ผลลัพธ์จากการฝึกโหดในดันเจี้ยนสุดเลวร้าย100000ปี จนกลายเป็น~ ผู้ที่ไร้ความสามารถที่สุดในโลก ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก~ 48 บท2ตอนนี่19 อิลเซ่ ฮานิช:มุ่งสู่เส้นทางแห่งความสินหวัง(5)

ตอนที่ 48 บท2ตอนนี่19 อิลเซ่ ฮานิช:มุ่งสู่เส้นทางแห่งความสินหวัง(5)

 

เหล่าผู้บริหารของกิลด์ฮันเตอร์ฟังเรื่องที่ฮุกเล่าด้วยสีหน้าปั้นยาก พอฮุกเล่าจบพวกเขาก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา

“ใช้จี้ที่ได้รับจากชายน่าสงสัยแล้วบุกเข้าไปในดันเจี้ยนนั่นมีแค่พวกนายสินะ…”

ชายร่างเล็กแต่ล่ำสันพึมพำอย่างละเหี่ยใจขณะลูบเคลาอันหน้าภาคภูมิของตน เขาคือ กิลด์มาสเตอร์ประจำเมืองบัลเซ่ ราล์ฟ เอ็กเซล 

“แต่ว่า การที่เข้าใกล้ขุมทรัพย์กองพะเนินแบบนั้นอย่างไม่คิดหน้าคิดหลังนี่ก็……”

ผู้บริหารคนหนึ่งคล่ำครวญขณะใช้มือขวากุมขมับ

ก็ไม่แปลก สิ่งที่ถูกวางไว้ในดันเจี้ยนย่อมมีความหมายในตัว มันไม่มีที่ที่วางสมบัติไว้เหมือนกำลังบอกว่า เชิญเข้ามาเอาไปได้เลย อยู่ตั้งแต่แรกแล้ว สถานที่โจ่งแจ้งแบบนั้น ถ้าเป็นนักล่าสมบัติละก็จะไม่เข้าไปยุ่งเด็ดขาด

“เรื่องมันเกิดไปแล้วพูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์ ที่สำคัญคือเรื่องหลังจากนี้ต่างหาก”

ถ้อยคำออกมาจากปากของ กิลด์มาส ราล์ฟ

“ชายที่มอบจี่นั่นให้พวกไรก้าเป็นใครกันแน่นะ?”

ผู้บริหารผมบ๊อบกล่าวถามในสิ่งที่คนที่อยู่ในที่แห่งนี้ไม่มีทางรู้

“ไม่รู้สิ เป็นพวกองค์กรใต้ดินรึเปล่า หรือไม่ก็เผ่าปีศาจ ไม่ว่าทางไหนก็แย่พอกัน”

“เป้าหมายของพวกมันคือการอัญเชิญเจ้าปาซึซึอะไรนั่นรึเปล่าขอรับ?”

ผู้บริหารเคราเฟิ้มคนหนึ่งกล่าวถาม ราล์ฟด้วยสีหน้าใคร่รู้ 

“อา จะคิดแบบนั้นก็ไม่แปลก กลิ่นอันตรายหึ่งซะขนาดนั้น จะให้เกิดเรื่องยุ่งยากไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว รีบค้นหาผู้ต้องสงสัยในเมืองบัลเซ่ซะ!”

“รับทราบ!ขอออกคำสั่งให้ฮันเตอร์ทุกคนออกค้นหาผู้ต้องสงสัยโดยด่วน! ค้นให้ทั่ว!”

“ฮะ!”

พอผู้บริหารผมบ๊อบออกคำสั่ง พนักงานกิลด์ทุกคนก็วิ่งออกจากห้องไป

“แล้วก็ มาสเตอร์ เหตุการณ์ในครั้งนี้ดูไม่ชอบมาพากลแปลกๆ เราควรเรียกรวมพลฮันเตอร์คลาสCขึ้นไปด้วยรึเปล่าขอรับ?”

