มรรคาสู่สวรรค์ 180 ฉีหลินบินหนีไป พระอัปลักษณ์ (1)

ตอนที่ 180 ฉีหลินบินหนีไป พระอัปลักษณ์ (1)

เร็ว​มาก​!

เมื่อ​เห็นภาพ​นี้​ คน​ที่อยู่​ใน​สวน​จิ้งหยวน​ต่าง​ตกตะลึง​จน​พูดไม่ออก​

จัว​หรู​ซุ่ย​มองไม่เห็น​ ในเวลานี้​เพิ่งจะ​ได้ยิน​เสียง​แหวก​อากาศ​ของ​กระบี่​

ไป๋​เชีย​นจ​วิน​ใบหน้า​ขาวซีด​ ใน​ใจรู้​ว่า​หาก​เป็น​ตัวเอง​ไป​ยืน​อยู่​หน้า​จิ๋งจิ่ว​ ในเวลานี้​คงจะ​ถูก​ฟัน​ตาย​ไป​แล้ว​

คำ​ว่า​เร็ว​ บางครั้ง​ใช้บรรยาย​ระดับ​ความคม​ของ​กระบี่​ แต่​ใน​หลาย​ๆ ครั้ง​ใช้บรรยาย​ความเร็ว​

หลังจาก​คราบ​สนิม​บน​กระบี่​คม​จักรวาล​หลุด​ลอก​ออก​จน​หมด​ ตัว​กระบี่​ก็​บาง​ขึ้น​กว่า​เดิม​อย่าง​มาก​ ดูเหมือน​กระดาษ​แผ่น​หนึ่ง​ สามารถ​แสดง​ความคม​และ​ความเร็ว​ของ​ตัว​มัน​ออกมา​ได้​อย่าง​เต็มที่​

ระดับ​ความคม​ของ​มัน​น่าจะ​ยัง​ไม่อาจ​เทียบ​กระบี่​ไร้​อัตตา​ได้​ แต่​ความเร็ว​กลับ​เร็ว​กว่า​กระบี่​ไร้​อัตตา​

ความเร็ว​ของ​มัน​น่าจะ​ยัง​ไม่อาจ​เทียบ​มิคำนึง​ได้​ แต่​พลัง​ทำลาย​กลับ​แข็งแกร่ง​กว่า​มิคำนึง​

ในอีกแง่หนึ่ง​ ความเร็ว​และ​ความคม​ของ​กระบี่​คม​จักรวาล​มีความ​สมดุล​อย่าง​สมบูรณ์​ สอด​ประสาน​กับ​กระบี่​เซียน​แห่ง​ยมโลก​ของ​จิ๋งจิ่ว​ได้​อย่าง​สมบูรณ์แบบ​

จน​ทำให้​ฉีหลิน​ที่​มีการ​มีการป้องกัน​ ยังคง​ถูก​เขา​แทง​จน​ได้รับบาดเจ็บ​

“มัน​จะมีประโยชน์​อะไร​?”

ฉีหลิน​มองดู​เงากระบี่​ที่​เกิดขึ้น​จาก​เสื้อผ้า​ของ​จิ๋งจิ่ว​ พลาง​กล่าว​ด้วย​สีหน้า​เฉยชา​ว่า​ “ถึงแม้เจ้าและ​กระบี่​ของ​เจ้าจะเร็ว​มาก​พอ​ แต่​มัน​ก็​ยัง​ไม่แข็งแกร่ง​มาก​พอ​”

ใน​ฐานะ​ที่​เป็น​สัตว์​เทพ​โบราณ​ที่อยู่​ใน​ระดับ​สูงสุด​ของ​แผ่นดิน​เฉาเทียน​ หลัง​แปลง​เป็น​คน​แล้ว​มัน​ยังคง​มีร่าง​ศักดิ์สิทธิ์​ที่​อยู่ยงคงกระพัน​ กระบี่​คม​จักรวาล​แข็งแกร่ง​เป็นอย่างมาก​ จึงสามารถ​แทง​ทะลุ​ผิวหนัง​ของ​มัน​ได้​ แต่​ถึงกระนั้น​ก็​ยัง​ไม่สามารถ​ทำให้เกิด​แผล​ลึก​ได้​ บาดแผล​แบบนี้​ต่อให้​มีอีก​กี่​พัน​แผล​ ต่อให้​มัน​หลั่งเลือด​ออกมา​อีก​กี่​พัน​หยด​ แล้ว​จะเป็น​อะไร​?

