​ว่า​ตั้งใจ​ควบคุม​เขา​ผ่าน​ ‘พรสวรรค์​’ ปากนก​ปากกา​ของ​ตน​ ทำให้​ขา​ของ​เขา​กะเผลก​หรือ​หัก​

คนบ้า​อะไร​ สมอง​ไม่พอ​ใช้แล้ว​หรือ​ ถึงได้​มอง​ปากนก​ปากกา​เป็น​ความสามารถ​ แล้ว​ยัง​คิด​จะควบคุม​เขา​อีก​?!

เขา​เดือดดาล​ขึ้น​มาใน​บัดดล​ ฟาด​ฝ่ามือ​ใส่ทาง​เริ่น​ลู่​!

คน​กำลัง​อัดอั้นตันใจ​ไม่มีที่​ระบาย​โทสะ​!

เริ่น​ลู่​ลำพองใจ​เป็น​หนักหนา​ ไม่ยี่หระ​ต่อ​ฝ่ามือ​ของ​ผู้อาวุโส​ที่​ฟาด​เข้ามา​สักนิด​ ‘พรสวรรค์​’ ของ​เขา​ควบคุม​ได้​แม้แต่​เหล่า​บรรพ​จารย์​ นับประสาอะไร​กับ​ผู้อาวุโส​สาม!

ผลสุดท้าย​ เขา​ก็​ต้อง​อึ้ง​งัน​ไป​ ดูเหมือนว่า​…การควบคุม​ย้อนกลับ​ของ​เขา​ไม่ได้ผล​เท่าไหร่​ ผู้อาวุโส​ไม่เป็นอัน​ใด​เลย​สักนิด​ ฝ่ามือ​นั้น​กระแทก​โดน​ตัว​เขา​จัง ๆ!

เสียงดัง​พรวด​ ร่าง​ของ​เขา​ถูก​อัด​จน​แหลกลาญ​กลายเป็น​หมอก​เลือด​ ยัง​ดี​ที่​ผู้อาวุโส​สามมิได้​ลงมือ​ถึงตาย​ มิฉะนั้น​ เขา​คง​สิ้นชีพ​ไป​แล้ว​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​!

สุดท้าย​ เขา​ต้อง​หลอม​ร่าง​ขึ้น​ใหม่​ด้วย​ความ​ยากเย็น​

“เวลา​! ต้อง​เป็นปัญหา​ของ​เวลา​แน่นอน​!”

เขา​ร้อง​ตะโกน​ ไม่เชื่อ​ว่า​ ‘พรสวรรค์​’ ของ​เขา​จะมีปัญหา​ ต้อง​เพราะ​ยัง​ไม่ทัน​ได้​แผลงฤทธิ์​แน่นอน​

“ยัง​ดื้อด้าน​อยู่​อีก​หรือ​!”

ผู้อาวุโส​สามแค่น​เสียง​เย็น​ ฟาด​ฝ่ามือ​เข้าไป​อีกครั้ง​ จน​ร่าง​ใหม่​ที่​เริ่น​ลู่​เพิ่ง​หลอม​ขึ้น​มาระเบิด​แหลกลาญ​อีกครั้ง​

คราวนี้​ เริ่น​ลู่​ใช้เวลา​หลอม​ร่าง​ใหม่​นาน​ขึ้น​กว่า​เดิม​

เขา​ไม่กล้า​ทะเล่อทะล่า​เอ่ย​คำ​ใด​ออก​ไป​อีก​ แต่​เขา​เชื่อ​ใน​ ‘พรสวรรค์​’ ของ​ตน​ ขา​ของ​ผู้อาวุโส​จะต้อง​กะเผลก​หรือ​หัก​ไป​แน่นอน​ เขา​รอ​ช่วงเวลา​ที่​เหตุการณ์​นั้น​เกิด​ขึ้นอยู่​!

“เจ้ารนหาที่​ตาย​!”

