ราชิณีเลือด 12: คุณหนู..

ตอนที่ 12: คุณหนู..

อธิบายต้นตอน

 “ฉากที่เกว็นปรากฏตัวมาให้โอกาศลูคัสในตอนที่ 7”

 

“มิร่า.. มิร่า..” เสียงปริศนาที่แสนจะคุ้นเคยเรียกมิร่า

“คะ..คุณหนู” มิร่าที่ฟื้้นขึ้นมาพร้อมสติเลือนลางเรียกสกาเล็ต

มิร่าที่มองเห็นภาพของสกาเล็ตเลือนลางพยามจะยื่นมือไปจับใบหน้าของนาง

“ในที่สุดข้าก็ได้พบท่าน” มิร่ากล่าวพร้อมยิ้ม

“มิร่า..ข้าเองก็ดีใจแต่นี่ยังไม่ถึงเวลาของเจ้า” สกาเล็ตกล่าว

“หมายความว่าเช่นไร..คุณหนูขะ..ข้าต้องการจะอยู่กับท่าน” มิร่ากล่าว

“ข้าเองก็เช่นกัน เมื่อถึงเวลา..เราจะได้พบกันอีก” สกาเล็ตกล่าวพร้อมค่อยๆจางหายไป

ภาพของความจริงค่อยๆปรากฏ มิร่าเริ่มได้สติคืนมา ภาพตรงหน้าของนางคือกลุ่มอัศวินเรเว่นที่กำลังเข้าต่อสู้กับเหล่าทหารของกลุ่มพัธมิตร

“จัดการพวกมันน!!” อัศวินเรเว่นกล่าว

เสียงการต่อสู้ดังอยู่สักพัก..ผ่านไป ไม่กี่นาที การต่อสู้ก็จบลง ชัยชนะตกเป็นของกลุ่มอัศวินเรเว่น

“ท่านอัศวินช่วยนางด้วย นางเป็นพวกเดียวกับท่าน” เว็นเดอร์กล่าว

“ข้าเข้าใจแล้ว แต่ข้าไม่รู้นางอยู่หน่วยไหนข้าจะพานางกลับไปที่ค่ายและรักษา รอนางได้สติข้าจะให้นางกลับไปยังหน่วยของนาง” หัวหน้าอัศวินเรเว่นกล่าว

และภาพก็ตัดไป…

ก่อนหน้านี้ ทางด้านสกาเล็ต

สกาเล็ตกำลังนั่งเหม่อมองท้องฟ้าอันแสนสวยงามของ ไฮท์เฮเว่น นางกำลังนั่งเฝ้าคิดถึงคนที่นางรัก ไม่ว่าจะเป็นลุงยิ้มหรือลูคัส และมิร่า นางเพียงคิดในหัวว่า ขอให้พวกเขาทุกคนปลอดภัย

แอริสที่ได้ยินความคิดของสกาเล็ต นางจึงตัดสินใจที่จะทำอะไรสักอย่าง..

แอริสเดินเข้าไปหาสกาเล็ตและกล่าว “ข้าสามารถทำให้เจ้าเห็นพวกคนที่เจ้าห่วงได้ ถ้าเจ้าต้องการ”

แอริสยื่นมือไปข้างและโบกมือ บริเวรด้านหน้าของสกาเล็ต ก็แตกออกเป็นนช่องว่างและปรากฏภาพของ ลุงยิ้ม ที่กำลังนั่งประชุมแผนการรบ..

“เกิดอะไรขึ้นกัน สงครามงั้นหรอ..ข้าอยากช่วยเหลือท่านได้บ้างท่านลุง” สกาเล็ตพูดด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

แอริสโบกมืออีกครั้ง ปรากฏเป็นภาพของลูคัสที่กำลังประชุมแผนอยู่ที่เมืองหลวงสำหรับปฏิบัติการ

“เขายังคงจริงจังกับงานอยู่งั้นสินะ..ข้าหวังว่าท่านลุงและเจ้าจะปลอดภัย” สกาเล็ตกล่าว

ก่อนที่แอริสจะโบกมือครั้งถัดไปแอริสหยุดและมองไปที่สกาเล็ตด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล

