บ่วงมาร 32

ตอนที่ 32

หญิงสาวร่ำไห้ด้วยความปวดร้าว มาร์คอสรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าของตัวเองส่งให้ นาริการับมันมาซับน้ำตาอย่างไม่คิดเกี่ยงงอน แต่เช็ดจนผ้าเช็ดหน้าน้ำเปียกชุ่มแล้วเจ้าน้ำตามันก็ยังไม่ยอมเหือดแห้ง

“เธอจะกลับเซาเปาโลพร้อมฉันเลยหรือเปล่า…”

ความเงียบงันเต้นระริกอยู่ในบรรยากาศอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนที่นาริกาจะพยักหน้ารับช้าๆ “ค่ะ ริก้าจะกลับไปพร้อมกับคุณมาร์คอส… ริก้าจะกลับไปเซาเปาโล…”

ก็เพราะอยู่ต่อไปมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้ว ในเมื่อผู้ชายที่หล่อนหลงรักนั้นมอบแต่ความชิงชังมาให้ เดนนิสเกลียดหล่อนตั้งแต่แรกยังไง ตอนนี้ก็ยังคงเกลียดชังไม่เปลี่ยนแปลง เผลอๆ มันจะมากขึ้นกว่าเดิมซะอีก

“คิดให้ดีๆ นะริก้า…”

“ริก้าคิดดีแล้วค่ะคุณมาร์คอส… ริก้ายอมเจ็บเสียตอนนี้ ดีกว่าจะต้องทนเจ็บปวดไปตลอดชีวิตเพราะผู้ชายเลือดเย็นคนนั้น…”

มาร์คอสพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะยืนมือมาตบบ่าอย่างให้กำลังใจ “เวลาจะช่วยเยียวยาทุกอย่าง… และฉันเชื่อว่าเธอจะต้องพบผู้ชายที่รักเธอจริงๆ สักวัน ริก้า…”

ผู้ชายที่รักหล่อนจริงๆ งั้นหรือ? มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอก ในเมื่อต่อให้มีผู้ชายพวกนั้นสักร้อยสักพันคน แต่หัวใจของหล่อนก็จะไม่มีวันรักใครได้อีก นอกจากเดนนิส โอซิลแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น แม้เขาจะร้ายกาจยิ่งกว่าอสูรกาย แต่เขาก็ทำให้หล่อนมีความสุขไม่ผิดจากขึ้นสวรรค์

เวลาอยู่บนเตียงด้วยกัน เดนนิสไม่ต่างไปจากเด็กชายตัวน้อยที่แสนเอาแต่ใจเลยแม้แต่นิดเดียว และหล่อนก็ชอบให้เขาเป็นแบบนั้นนัก…

น้ำตาไหลพรากออกมาอีก เมื่อสมองร้องเตือนว่าหล่อนกับเดนนิสจะไม่ได้มีช่วงเวลาดีๆ แบบนั้นร่วมกันอีกแล้ว ทุกอย่างมันจะเป็นแค่อดีตที่ควรจะลืมเท่านั้น

“และกลับไปเซาเปาโลคราวนี้… เธอจะไม่ได้อยู่ในตำแหน่งสาวใช้ของแองเจลล่าอีกแล้ว แต่เธอจะอยู่ในฐานะน้องสาวอีกคนหนึ่งของฉัน…”

นาริกาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ “เอ่อ… ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้หรอกค่ะคุณมาร์คอส ให้ริก้าอยู่ในฐานะเดิมน่ะดีแล้ว ริก้าไม่…”

“ถ้าเธอไม่รับตำแหน่งน้องสาวบุญธรรมของฉัน… ฉันก็คงจะรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต นาริกา… อย่าขัดความต้องการของฉันเลยนะ…”

“แต่ริก้า… ริก้าไม่ต้องการแบบนี้…”

“หรือว่าต้องให้ฉันคุกเข่าขอร้องเธอล่ะ แม่น้องสาว…” คำพูดของมาร์คอส โรเจอริโอ ผู้แสนหยิ่งทระนงทำให้นาริกาถึงกับหน้าซีดเผือด รีบร้องห้ามอย่างรวดเร็ว

“อย่าค่ะ… อย่าทำแบบนี้…”

“งั้นก็รับปากฉันสิ ริก้า… รับปากว่าจะยอมเป็นน้องสาวของฉัน…” มาร์คอสไล่ต้อนจนหญิงสาวไม่มีทางเลือกอื่นใดอีกนอกจากยอมตกลงเพียงอย่างเดียว

“ก็… ก็ได้ค่ะ…”

หนุ่มบราซิลหล่อระเบิดระบายยิ้มพึงพอใจออกมา เขาลุกขึ้นยืนตระหง่าน เดินเข้ามาดึงร่างอรชรให้นาริกาให้ลุกขึ้นเช่นกัน

“ขอบใจมาก… ความรู้สึกผิดในใจของฉันมันคงจะค่อยๆ ละลายไปเมื่อเห็นเธอเลิกร้องไห้…” และมาร์คอสก็แย่งผ้าเช็ดหน้าในมือบางขึ้นมาซับน้ำตาให้กับหญิงสาวแผ่วเบา ด้วยกิริยาอ่อนโยน แสดงออกถึงความอาทรที่พี่ชายมีต่อน้องสาวอย่างเต็มเปี่ยม

