รักสุดหัวใจ 17 ฉันถามเธออยู่นะ ฉันไม่หล่อตรงไหน?

ตอนที่ 17 ฉันถามเธออยู่นะ ฉันไม่หล่อตรงไหน?

"ถ้ายังพูดมาก เชื่อไหมว่าฉันจะฉีกปากนาย"

ถันหรงโม่หัวเราะอย่างอดกลั้น : "ก็ได้ๆ นายไม่น่ารังเกียจ ฉันน่ารังเกียจที่สุด"

เย่จิ่นถัง: "…"

เย่เฉียวเป็นหนักขึ้นพราะเป็นหวัด ไม่ร้ายแรงอย่างที่เย่จิ่นถังคิด แต่ท่าทีเย่จิ่นถังเหมือนเธอป่วยหนัก ประหม่าจนไม่ปกติ

ร่างกายของเย่เฉียวดี คราวนี้อาจเป็นเพราะป่วยนานไป เลยต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลอีกครั้ง

หลังจากตื่นนอน เย่เฉียวก็เห็นเย่จิ่นถังอยู่ข้างๆ นึกถึงเหตุผลที่เธอเข้าโรงพยาบาล เย่เฉียวก็รู้สึกสงบขึ้นมาก

เย่จิ่นถังมาพอดี เธอเลยไม่เป็นอะไร

"…ขอบคุณ" เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบและแหบ

ใบหน้าเย่จิ่นถังเย็นชาราวกับว่าเขาไม่ต้องการสนใจเธอ เย่เฉียวยื่นมือออกไปคว้าแขนเสื้อเขา: "ถ้าคุณไม่ได้ยินฉันจะพูดอีกครั้ง"

"เย่เฉียว ไม่มีครั้งหน้าแล้ว" ใบหน้าของเย่จิ่นถังเย็นชา น้ำเสียงเขาก็เย็นชาเช่นกัน

เย่เฉียวคงรู้ เธอแอบจากโตเกียวแล้วมาที่จิ่นเฉิง เขาก็ต้องโกรธแน่

"อืม"

ถันหรงโม่ชดใช้ความประมาทของตัวเองและให้พ่อครัวที่บ้านทำโจ๊กและเครื่องเคียงตามรสนิยมของเย่จิ่นถัง

จากนั้นก็ส่งมา พอดีกันกับที่เย่เฉียวตื่น

"คุณหนูเย่ตื่นแล้วเหรอ รู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง? มีตรงไหนไม่สบายหรือเปล่า ทำไมไม่เรียกหมอ" รอยยิ้มในแววตาของถันหรงโม่ดูใจดี

"นายไปได้แล้ว" เย่จิ่นถังขัดคำพูดของถันหรงโม่โดยไม่รอให้เย่เฉียวพูด

ถันหรงโม่ระงับรอยยิ้มในแววตา : "ถ้าอย่างนั้นพวกนายก็คุยกันดีๆ แล้วกัน"

เย่จิ่นถังเขย่าเตียง เสิร์ฟอาหาร จากนั้นก็เตรียมป้อนอาหารให้เธอ

"ฉันทำเองได้" เย่เฉียวอยากจะเอื้อมมือออกไปหยิบ แต่เย่จิ่นถังก็หลบ

"ต้องกินหมดนี่ ฉันจะป้อนเธอเอง"

เย่เฉียวไม่มีแรงหรือพลังงานมากพอที่จะโต้เถียงกับเขา เขาจะกินเองก็ได้แท้ๆ

หลังจากทานอาหารเสร็จแล้ว เย่จิ่นถังก็ไม่ได้ถามอะไรเธอ เย่เฉียวไม่ชินกับความเงียบเวลาอยู่กับเขา

"ฉันจะไปถามหมอว่าเธอจะออกจากโรงพยาบาลได้ไหม" เย่จิ่นถังลุกขึ้นไปทำเรื่องของตัวเอง

"เย่จิ่นถัง คุณไม่ถามอะไรหรืออยากรู้อะไรจากสิ่งที่คุณเจอมาเหรอ?"