“เกิดอะไรขึ้น เหตุใดเจ้าไม่พาข้าไปดูมิร่า” สกาเล็ตกล่าวถาม

“ข้าไม่แน่ใจว่าเจ้าจะพร้อมดูภาพตรงหน้ารึเปล่า” แอริสกล่าวด้วยสีหน้าเป็นกังวล

“เกิดอะไรขึ้น! นางเป็นอะไรไป นางควรจะอยู่ในที่ปลอดภัยสิข้าคิดว่าลุงยิ้มไม่มีทางที่จะให้นางอยู่ในที่อันตรายแน่นอน ให้ข้าดูว่าเกิดอะไรขึ้น” สกาเล็ตกล่าว

“ได้ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะให้เจ้าเห็น” แอริสกล่าวจบ นางก็โบกมือทันที

ภาพตรงหน้าของสกาเล็ตคือ มิร่าที่นอนจมกองเลือดอยู่..สกาเล็ตที่เห็นภาพของคนทีเป็นคนสนิทและเป็นเหมือนกับพี่น้องของตนต้องนอนจมกองเลือดอยู่ นางก็เริ่มที่จะถูกควบคุมด้วยพลังด้านมืดของตน 

บรรยากาศรอบๆเริ่มมืดมนลง ท้องฟ้าแสนสดใสของไฮท์เฮเว่นเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงสดและมืดมน

แอริสที่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นนางก็รู้ได้ในทันที่ว่านางควรจะทำอะไร

แอริสรวบรวมพลัง ของตนที่เหลือไว้ที่มือ นางเพ่งสมาธิไปที่ตัวสกาเล็ต จากนั้นแอริสก็กำมือ..ทันใดที่แอริสกำมือ

พลังที่กำลังหลุดการควบคคุมก็กลับมาปกติในเวลาไม่นาน 

“สกาเล็ต มิร่านางยังไม่ถึงเวลาข้ารู้ดี” แอริสพูดและเปิดภาพที่กลุ่มอัศวินกำลังเดินทางมายังหมู่บ้าน ข้าจะใช้พลังที่เหลือของข้าส่งข้อความของเจ้า ไปให้กับมิร่าเพื่อให้นางมีกำลังสู้ต่อ

“พลังที่เหลือ? เจ้าหมายความว่ายังไง” สกาเล็ตพูดด้วยความสงสัย

“เพราะข้าใช้พลังของข้าควบคุมพลังเจ้าไว้ ข้าจึงต้องการพักสักหน่อย” แอริสพูด

“ข้าเข้าใจแล้วข้าขอบใจเจ้ามาก” สกาเล็ตกล่าว

แอริสใช้พลังเฮือกสุดท้ายของนางส่งข้อความให้กับมิร่า #ข้อความตอนต้น# 

จากนั้นไม่นานร่างกายของแอริสก็เริ่มจางหายไปอย่างช้าๆ

“แอริส เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า ทำไมร่างของเจ้าเริ่มจางไปละ” สกาเล็ตที่ได้เห็นภาพตรงหน้ากล่าว

“ข้ารู้ดีว่ามันจะเกิดขึ้น ข้าได้ช่วยเจ้านั้นก็ดีมากแล้ว สกาเล็ตเจ้าจำการฝึกของข้าไว้ เจ้าจงควบคุมพลังนั้นให้ได้ หากข้าไม่อยู่แล้วเจ้าจะได้ควบคุมมันได้อย่างสมบูรณ์” แอริสกล่าว

“เจ้าจงอย่าโทษตัวเองเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย ข้าจะไม่เป็นไร..” แอริสกล่าวและหายไป

สกาเล็ตที่โศกเศร้ากับการหายไปของแอริสนางได้ตั้งมั้นที่จะควบคุมพลังของตนให้ได้

“แอริส สิ่งที่เจ้าสละข้าจะไม่มีวันลืมเพื่อนคนสำคัญของข้า..” สกาเล็ตกล่าวทั้งน้ำตา

2 วันต่อมา ณ ค่ายทหารของกลุ่มเรเว่นค่ายเล็ก บริเวณใกล้ๆหมู่บ้าน

มิร่าในอาการาบาดเจ็บ นางถูกรักษาโดยเวทย์ระดับกลางไปแล้ว แต่บาดแผลของนางก็ยังไม่หายดี