นาริกายิ้มทั้งน้ำตาด้วยความตื้นตันใจ ชีวิตของหล่อนโดดเดี่ยวมาตลอด ไม่มีใครต้องการเลยแม้แต่คนเดียว แม้กระทั่งเดนนิสก็ยังไม่ต้องการ และหล่อนคงมีความสุขไม่น้อยหากได้ความรักจากพี่ชายบุญธรรมอย่างมาร์คอสมาสักเศษเสี้ยวหนึ่งที่ชายหนุ่มมีให้กับน้องสาวแท้จริงของตัวเอง

“ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัว โรเจอริโอ…”

“ขอบคุณค่ะพี่ชาย…”

มาร์คอสดึงนาริกาเข้ามากอด มือใหญ่ลูบแผ่นหลังบอบบางอย่างต้องการปลอบประโลม เขาทำทุกอย่างด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่ผู้ชายอีกคนที่ยืนแอบมองดูอยู่นั้นไม่ได้คิดแบบนั้น เดนนิสกัดฟันแน่นจนเกิดเสียงดัง ดวงตาสีฟ้าจัดวาวโรจน์ด้วยความคั่งแค้น

“สารเลว…!”

กำปั้นใหญ่กระแทกเข้ากับกำแพงปูนอีกครั้งเต็มแรง มันเจ็บเพราะมีแผลอยู่แล้ว แต่กระนั้นความเจ็บปวดที่ได้รับมันก็ยังไม่เทียบเท่ากับความรู้สึกปวดร้าวภายในจิตใจเลยแม้แต่นิดเดียว นาริกาทรยศเขาได้อย่างน่ารังเกียจ หล่อนกับมาร์คอสเป็นชู้รัก และแน่นอนว่าเขาจะต้องช่วยพเยียให้ออกมาจากวังวนอัปยศนี้ให้จงได้

“ฉันจะเอาคืนพวกนายแน่…”

เค้นเสียงคำรามออกมาแผ่วเบา พอแค่ที่ตัวเองจะได้ยิน จากนั้นก็ก้าวยาวๆ ออกไปจากเพ้นเฮ้าส์อย่างรวดเร็ว ทุกย่างก้าวอัดแน่นไปด้วยความเจ็บปวด นัยน์ตาคมกริบที่เคยมืดดำล้ำลึกอัดแน่นไปด้วยความขมขื่น เขาอาจจะรักนาริกาเข้าแล้ว… ไม่… เขารักหล่อนเข้าแล้วจริงๆ ต่างหาก

เดนนิสร้องบอกตัวเองด้วยความชอกช้ำ ก่อนจะกระโดดขึ้นไปนั่งบนรถสปอร์ตคันงามของตัวเองอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็กระทืบคันเร่งจนมิด รถคันงามราคาแพงระยับพุ่งทะยานออกไปด้วยความเร็วสูง มันแล่นไปอย่างไร้จุดหมายปลายทางเมื่อหัวใจของคนขับมีแต่ความเจ็บปวดฝังอยู่มากมายเช่นนี้

เป็นครั้งแรกในรอบห้าปีเลยทีเดียวที่แองเจลล่าได้มีโอกาสออกมาย่ำราตรีแบบนี้ แม้จะมีนายฟาเดลบอดี้การ์ดหล่อลากไส้เดินตามในทุกฝีก้าว แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ความรื่นรมที่กำลังได้รับอยู่ลดน้อยลงไปมากนัก ก็เพราะนายนี่ไม่ใช่หรือหล่อนถึงได้ออกมานอกสถานที่กักขังได้

หญิงสาวยิ้มให้กับตัวเองขณะก้มลงมองชุดรัดรูปสีดำที่เน้นสัดส่วนในทุกๆ การเคลื่อนไหวด้วยความพึงพอใจ หล่อนไม่ได้ต้องการให้ใครมองหรอก แค่อยากยั่วนายฟาเดล ผู้ชายที่ทำหน้าเย็นชาราวกับสวมหน้ากากน้ำแข็งเอาไว้ตลอดเวลาคนนี้เท่านั้นเอง

ดูสิว่าจะใจแข็งได้แค่สักกี่น้ำกัน…?