ราล์ฟ พยักหน้าให้กับข้อเสนอของผู้บริหารคนหนึ่ง

“นั่นสินะ เรียกรวมพลโดยด่วน ควรยกระดับภัยพิบัติเป็นระดับเมืองด้วยรึเปล่า?”

“ขอรับ ในเมืองตอนนี้มีวูฟแมนอยู่คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแต่ก็ควรทำแบบนั้นไว้เพื่อเป็นหลักประกันขอรับ”

เหล่าผู้บริหารค่อยๆเห็นด้วยกับแผนของกิลด์มาสทีละคน

แล้วก็ ระดับภัยพิบัติที่กำหนดโดยกิลด์ฮันเตอร์จะแบ่งออกเป็นหกระดับตามระดับความอันตราย ดังนี้

    1 ,ระดับฆาตกรรมต่อเนื่อง —สร้างความหวาดกลัวโดยการสังหารผู้คนจำนวนหลายครั้ง

   2, ระดับขอบข่ายภายในเมือง—สร้างความหวาดกลัวโดยการทำลายทรัพย์สินส่วนใดส่วนหนึ่งภายในเมือง

   3, ระดับเมือง—สร้างความหวาดกลัวระดับสามารถทำลายเมืองๆหนึ่งลงได้

   4, ระดับภูมิภาค—สร้างความหวาดกลัวระดับสามารถทำลายได้หลายเมือง

   5, ระดับประเทศ—วิกฤตที่นำไปสู่การล่มสลายของประเทศ

   6, ระดับโลก—วิกฤตระดับภัยคุกคามโลก

เหตุการณ์ครั้งนี้คือลำดับสามระดับเมือง หรือก็คือ มีโอกาสที่เมืองจะล่มสะลาย ที่กิลด์จริงจังคงมาจากเรื่องนี้ละมั้ง

ขณะนั้นเอง พนักงานกิลด์คนหนึ่งพุ่งเข้ามาในห้องอย่างรีบร้อน

“กะ-เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้วครับ!”

“มีอะไรให้รีบร้อนขนาดนั้น?”

ผู้บริหารคนหนึ่งเลิกคิ้วขึ้นและกล่าวถามโดยไม่แม้แต่จะหันไปสบตา พนักงานกิลด์เดินไปอยู่ตรงหน้ากิลด์มาสและใช้มือขวาที่สั่นเทาชี้ไปยังประตูทิศตะวันออกด้านนอก

“อสูรโจมตีครับ!แถมยังเป็นพวกที่ไม่เคยเห็นมาก่อน!และจากการตรวจสอบมีอสูรชั้นลึกปนอยู่ด้วยครับ!”

“อะ-อะไรนะ!!?”

ผู้บริหารลุกยืนพร้อมกัน ตะโกนด้วยเสียงตกใจ

แต่เดิม ที่จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้เข้าสำรวจวิหารนั่นสาเหตุหนึ่งก็มาจากอสูรชั้นลึกนี่แหละ เป็นเรื่องที่รู้กันดีว่าในอดีตเคยมีทีมฮันเตอร์คลาสBถูกอสูรชั้นลึกกวาดล้าง

“นั่นมันมีแต่อสูรระดับหายนะทั้งนั้นเลยไม่ใช่รึไง ไม่ตลกแล้วนะ นั่นน่ะ……”

หนึ่งในฮันเตอร์คลาสB ที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้ คร่ำครวญด้วยใบหน้าซีดเซียว

“สถาณการณ์ฉุกเฉิน ยกระดับภัยพิบัติเป็น【ระดับภูมิภาค】 ให้ความสำคัญกับการอพยพชาวเมือง!ติดต่อขอความช่วยเหลือจากวูฟแมนด้วย!”

หัวหน้ากิลด์ออกคำสั่งอย่างเร่งด่วน

“วูฟแมนออกไปสกัดแล้วครับ!นอกจากนั้น ผู้บัญชาการอัศวินแห่งราชอาณาจักรอเมเลีย อาร์โนลด์ ยังให้ความร่วมมือด้วยครับ!”