มิร่าตื่นขึ้นพร้อมกับอาการมึนเพียงเล็กน้อยบาดแผลตรงไหลของนางยังคงเจ็บและมีเลือดไหล เวทย์รักษาระดับกลางคงรักษาได้เพียงเท่านี้

มิร่าลุกขึ้นและเดินไปยังด้านหน้าเต็นท์พยาบาลนางสงสัยว่านางอยู่ที่ไหนกัน

แพทย์สนามที่กำลังเฝ้าคนเจ็บอยู่เห็นมิร่ากำลังพยามจะเดินไป เขาก็ได้เดินมาห้ามนางไว้

“เจ้าจะไปไหนกันสาวน้อย ข้าว่าเจ้าพักอีกสักหน่อยแล้วค่อยออกไปดีกว่า” แพทย์สนามกล่าว

“ข้าแค่อยากจะเดินดูรอบๆ” มิร่ากล่าว

“เดินดูรอบๆอากาศเช่นนี้หรือเจ้านี่ช่างตลกเสียจริง เอาเถอะข้าจะไม่ห้ามเจ้า ในเมื่อเจ้าเดินไหวอย่าลืมไปรับอาหารละกัน ข้าเองต้องเฝ้าเจ็บถ้าเจ้าว่างก็ฝากเอามาให้ข้าด้วย” แพทย์สนามกล่าว

“ได้ๆแล้วข้าจะไปรับอุปกรณ์ของข้าได้ที่ไหน?” มิร่ากล่าว

“ชุดเจ้านางจะพังยับ ข้าว่าเจ้าไปเบิกใหม่กับหัวหน้าน่าจะดีกว่า เดินตรงไปเต็นท์ขวามือ เจ้าจะเห็นเต็นท์ที่มีคนเฝ้ายามอยู่ 2 คนตรงนั้นแหละเต็นท์หัวหน้า” แพทย์สนามกล่าว

“ข้าเข้าใจแล้ว” มิร่ากล่าวและเดินไปยังเต็นท์หัวหน้า

บรรยากาศรอบๆคือเหล่าทหารที่กำลังพักผ่อนจากสงคราม พวกเขาต่างเหน็ดเหนื่อยกับสงคราม บางคนก็สนุกกับเวลาอันแสนสุขตอนนี้ 

มิร่าเดินมาเรื่อยๆจนถึงเต็นท์ของหัวหน้า 

ทหารยามทั้งสองที่เห็นมิร่าเดินมาก็แจ้งกับหัวหน้าว่ามีคนมาขอเข้าพบ

“หัวหน้าขอรับหญิงสาวที่เราช่วยไว้มาขอเข้าพบ” อัศวินกล่าว

“ให้เข้ามา” หัวหน้ากล่าว

“ขออนุญาติค่ะ” มิร่ากล่าวและเดินเข้าไปพบหัวหน้า

ภาพตรงหน้าของมิร่าคือหญิงสาวหน้าดุที่มีบาดแผลจากการรบตามใบหน้า นางมองมายังแอริสและกล่าวให้นางนั่งลงเพื่อคุยกัน

“นั่งก่อนสิ” หัวหน้ากล่าว

มิร่านั่งลง..

“เจ้าดูดีขึ้นนะ นับจากตอนที่ข้าเจอเจ้า” หัวหน้าอัศวินกล่าว

“ข้าขอบคุณท่านมากที่ช่วยเหลือ” มิร่ากล่าว

“เจ้าเองก็มีฝีมือพอตัวแต่ยังขาดประสบการณ์สินะ บาดแผลของศัตรูที่เจ้าจัดการไป ค่อนข้างสวยงามเลยทีเดียว” หัวหนัาอัศวินกล่าว

“ข้าลืมแนะนำตัวเลย ข้าชื่อ แอนเทรียร่า เรียกข้าแอนได้” แอนกล่าว

“ขอบคุณที่ท่านที่ชม ข้าชื่อมิร่า ” มิร่ากล่าว

“แล้วเจ้าอยู่หน่วยไหนกัน กลุ่มของเจ้าไปไหน” แอนกล่าว

“ข้า..หนีมาจากกลุ่มของข้า” มิร่ากล่าว

“เอาเถอะถ้าเจ้าไม่อยากเล่าข้าก็ไม่ว่าตอนนี้ข้ากำลังขาดคน เจ้าไปเตรียมอุปกรณ์ ที่เต็นท์ข้างๆข้าได้ แล้วพักผ่อนเสียเถิ่ด” แอนกล่าว