“ฉันอยากเข้าไปในไนท์คลับ…”

หญิงสาวชี้มือไปยังสถานบันเทิงที่มีสาวๆ จำนวนมากที่ยืนเรียงหน้ากระดานเรียกแขกเข้าร้าน และเมื่อเห็นฟาเดลไม่ได้พูดอะไรออกมา หล่อนจึงเดินเข้าไปข้างในทันที เสียงเพลงดังกระหึ่ม เสียงไฟวิบวับอึมครึ่มทำให้การมองเห็นไม่ดีนัก แต่กระนั้นหล่อนก็ยังสามารถสังเกตสายตาของแม่บรรดาสาวๆ ในไนท์คลับได้อย่างชัดเจน เพราะทุกคนพุ่งสายตามายังฟาเดลราวกับนายนี่เป็นผู้ชายคนเดียวในสถานที่แห่งนี้ยังงั้นแหละ

“หล่อตายแหละ…”

แองเจลล่าพึมพำกับตัวเองอย่างหมั่นไส้ ก่อนจะรีบเดินเข้าไปหยุดยังโต๊ะเล็กๆ ด้านใน โดยมีผู้ชายร่างยักษ์เดินตามเข้ามาติดๆ

“ฉันจะกินเหล้า เอาแรงๆ นะ”

หญิงสาวตะโกนแข่งกับเสียงเพลง แต่พ่อตัวดีดันยืนนิ่งซะนี่ และนั่นก็ทำให้หญิงสาวหมั่นไส้ เลยเรียกบริกรมาจัดการสั่งเสียเลย หล่อนแกล้งสั่งน้ำส้มให้กับฟาเดลส่วนตัวเองเล่นเหล้าชนิดเข้มข้นเลยทีเดียว แม้จะไม่เคยกินมาก่อน แต่หล่อนไม่คิดว่าตัวเองจะเมาตายเพราะไอ้น้ำผสมแอลกอฮอล์นี่หรอก

“ถ้าไม่ชอบที่นี่ นายก็ออกไปรอข้างนอกได้นะ…”

แองเจลล่าเห็นฟาเดลไม่ได้ยินคำพูดของตัวเอง หญิงสาวจึงเขย่งเท้าและชะโงกหน้าเข้าไปกระซิบที่ข้างหูของเขา แต่กลิ่นกายสุดเซ็กซี่ของพ่อตัวโตกลับทำให้หล่อนไม่สามารถพูดคำใดออกมาได้ซะงั้น หัวใจเต้นแรงยิ่งกว่าเสียงเพลงในไนท์คลับแห่งนี้ซะอีก

“คุณทำอะไร…?”

ชายหนุ่มถามขึ้นเมื่อเห็นหล่อนเอาหน้าไปซบที่ซอกคอของตัวเองนานเกินไป หญิงสาวได้สติจึงรีบขยับกลับมานั่งที่เดิมของตัวเอง และยกมือขึ้นเป็นเชิงปฏิเสธ ขณะที่ใบหน้างามแดงก่ำด้วยความขัดเขิน

หล่อนเป็นบ้าอะไรไปนะ ทำไมถึงได้รู้สึกแปลกๆ ทุกทีเวลาได้กลิ่นเนื้อตัวของนายฟาเดลคนนี้ หญิงสาวคิดด้วยความสับสน จากนั้นก็รีบยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มเมื่อบริกรนำมาวางไว้ตรงหน้า กะว่าจะกระดกจนหมดแก้วแต่รสชาติบาดคอของมันก็ทำให้หญิงสาวถึงกับสำลักออกมา

“แคร่กๆๆ”

ฟาเดลหรี่ตามอง ก่อนจะส่งผ้าเช็ดหน้าให้ แต่แองเจลล่าสะบัดหน้าใส่ไม่ยอมรับ ชายหนุ่มจึงเก็บมันใส่กระเป๋าไว้อย่างเดิม จากนั้นก็หันไปยิ้มให้กับแม่ผู้หญิงใจกล้าที่เขามาเต้นเสียดสีอยู่ข้างๆ และไม่คิดจะหันมาสนใจใยดีหล่อนอีกเลย หญิงสาวโกรธจนควันออกหู

“ทีกับเรา… แต่งตัวแทบตายไม่มอง”

“นายฟาเดล…!”

หญิงสาวตะโกนแข่งกับเสียงเพลงที่ดังลั่นอยู่ แต่หล่อนมั่นใจว่าเสียงตัวเองดังกว่าและฟาเดลก็ต้องได้ยินเพราะยืนอยู่ใกล้ๆ แค่นี้ แต่พ่อเจ้าประคุณกลับไม่ยอมหันมามองแม้แต่นิดเดียว

“ไอ้คนบ้า…! ดีชอบของต่ำๆ งั้นก็เชิญตามสบาย…”

เค้นเสียงออกมาด้วยความหงุดหงิด จากนั้นหันกลับไปยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มจนหมดแก้ว ก่อนจะคว้ากระเป๋าสะพายและก้าวฉับๆ ออกไปจากไนท์คลับทันที ฟาเดลที่ระวังตัวอยู่ทุกฝีก้าวอยู่แล้วรีบเดินตามไปทันที และก็ทันพอดีที่หน้าทางเข้าไนท์คลับ

“ห้ามอยู่ห่างจากสายตาของผมแม้แต่วินาทีเดียว”

หญิงสาวสะบัดมือออกจากการเกาะกุมของผู้ชายตรงหน้าจนสำเร็จ จากนั้นก็เชิดใบหน้าที่แดงก่ำเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ขึ้นสูงอย่างอวดดี ทั้งๆ ที่ตอนนี้แทบจะทรงตัวไม่ได้อยู่แล้ว

“ก็… นายเอาสายตาไปมองนมของแม่พวกนั้นทำไมล่ะ…”

Options

not work with dark mode
Reset