รักสุดหัวใจ 20 ต่างจากคนนอก

ตอนที่ 20 ต่างจากคนนอก

มื้อนี้กินกับถันหรงโม่แล้วก็หุ้นส่วนทางธุรกิจไม่กี่คนที่ทำงานร่วมกัน ส่วนใหญ่ก็ต่างเป็นลูกคนรวยทั้งนั้น

ถันหรงโม่เห็นรอยบนใบหน้าของเย่จิ่นถังแล้วมองไปที่รอยจูบช้ำๆบนคอของเย่เฉียว ทั้งสองคนคงทำสงครามก่อนที่จะมา น่าชื่นชมจริง

"มื้อนี้รบกวนเรื่องดีๆของทั้งสองหรือเปล่า?" ถันหรงโม่ยิ้มโดยไม่รู้ตัว

แววตาของเย่จิ่นถังขรึมลงแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร แล้วดึงเก้าอี้ตรงหน้าเขาก่อนจะพูดเสียงต่ำ "นั่ง"

คราวนี้ไม่ว่าน้ำเสียงจะไม่น่าฟังสักแค่ไหน หน้าตาจะแย่แค่ไหน ต่อหน้าคนมากมาย เธอก็ยังต้องยอมไว้หน้าคนๆ นี้

เธอเลยก้าวเท้าเดินไปนั่งอย่างสง่างาม

คนที่นั่งต่างหันมามองที่เย่เฉียว ไม่เพียงเพราะความงามเท่านั้น แต่ออร่าผู้ช่วยดูมีการศึกษาด้วย

ต่างจากคนนอกไปอย่างสิ้นเชิง

ถันหรงโม่กระแอมไปบ่งบอกให้พวกเขาเก็บสายตาของตัวเองเพราะดวงตาแทบจะถลนกันอยู่แล้ว

"คุณถัน เรายังต้องรอใครอีกไหม?" เย่เฉียวถามพร้อมมองถันหรงโม่ด้วยรอยยิ้มจางๆ

"รอพวกคุณเท่านั้น เริ่มทานกันเถอะ"

นอกจากนี้ยังมีผู้หญิงอยู่บนโต๊ะ อาจจะเป็นแฟนหรือภรรยาของชายหนุ่มเหล่านี้ ใบหน้าเย่เฉียวมีรอยยิ้มที่อ่อนโยนและสุภาพอยู่เสมอแต่กลับใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

หลังจากทักทายคนเหล่านี้อย่างสุภาพ ก็เริ่มรินเหล้าให้ตัวเอง

เย่จิ่นถังห้ามหลายครั้ง แต่เย่เฉียวก็ยังไม่ฟัง

"เธอดื่มมากไปแล้ว" เธอเคยดื่มเหล้าขาวตั้งแต่เมื่อไรกัน แถมตอนนี้ก็ยังป่วยอยู่ ทำลายร่างกายตัวเองแบบนี้ คิ้วของเย่จิ่นถังก็กระตุกด้วยความโกรธอย่างรวดเร็ว

เย่เฉียวเอียงหน้า มือหนึ่งกุมศีรษะเอาไว้แล้วใช้ตะเกียบคีบดอกหัวไชเท้าสำหรับตกแต่งแล้วใส่ลงในชามของเขา

"คุณเย่ หัวไชเท้าขาวเป็นที่รู้จักในพื้นเมือง มีผลในการกำจัดเสมหะ คุณชิมสิ กรอบแล้วก็หวานด้วยนะ" เธอยิ้มอย่างสดใสให้เย่ จิ่นถัง

กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเย่จิ่นถังแทบกระตุกทันที

ถันหรงโม่กลั่นยิ้ม มองเย่จิ่นถังหยิบหัวไชเท้าขาวเข้าปาก

เพียงแต่ว่าดวงเขาไม่ค่อยดีนัก เวลากินเผ็ดก็จะรู้สึกไม่ดี

นิ้วที่อ่อนนุ่มของเย่เฉียวกดลงบนริมฝีปากของเขาทันที : "อืม อย่าอ้วกนะ อ้วกแล้วมันจะไม่มีประโยชน์"

ที่จริงแล้วเธอเมานิดหน่อย เริ่มพูดเรื่องไร้สาระและกล้ามากขึ้น เย่จิ่นถังก็โดนเธอทำให้ใจสั่น

แรงกระตุ้นที่พุ่งเข้ามาในหัวใจกำลังแทะเล็มทีละเล็กทีละน้อย

เย่จิ่นถังจับฝ่ามืออันอ่อนนุ่มของเธออย่างใจเย็นและไม่ได้ส่งเสียง : "ดื่มเกินสามรอบแล้ว ไม่ต้องดื่มแล้ว"

"เอาเหล้าออกไป" ถันหรงโม่เหลือบมองบริกรที่รออยู่ด้านข้างและออกคำสั่งเสียงเรียบ

หลังจากทานอาหารไปนานกว่าสามชั่วโมง พอออกมาจากร้านอาหาร ถนนก็เริ่มไม่นิ่ง

เย่จิ่นถังไม่ได้เดินตาม ก่อนที่จะพยุงเธอจากด้านหลัง ผมดัดลอนยาวปัดไปมาบนแขนของเขาจนจั๊กจี้

เขาอดไม่ได้ที่ก่อนจะก้มตัวลงแล้วอุ้มเธอขึ้น

"ทำไมต้องอุ้มฉันด้วย ฉันเดินได้…"

"เดินอะไรกันล่ะ" เดินต่อไปเขาคงหาที่ทำกับเธอแน่

เหล้าขาวแรงมาก เย่เฉียวที่ถึงรถก็เริ่มไม่เกรงใจ เทร่างกายที่อ่อนนุ่มลงบนตักของเขา

เขาวางแขนไว้ใต้ศีรษะและแตะโดนปากเธอเป็นครั้งคราว

เย่จิ่นถังนั่งตัวแข็งทื่อและร่างกายของเขากำลังจะระเบิดแล้ว

หลังจากที่รถมาถึงโรงแรม เย่จิ่นถังก็ลงจากรถ ถึงค่อยๆ ฟื้นสติและพาเธอลงจากรถ

เย่เฉียวเมามากจนไม่แยกแยะทิศไม่ได้ แล้วก็ไม่รู้ว่าคนที่อุ้มตัวเองในเวลานี้อยู่คือใคร

เสียใจกับค่ำคืนในลาสเวกัสแล้ว ถ้าคนที่อุ้มเธอเป็นชายแปลกหน้าล่ะ?