“ขอบคุณท่านมาก” มิร่ากล่าวและลุกจากไปเตรียมอุปกรณ์ของตน

ในขณะที่นางกำลังเตรียมอุปกรณ์อยู่นั้น เสียงระฆังแจ้งเตือนการโจมตีก็ดังขึ้น **โฆง โฆง**

มิร่ารีบจัดเตรียมอุปกรณ์พร้อมกับหยิบดาบสั้นและดาบขนาดกลางมาอย่างละเล็ม นางรีบเดินออกมาและเตรียมตัวสู้

แอนที่เห็นมิร่าเตรียมตัวจะออกไปนางก็ได้บอกกับมิร่าให้ถอยไปป้องกันคนที่ค่ายพยาบาลดีกว่า เพราะนางยังบาดเจ็บอยู่

“มิร่า เจ้าถอยไปป้องกันค่ายพยาบาลไว้ส่ะนี่คือคำสั่ง” แอนกล่าว

มิร่าแม้จะไม่เต็มใจแต่นั้นก็เป็นคำสั่ง “รับทราบ” มิร่านางมุ่งไปยังค่ายพยาบาล และเตรียมตัว

ในขณะนั้นเสียงการต่อสู้เสียงดาบประทะกันก็ดังขึ้น.. เกิดการต่อสู้รอบๆค่ายของกลุ่มอัศวินเรเว่น

ในขณะที่มิร่ากำลังมองดูรอบๆ อัศวินของศัตรูก็หลุดเข้ามาได้ ศัตรูจำนวน 5 นายวิ่งตรงเข้ามาหามิร่า

มิร่าที่เห็นท่าไม่ดีได้บอกกับแพทย์สนามให้พาคนเจ็บหนีไป “แพทย์สนามพาคคนเจ็บถอยไป ข้าจะยื้อพวกมันไว้เอง” 

มิร่ากล่าวจบและพุ่งตรงเข้าไปต่อสู้กับศัตรแม้ตนจะยังบาดเจ็บอยู่ นางใช้วิชาดาบที่ได้เรียนมาได้ดีขึ้น จากประสบการณ์การต่อสู้ครั้งก่อน 

มิร่า เหวี่ยงคมดาบของนางเข้าไปที่คอของศัตรูคนที่ 1 เขาได้ล้มลงทันทีหลังโดนคมดาบเข้าไป ทันทีีที่จัดการศัตรูคนที่่ 1 ได้มิร่าก็พุ่งตรงเข้าหาคนที่สองนางใช้ดาบฟันเข้าไปตรงๆ แต่ศัตรูตั้งรับได้ทันทันใดนั้นมิร่าก็ใช้ดาบสั้นอีกมือเสียบเข้าหน้าท้องของศัตรู แต่นางยังเจ็บบาดแผลอยู่ ทำให้แทงเข้าลึกไม่มากนางรีบถอนดาบและกระโดนแตะตีลังกา กลับหลังและพุ่งเข้าไปแทงย้ำ 2 รอบ ศัตรูคนที่ 2 ล้มลง 

ทันใดนั้นศัตรูอีก 3 คนก็ถูกจัดการโดยอัศวินเรเว่นคนที่เหลือที่ตามมาสมทบ

… เหตุการสงบลง ..

มิร่าล้มลงกับพื้นบาดแผลของนางเริ่มมีเลือดไหลอีกครั้ง นางนั่งพักที่พื้นและกดบาดแผลเอาไว้

แพทย์สนามที่เห็นนางบาดเจ็บรีบวิ่งเข้ามารักษาขั้นต้นให้นาง

แอนที่ตามมาเห็น ภาพตรงหน้านางก็คิดในใจ “ข้าคิดไม่ผิดจริงๆที่ดึงตัวนางไว้นางมีฝีมือไม่เบา” แอนคิดในใจ