ความรู้สึกโล่งใจแผ่ขยายไปทั่วห้อง

ฮันเตอร์คลาสS—วูฟแมนถ้าเป็นความกล้าหาญในฐานะฮันเตอร์ไม่ว่าใครต่างก็รู้จัก ผู้ที่เกิดมาในฐานะมนุษย์ครึ่งสัตว์ ในตอนแรกเขาถูกเลือกปฏิบัติอย่างรุนแรงแต่ด้วยความสามารถทางกายภาพของตัวเขาเองทำให้สามารถลบล้างชื่อเสียนั้นได้

วูฟแมนคือตัวตนที่ยื่นมือเข้าไปช่วยชีวิตจำนวนมากที่ตกอยู่ในอันตราย ในฐานะคนที่เคยได้ยินตำนานเหล่านั้นมามากมายตั้งแต่ยังเป็นมือใหม่ แค่ได้ยินว่าเขาจะเข้าร่วมสงครามครั้งนี้ก็ทำให้อุ่นใจแล้ว

แถมครั้งนี้ยังมี ผู้บัญชาการอัศวินอาร์โนลด์ ที่ได้ชื่อว่านักดาบที่แข็งแกร่งที่สุดในราชอาณาจักรอเมเลียเข้าร่วมด้วย ว่ากันว่า ความแข็งแกร่งของเขาเทียบเท่ากับฮันเตอร์คลาสSเลยที่เดียว

การที่ทั้งสองมาอยู่ด้วยกันในเมืองนี้ ไม่มีอะไรนอกจากสิ่งที่เรียกว่า โชคชะตาเข้าข้าง

“ดีล่ะ ถ้างั้นแบ่งฮันเตอร์ออกเป็น ทีมค้นหาผู้ต้องสงสัย ทีมอพยพชาวเมือง และทีมปราบปรามอสูร ทั้งหมดสามทีม!เพียงแต่ ทีมปราบปรามจำกัดเฉพาะฮันเตอร์คลาสBขึ้นไปเท่านั้น!”

ถึงแม้ ฮันเตอร์ระดับต่ำจะเข้าท้าทายอสูรชั้นลึก ก็มีแต่จะกลายเป็นซากศพเท่านั้น คิดว่าเป็นการตัดสินใจที่สมเหตุสมผลแล้ว

「「「ฮะ!」」」

เหล่าผู้บริหารเอามือทาบอกเตรียมตัวออกจากห้อง แต่

“ถะ-ถึงจะเป็นเรื่องที่เชื่อได้ยาก……”

“ไม่มีเวลาแล้ว!มีอะไรก็รีบพูดมาให้หมด!”

หัวหน้ากิลด์ขึ้นเสียงตะคอกใส่เจ้าหน้าที่กิลด์ที่เอาแต่อ้ำอึ้ง โดยปกติเขาไม่มีทางขึ้นเสียงแบบนี้แน่ คิดว่าหัวหน้ากิลด์ก็กำลังตื่นตระหนกอยู่เหมือนกัน

“ข้อความจากผู้บัญชาการอัศวินอาร์โนลด์ครับ!ว่าให้เรียกตัว ไค ไฮเนมัน ราชองค์รักษ์ขององค์หญิงลำดับหนึ่ง โรสแมรี่ กลับมาจากลูเซฮัลโดยด่วน!”

ถ้อยคำนั้นกังวานไปทั่วห้อง

“เฮ้ย!อิลเซ่ ไค ไฮเนมันเนี่ย คือฮันเตอร์หน้าใหม่ที่ตอนนี้เข้าร่วมงานประลองยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์อยู่สินะ!เป็นราชองค์รักษ์ขององค์หญิงโรสงั้นเหรอ!?”

“มะ-ไม่รู้! เรื่องนั้นฉันก็พึ่งเคยได้ยินเหมือนกัน!”

