ระบบเจ้าสำนัก 465 : ป่าลวงตาไม่รู้จบ

ตอนที่ 465 : ป่าลวงตาไม่รู้จบ

ตอนที่  465 : ป่าลวงตาไม่รู้จบ

ผู้อาวุโสหนิวมองไปที่คนที่เหลือก่อนจะพูดขึ้น “เข้าไปในภูเขากัน”

 

หลังจากนั้นเขาก็ปล่อยไหล่ของไป่หลิง

 

ทันทีที่เขาปล่อยมือ ไป่หลิงก็ได้พุ่งเข้าไปในภูเขาทันที โดยมีคนอื่นๆตามนางไปเพื่อคอยคุ้มกันนาง

 

ระยะห่างแค่ 10 กม.ไม่ได้ไกลสำหรับไป่หลิง,ผู้อาวุโสหนิวและคนอื่นๆ พวกเขาใช้เวลาไม่นานก็เข้าไปในภูเขาได้

 

ทุกคนต่างก็ลงไปที่พื้น พวกเขาพากันระวังตัวกันอย่างมากเพราะกลัวว่าจะทำให้ศัตรูรู้ตัว

 

ที่ทางเข้าของภูเขาจิ้งจอก ต้นไม้ส่วนมากหักโค่นลง บางต้นเอียงไปชนกับต้นไม้ใหญ่ บางต้นล้มลงไปที่พื้น มีแค่ไม่กี่ต้นที่ไม่ถูกทำลาย

 

“กลิ่นโลหิตที่นี่หนักกว่าเดิม” สีหน้าของผู้อาวุโสหนิวเคร่งเครียดยิ่งกว่าเดิม ตอนนี้รอบๆตัวเหมือนกับถูกย้อมด้วยสีแดง

 

หลังจากที่ผ่านหุบเขาเข้ามา ทิวทัศน์ด้านหน้าก็ชัดเจนขึ้น ฉากอันน่าสยดสยองได้ปรากฏขึ้นมาต่อสายตาของทุกคน

 

พื้นดินตรงหน้าเต็มไปด้วยซากตึกที่ถล่มลงมา รวมไปถึงศพที่กระจัดกระจายไปทั่ว พื้นดินถูกย้อมด้วยสีแดง แม่น้ำที่อยู่ข้างๆก็โดนย้อมสีราวกับเป็นแม่น้ำโลหิต ทำให้ทุกคนพากันขนลุก

 

จากบรรดาศพที่เกลื่อนกลาดนี้ ไม่มีใครรอดได้เลย

 

ทั้งภูเขาจิ้งจอกถูกย้อมเป็นสีแดง ทั้งเผ่าจิ้งจอกต่างก็ตายกันหมด…

 

เมื่อเห็นฉากตรงหน้าไป่หลิงก็ร้องไห้ออกมา นางพยามฝืนไว้แต่ก็ไม่อาจจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้

 

นี่คือคนของนาง !

 

ในหมู่พวกนี้ถึงกับมีคนที่นางรักและเพื่อนของนางด้วย

 

ไป่หลิงกัดฟันแน่นพยายามไม่ให้ตัวเองร้องไห้ แต่น้ำตาของนางก็ไม่อาจจะหยุดไหลได้ มันไหลออกมาราวกับเขื่อนแตก

 

ผู้อาวุโสหนิวถอนหายใจออกมา เขาต้องการที่จะปลอบนางแต่ก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกมาดี

 

โชคดีที่ไป่หลิงรวบรวมสติได้ จิตใจของนางยังไม่พังทลาย  นางยืนอยู่ที่ทางเข้าก่อนจะเดินเข้าไปอย่างช้าๆ ทุกๆที่ที่นางผ่านจะมีศพของจิ้งจอกขอบเขตหลิงซวน, ตันซวน, ว่อซวนหรือแม้แต่จิ้งจอกที่เพิ่งเกิดมา ไม่ว่าจิ้งจอกพวกนั้นจะแข็งแกร่งหรืออ่อนแอเพียงใด แต่พวกเขาก็ถูกฆ่ากันหมดไม่มีข้อยกเว้น