“เจ้าไปพักสักหน่อยเถอะ มิร่าเดี๋ยวทางนี้พวกข้าจะจัดการเอง” แอนกล่าว

“เข้าใจแล้วค่ะ” มิร่ากล่าวและลุกเดินไปพร้อมแพทย์สนาม

ผ่านไป 4 อาทิตย์ 

มิร่าและกลุ่มอัศวินเริ่มสนทสนมกัน และมิร่าทำผลงานและช่วยเหลือกลุ่มอัศวินไว้มากมาย ใน 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา จนนางถูกแต่งตั้งให้เป็นรองหัวหน้า ของกลุ่มอัศวินเรเว่น หน่วยกุหลาบเงิน ฉายาของนางคือ ระบำกุหลาบคลั่ง เนื่องจากท่าทางของการใช้ดาบคู่ของนางงดงามดั่งการระบำ สีผมสีแดงของนางเปรียบดังกุหลาบ และนางยังไล่สังหารศัตรูราวกับบ้าคลั่ง

ณ เต็นท์ของแอน

แอนกำลังมอบหมายงานบางอย่างให้กับมิร่า

“มิร่า ข้าได้รับรายงานการหายตัวไปของหน่วยหมาป่าทองทางด้านป่าโรฮันเจ้านำคนของเราหน่วยเล็กๆไปตรวจและกลับมารายงานข้าที ข้ายังต้องจัดการเรื่องอีกเยอะ” แอนกล่าว

“รับทราบค่ะ” มิร่ากล่าวและเดินออกไปเตรียมตัว

“แล้วก็กลับมาอย่างปลอดภัยด้วยล่ะ” ก่อนที่มิร่าจะเดินออกไปแอนได้กล่าว

“เข้าใจแล้วค่ะ” มิร่าหันกลับมายิ้มและกล่าว

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมามิร่าและกลุ่มของตนก็เริ่มออกเดินทาง กลุ่มอัศวินในครั้งนี้ประกอบไปด้วยอัศวินมือดีที่มิร่าไว้ใจ 4 นาย แพทย์สนาม 1 นาย และตัวมิร่าเองรวมเป็น 6 คน

“เอาล่ะออกเดินทางได้!” มิร่าตะโกนและควบม้านำออกไป

3 ชั่วโมงต่อมา..

มิร่าและกลุ่มของนางควบม้ามาจนถึงป่าโรฮัน.. บรรยากาศเงียบสงบ มิร่าพบร่องรอยของกายลากร่างของมนุษย์เข้าไปลึกภายในป่า 

“อาจจะเป็นมอนสเตอร์..” มิร่ากล่าว 

“เอาล่ะเราจะตามเข้าไปพวกเจ้าเตรียมน้ำมันสำหรับมอนสเตอร์ไว้”

ในขณะที่ มิร่ากำลังตรวจสอบอยู่นั้น มิเงาของบางสิ่งกำลังแอบมองพวกนางอยู่จากบนต้นไม้..

มิร่าและกลุ่มของนางเริ่มเดินลึกเข้าไปในป่า และพบกับศพของกลุ่มอัศวินของศัตรู และโล่ของอัศวินเรเว่นหน่วยหมาป่าขาวแต่ยังไม่พบร่างของพวกเขา

“นี่มันแปลกเกินไปแล้ว หากมอนสเตอร์เลือกที่จะเกินศพ ก็น่าจะกินทั้งหมดไม่น่าเหลือทิ้งไว้” มิร่าคิดในใจ

“ท่านรองหัวหน้า ข้าพบลูกธนูแปลกๆ ที่ไม่ใช่ของพวกเราหรือศัตรูขอรับ” อัศวินคนนึงกล่าว

“ไหน” มิร่ากล่าวและหยิบลูกธนูจากมือของอัศวินมาดู “สภาพของลูกธนูไม่เหมือนที่พวกเราหรือศัตรูใช้” มิร่าคิดในใจ

“ข้าไม่เคยเห็นลูกธนูแบบนี้ที่ไหนมาก่อน” มิร่าคิดในใจ

“อาจจะไม่ใช่มอนสเตอร์แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญา” มิร่ากล่าว

“แล้วพวกมันพาร่างของพวกเขาไปไหนกันหรือขอรับ” อัศวินคนนึงกล่าว

“ข้าเองก็ยังไม่แน่ใจ ไม่แน่อาจจะนำไปบูชา” มิร่ากล่าว

ในขณะที่ทุกคนกำลังคุยกันและเตรียมตัวเดินทางค้นหาต่อไป ลูกธนู ก็พุ่งลงมาปักเข้ายังหัวไหล่ของอัศวินคนนึงทำให้เขาบาดเจ็บ

