บ่วงมาร 30

ตอนที่ 30

ความปวดระบมจากการถูกใช้งานมาตลอดทั้งคืนทำให้นาริกาแทบไม่อยากจะลุกขึ้นจากที่นอน แต่เสียงเปิดและปิดประตูแรงๆ ก็ทำให้หล่อนไม่สามารถที่จะทนหลับอย่างสงบสุขต่อไปได้อีก หล่อนลืมตาขึ้นและก็ได้เห็นเดนนิส โอซิลในชุดลำลองสีขาวประดุจเทพบุตรเดินเข้ามาหา

ใบหน้าหล่อระเบิดระเบ้อนั่นบูดบึ้งจนน่าแปลกใจ หล่อนลุกขึ้นนั่งกับหัวเตียงและก็ไม่ลืมดึงผ้าห่มมาปิดทรวงอกอวบอิ่มเอาไว้

“มี… อะไรหรือเปล่าคะ”

“เจ้านายเธอมาหา…” เสียงห้วนกระด้างจนอดสะดุ้งไม่ได้

นาริกาเม้มปากแน่น พยายามคิดตามคำพูดของชายหนุ่มแต่ก็คิดไม่ออก สมองของหล่อนในตอนนี้มันจดจ่ออยู่กับผู้ชายตรงหน้าเพียงคนเดียวเท่านั้น

“เจ้านาย?”

เดนนิสแค่นยิ้มหยัน จ้องหน้าแม่ภรรยาสาวที่พึ่งจะร่ายเพลงสวาทใส่กันอย่างเมามันมาตลอดทั้งคืนด้วยความขุ่นเคือง ความจริงอยากจะบีบคอเจ้าหล่อนให้หักด้วยซ้ำ

“มาร์คอสไง…”

สาวน้อยเบิกตากว้างเมื่อได้ยินคำพูดของสามีเต็มหู “คุณมาร์คอส…?!”

“อย่ามาทำเป็นตกอกตกใจไปหน่อยเลย ในเมื่อเป็นเธอเองไม่ใช่หรือที่เรียกให้มันมาที่นี่…”

นี่เดนนิสเอาสมองส่วนไหนคิดออกมากันนะ นาริกาอดขุ่นเคืองขึ้นมาบ้างไม่ได้ หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ก่อนจะพยายามอธิบาย

“ริก้าไม่ได้ทำค่ะ…”

“ต่อให้เธออมพระประธานมาพูด ฉันก็ไม่มีทางเชื่อหรอก ผู้หญิงแพศยา… เมื่อคืนยังดิ้น ยังส่าย ยังร้องบอกให้ฉันเอาอยู่เลย พอเช้ามานัดชู้เก่ามาหาเสียแล้ว…”

ทุกคำพูดถูกเค้นออกมาจากริมฝีปากหยักลึกของเดนนิสทั้งหมด ดวงตาคมกริบสีฟ้าจัดวาวโรจน์ด้วยความเดือดดาล นาริกาพยายามข่มอารมณ์เอาไว้แต่ก็ทำไม่ได้ ในที่สุดจึงโต้ตอบออกมาด้วยอารมณ์รุนแรงไม่แพ้กัน

“ไม่ว่าริก้าจะพูด จะทำอะไรมันก็ไม่เคยดีในสายตาของคุณอยู่แล้วนี่คะเดนนิส ในเมื่อเห็นริก้าเลวขนาดนั้นก็หย่ากันเถอะค่ะ อย่าฝืนใจทนอยู่ด้วยกันเลย…” หล่อนพูดออกไปด้วยความเจ็บปวด แต่เขากลับหัวเราะออกมาอย่างเลือดเย็นซะงั้น

“คำพูดจากอีตัวแบบเธอ… มันไม่มีวันทำให้ฉันเชื่อได้หรอก และจำเอาไว้นะว่าสิ่งที่ฉันพูด… ฉันไม่ได้คิดเอาเอง แต่เป็นเพราะไอ้มาร์คอสมันบอกฉันแบบนั้นต่างหากล่ะ”

คนตัวโตตะเบ็งเสียงออกมาดังลั่น หัวใจกระด้างที่ไม่เคยรู้สึกรู้สาอะไรเกิดอาการเจ็บแปลบขึ้นมาในทันที แค่เพียงได้ยินคำพูดจากปากของเจ้ามาร์คอส โรเจอริโอเท่านั้น