 

ไป่หลิงเดินไปเรื่อยๆพร้อมกับใจที่สลาย ความเจ็บปวดในใจนี้ไม่อาจจะมีใครเข้าใจได้

 

เมื่อเดินผ่านมาถึงต้นไม้ใหญ่ ไป่หลิงก็หยุดและมองไปยังศพสองศพที่อยู่ข้างๆต้นไม้ สายตาของนางแดงก่ำพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา “ลุงสาม ป้าสาม !”

 

มันคือร่างของจิ้งจอกขอบเขตหลี่ซวน ทั้งสองร่างมีโลหิตไหลออกมา ไม่ได้มีบาดแผลภายนอกชัดเจนนัก แต่อวัยวะภายในถูกทำลายหมด พวกเขาไม่ได้มีชีวิตอยู่ต่อแล้ว

 

ไป่หลิงปลอบใจตัวเองมาโดยตลอดว่าคนที่นางรักน่าจะไม่เป็นอะไร แม้ว่าพวกเขาจะพบศัตรูที่แข็งแกร่งแต่พวกเขาก็น่าจะหนีไปได้

 

ความเป็นจริงอันโหดร้ายนี้บ่งบอกว่านางคิดผิดไป คนที่นางรักไม่อาจจะหนีไปได้ ลุงสามและป้าสามที่นางรักไม่อาจจะหนีไปได้

 

“ขอโทษด้วยลุงสาม ป้าสาม ข้ามาช้าเกินไป” ไป่หลิงระเบิดน้ำตาออกมาและไม่อาจจะหยุดร้องไห้ได้

 

ผู้อาวุโสหนิวสีหน้าซับซ้อน เขารู้สึกอึดอัดขึ้นมา “นายหญิง…”

 

หลังจากที่อยู่กับไป่หลิงมากว่าครึ่งเดือน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นด้านเปราะบางของนาง ในอดีตนั้นไป่หลิงมักจะแสดงท่าทีเย็นชาและถือตัว จนตอนนี้ไป่หลิงถึงได้เผยด้านอ่อนแอของผู้หญิงออกมา พวกเขาอดรู้สึกแย่ไปด้วยไม่ได้

 

ไป่หลิงไม่ได้สนใจคนอื่นๆ นางเดินไปยังศพทั้งสองและขุดหลุมศพก่อนจะฝังทั้งสองแล้วพึมพำออกมา“ลุงสาม ป้าสาม ข้าสาบานว่าข้าจะแก้แค้นให้พวกท่าน”

 

หลังจากที่ฝังทั้งสองเสร็จ ไป่หลิงก็ไม่กล้าจะเดินหน้าต่อ นางกลัวว่านางจะได้พบกับศพญาติและเพื่อนตัวเอง

 

หลังจากนั้นสักพัก ในที่สุดนางก็รวบรวมความกล้า และเดินหน้าไปยังบ้านที่นางจำได้

 

ระหว่างทางไป่หลิงได้พบกับคนที่คุ้นตา บางคนคือเพื่อนสมัยเด็กของนาง บางคนเป็นผู้อาวุโส ไป่หลิงฝังพวกนั้นทีละคนๆ หลังจากที่ฝังทุกคนเสร็จ นางจะแสดงสีหน้าเย็นชาพร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นที่ไม่อาจจะลบมันทิ้งได้ !

 

คนในเผ่านางตายกันหมด !

 

นอกจากพ่อ, แม่และอีกไม่กี่คนที่หายตัวไป คนที่เหลือต่างก็ตายกันหมด !

