ระบบเจ้าสำนัก 453 : วันแห่งการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 453 : วันแห่งการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่  453 : วันแห่งการเปลี่ยนแปลง

 

ในท้องฟ้า ผู้เฒ่าฝางได้ปรับตัวกับพลังใหม่ที่ได้มาโดยไม่ลังเล ตอนที่เขาคุ้นกับพลังของยอดฝีมือระดับสูงขั้นกลาง เขาก็ได้มุ่งหน้าไปยังสมาคมค่ายกลที่เขตกลาง

 

แต่ผู้เฒ่าฝางไม่รู้ว่า สำนักราชสีห์คลั่งอยู่ไม่ห่างจากภูเขาเยี่ยนตั้งมากนัก หัวหน้านิกายอยู่ขอบเขตตุ้นซวนขั้นต่ำ ตอนที่ผู้เฒ่าฝางทะลวงผ่านไปได้ พลังอันน่ากลัวที่ระเบิดออกมาก็ทำให้เขาสนใจ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที

 

“พลังที่แข็งแกร่ง….พระเจ้า ตลอดสิบวันมานี้นี่เป็นครั้งที่สองแล้ว!”  เริ่นเทียนสือตะลึงไป  “ยอดฝีมือระดับสูงสุดหน้าใหม่ถึงสองคน ทวีปป่าแห่งนี้จะต้องปั่นป่วนขึ้นมาแน่ ! ”

 

แค่สิบวันก็มียอดฝีมือระดับสูงใหม่ถึงสองคน มันยากที่จะคิดได้ว่าจะมียอดฝีมือระดับสูงสุดกำเนิดขึ้นมามากแค่ไหน

 

ทักษะจี๋อู่ขั้นต่ำนี้ราวกับภัยพิบัติ มันทำให้ผู้บ่มเพาะมนุษย์พัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะพวกสัตว์ประหลาดเฒ่าที่ติดอยู่ในขอบเขตตุ้นซวนขั้นสูงมาหลายพันปี พวกเขาทะลวงผ่านขึ้นมายังขอบเขตตุ้นซวนขั้นสูงสุดได้ คนที่โด่งดังอย่างผู้เฒ่าฝางก็ทะลวงผ่านได้ และได้เป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นกลาง

 

การปรากฏตัวของยอดฝีมือระดับสูงสุดหน้าใหม่นี้ทำให้สมดุลในอดีตพังทลายลงไป รูปแบบเดิมที่เคยใช้มาต่างก็ถูกพลิกผัน

 

“เฮ้อ!” เริ่นเทียนสือรู้สึกเหนื่อยใจ เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา สายตาเขาเต็มไปด้วยความกังวล

 

การที่มียอดฝีมือระดับสูงสุดของมนุษย์เพิ่มขึ้นมานั้น มีทั้งเรื่องดีและเรื่องร้าย

 

มนุษย์แข็งแกร่งขึ้นมา ด้วยการเพิ่มยอดฝีมือระดับสูงสุดเพิ่มขึ้นมานั้น พวกเขาก็ไม่ต้องกลัวเผ่าสัตว์อสูรและเผ่ามังกรอีกต่อไป และอาจจะขึ้นไปแทนที่เผ่ามังกรที่ปกครองทวีปป่ามาตลอดหลายปี ในเวลาเดียวกันการที่ยอดฝีมือระดับสูงสุดคนใหม่กำเนิดขึ้นมา มันก็จะนำไปสู่การพลิกผันรูปแบบเดิม หลายขุมกำลังจะพัฒนาขึ้นมาแทนที่ขุมกำลังเก่า ดังนั้นมันต้องเกิดความวุ่นวายขึ้นแน่

 

ความวุ่นวาย !

 

ทวีปป่านี้กำลังจะเปลี่ยนแปลงไป !

 

แม้ว่าเขาจะส่งคนไปหาข่าวเรื่องนี้ แต่เริ่นเทียนสือก็มั่นใจว่าทวีปป่าแห่งนี้ต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงที่คาดไม่ถึง !