แม้เริ่น​ลู่​จะไม่ได้​เอ่ย​วาจา​ แต่​สายตา​คู่​นั้น​ยังคง​จ้องเขม็ง​ไป​ที่​ขา​ของ​ผู้อาวุโส​สาม ผู้อาวุโส​สามไฉน​เลย​จะไม่รู้​ว่า​เริ่น​ลู่​คิด​อัน​ใด​อยู่​ เขา​ฟาด​ฝ่ามือ​เข้าไป​อีกครั้ง​

เสียงดัง​พรวด​ ร่าง​ของ​เริ่น​ลู่​ก็​ถูก​อัด​จน​แหลกลาญ​ไป​อีกครั้ง​

ครั้งนี้​ เขา​ไม่อาจ​หลอม​ร่าง​ขึ้น​ใหม่​ได้​อีก​ ต้อง​ใช้เวลา​เนิ่นนาน​จึงจะทำได้​

“คอย​ดูเถิด​ ‘พรสวรรค์​’ ของ​ข้า​ไม่มีทาง​ผิดพลาด​!”

เขา​เอ่ย​ใน​ใจอย่าง​เคียดแค้น​

“สหาย​ ตกลง​ว่า​เกิดเรื่อง​ใด​ขึ้น​หรือ​ ช่วย​อธิบาย​ให้​เรา​ฟังที​ได้​หรือไม่​”

บรรพ​จารย์​ท่าน​หนึ่ง​แห่ง​ตระกูล​เริ่น​เอ่ย​ถามประมุข​แดน​ศักดิ์สิทธิ์​เหิง​เทียน​และ​สือเฟิง​เสียง​เข้ม​

จนบัดนี้​เขา​ยัง​ไม่รู้​เลย​ว่า​เกิด​อัน​ใด​ขึ้น​ สับสน​มึนงง​เป็น​ที่สุด​ จู่ ๆ ก็​มีคน​บุก​มาหา​พวกเขา​ บอ​กว่า​พวกเขา​ไม่มีสิทธิ์​ได้​อยู่​ใน​อาณาจักร​นี้​ต่อ​ จากนั้น​ พวกเขา​ก็​โดน​ขับไล่​เสีย​อย่างนั้น​

คน​ผู้​นั้น​แข็งแกร่ง​มาก​ ใช้วิ​ชาตา​เดิน​หมากล้อม​บางอย่าง​ที่​บรรพ​จารย์​อย่าง​พวกเขา​ร่วมมือ​กัน​ยัง​สู้มิได้​ ถูก​โยน​ออกมา​กัน​หมด​

ใช่แล้ว​ คน​ผู้​นั้น​ก็​คือ​ตง​ฟางเวิ่น​

ยาม​ที่​ยอด​ฝีมือ​ทั้งหลาย​จาก​แดน​เซียน​และ​แดน​มร​ณาบุก​เข้ามา​ใน​อาณาจักร​นี้​ ผู้เฒ่า​เมิ่งจีก็​สัมผัส​ถึงการ​มาเยือน​นี้​ได้​ผ่าน​พลัง​คุ้มกัน​ใน​อาณาจักร​ แล้วจึง​รีบ​ติดต่อ​ตง​ฟางเวิ่น​ เพื่อ​ขอความช่วยเหลือ​จาก​เขา​

ตง​ฟางเวิ่น​ในเวลานี้​ทรงพลัง​กล้าแกร่ง​ เขา​ได้รับ​คัมภีร์​กลยุทธ์​หมากล้อม​ที่​คุณชาย​บันทึก​ข้อคิด​เอาไว้​ กอปร​กับ​เขา​ไปหา​ต้น​หลิว​บ่อย ๆ​

ต้น​หลิว​นั้น​ดี​กับ​ตง​ฟางเวิ่น​ไม่น้อย​ ทุกครั้งที่​ตง​ฟางเวิ่น​เข้า​ไปหา​ ต้น​หลิว​มัก​ให้​คำ​ชี้แนะ​สอนสั่ง​แก่​ตง​ฟางเวิ่น​ กระทั่ง​เรื่อง​ที่​ต้น​หลิว​หวด​ตง​ฟางเวิ่น​ด้วย​ก้าน​หลิว​ไม่หยุด​ก็​เป็นการ​เคี่ยว​กรำ​ตง​ฟางเวิ่น​

ใน​สถานการณ์​เช่นนี้​ ตง​ฟางเวิ่น​ก้าวหน้า​ได้​รวดเร็ว​เหลือเชื่อ​ เดิมที​ขอบเขต​พลัง​ของ​เขา​นั้น​สูงส่งอยู่แล้ว​ ขอบเขต​ใน​ตอนนี้​ยิ่ง​สูงขึ้นไป​อีก​ บัดนี้​เป็น​ถึงจ้าว​แห่ง​เซียน​ตน​หนึ่ง​แล้ว​!

