ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง 221 ตัวก่อปัญหา!

ตอนที่ 221 ตัวก่อปัญหา!

เศษอิฐเศษหินปลิวว่อนไปทั่วตำหนักหยู่เฉวียนกง ผู้คนต่างก็รีบหนีออกไปนอกตำหนัก พอพึ่งจะออกมาได้ก็ได้เสียงโครมครามดังกึกก้องติดๆ กัน

 

 

ในตอนนั้น ปีกตำหนักด้านหนึ่งก็ทลายลงมา ใต้ซากที่ถล่มยังมีร่างของศพคืนชีพ

 

 

ก้อนหินขนาดมหึมามากมายถูกถมลงไปบนร่างของเขา หินแต่ละก้อนมีหมอกสีแดงโอบล้อมอยู่ เขาตวัดแส้ครึ่งท่อนในมือออกไปไม่ยอมหยุด แต่ก็ไม่อาจฟาดก้อนหินเหล่านั้นออกไปได้

 

 

หมอกสีแดงบนก้อนหินแต่ละก้อนรวมตัวกันจนเป็นร่างเงา ลายล้อมอยู่โดยรอบ ทั้งยังกดทับเขาเอาไว้อย่างแน่นหนา

 

 

องครักษ์ประจำตัวของเหยียนเฉียวหลัวเองก็ตกอยู่ในรัศมีการโจมตีไปด้วย แขนข้างหนึ่งมีเลือดไหลโทรม ยังดีที่ยันต์โลหิตของตู๋กูซิงหลันมิได้พุ่งเป้ามาที่เขา เขาหอบเอาแขนที่บาดเจ็บหลบออกมา กลับไปยังข้างกายของเหยียนเฉียวหลัว

 

 

แล้วรีบลากเหยียนเฉียวหลัวที่ยังคงยืนดูด้วยความตกตะลึงให้หลบหนีไปยังจุดที่ปลอดภัย

 

 

สาวน้อยที่อยู่ใต้เงาจันทร์ผู้นั้น ยังคงสาดประกายตาเย็นยะเยือกออกมา เส้นผมยาวสลวยทั่วทั้งศีรษะโบยบิน ชุดกระโปรงตัวหลวมกว้างเบ่งพองอยู่ท่ามกลางสายลม มุมปากของนางยังคงมีเลือดไหล รอยยิ้มของนางทั้งน่าหวาดผวาและดูลึกลับ

 

 

ร่างของนางลอยขึ้นสูงประหนึ่งกำลังเหยียบอยู่บนดวงจันทราสีเลือด มือของนางถูกยกขึ้นสูงแต่ละทีที่กดลงมาอย่างหนักตำหนักหยู่เฉียนกงกว่าครึ่งหลังก็ต้องรับเคราะห์ แรงอัดบดขยี้ลงไปบนศีรษะที่ดำและโล้นของคนชุดดำจนเขาไร้แรงจะต้านทาน

 

 

ยามนี้ ผู้คนในวังทั้งหมดต่างตกอยู่ในความตื่นตระหนก ตัวตำหนักหยู่เฉียนกงคล้ายเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ ความสั่นสะเทือนรุนแรงเสียจนแม้แต่ตำหนักที่อยู่ใกล้เคียงก็ยังโยกคลอนไม่ยอมหยุด

 

 

ต้าโจวก่อตั้งแว่นแคว้นมานานหลายปี แต่ว่าก็ไม่เคยเกิดเหตุแผ่นดินไหวมาก่อน

 

 

คราวนี้กลับรุนแรงจนถึงขนาดที่ว่าผู้คนกว่าครึ่งวังหลวงต่างก็ออกมาชมดูกันจนหมดแล้ว

 

 

“โอ้ ในวังมีศพคืนชีพปรากฎตัว ท่านเซียนกำลังกำราบมันอยู่”

 

 

“จริงด้วย จริงด้วย ฝ่าบาททรงสวดขอให้เทพยาดาฟ้าดินคุ้มครองอย่างยากลำบาก พวกเราสมควรรู้สำนึกตนให้ดี จะต้องให้ความเคารพนอบน้อมต่อท่านเซียน”

 

 

คนในตำหนักหยู่เฉียนกงต่างก็พากับจับกลุ่มชมดูอยู่รอบๆ

 

 

“อ้ายย่าห์ พวกเจ้าไม่เห็นหรือยังไงว่าศพคืนชีพชราผู้นั้นน่ากลัวขนาดไหน ดูรูปร่างหน้าตานั้นสิ สามารถทำให้คนตกใจตายได้จริงๆ”

 

 

“จริงด้วย เมื่อครู่ข้าอยู่ใกล้ๆ จึงเห็นได้อย่างชัดเจน หากมิใช่ว่ามันถูกท่านเซียนกำราบเอาไว้ ก็ไม่รู้ว่าวันนี้ในตำหนักหยู่เฉียนกงจะเกิดเภทภัยอะไรขึ้นมาบ้าง”

 

 

มีบางคนถามขึ้นมาว่า “อยู่กันดีๆ ทำไมตำหนักหยู่เฉียนกงถึงเกิดมีปีศาจออกมาอาละวาทเช่นนี้ได้กัน?”