"คุณเป็นใครน่ะ?" เธอบ่นพึมพำ แขนเรียวยาวของเธอเกี่ยวรอบคอของเย่จิ่นถังโดยสัญชาตญาณ พยายามหาท่าที่สบายสำหรับตัวเอง

แต่ระหว่างถูกอุ้มและเคลื่อนไหวแบบนี้ก็ไม่ได้มีความสบายอะไร

"เธอหวังให้เป็นใครล่ะ?" หัวใจเย่จิ่นถังดิ่งลงเล็กน้อย ชอบตอนที่เธอเมาแล้วก็เกลียดด้วย

ตอนเมา จะทำอะไรกับเธอก็ได้ แต่กลับคิดว่าเขาเป็นคนอื่น

"อาเจิง…" เธอเอนตัวแนบหน้าอกของเขาแล้วหัวเราะเสียงต่ำ ก่อนจะเม้มริมฝีปากราวกับเขินอาย

เย่จิ่นถังที่ก้าวไปข้างหน้า เหมือนว่าความกระตือรือร้นทั้งหมดจะค่อยๆ คลายลง แอบรักมาหลายปีจะไปลืมได้เร็วได้ยังไงกัน

มีเขามาแทรก ความรู้สึกที่เธอมีต่อเย่เจิงคงจะเพิ่มขึ้น

เย่เฉียวที่เขาวางลงในผ้าแต่กลับไม่ยอมปล่อย เปิดเปลือกตาที่สวยงามและจ้องไปที่เขา จับใบหน้าของเขาเข้ามาหาตัวเอง

ลมหายใจของกันและกันค่อยๆ ประสานกัน เย่จิ่นถังมองใบหน้าที่งดงามไร้ที่ติอย่างไร้ความรู้สึก

ใบหน้านิ่ง แววตาลึกล้ำเหมือนทะเล ใบหน้าทั้งหน้าดูนอกเหนือจากความเฉยเมยก็เป็นความเศร้าโศก

"ปล่อย!"

"ไม่ปล่อย ตีฉันสิ" เธอบ่นอย่างซุกซน ใจที่สงบของเย่จิ่นถังก็เริ่มสั่นไหวอีกครั้ง

และเขาทนไม่ได้จริงๆกับการล้อเล่นและยั่วยวนอย่างไร้ยางอายของเย่เฉียว มือใหญ่จับมือเธอที่อยู่บนใบหน้าแล้วกดลงด้านข้าง

กดจูบอันอบอุ่น เย่เฉียวดูเหมือนจะพอใจจึงส่งเสียงเบาๆ หัวใจของเย่จิ่นถังชะล้างความไม่มีความสุขออกไปอีกครั้งและจับข้อมือของเธอแรงขึ้นเล็กน้อย

"เย่เฉียว ฉันเกลียดที่เธอเป็นตอนนี้จริงๆเลย" เขาโกรธ ท่าทางไม่มีสติของเธอ ในหัวคิดถึงแต่เย่เจิง

ในขณะนี้มีอารมณ์และความโกรธ เย่เฉียวเมาและสับสนจนไม่ได้ตอบ ในที่สุดเย่จิ่นถังก็ดึงผ้าห่มมาคลุมเธอและรีบเข้าห้องน้ำไป

สายน้ำเย็นยะเยือกสาดลงมา ความอยากและความปรารถนาที่ควบคุมไม่ได้เมื่อกี้ก็เริ่มสลายหายไป กระทบน้ำเย็นเป็นเวลาเกือบยี่สิบนาที เขาถึงออกจากห้องน้ำ

ไม่รู้ว่าคืนนี้เธอหัวใสหรือเกิดอะไรขึ้น ไม่แม้แต่จะเรียกอาเจิงสักคำ อย่างน้อยตอนที่พวกเขาอยู่ใกล้กันบนเตียง เธอก็ไม่เรียกสักคำ ทำให้รู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นไปอีก เย่เจิงเป็นเหมือนก้อนหินในหัวใจที่คอยทำเขารำคาญ

เมื่อเขาออกมาอีกครั้ง คนที่อยู่บนเตียงก็หลับสนิทไปแล้ว เย่จินถังสงบลงและนอนอยู่ข้างๆ เธอ ก่อนจะดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขน

เขาที่เพิ่งผ่านน้ำเย็นมา ความเย็นที่ส่งผ่านเธอไป เธอก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น

เย่จิ้นถังยกมือขึ้นลูบผมยาวของเธอแล้วหลับตา ก็แบบนี้แล้วกัน จะทำอะไรได้ล่ะ?

"เฉียวเฉียว ฉันคือใคร?"

"เย่จิ่นถัง" เธอที่สะลึมสะลืม ได้ยินคำถามก็พึมพำตอบออกไป

หัวใจของเย่จิ่นถังบีบตัว ไม่รู้ว่าสุขหรือทุกข์

Options

not work with dark mode
Reset