ภายใน​สวน​จิ้งหยวน​มีลมกระโชก​ขึ้น​มา นั่น​เป็น​เพราะ​ฉีหลิน​สูด​หายใจ​ลึก​ๆ

มัน​สะสมพลัง​ไว้​เป็นเวลา​นาน​แล้ว​ หลังจากนี้​จะต้อง​เป็นการ​โจมตี​ที่​รุนแรง​ราวกับ​สายฟ้า​จาก​สรวงสวรรค์​อย่าง​แน่นอน​ แล้ว​จิ๋งจิ่วจะ​รับ​เอาไว้​ได้​อย่างไร​?

เงาที่​เกิดขึ้น​จาก​เสื้อผ้า​ของ​จิ๋งจิ่ว​พลัน​หาย​ไป​ เขา​หาย​ไป​จาก​ตำแหน่ง​ที่​ยืน​อยู่​เดิม​ ออก​ไป​จาก​สวน​จิ้งหยวน​

ใน​เมื่อ​ไม่สามารถ​รับได้​ เช่นนั้น​ก็​ถอย​ออก​ไป​ก่อน​ หลบ​ออก​ไป​จาก​สวน​จิ้งหยวน​ที่​เต็มไปด้วย​แรงกดดัน​จาก​ยุค​บรรพกาล​ หาก​เปลี่ยนเป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​คนอื่น​ที่​มีความ​รวดเร็ว​ พวกเขา​ก็​คง​เลือก​ที่จะ​ทำ​แบบนี้​ใน​เวลา​เช่นนี้​เหมือนกัน​ แต่​สมณะตู้​ไห่​กลับ​ค่อนข้าง​เป็นห่วง​ เพราะ​เขา​รู้​ว่า​จิ๋งจิ่ว​มิใช่ผู้ฝึก​กระบี่​ธรรมดา​ จึงคาดเดา​ได้​ว่า​เขา​น่าจะ​กำลัง​เตรียม​เสี่ยงอันตราย​อยู่​

ฉีหลิน​แค่น​หัวเราะ​ แรงกดดัน​ลอย​ขึ้น​จาก​พื้น​ สกัดกั้น​เส้นทาง​ที่จะ​ตรง​ขึ้นไป​บน​ท้องฟ้า​เอาไว้​

เสียง​ตูม​ดัง​ขึ้น​ ประตู​สวน​จิ้งหยวน​ถูก​ชน​จน​พัง​เสียหาย​ จิ๋งจิ่ว​พุ่ง​ออก​ไป​ด้านนอก​พร้อม​ลำแสง​กระบี่​อีก​สิบ​กว่า​สาย​

ฉีหลิน​แปลง​เป็น​ลำแสง​ใสกระจ่าง​พุ่ง​ตาม​ออก​ไป​ ความเร็ว​มิได้​ด้อย​กว่า​แม้แต่น้อย​ เผลอ​ๆ ดู​แล้​วจะ​เร็ว​กว่า​เล็กน้อย​เสีย​ด้วยซ้ำ​ ดู​แข็งแกร่ง​เป็นอย่างมาก​

งาน​สักการะ​เจดีย์​ใน​วันนี้​ ด้านนอก​สวน​จิ้งหยวน​มีสมณะธรรมดา​มาสวดมนต์​และ​ทำ​พิธีการ​ต่างๆ​ มากมาย​ ในเวลานี้​พวกเขา​กำลัง​เตรียมตัว​แยกย้าย​ แต่​ก็​ยัง​ไม่ทัน​จะได้​แยกย้าย​หนี​ออก​ไป​

ฉีหลิน​พุ่ง​เข้ามา​พร้อมกับ​แรงกดดัน​มหาศาล​ ก่อเกิด​เป็นลม​รุนแรง​จำนวน​นับไม่ถ้วน​ ใบไม้​และ​เศษหิน​ปลิว​ว่อน​จน​มืดฟ้ามัวดิน​ ทุกอย่าง​ตก​อยู่​ใน​ความวุ่นวาย​ ไม่รู้​ว่า​มีสมณะมาก​น้อย​เท่าไร​ที่​ล้ม​ลง​ไป​กับ​พื้น​ ศีรษะ​กระแทก​จน​เลือด​ออก​

