ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ 1062 มาแล้ว

ตอนที่ 1062 มาแล้ว

ตอนที่ 1062 มาแล้ว

“แค่ก!”

ฉู่หลิวเยว่คาดไม่ถึงว่าหลินเทียนเฟิงจะพูดตรงๆ เช่นนี้ ทำเอานางตกใจจนลืมสิ้นสติ

ทว่าพอได้ยินเสียงโต๊ะหัก ใจดวงน้อยก็แทบหล่นไปอยู่ตาตุ่ม พลันรีบคว้ามือของพี่เป่าไว้ทันที

“พี่เป่า!”

ฝ่ามืออันอบอุ่นและอ่อนนุ่มกอบกุมมือเล็กๆ อันเย็นเฉียบของเขา ส่งผลให้พี่เป่าสงบลงอย่างรวดเร็ว

เขาตวัดตามองหลินเทียนเฟิงด้วยสายตาเย็นชาขั้นสุด

พร้อมแสงเย็นวาบที่พลุ่งพล่านในรูม่านตาสีม่วงคู่นั้น!

หลินเทียนเฟิงพลันเย็นวาบไปทั้งขั้วหัวใจ เสมือนมีลมปราณเย็นเยียบสายหนึ่งพุ่งจากปลายเท้าขึ้นไปจรดศีรษะ!

แต่ฉู่หลิวเยว่จับหน้าตู๋กูโม่เป่าหันไปอีกทางเสียก่อน

ฉู่หลิวเยว่จ้องตาเขาด้วยความหวาดหวั่น

…ผู้อาวุโส ท่านไม่กลัวความลับรั่วไหลหรือไร!?

ตู๋กูโม่เป่าตาเป็นประกายวาววับ

…เขาหาเรื่องข้า!

ฉู่หลิวเยว่หรี่ตา

…เขาไม่ได้ตั้งใจ! ประเดี๋ยวข้าอธิบายให้เขาเข้าใจเอง รู้หรือไม่ว่าการที่เจ้ามองเขาเช่นนี้ นอกจากเขาจะสงสัยแล้ว ยังหมายถึงอันใดอีก?

…ข้าสังหารเขาได้แล้วกัน

ตู๋กูโม่เป่ามิได้เอ่ยปาก หากแต่ทำหน้าขึงขังจริงจังอย่างมาก

ถ้าเขามีความคิดเช่นนี้แล้ว อย่างใดหลินเทียนเฟิงก็ไม่มีวันรอด!

ฉู่หลิวเยว่ “…”

สมกับเป็นท่านผู้อาวุโสจริงๆ

หลินเทียนเฟิงนั้นเป็นถึงประมุขของเผ่าผาแดนสวรรค์ และยังเป็นผู้แข็งแกร่งที่ก้าวเข้าสู่อาณาเขตเซียนเทพได้อย่างสมบูรณ์

แต่สำหรับตู๋กูโม่เป่าแล้ว คุณสมบัติเหล่านั้นกลับมิอยู่ในสายตาเขาเลยสักนิด

ฉู่หลิวเยว่รู้จักนิสัยเขาดี

ถ้าเขาบอกว่าเขาใช้ดวงตาสังหารหลินเทียนเฟิงได้ ก็แปลว่าเขาทำได้จริงๆ!

ฉู่หลิวเยว่หลุบตาลงพลางชะโงกตัวไปใกล้ใบหูของเขา และกล่าวเตือนเบาๆ ว่า

“ถ้าเจ้าไม่ให้ความร่วมมืออีก ข้าจะตีก้นเจ้าต่อหน้าทุกคน!”

ตู๋กูโม่เป่าเงยหน้าขึ้นทันควัน แต่ก็ถูกฉู่หลิวเยว่กดไหล่ไว้ไม่ให้ขัดขืน

ตู๋กูโม่เป่า “!!!”

“เหอะๆ ประมุขหลินโปรดอย่าถือสา เด็กคนนี้จิตใจอ่อนไหวง่าย แก่แดดแก่ลมมิฟังความ ครั้นได้ยินอันใดเช่นนี้ก็มักจะอารมณ์เสียจนคุมไม่ได้…ทั้งหมดเป็นเพราะข้าที่ไม่ยอมอธิบายทุกอย่างให้ชัดเจน”

ฉู่หลิวเยว่ชี้แจ้งขณะพยายามควบคุมตู๋กูโม่เป่า

“แล้วก็เรื่องนั้น…ท่านเข้าใจผิดแล้ว ข้ากับเยี่ยนชิง…ใต้เท้าเยี่ยนชิง ไม่ใช่แบบที่ท่านคิด”

แต่หลินเทียนเฟิงไม่เชื่อ

ถ้าไม่ใช่แบบที่เขาแล้วเป็นแบบไหนกัน?