“ริก้าโทรให้ฉันมา เพื่อพาเธอกลับบ้าน… และแน่นอนว่านายต้องหย่ากับเธอซะ”

กรามแกร่งขบเข้าหากันแน่น ความรู้สึกมากมายอัดแน่นอยู่ภายในอก และแน่นอนว่าเจ้าความเจ็บลึกรวดร้าวมันจะต้องนำลิ่วกว่าใคร ชายหนุ่มแค่นยิ้มหยันออกมา แม้จะรู้สึกแย่แค่ไหน แต่เขาก็ไม่มีทางอ่อนแอให้ผู้หญิงสารเลวตรงหน้าได้สมเพชอย่างเด็ดขาด

“ไม่จริงหรอก คุณมาร์คอสไม่มีทางพูดเรื่องโกหกแบบนั้น…” หญิงสาวส่ายหน้าดิก

“งั้นก็ลงไปฟังจากปากของมันเองสิ เจ้าหมอนั่นมันรอเธออยู่ในห้องรับแขกน่ะ และมันจะดีมากเลยนะหากเธอจะตามไอ้มาร์คอสมันกลับไปบราซิลด้วย…” ถ้อยคำแสนโหดร้ายเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากหยักสวยของเดนนิส และมันก็ทำให้หญิงสาวตาแดงก่ำ ความเจ็บปวดที่ฝังรากลึกอยู่ภายในหัวใจเริ่มแผลงฤทธิ์เดชขึ้นอีกครั้ง และในที่สุดก็มันก็ถล่มเนื้อหัวใจเสียจนยับเยิน

“เพราะยิ่งฉันเห็นเธอ… ฉันก็ยิ่งอยากจะอาเจียน…”

ในที่สุดก็สะกดกลั้นความเสียใจเอาไว้ไม่อยู่ น้ำตาไหลทะลักออกมาอาบแก้มรับอรุณเลยทีเดียว หญิงสาวช้อนตาขึ้นมองคนตัวโตด้วยความเจ็บช้ำ แทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้ชายที่กำลังยืนหน้าเดือดดาลอยู่ต่อหน้าในตอนนี้จะเป็นผู้ชายคนเดียวกันกับที่ร้องครวญครางยามที่ฝังกายเข้ามาในร่างของหล่อนเมื่อคืน

สองคนนี้ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว… แต่หล่อนก็ไม่สามารถโกหกได้ว่าเขาทั้งสองคนไม่ใช่คนเดียวกัน… ในเมื่อคนทั้งคู่คือเดนนิส โอซิล ผู้ชายที่ภายนอกหล่อระเบิดไม่ผิดไปจากเทพบุตร แต่ภายในบรรจุความร้ายกาจ เลือดเย็นเอาไว้อย่างมหาศาล

แล้วหล่อนก็เจ็บปวดและแทบจะขาดใจกับสิ่งโหดร้ายที่เขาขยันปาเข้าใส่หน้า ไม่มีความปรานีอยู่ในสายตาของผู้ชายหล่อลากไส้คนนี้เลย

หล่อนมันก็แค่อีตัว… ผู้หญิงที่ใช้วิธีสกปรกแบล็คเมล์ให้เขาแต่งงานด้วยเท่านั้น หล่อนมันไม่มีอะไรดีเลย เลวร้ายและน่าสะอิดสะเอียนยิ่งนัก

“ดีใจจนน้ำตาร่วงเลยใช่ไหมล่ะ ที่จะได้กลับไปกับไอ้มาร์คอสน่ะ…”

เขาประชดประชันด้วยน้ำเสียงกระด้างไม่เปลี่ยนแปลง นาริกากัดปากแน่นจนเจ็บระบมไปทั่วทั้งอุ้งปาก ก่อนจะพยักหน้ารับในสิ่งที่เขาพูดอย่างไม่คิดจะโต้แย้งอะไรอีก ในเมื่อเดนนิสมองหล่อนเลวร้าย แพศยาแบบนี้ก็ป่วยการที่จะไปปฏิเสธ สู้จบๆ กันไปซะดีกว่า

“ก็แล้วแต่คุณจะคิดเถอะค่ะเดนนิส…”