แม้ว่า​ตระกูล​เริ่น​นั้น​เป็นหนึ่ง​ใน​สิบ​ผู้​แข็งแกร่ง​แห่ง​แดน​เซียน​ กระนั้น​แดน​เซียน​ก็​ไม่อาจ​เทียบ​ได้​กับ​ภพ​เซียน​ เพดาน​ถูก​จำกัด​ไว้​แล้ว​ ผู้​ที่​ขอบเขต​สูงที่สุด​ใน​แดน​เซียน​ก็​เป็น​แค่​เซียน​จวิน​เท่านั้น​ ไม่มีตัวตน​ระดับ​จักรพรรดิ​เซียน​ดำรงอยู่​

แม้แต่​ว่าที่​จักรพรรดิ​เซียน​ก็​ไม่มี

นอกจากนี้​ สสาร​ฝึกฝน​และ​กฎระเบียบ​ใน​แดน​เซียน​ไม่อาจ​เทียบ​กับ​ภพ​เซียน​ได้​เลย​ สิ่งปนเปื้อน​เยอะ​เกินไป​ เมื่อ​ตง​ฟางเวิ่น​สำแดง​คัมภีร์​กลยุทธ์​หมากล้อม​ที่​คุณชาย​ประทาน​ให้​ ก็​สามารถ​กำราบ​สิ่งมีชีวิต​ทั้งหมด​จาก​แดน​เซียน​ได้​ง่ายดาย​

ว่า​กัน​ตามตรง​ แดน​มร​ณาเป็น​ภัย​กว่า​แดน​เซียน​ ฝ่าย​พวกเขา​ให้ความสำคัญ​กับ​แดน​มร​ณาอย่างยิ่งยวด​ พวกเขา​รู้​ว่า​แดน​มร​ณานั้น​อยู่​เบื้องหลัง​อาณาจักร​เทียน​หยวน​

ทว่า​พวกเขา​ไม่รู้​ว่า​จักรพรรดินี​เคย​บุก​ไป​ยัง​แดน​มร​ณา และ​ไม่รู้​ว่า​คุณชาย​เคย​ปรากฏตัว​ที่​แดน​มร​ณา

เมื่อคราว​แดน​มร​ณาบุก​เข้ามา​ พวกเขา​ระแวดระวัง​ประหนึ่ง​เผชิญ​กับ​ศัตรู​ตัวฉกาจ​ คิด​ว่า​แดน​มร​ณาจะต้อง​ทำ​การเข่นฆ่า​สิ่งมีชีวิต​ที่นี่​อย่าง​เอิกเกริก​ จำต้อง​รีบ​จัดการ​ในทันที​

ส่วน​สิ่งมีชีวิต​และ​กองกำลัง​จาก​แดน​เซียน​ พวกเขา​ไม่ทัน​ได้​สนใจ​

และ​ขณะที่​พวกเขา​ทุ่มเท​กาย​ใจเพื่อ​ต่อกร​กับ​แดน​มร​ณา พวกเขา​ได้​พบ​กับ​จักรพรรดินี​และ​หยวน​อี​

จักรพรรดินี​และ​หยวน​อี​กำลังจะ​ไป​ยัง​แดน​มร​ณาเช่นกัน​

พวกเขา​ถึงทราบ​จาก​จักรพรรดินี​ว่า​ คุณชาย​เคย​ไป​ยัง​แดน​มร​ณา และ​เข้าใจ​แล้ว​ว่า​เหตุใด​อาณาจักร​เทียน​หยวน​และ​แดน​มร​ณาที่​เคย​เกรียงไกร​ถึงดับไฟ​ไป​เสีย​เฉย ๆ​ เงียบสนิท​ไร้​ข่าวคราว​