 

 

เนื่องเพราะก่อนหน้านี้เคยมีเหตุที่พบว่าเสียนไท่เฟยที่จริงก็คือศพคืนชีพ เรื่องราวโด่งดังจนคนรู้กันไปทั่วทั้งเมืองหลวง ดังนั้นยามนี้เมื่อได้เผชิญกับศพคืนชีพผู้นี้อีกคน พวกเข้าจึงมิได้ประหลาดใจจนเกินไป

 

 

เพียงแต่พากันหวาดกลัวเท่านั้น

 

 

“ศพคืนชีพชราผู้นี้เกี่ยวข้องอันใดกับเสียนไท่เฟยหรือไม่?”

 

 

ผู้คนในวังต่างก็อดจะแสดงความสงสัยออกมาไม่ได้

 

 

“เขามาที่ตำหนักหยู่เฉียนกง หรือว่าเพื่อเอาสมบัติล้ำค่าขององค์หญิงแห่งแคว้นเหยียน?”

 

 

พวกคนในตำหนักหยู่เฉียนกงต่างรีบอธิบายออกไป “แผนที่สมบัติขององค์หญิงแห่งแคว้นเหยียนหายไปแล้ว เมื่อครู่ยังตามหากันไปทุกที่อยู่เลย เรื่องนี้เจ้าศพคืนชีพชราผู้นั้นจะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน”

 

 

ทันใดนั้นหยวนเฟยแห่งตำหนักฉางซินกงก็รุดมาถึง ดึกดื่นป่านนี้แล้วกระทั่งรองเท้านางก็ยังไม่ทันจะได้สวมให้ดี ส้นเท้าหลังยังออกมาด้านนอกครึ่งหนึ่ง นางรีบเงยหน้าขึ้นไปมองดูสถานการณ์เหนือตำหนักหยู่เฉียนกงในทันที

 

 

พอกวาดตามองขึ้นไป นางก็เกือบจะหัวใจวายตาย

 

 

สาวน้อยที่อยู่ใต้แสงจันทร์ผู้นั้น ถึงแม้ว่าไม่อาจจะมองเห็นใบหน้าได้อย่างชัดเจน และเห็นเพียงเค้าโครงของใบหน้าที่เลือนลาง แต่ด้วยความคุ้นเคย ก็ทำให้นางคิดถึงคนผู้หนึ่งขึ้นมาได้ในทันที

 

 

นางรีบสะกดหัวใจที่ตื่นตระหนกลงไป แล้วหันไปมองดูศพคืนชีพชราที่ถูกกดทับเอาไว้ จุดประเด็นขึ้นมาว่า “ข้าเห็นว่านี่จะต้องเป็นฝีมือของศพคืนชีพที่คิดจะฉวยโอกาสก่อเรื่อง เขาขโมยแผนที่กรุสมบัติขององค์หญิง คิดจะใส่ความแคว้นต้าโจวอย่างอยุติธรรม ไม่แน่ว่าอาจจะมีแผนร้ายใดๆ ตามมาอีกก็ได้!”

 

 

พอเห็นหยวนเฟยกล่าวเช่นนี้ หัวใจของผู้คนที่กำลังเกิดข้อสงสัยต่างก็ได้รับคำตอบไปในทางเดียวกัน

 

 

ศพคืนชีพชราผู้นี้เป็นพวกเดียวกันกับเสียนไท่เฟย คิดจะก่อปัญหาขึ้นในต้าโจว!