"เธอหวังให้ฉันถามอะไรล่ะ? แอบหาพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของเธอลับหลังตระกูลเย่ เย่เฉียว เธอกำลังคิดอะไรอยู่ ตระกูลเย่ปฏิบัติกับเธอไม่ดีเหรอ?" น้ำเสียงของเย่จิ่นถังนิ่งเรียบมาก

เย่เฉียวกำผ้าปูที่นอนไว้ในมือโดยไม่รู้ตัว : "ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น"

"ความจริงของบางเรื่องก็โหดร้ายกว่าที่คิดไว้มาก ถ้าบาดเจ็บมันจะเจ็บจริงๆนะ" น้ำเสียงของเย่จิ่นถังเคร่งขรึม

เย่เฉียวขมวดคิ้วและมอไปาที่เขา: "คุณเจออะไร?"

"ฉันไม่เจออะไรเลย แต่ฉันมีลางสังหรณ์ อย่าตรวจสอบเรื่องนี้อีกเลย มันไม่ดีกับเธอ"

ใบหน้าของเย่เฉียวซีดเล็กน้อย เธอกลัวว่าเย่จิ่นถังจะบอกเรื่องนี้กับตระกูลเย่

"อย่าพูดเรื่องนี้กับบ้านตระกูลเย่ได้ไหม? ฉันจะไปตรวจสอบอีก"

เธอโอนอ่อนอย่างรวดเร็ว ตามที่คาดไว้ เย่จิ่นถังส่งเสียงอืมเบาๆ จากนั้นก็ออกจากห้องคนไข้ไป

หลังจากเจรจากับหมอแล้ว เย่จิ่นถังก็ตัดสินใจพาเย่เฉียวออกจากโรงพยาบาล บรรยากาศในโรงพยาบาลไม่ค่อยดีนัก และเย่เฉียวเองก็ไม่ได้ชอบเช่นกัน

"รอฉันดีขึ้นก่อนแล้วค่อยกลับอเมริกา เรื่องวีซ่าก็รบกวนคุณช่วยฉันจัดการหน่อยนะ" เย่เฉียวรู้สึกเหนื่อยมาก ระหว่างสองสามวันที่อยู่ในบ้านเล็กนั่น ชื้นแฉะจนไม่สบาย

ระหว่างทางไปโรงแรม เย่เฉียวก็พูดกับเขาอย่างแผ่วเบา เย่จิ่นถังเอนตัวพิงกับเบาะ เงียบมากราวกับว่าไม่เคยได้ยินเธอเลย

เย่เฉียวอดไม่ได้ที่จะจ้องมองเขาตาโต : "เย่จิ่นถัง ตอบฉันหน่อยมันจะเป็นอะไร?"

เย่จิ่นถัง : "อืม"

เย่เฉียว : "…"

"…จิ่นถัง" เธอเรียกด้วยเสียงต่ำ

"นี่ไม่ใช่เรื่องที่คุณควรกังวล แต่อย่าทำลายร่างกายเพราะเหตุนี้ มันไม่คุ้มกับการสูญเสีย" น้ำเสียงของเย่จิ่นถังเย็นชา และส่วนใหญ่เขาจะสงบแบบนี้เสมอ

เย่เฉียวไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรในตอนนี้ เย่จิ่นถังแค่อยากให้เธอเรียกเขาแบบนั้นล่ะมั้ง วิปริตจริง

"บ้านเล็กๆ นั่น ถ้าเธอชอบ ฉันจะให้คนซื้อให้"

เย่เฉียวตกตะลึง จากนั้นก็ชาวาบเล็กน้อย : "ไม่จำเป็น นั่นเป็นบ้านที่เดิมก็จะถูกรื้อถอน มันชื้นมากแล้วก็ไม่มีอะไรดีด้วย"

เธอไม่ควรจะพูดต่อจริงๆ ถ้าตระกูลเย่รู้เข้า เธอควรอธิบายยังไงดี? ตระกูลเย่ปฏิบัติต่อเธออย่างดี เธอทำแบบนี้มันก็ไม่ถูก

เย่จิ่นถังมองใบหน้าเธอนิ่งๆ บ้านเล็กๆ นั่นต้องมีเรื่องอะไรแน่ ต้องเป็นเรื่องที่รู้เข้าแล้วรู้สึกเสียใจ