จักรพรรดินี​เอ่ย​ว่า​ปล่อย​พวก​นาง​ไป​ที่​แดน​มร​ณาก็​พอ​ ให้​พวกเขา​ดูแล​สถานการณ์​ของ​แดน​เซียน​

ประมุข​แดน​ศักดิ์สิทธิ์​เหิง​เทียน​และ​สือเฟิง​ถึงได้​ออกมา​นอก​อาณาจักร​

เดิม​พวกเขา​ก็​ตั้งใจ​จะติดตาม​ไป​ที่​แดน​มร​ณาด้วย​

“สมาชิก​ของ​พวก​เจ้าสอง​ตระกูล​ใจคอ​โหดเหี้ยม​ กระ​ทำความ​ชั่ว​ เป็นเหตุให้​พวก​เจ้าเสีย​สิทธิ์​!”

ประมุข​แดน​ศักดิ์สิทธิ์​เหิง​เทียน​กล่าว​

“เพราะเหตุนี้​หรือ​?”

บรรพ​จารย์​ตระกูล​เริ่น​ในที่นี้​ผงะ​กัน​หมด​ เหล่า​บรรพ​จารย์​ใน​ตระกูล​อวี๋​ก็​ผงะ​เช่นกัน​ พวกเขา​คิดไม่ถึง​เลย​ว่า​ความจริง​จะเป็น​เช่นนี้​!

เพราะ​พฤติกรรม​ของ​สมาชิก​ทั้งสอง​คน​ พวกเขา​ถึงต้อง​เสีย​สิทธิ์​เช่นนี้​ไป​อย่างนั้น​หรือ​?!

ทำเกินไป​แล้ว​!

“ตกลง​กัน​ไม่ได้​เลย​หรือ​”

บรรพ​จารย์​ตระกูล​เริ่น​เอ่ย​ “อย่างเช่น​พวกเรา​ยอม​ขอโทษ​อย่าง​จริงใจ​ และ​ประหาร​สมาชิก​ที่​กระ​ทำความ​ชั่ว​เพื่อ​ชดใช้​ความผิด​!”

“ใช่แล้ว​ ตระกูล​ของ​เรา​ก็​ทำ​เช่นนั้น​ได้​เหมือนกัน​!”

บรรพ​จารย์ตน​หนึ่ง​แห่ง​ตระกูล​อวี๋​กล่าว​

แดน​บรรพ​โกลาหล​กำลังจะ​ปรากฏ​ใน​อาณาจักร​นี้​ หาก​เข้าไป​ใน​อาณาจักร​นี้​ไม่ได้​ นั่น​หมายความว่า​พวกเขา​จะสูญเสียโอกาส​เข้าไป​ใน​แดน​บรรพ​โกลาหล​ด้วย​

โอกาส​เช่นนี้​เลอ​ค่า​เหลือแสน​ ล้าน​ปี​กว่า​จะเกิดขึ้น​สัก​ครา​ หาก​ต้อง​ฆ่าสมาชิก​คน​สอง​คน​เพื่อ​การ​นี้​มิใช่ปัญหา​แต่อย่างใด​

หลัง​อวี๋​ฮวน​และ​เริ่น​ลู่​ได้ยิน​คำกล่าว​ของ​เหล่า​บรรพ​จารย์​ ก็​กลัว​แทบ​บ้า​

โดยเฉพาะ​เริ่น​ลู่​ ยิ่ง​ต้อง​ภาวนา​ให้​ ‘พรสวรรค์​’ ของ​เขา​สำแดง​ฤทธิ์เดช​ เช่นนี้​เขา​จะมีพลัง​พอให้​เอาตัวรอด​ มีชีวิต​อยู่​ต่อไป​

อนิจจา​ ไม่ว่า​เขา​ควบคุม​ขา​ของ​ผู้อาวุโส​สามใน​ใจอย่างไร​ ขา​ของ​ผู้อาวุโส​สามก็​ไม่เป็นอัน​ใด​เลย​สักนิด​

“ตกลง​ไม่ได้​!”