ในที่สุด​ข่าย​พลัง​ของวัด​กั่วเฉิง​ก็​ทำงาน​

เสียง​สวดมนต์​และ​เสียงเคาะ​บัก​ฮื้อ​จำนวน​นับไม่ถ้วน​ดัง​ขึ้น​ อักขระ​คัมภีร์​จำนวน​สามพัน​กว่า​ตัว​ลอย​ขึ้น​มาจาก​ใน​ตำหนัก​ ใน​ห้อง​ภาวนา​และ​ใน​เจดีย์​หิน​ต่างๆ​ ก่อน​จะกลายเป็น​เพลิง​อรหันต์​ปกคลุม​ทั่ว​ท้องฟ้า​

ข่าย​พลัง​เพลิง​พระ​อริยะ​!

ข่าย​พลัง​นี้​ตัดขาด​สวน​จิ้งหยวน​ออกจาก​พื้นที่​โดยรอบ​ ปิดผนึก​ทุกอย่าง​ที่อยู่​ใน​นั้น​เอาไว้​ ถึงแม้ฉีหลิน​อยาก​จะทลาย​ข่าย​พลัง​ออก​ไป​ก็​ต้อง​ใช้เวลา​อยู่​เหมือนกัน​

ฉีหลิน​ไม่สนใจ​สิ่งเหล่านี้​เลย​ เขา​ยังคง​ไล่ล่า​จิ๋งจิ่ว​ ทุกที่​ที่​เขา​พุ่ง​ผ่าน​ ต้นไม้​ล้มระเนระนาด​ ระฆัง​ตกลง​บน​พื้น​ เต็มไปด้วย​เศษซาก​ความเสียหาย​

จิ๋งจิ่ว​พุ่ง​ไปมา​อยู่​ใน​เพลิง​อรหันต์​สามพัน​กว่า​ดวง​ ดู​คล้าย​วิญญาณ​ หรือ​บางครั้ง​ก็​ดู​คล้าย​เพลิง​อรหันต์​ดวง​หนึ่ง​

ข่าย​พลัง​เพลิง​พระ​อริยะ​ทำให้​เขา​ไม่สามารถ​ออก​ไป​จากวัด​กั่วเฉิง​ได้​ แต่​ภาย​ขอบเขต​ใน​พื้นที่​ที่​ค่อนข้าง​เล็ก​ การเคลื่อนไหว​อัน​แปลกประหลาด​ของ​วิชา​กระบี่​เซียน​แห่ง​ยมโลก​กำลัง​ทำให้​เขา​ได้ประโยชน์​หลาย​ๆ อย่าง​

แม้น​จะเผชิญหน้า​กับ​การ​ไล่​โจมตี​ของ​ฉีหลิน​ แต่​เขา​กลับ​ยัง​สามารถ​ยื้อ​เอาไว้​ได้​ เพียงแต่​ไม่สามารถ​สลัด​อีก​ฝ่าย​ให้​หลุด​ไป​ได้​

ท่ามกลาง​เพลิง​อรหันต์​ที่​ปกคลุม​ทั่ว​ทั้ง​ท้องฟ้า​ เพลิง​อรหันต์​ดวง​นั้น​หาย​ไป​ ลำแสง​ใสกระจ่าง​ที่​ไล่ตาม​อยู่​ด้านหลัง​สาย​นั้น​ก็​หาย​ตาม​ไป​ด้วย​

เสียง​ฉึก​ดัง​ขึ้น​เบา​ๆ

ร่าง​ของ​จิ๋งจิ่ว​และ​ฉีหลิน​ปรากฏ​ออกมา​

กระบี่​ที่อยู่​ใน​มือ​เขา​ได้​แทง​ทะลุ​เข้าไป​ใน​หน้าอก​ของ​ฉีหลิน​ เลือด​สดๆ​ ไหล​ออกมา​ไม่หยุด​

กระบี่​คม​จักรวาล​แทง​เข้าไป​ใน​ร่างกาย​ของ​ฉีหลิน​ไม่ลึก​นัก​ ประมาณ​หลาย​ชุ่น​ แต่​เหตุใด​ฉีหลิน​จึงไม่หลบ​กระบี่​นี้​?