ไค ไฮเนมันคือราชองค์รักษ์ขององค์หญิงโรสแมรี่?ก็หมายความว่าคุณหนูผมชมพูที่ชอบไม่ไหนมาไหนด้วยกัน นั่นก็คือองค์หญิงโรสแมรี่หรอกเหรอ?

ไม่สิก่อนหน้านั้น ถ้าพูดถึงราชองค์รักษ์ของเชื้อพระวงศ์แน่นอนต้องเป็นนักสู้สุดแกร่งอยู่แล้วแต่ขณะเดียวกันก็ต้องได้รับความไว้วางใจอย่างแรงกล้าเป็นพิเศษจากเชื้อพระวงศ์ด้วย ไม่ว่าเขาจะมีความสามารถขนาดไหนแต่การแต่งตั้งเด็กหนุ่มที่ได้ชื่อว่าไร้ความสามารถไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันเป็นราชองครักษ์เป็นเรื่องที่อุกอาจมาก ไม่เข้าใจเลยว่ากำลังคิดอะไรอยู่

“เรื่องแบบนั้นตอนนี้จะยังไงก็ชั่ง!ไค ไฮเนมันแข็งแกร่งจริงเหรอ?”

“ผู้บัญชาการอัศวินอาร์โนลด์กล่าวว่า แข็งแกร่งกว่าตัวเองอย่างท่วมท้นครับ!”

คำตอบของเจ้าหน้าที่กิลด์ ทำให้ทั่วทั้งห้องกลับมาโกลาหลอีกครั้ง

“ดิฉันก็คิดเห็นเหมือนกันกับผู้บัญชาการอัศวินอาร์โนลด์ค่ะ เคยเห็นเขาต่อสู่อยู่ครั้งหนึ่ง อยู่กันคนละระดับเลยค่ะ”

“ตะ-แต่ว่า ค่าความแข็งแกร่งของเขาคือ1นะคะ!”

มีอาขึ้นเสียงอย่างร้นรน ดูเหมือนมีอาจะค่อนข้างหมกมุ่นอยู่กับไค ไฮเนมัน ก็นะ เพราะรูปร่างหน้าตาที่แวบแรกดูอ่อนแอจนอยากจะเข้าไปปกป้องแบบนั้น ไปกระตุ้นต่อมความรู้สึกของมีอาเข้าอย่างจังละมั้ง เอาเถอะ ถึงเนื้อหามันจะตรงกันข้ามก็เถอะ

“คิดว่าบางทีเขาน่าจะมีไอเทมอะไรสักอย่างที่สามารถจำกัดความสามารถตัวเองได้อยู่ค่ะ เพราะค่าความแข็งแกร่ง1มันผิดธรรมชาติเกินไป ดิฉันคิดว่าผู้บัญชาการอัศวินอาร์โนลด์ก็น่าจะรู้สึกแบบเดียวกันค่ะ”

“หลานของเอล์มคนนั้นงั้นรึ?”

หัวหน้ากิลด์ ราล์ฟ กอดอกพร้อมกับหลับตาแล้วพูดกับตัวเอง และ—

“ส่งคนรู้จักไปหา ไค ไฮเนมัน เดี๋ยวนี้!”

ลุกขึ้นจากที่นั่งและออกคำสั่งทันที

“ถ้าอย่างนั้น ดิฉันไปเอง—“

ถึงจะไม่ค่อยเต็มใจแต่ก็ยื่นข้อเสนอออกไปแต่

“ยัยงั่ง!เธอเป็นกำลังสำคัญของทีมปราบปราม ถึงไค ไฮเมมันจะแข็งแกร่งขนาดไหน ก็ไม่มีความหมายถ้าเมืองนี้ล่มสลาย!”

“ถึงจะเป็นแบบนั้นก็เถอะ ถ้างั้นใครจะเป็นคนไปละคะ?คนที่รู้จักเขาเนี้ย—”

“พวกเราขออาสาไปเองครับ!!”

ไรก้ากับฮุก คุกเข่ากับพื้นพร้อมกับพนมมือ

“พวกเจ้าจะไปงั้นรึ?”