 

“ข้าควรจะไปทางไหนดี?” เริ่นเทียนสือสับสนนิดๆ เขาไม่รู้ว่าคนของเขาจะเอาตัวรอดในโลกที่เต็มไปด้วยปัญหาแบบนี้ได้ยังไง  พวกยอดฝีมือระดับสูงสุดที่ทะเยอทะยานจะสร้างขุมกำลังใหม่ขึ้นมา ขุมกำลังนั้นต้องการคนจำนวนมากและคนของพวกเขาก็คือเป้าหมายที่ดี

 

คนของนิกายราชสีห์คลั่งคือเค้กก้อนโต ที่อาจจะถูกใครชิงไปตอนไหนก็ได้

 

ณ.สำนักงานใหญ่ของพันธมิตรร้อยสำนักตั้งอยู่บนภูเขาแห่งหนึ่ง

 

ลั่วซู่หยาง, ชุยเจี่ยน,หงจินเป่าและหยางเพ้ยอันได้เข้าพบปะกันภายในสวนที่นั่น

 

“พวกเจ้าได้รับข่าวกันรึยัง?” ลั่วซู่หยางพูดเปิดประเด็นทันที  สีหน้าของเขาดูเคร่งเครียดอย่างมาก

 

ชุยเจี่ยน,หงจินเป่าและหยางเพ้ยอันต่างก็พยักหน้าด้วยความหนักใจ

 

ลั่วซู่หยางพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มขมขื่น  “ไม่คิดว่าเราจะประมาททักษะจี๋อู่ขั้นต่ำเกินไป ใช้เวลาแค่สิบวันก็สร้างยอดฝีมือระดับสูงสุดได้อย่างน้อย 8 คน…”  เขาเคยมองข้ามทักษะจี๋อู่ขั้นต่ำ หลังจากที่เผยแพร่ทักษะนี้แล้ว ก็มียอดฝีมือระดับสูงสุดหน้าใหม่เพิ่มขึ้นมาหลายคน แต่เขาไม่คิดว่าจำนวนยอดฝีมือระดับสูงสุดนั้นจะมากแบบนี้ คนพวกนั้นกำเนิดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว  “มียอดฝีมือระดับสูงสุดที่เป็นที่รู้จักกันดีถึง 8 คน คนอื่นๆข้าไม่อาจจะรู้ได้ว่ามีมากเท่าไหร่ …”

 

เรื่องนี้หนักหนากว่าที่หลายคนคิดเอาไว้

 

“ใครจะไปคิดว่าทวีปป่าจะมีสัตว์ประหลาดเฒ่าอยู่มากมายแบบนี้!” หยางเพ้ยอันยิ้มออกมาอย่างขมขื่น ครั้งนี้เขาคิดผิดจริงๆ “เขตกลางมีจักรวรรดิอยู่ 3 แห่ง สองแห่งมียอดฝีมือระดับสูงสุดกำเนิดขึ้นมา ส่วนที่เหลือเดาว่าอาจจะมีสัตว์ประหลาดเฒ่าซ่อนตัวอยู่ แต่ยังทะลวงผ่านไม่ได้….สมาคมที่เหลือก็น่าจะมีคนแบบนี้เช่นกัน ตอนนี้ผ่านไปแค่ 10 วัน บางทีอีก 1 เดือน พวกยอดฝีมือระดับสูงสุดอาจจะเพิ่มขึ้นมาเป็นสองเท่า!”

 

ทักษะจี๋อู่ขั้นต่ำเพิ่งจะถูกเผยแพร่ไป การบ่มเพาะมันแน่นอนว่าจะทำให้แข็งแกร่งขึ้น

 

อันที่จริงผู้บ่มเพาะส่วนมากนั้นหลังจากที่บ่มเพาะทักษะจี๋อู่ขั้นต่ำไป ระดับการบ่มเพาะไม่ใช่แค่ไม่พัฒนาแต่ยังถดถอยลง มันแย่กว่าทักษะที่พวกเขาบ่มเพาะ แต่ตอนที่พวกเขาถดถอยนั้น พวกเขาก็พบว่าการดูดซับปราณทำได้ดีกว่าเดิมและทำให้บ่มเพาะได้เร็วกว่าเดิมได้

 

ยอดฝีมือขอบเขตตุ้นซวนขั้นสูง หลังจากที่ได้บ่มเพาะทักษะจี๋อู่ขั้นต่ำแล้ว พวกเขาก็ถดถอยไปอยู่ขอบเขตตุ้นซวนขั้นกลาง บางคนอาจจะร่วงลงไปถึงขั้นต่ำเลยก็มี

 

ตามการสำรวจของเหล่าเซียน ยอดฝีมือระดับสูงสุดหน้าใหม่พวกนี้มีอย่างหนึ่งที่เหมือนกันคือ อายุมาก!