ประมุข​แดน​ศักดิ์สิทธิ์​เหิง​เทียน​ตอบ​เสียง​เด็ดขาด​

เขา​ทำ​เช่นนี้​มิได้​มุ่งเป้า​ไป​ที่​ตระกูล​เริ่น​และ​ตระกูล​อวี๋​เท่านั้น​ หาก​แต่​เพื่อ​ข่มขวัญ​กองกำลัง​อื่น​จาก​แดน​เซียน​ด้วย​ รวมถึง​กองกำลัง​ที่​ยัง​มาไม่ถึง

มีเพียง​ทำ​เช่นนี้​ กองกำลัง​อื่น​ ๆ จาก​แดน​เซียน​รวม​ถึงที่​ยัง​มาไม่ถึงจึงจะมีความ​ยำเกรง​ กวดขัน​สมาชิก​ใน​ตระกูล​ของ​ตน​ได้​เข้มงวด​ยิ่งขึ้น​

ช่วยไม่ได้​ พลัง​โดยรวม​ของ​อาณาจักร​นี้​อ่อนแอ​เกินไป​ อ่อนแอ​ยิ่งกว่า​อาณาจักร​ไหน ๆ​ หาก​ไม่ใช้วิธีการ​เด็ดขาด​ข่มขวัญ​สิ่งมีชีวิต​จาก​อาณาจักร​อื่น​ สิ่งมีชีวิต​ใน​อาณาจักร​นี้​จะต้อง​ตกเป็น​เหยื่อ​ให้​สิ่งมีชีวิต​จาก​อาณาจักร​อื่น​แล่​เนื้อ​ได้​ตาม​ต้องการ​

“สหาย​อย่า​ตัดทาง​กัน​เด็ดขาด​เกินไป​จะดีกว่า​! ไม่ว่า​เรื่อง​ใด​ที่​เด็ดขาด​เกินไป​ มัก​ไม่เป็นการ​ดี​นัก​!”

บรรพ​จารย์​ตระกูล​เริ่น​เอ่ย​ “อย่างเช่น​ครั้งนี้​ หาก​สหาย​ยอม​ปล่อย​ให้​เรื่อง​จบ​ สถานการณ์​ทุกอย่าง​จะดีขึ้น​มาก​ หาก​ปล่อย​ให้​เรื่อง​จบ​มิได้​ พวก​สหาย​ก็​คง​ได้​เห็นดี​เหมือนกัน​!”

“เจ้ากำลัง​ขู่​เรา​อยู่​หรือ​”

สือเฟิง​มอง​บรรพ​จารย์​ตระกูล​เริ่น​ด้วย​สายตา​เยียบ​เย็น​ ใน​ช่วงเวลา​เช่นนี้​ บรรพ​จารย์​ตระกูล​เริ่น​ยัง​ริอ่าน​วางท่า​เช่นนี้​อยู่​อีก​ หากว่า​ครั้งนี้​พวกเขา​ยอม​ปล่อยไป​จริง ๆ​ เช่นนั้น​ทุกสิ่งทุกอย่าง​ที่​พวกเขา​ทำ​มาจะต้อง​เสียเปล่า​ ไม่มีทาง​มีผล​อัน​ใด​

“ไม่ถึงกับ​ขู่​ ข้า​เพียงแต่​สาธยาย​ความจริง​ให้​ฟังเท่านั้น​ พวก​สหาย​ดูเหมือน​จัดการ​แค่​พวกเรา​สอง​ตระกูล​ ทว่า​แท้จริง​แล้ว​เป็น​อย่างนั้น​จริง ๆ​ หรือ​”

บรรพ​จารย์​ตระกูล​เริ่น​กล่าว​ “ไม่ว่า​เรื่อง​ใด​อย่า​มอง​เพียง​ด้าน​เดียว​ดีกว่า​ ควร​ต้อง​มอง​ให้​ไกล​ มอง​ให้​ลึก​!”