 

เมื่อเห็นโศกนาฏกรรมตรงหน้า กับการที่เผ่าจิ้งจอกเกือบจะโดนลบทิ้งไปจากโลก ความเจ็บปวดและความเกลียดชังในใจของไป่หลิงก็พรั่งพรูออกมา

 

ประมาณ 1 ชม.ต่อมา ไป่หลิง,ผู้อาวุโสหนิวและคนอื่นๆก็หยุด ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวังของเผ่าจิ้งจอก

 

เมื่อเห็นวังที่พังทลาย ไป่หลิงก็กัดปากแล้วเดินหน้าต่อ นางยังคงมองไปรอบๆแต่ก็ไม่อาจจะพบร่างของราชาได้

 

หากไม่พบก็หมายความว่า ราชาและราชินีอาจจะยังมีชีวิตอยู่ !

 

“ดูเหมือนว่าพวกเขาน่าจะตายมาไม่ได้นาน” ผู้อาวุโสหนิวพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “โลหิตที่นี่ยังไม่แห้ง ด้วยอากาศที่ร้อนแบบนี้โลหิตควรจะแห้งไปแล้ว เวลาน่าจะยังผ่านไปไม่เกิน 3 วันหรืออาจจะแค่ 2 วัน”

 

ในอีกความหมายคือ ตอนที่เผ่าจิ้งจอกโดนโจมตีอาจจะเป็นวันนี้หรือไม่ก็เมื่อวาน

 

ไป่หลิงหยุดร้องไห้ น้ำตาของนางแห้งเผือดไปทันที นางพูดขึ้นด้วยสีหน้าเฉยชา “ผู้อาวุโสหนิว ท่านได้ข้อมูลอะไรมาบ้าง?”

 

“คนร้ายไม่น่าจะเป็นสัตว์อสูร” ผู้อาวุโสหนิวพูดขึ้นมาอย่างใจเย็น “การที่ท่านขึ้นเป็นนายหญิงของเผ่าสัตว์อสูร ราชาสัตว์อสูรได้ส่งคนไปแจ้งสัตว์อสูรทุกตัวในเผ่าเมื่อครึ่งเดือนก่อนแล้ว ด้วยระยะเวลาที่นานขนาดนี้ ก็เพียงพอที่สัตว์อสูรทางตะวันตกจะได้รับข่าว ตราบใดที่พวกเขาไม่ได้โง่ พวกเขาก็ไม่กล้าจะทำแบบนี้”

 

เฉินกูคือตัวตนสูงสุดของเผ่าสัตว์อสูร คำสั่งของเขาคือลิขิตของสวรรค์ เผ่าสัตว์อสูรไม่มีทางกล้าขัดคำสั่งเขา

 

ไป่หลิงคือศิษย์สายตรงของเฉินกู นางคือหนึ่งในสามนายน้อยของเผ่าสัตว์อสูร เป็นธรรมดาที่เผ่าจิ้งจอกจะได้รับประโยชน์ไปด้วย มันจะมีสัตว์อสูรมาโจมตีเผ่าจิ้งจอกได้ยังไง ?

 

“ท่านหมายความว่าคนร้ายคือมนุษย์งั้นรึ?”  สายตาของไป่หลิงเย็นชายิ่งกว่าเดิม

 

ผู้อาวุโสหนิวพูดขึ้น “มนุษย์กับมังกรอาจจะเป็นไปได้ แน่นอนว่าโอกาสที่จะเป็นมนุษย์นั้นมีมากกว่า”

 

เผ่ามังกรยากจะมายังทวีปป่า นี่ไม่ต้องนับการมาถึงภูเขาจิ้งจอกและเขตของเผ่าจิ้งจอก ดังนั้นผู้อาวุโสหนิวจึงเดาว่าคนร้ายน่าจะเป็นมนุษย์

 

ผู้อาวุโสหนิวเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะพูดต่อ “นายหญิง กลับไปที่ป่าหวงหยวนและบอกกับราชาสัตว์อสูรกันก่อน ให้ราชาสัตว์อสูรตัดสินใจดูก่อน”

 

เรื่องที่น่ากังวลที่สุดคือเผ่าจิ้งจอกจะสูญพันธุ์ในไม่ช้า และคนร้ายอาจจะยังหนีไปยังไม่ไกล หากคนร้ายรู้ว่าพวกเขาอยู่ที่นี่ พวกเขาก็จะตกอยู่ในอันตราย

 

มันไม่สำคัญว่าพวกเขาจะตายหรือไม่ แต่พวกเขาไม่อาจจะปล่อยให้ไป่หลิงต้องเป็นอันตราย แม้แต่น้อยไม่ได้!