 

 

เหยียนเฉียวหลัวที่อยู่ภายใต้ความคุ้มครองของซิวก็เดินเข้ามาใกล้

 

 

ทันทีที่มองเห็นหยวนเฟยสายตาของนางก็ทอประกายรังเกียจออกมา นางเคยไปยังดินแดนหนานเจียง ที่นั่นมีแต่คนพื้นเมืองหยาบกระด้าง ไม่แบ่งชนชั้นวรรณะ เป็นบ้านป่าแดนเถื่อนขนานแท้

 

 

ก่อนที่จะมายังเมืองหลวง เรื่องที่จีเฉวียนมีพระสนมอยู่เท่าไหร่ ฐานะเบื้องหลังของพระสนมแต่ละคนเป็นเช่นไร นางล้วนทำการสืบเสาะมาแล้วอย่างละเอียด

 

 

รวมไปถึงภาพของพวกนางแต่ละคน นางก็ผ่านตามาหมดแล้ว

 

 

ยามนี้พอได้เห็นหน้าหยวนเฟย ก็ย่อมรู้จักฐานะของนาง ว่ากันตามจริงแล้ว ในวังหลังของจีเฉวียนมีสนมอยู่อย่างมากมาย แต่ที่ไม่เหมาะสมกับฐานะของเขามากที่สุดก็คือหยวนเฟยผู้นี้

 

 

ก็แค่หญิงเถื่อนแดนใต้คนหนึ่ง มีคุณสมบัติอะไรเหมาะสมจะมาเป็นพระสนมของแคว้นต้าโจวกัน?

 

 

พอมาถึงก็กระโดดเข้าร่วมวงในทันที หยวนเฟยผู้นี้คิดสิ่งใดอยู่ในใจกันแน่?

 

 

นางไม่สนใจหรอกว่าคนชุดดำนั้นจะเป็นศพคืนชีพหรือตัวอะไรเพราะว่าระหว่างพวกนางก็มีแค่ความร่วมมือกันเท่านั้น

 

 

นางตั้งใจจะเป็นฮองเฮาของจีเฉวียนให้ได้ ยอมไม่อาจปล่อยให้ข้างกายของเขามีสตรีอื่นที่โดดเด่นกว่าตนเอง หวงกุ้ยเฟยซูเม่ยกลายเป็นยอดดวงใจของจีเฉวียน ตอนนี้นางไม่อาจแตะต้องได้ชั่วคราว ถ้าเช่นนั้นก็ได้แต่หันมาลงมือกับตัวอันตรายหมายเลขสองก่อนก็แล้วกัน

 

 

ตู๋กูซิงหลัน ไทเฮาน้อยที่งดงามเสียจนสวรรค์อุธรณ์ผู้คนเดือดร้อนเช่นนี้ เมื่อมีใจคิดจะมาพัวพันจีเฉวียน หากไม่กำจัดออกไป จะช้าเร็วก็ต้องกลายเป็นหนามชิ้นใหญ่ในใจอย่างแน่นอน ดังนั้นเมื่อคนชุดดำผู้นั้นมาหานางถึงที่เพื่อขอความร่วมมือ นางย่อมตอบตกลง

 

 

 

 

แต่ว่าน่าเสียดายที่นางประมาทไทเฮาน้อยผู้นี้ไปเสียหน่อย นางมีความสามารถล้ำเลิศถึงเพียงนั้นจริงๆ? ตาเฒ่าศพคืนชีพนั่นจะว่าอย่างไรก็เป็นตัวประหลาดที่ไม่ธรรมดา ทั้งยังกลิ้งกลอกมากเล่ห์ แต่ก็ยังถูกนางบดขยี้จนถึงเพียงนี้ ทำให้ตนต้องประหลาดใจเข้าแล้วจริงๆ

 

 

ก่อนหน้านี้ได้ยินมาว่าไทเฮาน้อยผู้นี้มีอาจารย์เป็นนักพรตอู๋เจินแห่งอารามเทียนเก๋อกวน นางทั้งชาญฉลาดและมีพรสวรรค์ ฝึกฝนวิชาของนักพรตอู๋เจินจนสำเร็จถึงสามส่วน

 

 

เหยียนเฉียวหลัวมองดูคนที่เหาะอยู่กลางอากาศตรงหน้า ในสมองต้องทำความรู้จักกับคำว่า ‘สำเร็จสามส่วน’ นี้ใหม่อีกครั้ง

 

 

เช่นนั้นนักพรตอู๋เจินนั่นก็ยอดเยี่ยมถึงเพียงนั้นจริงๆ หรือ? หากว่าคืนนี้ผู้ที่ปรากฎตัวออกมาคือเขาละก็ วังหลวงจะถูกถล่มลงไปกว่าครึ่งหรือไม่?