ประตู​ของ​สวน​จิ้งหยวน​พังทลาย​ไป​แล้ว​ สมณะตู้​ไห่​มอง​เห็นภาพ​ใน​ตอนนั้น​

เปลวเพลิง​ดับ​ลง​ จิ๋งจิ่ว​ปราก​ฎกาย​ ยก​กระบี่​ที่อยู่​ใน​มือขึ้น​มา

ลำแสง​ใสกระจ่าง​หาย​ไป​ ฉีหลิน​ปรากฏ​กาย​ เดิน​ไป​ข้างหน้า​หลาย​ก้าว​

ในอีกแง่หนึ่ง​แล้ว​ มิใช่จิ๋งจิ่ว​ที่​เป็น​คน​แทง​ฉีหลิน​ หาก​แต่​เป็นตัว​ฉีหลิน​ที่​พุ่ง​เข้าไป​ชน​กระบี่​

ก็​เหมือนกับ​กระต่าย​ที่​กระแทก​เข้ากับ​ต้นไม้​ เหมือน​คน​ที่​กระแทก​เข้ากับ​อะไร​บางอย่าง​

ภาพ​เหตุการณ์​นี้​ดู​ค่อนข้าง​น่าขัน​ มัน​หมายความว่า​จิ๋งจิ่ว​ได้​บรรลุ​ถึงขั้น​ที่ว่า​ขยับ​ก็​เหมือน​มิได้​ขยับ​แล้ว​

เรื่อง​สภาวะ​นั้น​ยัง​ไม่ต้อง​พูดถึง​ แต่​การเคลื่อนไหว​แบบนี้​มัน​ช่างทำให้​คน​ยาก​จะจินตนาการ​ได้​จริงๆ​

ฉีหลิน​มิได้​โกรธเกรี้ยว​ที่​ได้รับบาดเจ็บ​ ใน​ดวงตา​ที่​ดู​ลึกลับ​มิได้​มีความเจ็บปวด​ใดๆ​ หาก​แต่​ยังคง​เฉยชา​

“เจ้าคิด​ว่า​แผนการ​ของ​เจ้าสำเร็จ​แล้ว​อย่างนั้น​หรือ​? อย่า​ลืม​เสีย​ล่ะ​ ข้า​ยัง​มิได้​โจมตี​”

การ​ไล่​โจมตี​ภายใต้​เพลิง​อรหันต์​ที่​ปกคลุม​ทั่ว​ทั้ง​ท้องฟ้า​เป็น​เพียงแต่​ไล่ล่า​ใน​ช่วงแรก​เท่านั้น​ ฉีหลิน​ยัง​มิได้​ทำการ​โจมตี​ครั้ง​ที่สาม​ที่​สะสมพลัง​เอาไว้​เป็นเวลา​นาน​

จิ่งจิ่ว​รับรู้​ได้​ถึงความรู้สึก​ที่​เหมือน​ภูเขา​ยักษ์​ประกบ​เข้าด้วยกัน​และ​มิอาจ​สั่นคลอน​ได้​ เขา​รู้​ว่า​อีก​ฝ่าย​ใช้ร่าง​ศักดิ์สิทธิ์​ของ​ฉีหลิน​มาผนึก​กระบี่​คม​จักรวาล​เอาไว้​

ด้วย​สภาวะ​และ​พลัง​ของ​เขา​ใน​ตอนนี้​ไม่สามารถ​ดึง​กระบี่​คม​จักรวาล​ออกมา​จาก​ร่างกาย​ของ​ฉีหลิน​ได้​ ตอนนี้​เขา​มีอยู่​สามทางเลือก​ หนึ่ง​คือ​ทิ้ง​กระบี่​แล้ว​หนี​ไป​ สอง​คือ​ระเบิด​ปราณ​กระบี่​ทั้งหมด​ออกมา​ พยายาม​ทำให้​กระบี่​แทง​ทะลุ​ร่าง​ของ​ฉีหลิน​เพื่อ​ทำให้​เขา​บาดเจ็บสาหัส​ สามคือ​ยืน​อยู่กับที่​ มือ​กุม​กระบี่​เอาไว้​ รอคอย​การ​โจมตี​ที่​น่าหวาดกลัว​ของ​ฉีหลิน​