 

“ใช่ นายหญิง โลหิตของเผ่าจิ้งจอกจะไม่เสียเปล่า” ผู้อาวุโสหลางพูดขึ้นมา “ไม่ว่าศัตรูจะเป็นใคร ราชาสัตว์อสูรก็จะมอบความยุติธรรมให้กับท่านแน่!”

 

ไป่หลิงเงียบไป นางหวังว่านางจะมีความสามารถมากพอที่จะแก้แค้นด้วยตัวเอง แต่ก็น่าเศร้าที่นางพบว่านางไม่ได้มีความสามารถเช่นนั้นและนางก็ไม่รู้ด้วยว่าใครกันที่เป็นศัตรู ต่อให้นางรู้ว่าศัตรูเป็นใครและรู้ว่าศัตรูอยู่ที่ไหนแต่นางก็ไม่อาจจะทำอะไรได้ เพราะคนที่ทำลายเผ่าจิ้งจอกได้ อย่างน้อยก็ต้องอยู่ขอบเขตตุ้นซวนและแข็งแกร่งกว่านักสู้ขอบเขตตุ้นซวนทั่วไป ด้วยความแข็งแกร่งของนางในตอนนี้แล้ว การไปเผชิญหน้ากับคนแบบนั้นเท่ากับรนหาที่ตาย

 

สักพักไป่หลิงก็สูดหายใจเข้าลึกๆและพูดขึ้นมา “ได้ กลับกันเถอะ”

 

ตอนนี้นางได้แต่เก็บความแค้นนี้เอาไว้ และกลับไปยังป่าหวงหยวนเพื่อขอให้อาจารย์ทวงคืนความยุติธรรมให้

 

“แต่ข้ามีเรื่องหนึ่งที่ต้องทำก่อนจะไป” ไป่หลิงมองเข้าไปในป่า ลึกเข้าไปในป่านั้นมีถ้ำอยู่ “ข้าต้องการรับการสืบทอดของจิ้งจอกลวงตา!”

 

พ่อแม่นางหายตัวไป คนในเผ่าต่างก็ตายซึ่งทำให้ไป่หลิงปวดใจเป็นอย่างมาก นางอยากคว้าโอกาสทุกอย่างเพื่อให้นางพัฒนาตัวเองขึ้น หากนางทำได้ นางหวังว่านางจะหาคนร้ายได้ด้วยความสามารถของตัวเอง เพื่อแก้แค้นให้กับคนของนาง

 

คนอื่นๆอยากจะพูดบางอย่างออกมา แต่สุดท้ายก็ได้แต่กลืนคำพูดพวกนั้นลงไปเมื่อเห็นสีหน้าแน่วแน่ของไป่หลิง พวกเขาคิดว่าไม่ว่าจะกล่อมนางยังไง ก็ไม่อาจจะทำให้นางเปลี่ยนใจได้

 

“ได้ นายหญิงต้องรีบและระวังตัวด้วย” ผู้อาวุโสหนิวถอนหายใจออกมา ก่อนจะพยักหน้าและพูดขึ้น

 

ไป่หลิงเดินเข้าไปในป่า ถ้ำที่ซ่อนอยู่ในป่าคือพื้นที่ที่เป็นความลับที่สุดในเผ่าจิ้งจอก มันมีการสืบทอดของจิ้งจอกลวงตาอยู่ มันคือพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าจิ้งจอก เรียกได้ว่าเป็นพื้นที่หวงห้ามก็ว่าได้ ภายใต้สถานการณ์ปกติแล้วห้ามให้ใครเข้ามาที่นี่ แม้แต่คนเก่าแก่ของเผ่า แม้แต่พ่อกับแม่ของนางก็ไม่อาจจะเข้ามาที่นี่ได้ง่ายๆ แต่ตอนนี้เผ่าจิ้งจอกถูกทำลายไปแล้ว เป็นธรรมดาที่กฎพวกนี้จะถูกมองข้าม