 

 

เหยียนเฉียวหลัวหรี่ตาลง นางยิ่งอยากจะกำจัดไทเฮาแห่งต้าโจวมากกว่าเดิม

 

 

……………………

 

 

พอได้ยินเสียงหยวนเฟยกระโดดเข้าร่วมวงมา เหยียนเฉียวหลัวก็ยิ้มเย็นออกไปในทันที “พระสนมหยวนเฟย หากไม่มีหลักฐานละก็ อย่าได้พูดจาไร้สาระจะดีกว่า เราผู้เป็นองค์หญิงกลับถูกช่วงชิงแผนที่ขุมทรัพย์ออกไปจากในวังของต้าโจว เรื่องนี้หากว่าแพร่ออกไป เกรงว่าเกียรติยศของต้าโจวก็คงจะไม่มีเหลือแล้ว”

 

 

หยวนเฟย “องค์หญิง สายพระเนตรของพระองค์มีปัญหาหรือไม่ ท่านคิดว่าศพคืนชีพผู้นี้อยู่ๆ ก็ปรากฎตัวขึ้นมาในที่พักของท่านถือเป็นเรื่องดี? หากว่าไม่ได้มาขโมยของของท่าน หรือว่ามาส่งมอบของให้ท่านกัน?”

 

 

งูเขียวตัวน้อยบนข้อมือของหยวนเฟยแลบลิ้นออกมา คำพูดของนางเตือนสติของทุกผู้คน

 

 

จริงด้วย ไยพวกเขาจึงคิดไม่ถึงกัน องค์หญิงแคว้นเหยียนผู้นี้อาจจะเป็นพวกเดียวกันกับศพคืนชีพผู้นั้นก็เป็นได้?

 

 

ในเมื่อมิใช่คนแคว้นเดียวกัน ย่อมมีจุดประสงค์ที่แตกต่าง

 

 

ในเมื่อนางเป็นองค์หญิงแห่งแคว้นเหยียน ถึงแม้จะมีสายสัมพันธ์ในวัยเยาว์กับฮ่องเต้ แต่เมื่อเป็นเรื่องของบ้านเมือง เกรงว่าสายสัมพันธ์ใดๆ ก็อาจจะต้องวางเอาไว้ก่อน เหยียนเฉียวหลัวถูกนางกระตุกขาเข้าเช่นนี้ ไหนเลยจะกลืนโทสะนี้ลงไปได้กัน พอคิดจะตอกกลับไปบ้างก็เห็นซิ่วจับชายแขนเสื้อของนางเอาไว้ ส่ายศีรษะให้กับนาง

 

 

“องค์หญิง ต้องพระทัยเย็นเข้าไว้”

 

 

เหยียนเฉียวหลัวสูดลมหายใจลงไปลึกๆ ผ่านไปอีกพักใหญ่นางถึงค่อยหันสายตากลับไปที่ร่างของตู๋กูซิงหลันอีกครั้ง หากมิใช่ว่านางรู้อยู่ก่อนแล้วว่าสาวน้อยผู้นั้นก็คือไทเฮาน้อย เมื่อต้องมาเจอกับสถานการณ์ในตอนนี้เกรงว่าก็คงจะจดจำนางไม่ออกอย่างแน่นอน

 

 

แต่ว่าตอนนี้ตนเองยังไม่อาจเปิดโปงนางได้เช่นกัน ในวังมีหูตาของผู้คนอยู่มากมาย หากว่านางเปิดเผยอะไรออกไปแม้แต่เพียงเล็กน้อย เกรงว่าอาจจะถูกจับพิรุธได้ในทันที

ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง

ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1-220


คำโปรย 

ตู๋กูซิงหลัน ปรมาจารย์ไสยศาสตร์ลับผู้เลอโฉมแห่งต้าโจวต้องกลายเป็นไทเฮาแม่ม่ายด้วยวัยเพียงสิบห้าปี และถูกคุมขังอยู่ในตำหนักเย็นด้วยข้อหา ‘งดงามจนทำให้อดีตฮ่องเต้ตกพระทัยตาย’ ด้วยเหตุนี้นางจึงตกเป็นที่รังเกียจของ จีเฉวียน ฮ่องเต้องค์ใหม่และเหล่าสนมทั้งสามพันนางของเขา  

ขณะกำลังคิดหาหนทางประจบฮ่องเต้องค์ใหม่เพื่อให้ชีวิตของนางได้อยู่สุขสบายขึ้นมาบ้าง บรรดาลูกสะใภ้ที่หวั่นใจกลัวว่าแม่เลี้ยงสาวจะเปลี่ยนสถานะมาเป็นคนข้างหมอนก็พากันตบเท้าเข้ามาหาเรื่องนางมิขาดสาย ไหนจะอดีตคนรักอย่าง จีเย่ว์ ที่มาขอคืนดีด้วยอีก คราวนี้ตู๋กูซิงหลันจึงต้องรับศึกหนักทั้งซ้ายและขวา อีกทั้งยังต้องหาทางฟื้นพลังเพื่อตามหาหยกสรรพชีวิตไปด้วย แล้วแบบนี้จะไม่ให้นางปีนออกนอกกำแพงวังได้อย่างไร  

Options

not work with dark mode
Reset