ใต้เท้าเยี่ยนชิงผู้นั้นได้สมญานามว่ายมราชจอมเย็นชาเชียวนะ!

ถ้าเจอกันแค่ไม่กี่ครั้งจริงๆ ไฉนเขาถึงแสดงออกเช่นนี้?

อีกทั้ง…

สายตาของเขาเหลือบมองโต๊ะที่ตู๋กูโม่เป่าทุบจนแตกเป็นสองส่วน ด้วยความหวาดหวั่น

เด็กสามขวบที่ไหนจะมีพละกำลังมากมายเช่นนี้?

และเมื่อครู่ เขาก็สัมผัสได้ถึงแรงอาฆาตอันเย็นเฉียบจากอีกฝ่าย!

“ท่านพ่อ ข้ารู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย”

หลินจือเฟยโพล่งขึ้นมากะทันหัน

เสียงนั้นเบนความสนใจของหลินจือเฟยได้ทันที

“เหนื่อยหรือ? เข้าใจแล้ว หลังจากเดินทางมานาน คงถึงขีดจำกัดของร่างกายเจ้าแล้ว…เช่นนั้นเจ้าพักผ่อนก่อน พ่อจะไม่รบกวนเจ้า”

ครั้พูดจบ เขาก็หันไปมองฉู่หลิวเยว่ราวขอความเห็น

หลินจือเฟยกล่าว

“ข้าอยากจะขอให้คุณหนูตู๋กูอยู่ต่ออีกนิด แล้วหารือเรื่องผลการรักษา”

หลินเทียนเฟิงรู้ว่าบุตรชายกำลังไล่ตนออกไปกลายๆ ดังนั้นเขาจึงไม่พูดอันใดอีก และจากไปหลังจากพูดทิ้งท้ายไว้ไม่กี่คำโนเวลพีดีเอฟ

หลังจากที่เขาออกไป ทั่วทั้งห้องก็สงบลงอีกครั้ง

ฉู่หลิวเยว่ถึงปล่อยตัวตู๋กูโม่เป่า

แต่ตู๋กูโม่เป่าอารมณ์เสียไปแล้ว เจ้าตัวทำเพียงยืนอยู่ข้างๆ นางด้วยใบหน้าเย็นชา และไม่เคลื่อนไหวใดๆ อีก

“เมื่อครู่บิดาข้าทำให้เจ้าขุ่นเคืองใจ คุณหนูตู๋กูโปรดยกโทษให้ท่านด้วย” หลินจือเฟยกล่าว

ฉู่หลิวเยว่โบกมือไหวๆ

“มิเป็นไร ข้าเข้าใจว่าประมุขหลินต้องการช่วยข้า แต่ข้ากับใต้เท้าเยี่ยนชิงนั้น…”

ฉู่หลิวเยว่ยิ้มอย่างกล้ำกลืนฝืนทน

นางคิดไม่ถึงว่าเรื่องราวจักเลยเถิดจนเกินความคาดหมายถึงเพียงนี้

“คุณชายสี่คงไม่คิดเช่นนั้นใช่หรือไม่?”

หลินจือเฟยส่ายศรีษะไปมา

“ข้าเชื่อที่คุณหนูตุ๋กูบอกว่าเขา…ไม่ใช่คนที่เจ้าตามหา”

ฉู่หลิวเยว่หันไปมองเขาด้วยความแปลกใจ

“หือ? เหตุใดคุณชายสี่ถึงมั่นใจเช่นนั้น?”

เพราะถ้ามองย้อนกลับไป สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นั้น สามารถทำให้คนมองเข้าใจผิดได้ง่ายมาก

แต่น้ำเสียงของหลินจือเฟยกลับเต็มไปด้วยความมั่นอกมั่นใจ

หลินจือเฟยยิ้มบาง

“สัญชาตญาณน่ะ”

บรรยากาศระหว่างพวกเขาสองคนนั้นไม่ธรรมดาจริงๆ

มันไม่ใช่มิตรภาพทั่วไปของคนที่พบหน้ากันเพียงสองสามครั้ง แต่มันก็เป็นสิ่งที่หลินจือเฟยคาดเดาได้เช่นกัน

แต่สาเหตุที่ทำให้เขามั่นใจมากที่สุด ก็เพราะพฤติกรรมของนาง

ยามที่นางเห็นใต้เท้าเยี่ยนชิง ดวงตาของนางไม่มีประกายแสงวิบวับเลยสักนิด

ซึ่งต่างจากท่าทีของนางยามในวันนั้น ยามกล่าวถึงบุรุษผู้นั้นโดยสิ้นเชิง

ฉะนั้นคนที่นางมองหา ย่อมมิใช่คนผู้นี้แน่นอน

ริมฝีปากแดงเรื่อของฉู่หลิวเยว่ยกยิ้มเล็กน้อย

หลินจือเฟยฉลาดและไหวพริบดีกว่าหลินเทียนเฟิงมาก

“อันที่จริง ถ้าคุณหนูตู๋กูต้องการพบคนผู้นั้นจริงๆ ล่ะก็ เจ้าน่าจะลองขอความช่วยเหลือจากใต้เท้า