 

แน่นอนว่าถึงแม้เผ่าจิ้งจอกจะไม่ถูกทำลาย แต่ไป่หลิงก็ได้ปลุกสายเลือดจิ้งจอกลวงตาขึ้นมาแล้ว จึงมีสิทธิ์จะเข้าไปในถ้ำนั้น

 

ไม่นานพวกเขาก็เดินเข้ามาภายในป่า ต้นไม้ที่นี่เหมือนกับหลีกทางให้พวกเขาเปิดทางเข้าสู่โลกใหม่ ต้นไม้ที่ดูว่างเปล่ารอบๆเปลี่ยนเป็นป่าหนาทึบ ไม่ว่าจะมองไปที่ไหนก็พบแต่ต้นไม้ที่หน้าตาเหมือนกันหมด แม้แต่กิ่งไม้ก็เหมือนกันด้วย

 

“นี่…ภาพลวงตารึ?” พวกผู้อาวุโสหนิวพากันหรี่ตาลง พวกเขายื่นมือออกไปจับต้นไม้รอบๆตัว เมื่อสัมผัสกับต้นไม้แล้วความคิดที่มีในหัวก่อนหน้านี้ก็ถูกสลัดทิ้งไปในทันที “ไม่ นี่มันของจริง !”

 

ผู้อาวุโสหลางและคนอื่นๆพากันทึ่งในใจ พวกเขามีชีวิตอยู่กันมานานแต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้พบกับเรื่องที่แปลกประหลาดแบบนี้

 

“เผ่าจิ้งจอกของเรามีคำพูดเอาไว้ว่า ระดับสูงสุดของทักษะภาพลวงตาคือความจริง!” ไป่หลิงพูดขึ้นมาอย่างใจเย็น “แค่ไม่มีใครฝึกฝนทักษะภาพลวงตาไปถึงระดับนั้นได้ แม้แต่บรรพบุรุษของเผ่าจิ้งจอกก็ไม่อาจจะทำแบบนั้นได้ ป่าแห่งนี้มีชื่อที่พิเศามาก นั่นก็คือป่าลวงตาไม่รู้จบ มันคือสิ่งที่ผู้อาวุโสจิ้งจอกลวงตาศักดิ์สิทธิ์ได้สร้างขึ้นหลายปีก่อน แม้ว่ามันจะเป็นภาพลวงตาแต่ก็ใกล้เคียงกับความเป็นจริง แม้แต่ในเผ่าของเราก็มีไม่กี่คนที่รู้ถึงความลึกลับของป่านี้…”

 

ผู้อาวุโสหนิวและคนอื่นๆสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย พวกเขารีบตามไป่หลิงไปทันทีเพราะกลัวว่าจะหลง

 

แต่เดินมาได้ไม่กี่ก้าวก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้นมาจากด้านหลังพวกเขา “ฮิฮิฮิฮิ…ข้าเข้ามาได้อย่างง่ายดาย สาวน้อยต้องขอบคุณเจ้าจริงๆ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมแม้แต่ข้า ก็ไม่อาจจะเข้าใจภาพลวงตานี้ได้ มันถูกสร้างขึ้นโดยจิ้งจอกลวงตาศักดิ์สิทธิ์ มันคือสุดยอดสัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์ในตำนาน น่าทึ่ง น่าทึ่งจริงๆ ”

 

ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1-1579 อ่านนิยาย

ระบบเจ้าสำนัก … เรื่องย่อ

จางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร

มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ

ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์

หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก”

เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ

ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้

ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน…

Options

not work with dark mode
Reset