 

ทั้ง 8 คนอายุไม่ต่ำกว่า 3,000 ปี คนที่เด็กที่สุดอายุเกือบ 4,000 ปีและคนที่แก่ที่สุดอายุมากกว่า 7,000 ปี

 

คนพวกนี้คือสัตว์ประหลาดเฒ่า แม้แต่ลั่วซู่หยางก็ยังเด็กกว่ายอดฝีมือระดับสูงสุดหน้าใหม่ทั้ง 8 เหล่านั้น คนที่อายุเยอะที่สุดนั้นอายุพอๆกับราชามังกร ในตอนที่เป้ยหลงยังมีชีวิตอยู่ เขาก็เกิดขึ้นมาแล้ว เขาอยู่มาจนถึงปัจจุบันได้เกือบ 7,000 ปีนี้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าทึ่ง

 

“จำนวนเพิ่มเป็นสองเท่า…”  เมื่อได้ยินที่หยางเพ้ยอันบอกมา ลั่วซู่หยางและคนอื่นๆก็พากันกังวล

 

กดดันจริง !

 

ทุกคนต่างก็รู้สึกหนักใจ !

 

เรื่องมันพัฒนาจนมาถึงจุดที่พวกเขาไม่อาจจะควบคุมได้ ยอดฝีมือระดับสูงสุดทั้ง 8 คนนั้น พวกเขาไม่อาจจะควบคุมได้อีกต่อไป เพราะทั้ง 8 คือยอดฝีมือระดับสูงสุดเหมือนกันกับพวกเขา มีคนหนึ่งทัดเทียมกับลั่วซู่หยางอีก 7 คนก็ทัดเทียมกับเซียนโอสถ หากต้องสู้กันจริงๆ พวกเขาทั้งสี่อาจจะไม่ใช่คู่มือของทั้ง 8 คนนั้น

 

แน่นอนว่านั่นคือการที่ทั้ง 8 คนร่วมมือกัน ถ้าไม่เป็นเช่นนั้นเซียนทั้งสี่ก็มั่นใจว่าจะจัดการกับพวกนั้นได้ทีละคนๆ

 

“เราไม่อาจจะรับมือกับ 8 คนนี้ได้ หากจำนวนมันเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า….” ชุยเจี่ยนรู้สึกหนักใจ เขาเริ่มอึดอัดกับความรู้สึกแบบนี้

 

ลั่วซู่หยางเงียบไปก่อนจะถามขึ้นมา  “ พวกนั้นมีท่าทีอะไรรึไม่?”

 

อันที่จริงปัญหานี้ลั่วซู่หยางมีคำตอบอยู่ในใจอยู่แล้ว แต่เขาอยากที่จะฟังความคิดเห็นจากคนอื่นๆเพื่อเขาจะได้สงบสติอารมณ์ลงได้

 

ตอนนี้ทั้งสี่คือยอดฝีมือระดับสูงสุดของมนุษย์แค่ในนาม สามสมาคมใหญ่มีกองกำลังไปทั่วทวีปป่า แทบทุกคนรับรู้ได้ถึงอำนาจของพวกเขา ยอดฝีมือระดับสูงสุดหน้าใหม่พวกนี้ หากต้องการมาแบ่งอำนาจที่พวกเขามี งั้นก็ต้องเผชิญหน้ากับพวกเขาหรือเอาชนะพวกเขาเพื่อขึ้นมาแทนที่

 

เซียนโอสถพูดขึ้นมา  “พวกนั้นไม่ได้มีท่าทีอะไร แต่ข้ามั่นใจว่าพวกนั้นพร้อมที่จะเคลื่อนไหวแล้ว บางทีพวกนั้นอาจจะมาหาเราตอนไหนก็ได้…”

 

ไม่ใช่แค่ชุยเจี่ยน แต่ลั่วซู่หยางก็คิดแบบนั้น

 