เยี่ยนชิงดูนะ ตำแหน่งของเขาสูงส่งกว่าข้าราชบริพารทั่วไปในพระราชวังเมฆาสวรรค์ ถ้าเขาตกลงช่วยเจ้า ก็น่าจะช่วยทุ่นแรงได้มาก”

หลินจือเฟยไม่ถามเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างฉู่หลิวเยว่กับเยี่ยนชิง เขาเลือกพูดอ้อมๆ อย่างผิวเผินมากกว่า

ฉู่หลิวเยว่นั่งเท้าคางราวครุ่นคิด

ก่อนจะหัวเราะออกมาหนึ่งที

“นั่นไม่จำเป็นหรอก”

“งานฉลองของพระโอรสจะเริ่มในไม่ช้านี้ เมื่อถึงเวลาทุกคนต้องไปรวมตัวกันอยู่ที่นั่น ข้าคิดว่าเดี๋ยวข้าก็หาเขาเจอ”

นี่คืองานฉลองวันคล้ายวันพระราชสมภพของเขา และยังเป็นพิธีเลือกพระชายาด้วย อย่างใดเสียเขาก็ต้องปรากฏตัวมิใช่หรือ?

สองชั่วยามผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ขณะที่ฉู่หลิวเยว่กำลังปรับลมปราณอยู่ในห้อง ทันใดนั้นนางก็ได้ยินเสียงระฆังดังกังวานและไพเราะมาจากข้างนอก!

แกร๊ง…

เสียงระฆังดังกระจายไปทั่วและสะเทือนเข้าไปในหูของทุกคนได้อย่างชัดเจน!

ฉู่หลิวเยว่ลืมตาขึ้นทันที!

ดวงตาคู่นั้นสว่างพร่างพราวราวกับดวงดารา!

นางหันไปทางหน้าต่างแล้วมองออกไปข้างนอก

นี่คือสัญญาณว่า…งานฉลองได้เริ่มขึ้นแล้ว!

—————————-

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์

Score 10
Status: Completed
กล่าวได้ว่าชีวิตของ ฉู่หลิวเยว่ นั้นช่างแสนอาภัพ แม้เป็นบุตรสาวคนโตของตระกูลฉู่แต่กลับเป็นผู้ที่มีชีพจรไร้สามารถ ไม่อาจฝึกพลังใดได้จึงทำให้ถูกคนรังแกมาตั้งแต่เล็ก แม้แต่องค์รัชายาทที่เป็นคู่หมั้นก็ยังไม่เคยมาดูแลและคิดแต่จะถอนหมั้นกับนาง ชีวิตของฉู่หลิวเยว่คงดำเนินต่อไปเช่นนั้น หากน้องสาวคนดีของนางไม่ส่งนักฆ่ามาเพื่อสังหารนางทำให้ดวงวิญญาณแค้นของ ซั่งกวนเยว่ ได้เข้ามาครอบครองร่างนี้แทน คนไร้ค่าอย่างนั้นรึ นางที่เป็นอดีตองค์หญิงลิขิตสวรรค์ผู้แตกฉานด้านการแพทย์และเป็นผู้มากพรสวรรค์แห่งแคว้นย่อมไม่อาจยอมรับคำสบประมาทนี้ได้จริงๆ! ในเมื่อพวกเขาล้วนดูถูกผู้อ่อนแอ นางก็จะแสดงให้เห็นว่าคนอ่อนแอผู้นี้แหละจะเหยียบพวกเขาให้จมดินได้อย่างไร! ควบคุมสัตว์เทพอสูร หลอมรวมพลัง เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และยาพิษ เพื่อยื้อชีวิตเหล่ามนุษย์และทวยเทพ! นางขอสาบาน นางจะทำให้คนที่เคยทรยศเหยียดหยามนางพวกนั้นได้รับกรรมอย่างสาสมเป็นร้อยเท่าพันทวี! ตอนแรกทุกคนเตือนเขาว่า “ท่านหลีอ๋อง บุตรสาวที่ตระกูลฉู่ทอดทิ้งผู้นั้นไม่คู่ควรกับพระองค์!” ต่อมาทุกคนกลับเย้ยหยัน “องค์ชายผู้อ่อนแอ ไม่คู่ควรกับองค์หญิงลิขิตสวรรค์ผู้สูงส่ง!”

Options

not work with dark mode
Reset