ต่อมาเย่เฉียวก็ไม่พูดอะไร จนถึงโรงแรม เย่จิ่นถังลงจากรถและอุ้มเธอออกมา อุ้มแบบนั้นจนขึ้นไปชั้นบน

"ฉันมีขา คุณปล่อยฉันได้แล้ว"

"เท่าที่ฉันรู้เกี่ยวกับเธอ ตอนนี้เธอน่าจะรู้สึกอ่อนแรง อย่างมากก็เดินจากประตูไปถึงลิฟต์ หลังจากนั้นก็คงเดินไม่ไหวแล้ว" เสียงของเย่จิ่นถังลดลงจนแผ่วเบา

เย่เฉียวคว้าแขนของเขาไว้โดยไม่รู้ตัว แล้วก็ไม่ได้พูดอีก เธออยู่ข้างเขามาหลายปี เธอรู้จักเขาไม่มากก็น้อย มันไม่มีอะไรแปลกมากนักหรอก

เมื่อกี้เดินมาถึงประตูลิฟต์ มีผู้หญิงผมยุ่งๆ วิ่งมา โชคดีที่อาซานขวางเอาไว้อย่างรวดเร็ว ไม่อย่างนั้นคงชนกับเย่จิ่นถังแล้ว

"คุณเย่ ฉันรู้ว่าฉันผิด ได้โปรด อย่าทำกับครอบครัวของเราแบบนี้เลย คนที่ทำผิดคือฉันเอง พ่อแม่ฉันไม่เกี่ยวเลย" หร่วนชิงยวิ๋นร้องห่มร้องไห้ อยากจะจับเขาไว้แล้วก็อ้อนวอนดีๆ

แต่เย่จิ่นถังกลับไม่หยุดแล้วเดินเข้าลิฟต์ไป

"ฉันนึกออกแล้ว ผู้หญิงที่จะให้ยาฉันนี่ คุณทำอะไรกับเธอน่ะ?" เย่เฉียวเงยหน้าขึ้นมองไปยังชายที่มีหนวดอ่อนๆและคางที่สวยและถาวด้วยเสียงงเรียบ

"นั่นเรื่องของถันหรงโม่ ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย"

"อ๋อ คนนั้นชื่อถันหรงโม่นี่เอง หน้าตาดีใช้ได้เลย พวกคุณเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เมื่อไร" เย่เฉียวยิ้ม เธอไม่ได้สังเกตว่าการต่อต้านของตัวเองที่มีต่อเขาค่อยๆ หายไปทีละน้อย

ร่างกายของเย่จิ่นถังแข็งทื่อเล็กน้อยและกระชับมือที่อุ้มเธอไว้จนเย่เฉียวรู้สึกเจ็บทันที

"คุณทำฉันเจ็บนะ"

"เขาหล่อมาก?"

"อื้อ ก็หล่อนะ ฉันพูดอะไรผิดล่ะ"

"งั้นเธอหมายความว่าฉันหล่อไม่พอ? ฉันไม่หล่อตรงไหน?" ความหึงหวงของเย่จิ่นถังที่อธิบายไม่ได้ ใบหน้าของเย่เฉียวเอือมและปิดปากเงียบ

เดิมทีคิดว่าเรื่องนี้จะจบแล้ว ใครจะรู้ว่าเย่จิ่นถังพาเธอเข้ามาในห้อง วางเธอลงบนโซฟาแล้วจะกดขาเธอแล้วถามต่อ

"ฉันถามเธออยู่นะ? ฉันไม่หล่อตรงไหน? หล่อบนเตียงไม่พอ?" ดวงตาของเย่จิ่นถังหรี่ลงไปหลายนาที

เย่เฉียวที่ถูกเขากดไว้เคลื่อนไหวไม่ได้ เลยทำได้เพียงมองเขาอย่างช่วยไม่ได้: "จิ่นถัง ฉันป่วยอยู่นะ คุณทำกับฉันแบบนี้คงไม่ดีเท่าไรมั้ง"

Options

not work with dark mode
Reset