พวกเขาไม่เชื่อว่าพวกนี้จะยอมอยู่เฉย แม้ว่าจะมีบางคนที่ไม่สนใจโลก แต่พวกคนที่ไม่สนใจอำนาจนั้นมีน้อยคนนัก คนส่วนมากต่างก็มีความต้องการของตัวเอง

 

“พวกเขารออยู่” หยางเพ้ยอันพูดขึ้นมา “พวกเขารอยอดฝีมือระดับสูงสุดหน้าใหม่กำเนิดขึ้นมาเพิ่ม และคงความเสถียรเอาไว้ จากนั้นพวกเขาจะร่วมมือกันแล้วค่อยมาหาเรา…บางทีเราอาจจะกังวลเกินไป ยังไงซะพวกนั้นก็เป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดหน้าใหม่ พวกเขาไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับการเป็นยอดฝีมือระดับสูงสุด พวกเขาไม่รู้ระดับของยอดฝีมือระดับสูงสุด หากพวกเขารู้ว่าแข็งแกร่งไม่ด้อยไปกว่าเรา ข้ากลัวว่าพวกนั้นคงลงมือไปแล้ว….”

 

เซียนทั้งสี่ของมนุษย์ไม่ใช่คนธรรมดา การเผชิญหน้ากับพวกเขาต้องมีผลกระทบตามมา

 

ในมุมมองของพวกเขาแล้ว พวกที่เพิ่งก้าวเข้ามาในประตูระดับสูงสุด อาจจะมองว่าถึงร่วมมือกันก็ไม่อาจจะเป็นคู่มือของทั้งสี่คนได้ ดังนั้นพวกนั้นจึงไม่เร่งรีบและเตรียมจัดหาคนเพื่อมาเจรจากับเซียนทั้งสี่เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นมา

 

คนที่มีอายุระดับพวกเขาแล้วใครบ้างที่ไม่มีหัวคิด ? ใครบ้างที่จะไม่ระวังตัว ?

 

พวกเขาไม่มีทางลงมือแบบไม่คิดจนกว่าพวกเขาจะมั่นใจ !

 

“รูปแบบตอนนี้ยังไม่มั่นคง ยอดฝีมือระดับสูงสุดหน้าใหม่อาจจะกำเนิดขึ้นมาตอนไหนก็ได้ แม้ว่าพวกเขาจะมาเจรจากับเราแต่ไม่อาจจะหวังกับผลลัพธ์ได้…ยังไงซะยอดฝีมือระดับสูงสุดพวกนั้นก็ไม่น่าจะตกลง!” หยางเพ้ยอันวิเคราะห์ต่อ  “เพื่อความปลอดภัยแล้ว พวกนั้นถึงยังไม่ลงมือ ดังนั้นเราจึงรักษาอำนาจของเราไว้ได้ในตอนนี้ แต่นั่นก็แค่ภายนอก….”

 

ใช่ แค่ภายนอก ทวีปป่าดูสงบก็จริงแต่จริงๆแล้วมันเกิดความวุ่นวายขึ้นมา

 

สามสมาคมใหญ่และพันธมิตรยังคงมีสิทธิในการปกครองทวีปป่า !

 

แต่ภายใต้ความสงบที่ภายนอก ผู้คนต่างก็พากันกังวลและลนลานราวกับเด็กน้อย บางคนอยากที่จะลงมือแต่ก็รอแค่เพียงโอกาส

 

ในหัวของทั้งสี่คนนั้น พวกเขาเข้าใจเรื่องนี้ดีว่า สมดุลนี้จะพังลงตอนไหนก็ได้ขึ้นอยู่กับเวลา

 

“เราจะมองข้ามและรอปัญหาเข้ามารึ?” ลั่วซู่หยางอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา บอกได้ว่าวิกฤตนี้พวกเขาสร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง  “ยุคสมัยของเซียนทั้งสี่คงอยู่ต่อไปไม่ได้ เฮ้อ ! ”

ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1-1579 อ่านนิยาย

ระบบเจ้าสำนัก … เรื่องย่อ

จางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร

มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ

ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์

หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก”

เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ

ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้

ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน…

Options

not work with dark mode
Reset