เขา​มิได้​ใช้ถ้อยคำ​เถรตรง​ กระนั้น​ก็​สื่อ​ความหมาย​ชัดเจน​แล้ว​ เขา​เชื่อ​ว่า​สือเฟิง​และ​ประมุข​แดน​ศักดิ์สิทธิ์​เหิง​เทียน​เข้าใจ​ความหมาย​ใน​คำกล่าว​ของ​เขา​ได้ดี​

ใช่แล้ว​ เป็น​ดั่ง​ที่​เขา​ว่า​ ภายนอก​ดูเหมือน​เป็นการ​จัดการ​เพียง​เขา​และ​ตระกูล​อวี๋​แค่​สอง​ตระกูล​เท่านั้น​ ทว่า​ความจริง​มิใช่เช่นนั้น​แน่นอน​

เขา​รู้ดี​ว่า​ กองกำลัง​และ​ยอด​ฝีมือ​อื่น​ ๆ ใน​แดน​เซียน​ต่าง​จับตามอง​สถานการณ์​ด้าน​นี้​อยู่​!

ประมุข​แดน​ศักดิ์สิทธิ์​เหิง​เทียน​และ​สือเฟิง​เป็น​สิ่งมีชีวิต​ท้องถิ่น​ที่​แข็งกร้าว​เกินไป​ มิใช่เรื่อง​ดี​สำหรับ​กองกำลัง​และ​ยอด​ฝีมือ​อื่น​ ๆ จาก​แดน​เซียน​แน่นอน​

กองกำลัง​และ​ยอด​ฝีมือ​อื่น​ ๆ จาก​แดน​เซียน​ไม่ยอมให้​เกิดเรื่อง​เช่นนี้​ขึ้น​แน่​

หากว่า​สิ่งมีชีวิต​ท้องถิ่น​อย่าง​ประมุข​แดน​ศักดิ์สิทธิ์​เหิง​เทียน​และ​สือเฟิง​ยอม​เลิกรา​ง่าย ๆ​ เพียงเท่านี้​ เรื่อง​นี้​ก็​จะจบ​ กองกำลัง​และ​ยอด​ฝีมือ​อื่น​ ๆ จาก​แดน​เซียน​ก็​จะไม่มีการ​ลงมือ​

ถึงอย่างไร​ หาก​เป็น​เช่นนั้น​ก็​บ่งบอก​ว่า​สิ่งมีชีวิต​ท้องถิ่น​อย่าง​พวก​ประมุข​แดน​ศักดิ์สิทธิ์​เหิง​เทียน​มิได้​เจ้าหลักการ​มาก​นัก​ ไม่เป็น​อุปสรรค​ต่อ​พวกเขา​เท่าใด​

แต่​หากว่า​ สิ่งมีชีวิต​ท้องถิ่น​อย่าง​พวก​ประมุข​แดน​ศักดิ์สิทธิ์​เหิง​เทียน​ยืนกราน​ว่า​จะเอาเรื่อง​ถึงที่สุด​ กองกำลัง​และ​ยอด​ฝีมือ​อื่น​ ๆ จาก​แดน​เซียน​ก็​ไม่มีทาง​รามือ​ง่าย ๆ​

เพราะ​ถึงแม้ตอนนี้​เป็น​เพียง​ตระกูล​ของ​เขา​และ​ตระกูล​อวี๋​ ทว่า​ต่อไป​ อาจ​เป็น​กองกำลัง​และ​ยอด​ฝีมือ​อื่น​ ๆ จาก​แดน​เซียน​ก็ได้​!

“เจ้ายัง​มีหน้า​ว่า​พวกเรา​อีก​…”

สือเฟิง​ปรายตา​มอง​บรรพ​จารย์​ตระกูล​เริ่น​ เอ่ย​ด้วย​สีหน้า​ราบเรียบ​ “เหตุใด​เจ้าถึงไม่มอง​ให้​ไกล​ มอง​ให้​ลึก​บ้าง​ เจ้าไม่ตงิด​บ้าง​หรือว่า​พวกเรา​ต้องการ​จัดการ​เพียง​พวก​เจ้าสอง​ตระกูล​หรือ​?”