“ไม่ว่ายังไงก็จะเรียกตัวกลับมาให้ได้ครับ!เพราะพวกเราทำให้พวกพ้องต้องตาย!มากกว่านี้…..ไม่อยากตัวสั่นไปมากกว่านี้แล้วครับ!!”

คงยาก ถึงจะให้พูดเข้าข้างยังไงแต่สำหรับ ไค ไฮเนมัน ภาพลักษณ์ที่มีต่อไรก้า ไม่น่าจะดีเท่าไหร่ ถ้าพาเขากลับมาไม่ได้ ฮันเตอร์และชาวเมืองได้ตกเป็นเครื่องสังเวยแน่ เป็นหนทางที่ไม่ว่ายังไงก็อยากหลีกเลี่ยงให้ได้

“กิลด์มาส ว่าแล้วให้ดิฉัน—”

“ได้สิ ขอฝากให้พวกนายจัดการ รีบไปซะ!”

แย่แล้ว!กิลด์มาสไม่รู้ความบาดหมางระหว่างทั้งสอง ที่ไรก้าดูถูกไค ไฮเนมัน ต่อหน้าสาธารณชน นั่นเป็นทางเลือกสุดเลวร้าย ใครมันจะไปยอมเชื่อคำพูดของคนแบบนั้นกัน!

“ไรก้า ฮุก ขอฝากด้วยล่ะ!”

กิลด์มาส เลิกคิ้วมองไปยังทั้งสองและตะโกนด้วยสีหน้าจริงจัง

“ครับ!”

“แน่นอนครับ!”

ทั้งคู่ยืนขึ้นและวิ่งออกจากห้องไปในสภาพสะบักสบอมพร้อมน้ำตา

แน่นอนพอเข้าใจความคิดของกิลด์มาสอยู่ ว่าถ้าขืนปล่อยไว้ทั้งๆแบบนี้ชีวิตในฐานะฮันเตอร์ของทั้งคู่ได้จบลงแน่

แต่ว่า เรื่องนี้มันเกี่ยวพันกับชะตาชีวิตของเมืองบัลเซ่เลยนะ

“กิลด์มาส เมื่อกี้—”

“รู้อยู่แล้วล่ะ โทษทีนะ มีอา ช่วยตามไปด้วยได้รึเปล่า?เผื่อไว้เป็นหลักประกันน่ะ”

“แน่นอนค่ะ!”

เป็นไปตามคาด กิลด์มาส ก็ตระหนักถึงสิ่งที่อิลเซ่กำลังคิดอยู่เหมือนกัน ถ้างั้นก็แล้วไป

“ฝากด้วยล่ะ มีอา!”

“ค่ะ!”

มีอาออกจากห้องไปพร้อมกับทำหน้าราวกับกำลังต่อสู้กับชะตาชีวิตของตัวเอง

“พวกเจ้าทุกคน เริ่มดำเนินการตามแผนได้!!”

พอกิลด์มาสตะโกน อิลเซ่และคนอื่นๆก็พุ่งออกจากห้องไป

ผลลัพธ์จากการฝึกโหดในดันเจี้ยนสุดเลวร้าย100000ปี จนกลายเป็น~ ผู้ที่ไร้ความสามารถที่สุดในโลก ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก~

ผลลัพธ์จากการฝึกโหดในดันเจี้ยนสุดเลวร้าย100000ปี จนกลายเป็น~ ผู้ที่ไร้ความสามารถที่สุดในโลก ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก~

Score 10
Status: Completed
ไค ไฮเนมันท์ หลังจากเขาได้รับพร ผู้ไร้ความสามารถที่สุดในโลก ทำให้ชีวิตตกต่ำลงเรื่อยๆ จนถูกไล่ออกจากบ้านเกิด เขาจึงตัดสินใจออกเดินทางไปหาแม่ของเขาที่เมืองหลวง ระหว่างทางก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น จนทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไป

Options

not work with dark mode
Reset