ทาง​ที่​เขา​เลือก​คือ​ทาง​ที่สาม​ ถึงแม้อาจจะ​ถูก​บดขยี้​จน​กลายเป็น​ก้อน​เนื้อ​ก็ตาม​

“หาก​เจ้าสามารถ​บำเพ็ญ​เพียร​จน​ถึงขั้น​แหวก​ทะเล​ได้​ บางที​กระบี่​เล่ม​นี้​อาจจะ​ทำให้​ข้า​หวาดกลัว​ได้​บ้าง​ แต่​ตอนนี้​เจ้ายัง​อ่อนแอ​ ดังนั้น​…”

ฉีหลิน​มิได้​ลงมือ​ เขา​เพิ่ม​พลัง​และ​แรงกดดัน​ของ​ตัวเอง​ขึ้นไป​จนถึง​จุดสูงสุด​ ก่อน​จะตะคอก​ออกมา​ว่า​ “ไป​ตาย​ซะ!”

ครั้น​พูด​จบ​ เขา​ก็​เหวี่ยง​กำปั้น​ไป​ที่​ใบหน้า​ของ​จิ๋งจิ่ว​

กำปั้น​ที่​ดูเหมือน​ธรรมดา​ แต่กลับ​แฝงเอาไว้​ด้วย​พละกำลัง​ที่​เหมือน​ภูเขา​ทั้ง​ลูก​ ยิ่งไปกว่านั้น​กำปั้น​ของ​ฉีหลิน​ยัง​น่ากลัว​กว่า​อาวุธ​วิเศษ​ธรรมดา​ทั่วไป​ด้วย​

มาตรว่า​ต้อง​เผชิญหน้า​กับ​กำปั้น​ที่​น่าหวาดกลัว​เช่นนี้​ แต่​สีหน้า​จิ๋งจิ่ว​กลับ​ไม่เปลี่ยนแปลง​แม้แต่น้อย​ เขา​ถอยหลัง​ไป​ครึ่ง​ก้าว​ เปิดเผย​มือซ้าย​ที่​ไพล่​เอาไว้​ด้านหลัง​ตลอดเวลา​ข้าง​นั้น​

แสงสีทอง​ที่​ดู​เบาบาง​จำนวน​หลาย​สาย​หลั่งไหล​ออก​มาจาก​ร่อง​นิ้วมือ​ของ​เขา​ แผ่​กระจาย​กลิ่นอาย​ที่​ทำให้​คน​ลุ่มหลง​เสีย​ยิ่งกว่า​สายลม​ใน​ฤดูใบไม้ผลิ​

นั่น​คือ​พลัง​เซียน​

ทั่ว​ทั้งโลก​แห่ง​การ​บำเพ็ญพรต​ต่าง​รู้​ว่า​มือซ้าย​ของ​จิ๋งจิ่ว​กำ​ยันต์​เซียน​เอาไว้​อยู่​ มิเคย​ได้​คลาย​ออก​

ตั้งแต่​งาน​ชุมนุม​แสวง​มรรคา​จบ​ลง​ เขา​กำ​มือซ้าย​มาเป็นเวลา​หก​ปี​เต็ม​

ยันต์​เซียน​สาย​นั้น​คล้าย​หลอม​รวม​เป็นหนึ่ง​กับ​มือซ้าย​ของ​เขา​

เมื่อ​เห็นภาพ​ที่อยู่​ด้านนอก​สวน​จิ้งหยวน​ ไป๋​เชีย​นจ​วิน​ก็​คิดถึง​ภาพ​ที่​เกิดขึ้น​ด้านนอก​คันฉ่อง​ฟ้ากระจ่าง​เมื่อ​หก​ปีก่อน​

ใน​ตอนนั้น​เขา​ปะทะ​กำปั้น​กับ​จิ๋งจิ่ว​ ผล​ปรากฏ​ว่า​กระดูก​หัก​ทั้ง​ร่าง​จน​เกือบตาย​ โชคดี​ที่​นักพรต​ไป๋​ช่วยชีวิต​เอาไว้​ได้​

หรือ​จิ๋งจิ่ว​คิด​จะใช้วิธี​เดิม​?