เมื่อ​ได้ยิน​วาจา​ของ​สือเฟิง​ บรรพ​จารย์​ตระกูล​เริ่น​หรี่ตา​ลง​ใน​ทันใด​

หมายความว่า​อย่างไร​?

สิ่งมีชีวิต​ท้องถิ่น​อย่าง​พวก​สือเฟิง​คิด​จะเป็น​ปรปักษ์​กับ​ทั้ง​แดน​เซียน​เลย​หรือ​อย่างไร​ คิด​จะข่มขู่​แดน​เซียน​ทั้งปวง​เลย​รึ​

บ้า​ไป​แล้ว​หรือ​ไร​?!

เขา​ยอมรับ​ว่า​สิ่งมีชีวิต​ท้องถิ่น​อย่าง​พวก​สือเฟิง​มีฝีมือ​อยู่​บ้าง​ ทว่า​ครั้น​คิด​จะเป็น​ปรปักษ์​กับ​แดน​เซียน​ทั้งปวง​ สิ่งมีชีวิต​ท้องถิ่น​อย่าง​พวก​สือเฟิง​ยัง​ไม่มีสิทธิ์​ มีความสามารถ​ไม่พอ​!

หาก​กองกำลัง​และ​ยอด​ฝีมือ​ทั้งหมด​ใน​แดน​เซียน​ผนึก​กำลัง​ด้วยกัน​ มิใช่ระดับ​ที่​สิ่งมีชีวิต​ท้องถิ่น​อย่าง​พวก​สือเฟิง​จะต้าน​ไหว​!

“ความคิด​เช่นนี้​ของ​เจ้าอันตราย​มาก​ เจ้าคิด​จริง ๆ​ หรือว่า​พวก​เจ้าจะทำได้​”

บรรพ​จารย์​ตระกูล​เริ่น​หัวเราะ​เย็น​ ๆ

“ไย​จึงไม่ได้​”

สือเฟิง​ปริปาก​ “อย่า​คิด​ว่า​พวก​เจ้านั้น​สูงส่งเสีย​เต็มประดา​ เมื่อ​มาอยู่​บน​แดนดิน​ของ​อาณาจักร​เรา​ พวก​เจ้าก็​ต้อง​อยู่​อย่าง​เจี๋ยมเจี้ยม​ อย่า​คิด​จะทำตัว​โอหัง​กำเริบ​สืบสาน​!”

“พูดจา​ได้​แข็งกร้าว​ยิ่งนัก​!”

“พยัคฆ์​ไม่แผลงฤทธิ์​ สิ่งมีชีวิต​ท้องถิ่น​อย่าง​พวก​เจ้าก็​เห็น​เรา​อ่อนด้อย​ฝีมือ​จริง ๆ​ หรือ​?!”

“แค่​มีวาสนา​ได้เปรียบ​กว่า​เรา​นิดหน่อย​ สิ่งมีชีวิต​ท้องถิ่น​อย่าง​พวก​เจ้าก็​จองหองพองขน​ปานนี้​เชียว​หรือ​”

“เดิมที​ข้า​คร้าน​จะแยแส​สิ่งมีชีวิต​ท้องถิ่น​อย่าง​พวก​เจ้า บัดนี้​พวก​เจ้าทำให้​พวกเรา​บัน​ดาลโทสะ​แล้ว​!”

เสียง​ตวาด​เย็น​ ๆ ดัง​ขึ้น​เรื่อย ๆ​ ยอด​ฝีมือ​ทั้งหลาย​จาก​แดน​เซียน​ออกมา​อยู่​นอก​อาณาจักร​กัน​หมด​

พวกเขา​มีสีหน้า​เย็นชา​ ไม่คิด​จะนิ่งดูดาย​อีกต่อไป​ ปัญหา​จาก​สิ่งมีชีวิต​ท้องถิ่น​อย่าง​พวก​สือเฟิง​จำต้อง​จัดการ​

มิฉะนั้น​ พวกเขา​คงอยู่​ไม่สงบ​ใน​อาณาจักร​นี้​แน่​!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Score 10
Status: Completed
‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน! ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

Options

not work with dark mode
Reset