“อั้ก!!”** เสียงอัศวินถูกลูกธนูปัก

“เตรียมตัวต่อสู้!!” มิร่ากล่าว

มิร่าและอัศวินทุกคนชักดาบออกมา

ทันใดนั้น มิร่าก็มองเห็นเงาตะคุมๆในป่า นางจึงวิ่งตามไป..แต่ในเสี้ยววินาทีนั้นเองเงาดำก็พุ่งลงมาจาก ต้นไม้ และใช้ดาบสั้นจ่อไปที่คอของอัศวินทุกคนยกเว้นมิร่า..

มิร่าที่เห็นดั้งนั้นก็ไม่ยอมลดการ์ดของนางลง นางมองไปรอบๆ 

“ท่านรองหัวหนัา อย่าสนใจพวกข้าเลยท่านรีบนำข่าวนี้ไปแจ้งกับท่านหัวหน้า” อัศวินคนนึงกล่าว

“อย่ามาตลกหน่อยเลย จะตายก็ตายด้วยกันเรเว่นจะไม่ทิ้งกัน!!” มิร่าตะโกนออกมา

“อัศวินเรเว่น? หรือเราจะโจมตีผิด” เงาดำคนนึงกล่าว

ทันใดนั้นเงาดำคนนึงก็เดินออกมาและถอนเวทย์หายตัวและเงาทำให้มิร่ามองเห็น

ภาพตรงหน้าของมิร่าคือสิ่งมีชีวิตที่คล้ายมนุษย์ แต่พวกนางมีผมสีขาวหรือทอง ดวงตาสีเขียวมรกต

ใช่แล้ว พวกเขาคือเอลฟ์! สิ่งมีชีวิตที่แทบจะเป็นเพียงตำนาน เพราะพวกเขาหลบซ่อนมาตลอด

“ข้าว่าเราน่าจะเข้าใจผิดกัน..เราคุยกันก่อนเถิ่ด” เอลฟ์สาวตนหนึ่งที่ท่าทางเป็นเหมือนหัวหน้าเข้ามาคุยกับมิร่า

“เจ้าทำร้ายลูกน้องข้า เหตุใดข้าต้องฟังเจ้าด้วย” มิร่ากล่าว

“นั้นเป็นเพียงการเข้าใจผิดข้าจะพาท่านไปหาเพื่อนทาน และจะรักษาคนที่บาดเจ็บให้” เอลฟ์สาวกล่าว

มิร่ามองดูรอบๆ และตัดสินใจ “ข้าเข้าใจแล้ว” มิร่ากล่าว

มิร่าและกลุ่มอัศวินเริ่มพะยุงคนบาดเจ็บและเดินตามเหล่าเอลฟ์สาวไปในใจป่า

พวกเขาเดินเท้ากันมาประมาณ 3 นาทีบรรยากาศของป่าโรฮันที่เคยมืดมิดก็เริ่มสว่างสไหว ภาพตรงหน้าปรากฏเป็นเหมือนบ้านเอลฟ์ ที่มีเอลฟ์สาวและเอฟล์หนุ่มใช้ชีวิตกัน

“ข้าจะพาท่านไปหาเพื่อนๆของท่านและรักษาเขาก่อน” เอลฟ์สาวกล่าวและชี้ไปที่คนบาดเจ็บ

“เดิมทีพวกเจ้าหลบซ่อนตัวตลอดเหตุใด พวกเจ้าจึงช่วยเหลือทหารของเรา” มิร่าถามด้วยความสงสัย

“ก็เพราะคำทำนายนะสิ..” เอลฟ์สาวกล่าว

“แล้..” มิร่ากล่าวไม่ทันจะจับ เอลฟ์สาวก็พูดแทรกขึ้นมา “ข้าว่าท่านพักผ่อนก่อนเสียเถิ่ดอย่างน้อยให้พวกข้าได้ไถ่โทษที่ทำลงไปแล้วเดี๋ยวข้าจะอธิบายเรื่องต่างๆให้ท่านเข้าใจเอง” 

มิร่าพยักหน้า และเดินตามเอลฟ์สาวไป…

– จบตอน –

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Options

not work with dark mode
Reset