ไป๋​เชีย​นจ​วิน​ครุ่นคิด​เย้ยหยัน​ หาก​เจ้าคิด​ว่า​กำปั้น​ที่​กำ​ยันต์​เซียน​เอาไว้​จะสามารถ​เทียบ​กับ​กำปั้น​ของ​ท่าน​บรรพ​จารย์ฉี​หลิน​ได้​ อย่างนั้น​เจ้าก็​ตาย​ไป​เสียเถอะ​

หลาย​ๆ คน​ต่าง​บอ​กว่า​ความคิด​นั้น​เป็น​สิ่งที่​รวดเร็ว​ที่สุด​ใน​โลก​ แต่​ใน​เมื่อ​การ​คิด​จำเป็นต้อง​ใช้เวลา​ เช่นนั้น​มัน​ก็​ย่อม​ต้อง​มีความต่างกัน​ใน​เรื่อง​ของ​ความเร็ว​อยู่​ ความเร็ว​ใน​การคาดการณ์​ของ​จิ๋งจิ่ว​รวดเร็ว​เป็น​อย่างยิ่ง​ แต่​นี่​มิได้​หมายความว่า​ทุกคน​จะทำได้​เหมือน​อย่าง​เขา​ ความจริง​แล้ว​ ความเร็ว​ใน​การ​คิด​ของ​คน​จำนวนมาก​บน​โลก​ล้วนแต่​มิอาจ​เทียบ​กับ​ความเร็ว​ใน​การ​ออก​หมัด​ของ​เขา​และ​ฉีหลิน​ได้​

ใน​ตอนที่​ภายใน​หัว​ของ​ไป๋​เชีย​นจ​วิน​มีความคิด​นี้​ผุด​ขึ้น​มา หมัด​ซ้าย​ของ​จิ๋งจิ่ว​ก็​ปะทะ​เข้ากับ​กำปั้น​ของ​ฉีหลิน​แล้ว​

ไม่มีคลื่น​อากาศ​ระเบิด​ออกมา​ แล้วก็​ไม่มีฝุ่น​ควัน​ฟุ้งกระจาย​ กระทั่ง​เสียงดัง​กัมปนาท​จาก​การปะทะ​กัน​ก็​ไม่มี

การควบคุม​พละกำลัง​ของ​เขา​และ​ฉีหลิน​ล้วนแต่​อยู่​ใน​ระดับ​สูงสุด​บน​โลก​นี้​ พละกำลัง​ทั้งหมด​ล้วนแต่​โถมเข้าใส่​อีก​ฝ่าย​จน​หมด​ มิได้​หลุด​รอด​ออก​ไป​แม้แต่​นิดเดียว​

มีเพียง​เสียง​แคร่​ก​เบา​ๆ เสียง​หนึ่ง​

จากนั้น​ก็​เป็น​เสียง​พื้นดิน​ปริ​แตก​

พื้นดิน​ปริ​แตก​ออก​จริงๆ​

พื้น​หิน​มีร่อง​ที่​ลึก​อย่าง​มาก​ร่อง​หนึ่ง​ปรากฏ​ขึ้น​มา พุ่งตรง​เข้าไป​ใน​สวน​จิ้งหยวน​

จิ๋งจิ่ว​นอน​อยู่​ตรง​ปลาย​ของ​ร่อง​ลึก​ สีหน้า​ยังคง​เรียบ​เฉย​ แต่​ใบหน้า​กลับ​ขาวซีด​เป็นอย่างมาก​ เห็นได้ชัด​ว่า​ได้รับ​บาดเจ็บสาหัส​

กระดูก​นิ้วมือ​ กระดูก​ข้อมือ​ กระดูก​แขน​ไป​จนถึง​กระดูก​ช่วง​หัวไหล่​ของ​เขา​ล้วนแต่​มีรอยแตก​จำนวน​นับไม่ถ้วน​

หาก​ไม่เป็น​เพราะ​ร่างกาย​มีความ​พิเศษ​ เกรง​ว่า​กระดูก​เหล่านั้น​คงจะ​หัก​เป็น​ท่อน​ๆ จำนวน​นับไม่ถ้วน​ไป​นาน​แล้ว​

การต่อสู้​ยัง​ไม่จบ​ เพราะ​การ​โจมตี​ครั้ง​ที่สาม​ของ​ฉีหลิน​ยังคง​ดำเนิน​อยู่​

กำปั้น​ของ​เขา​ปล่อย​ก้อน​ลำแสง​ที่​รวมตัว​ขึ้น​มาจาก​แสงสีเขียว​ก้อน​หนึ่ง​ พุ่งตรง​เข้าไป​ใน​สวน​จิ้งหยวน​ มาถึงตรงหน้า​จิ๋งจิ่ว​

มือซ้าย​ของ​จิ๋งจิ่ว​กระทั่ง​จะกำ​ยันต์​เซียน​เอาไว้​ก็​ยัง​ทำได้​ลำบาก​ แล้​วจะ​ยกขึ้น​มารับ​การ​โจมตี​ครั้งนี้​ได้​อย่างไร​?

หาก​เจ้าล่า​เยวี่ย​สามารถ​ตอบสนอง​ได้​ทัน​ นาง​จะต้อง​เข้ามา​ยืน​ขวาง​อยู่​ตรงหน้า​เขา​อย่าง​แน่นอน​

เพียงแต่​การต่อสู้​ของ​จิ๋งจิ่ว​และ​ฉีหลิน​นั้น​อยู่​เหนือ​ขึ้นไป​จาก​สภาวะ​ของ​นาง​ นาง​มิอาจ​ทำ​อะไร​ได้​ทัน​เลย​ นี่​ทำให้​นาง​รู้สึก​ค่อนข้าง​เสียใจ​ เมื่อ​หลาย​ปีก่อน​ตนเอง​ไม่ควรจะ​ฟังจิ๋งจิ่ว​ หาก​ใน​ตอนนั้น​นาง​บรรลุ​สภาวะ​เข้าสู่​คเนจร​ระดับ​กลาง​ อย่าง​น้อย​ในเวลานี้​นาง​ก็​น่าจะ​เรียก​กระบี่​มิคำนึง​ออกมา​รับมือ​ได้​ทัน​

สายตา​ของ​จิ๋งจิ่ว​ยังคง​สงบนิ่ง​ มิได้​มีทีท่า​ว่า​จะยก​กระบี่​ด้วยซ้ำ​ ไม่รู้​ว่า​กำลัง​คิด​อะไร​อยู่​

มรรคาสู่สวรรค์

มรรคาสู่สวรรค์

Score 10
Status: Completed

ข้าคือกระบี่

พันลี้ปลิดชีพคน… สิบก้าวไม่ยอมเดิน

พันลี้ปลิดชีพคน… สิบก้าวไม่อยากเดิน

พันลี้ปลิดชีพคน… สิบก้าว? ไม่เดิน!!!

——————-

ผู้เป็นนายคือบุรุษหนุ่มลึกลับผู้มาพร้อมกับใบหน้าที่หล่อเหลาและใบหูที่กางดูน่ารัก

ผู้เป็นบ่าวคือเด็กชายใสซื่อผู้เป็นเมล็ดพันธุ์แห่งเต๋าแต่กำเนิด

หนึ่งนายหนึ่งบ่าวเดินทางมายังสำนักชิงซานซึ่งเป็นสำนักบำเพ็ญพรตอันดับหนึ่งแห่งแผ่นดิน เพื่อเข้าสู่เส้นทางแห่งการบำเพ็ญเพียร

ทว่าในระหว่างที่อยู่ในสำนัก ผู้เป็นนายกลับเอาแต่นอน ในสายตาคนอื่นเขาคือคนที่เกียจคร้านอย่างไม่มีใครเทียบได้

ส่วนผู้เป็นบ่าวกลับขยันฝึกฝนจนบรรลุสภาวะขั้นต้นในเวลาอันสั้น

แต่สิ่งที่ไม่มีใครรู้คือ

สาเหตุที่ผู้เป็นบ่าวสามารถบรรลุสภาวะได้อย่างรวดเร็ว เป็นเพราะเคล็ดการหายใจที่ผู้เป็นนายเคยสั่งสอนให้…

บุรุษหนุ่มรูปงามผู้นี้คือใครกันแน่ ไฉนจึงเอาแต่นอนเกียจคร้านทั้งวันเช่นนี้?!

Options

not work with dark mode
Reset