แต่แทนที่เดนนิสจะพอใจ เขากลับหน้าบูดและตวาดใส่หล่อนเสียงดังลั่นซะงั้น “งั้นก็ไปเลย! ไปให้พ้นๆ หน้าฉันซะ ผู้หญิงแพศยาแบบเธอฉันไม่เคยต้องการ จำเอาไว้ด้วย…!” และคนตัวโตก็ก้าวยาวๆ ตรงไปที่ประตูห้อง แต่เขาไม่ได้เปิดมันออกไปในทันที เพราะเดนนิสเลือกที่จะกระแทกกำปั้นของตัวเองเข้ากับไม้สักทองนั้นเต็มแรงหลายครั้งติดต่อกัน นาริกาตกใจ รีบร้องห้าม

“เดนนิส… คุณทำอะไรคะนั่น”

แต่เจ้าของชื่อหาได้สะทกสะท้านไม่ เขายังคงอัดกำปั้นเข้ากับบานประตูตรงหน้าต่อไป จนมันพังยับคามือนั่นแหละเขาถึงหยุด หญิงสาวรีบคว้าเสื้อคลุมและวิ่งเข้ามาหา เลือดสีแดงสดจากข้อนิ้วที่แตกของเดนนิสทำให้หล่อนตกใจจนหน้าซีด พยายามจะคว้ามือใหญ่นั้นขึ้นมาดู แต่เขาก็ผลักหล่อนจนกระเด็น

“อย่ามายุ่งกับฉัน…!”

หญิงสาวเกือบจะเสียหลักล้ม ดีที่มือบางคว้าพนักโซฟาในห้องเอาไว้ได้ หล่อนรีบโผเข้าไปดูมือของเดนนิสอีกครั้งด้วยความเป็นห่วง แต่ก็ถูกเจ้าของมือปัดออกด้วยความรังเกียจมหาศาล

“บอกแล้วไงว่าอย่ามายุ่งกับฉัน…”

“แต่มือคุณเลือดออกนะคะเดนนิส… ให้ริก้าดูหน่อย…”

คนตัวโตแสยะยิ้มหยันเยาะ “ทำไม… กลัวมือฉันพิการแล้วไม่มีแรงเซ็นใบหย่าให้เธออย่างนั้นใช่ไหม” เขาหัวเราะออกมาอีก ดวงตาสีฟ้าจัดอัดแน่นไปด้วยความเกรี้ยวกราดขณะจ้องมองมายังร่างของหล่อน

“ไม่ต้องกังวลหรอกน่า… ต่อให้ฉันมือพิการ ฉันก็จะปั้มลายนิ้วมือให้แทน และรับรองว่าเธอได้อิสรภาพตามที่ต้องการทันใจแน่…”

“มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะคะเดนนิส…”

“แล้วมันอะไรล่ะ?” เขาสวนกลับเสียงเลือดเย็น นาริกาหน้าแดงระเรื่อ

“มันเพราะ… ริก้าเป็นห่วงคุณ… ให้ริก้าทำแผลเถอะนะคะ”

คำพูดของนาริกาทำให้เดนนิสยืนนิ่ง และนั่นก็ทำให้หญิงสาวเข้ามาประชิดร่างสูงใหญ่ของสามีได้อย่างง่ายดาย “ดูสิมือแตกยับเลย ทำไมถึงทำแบบนี้ค่ะ”

สาวน้อยพึมพำด้วยความเป็นกังวล เมื่อเห็นนิ้วมือของเดนนิสมีเลือดไหลหยดเป็นทาง หล่อนกำลังจะดึงร่างสูงใหญ่ให้ไปนั่งบนเตียงเพื่อที่ตัวเองจะได้ไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลมาทำแผลให้ แต่พ่อเจ้าประคุณดันอารมณ์แปรปรวนเสียก่อน กระชากมือหนี แถมยังถอยออกห่างจากหล่อนราวกับรังเกียจกันหนักหนา

“บอกว่าอย่ามายุ่ง… ไปให้พ้นหน้าฉันซะ!”

“ริก้าไปแน่ค่ะ ไม่อยู่ให้รกหูรกตาหรอก แต่ขอทำแผลให้ก่อนได้ไหมคะ” แม้จะเจ็บช้ำจากวาจาร้ายกาจของเขามาเป็นร้อยเป็นพันครั้ง แต่นาริกาก็ยังอดห่วงใยสามีไม่ได้ แค่เห็นเขาเจ็บหล่อนก็แทบจะหลั่งน้ำตาออกมาเป็นสายโลหิตเสียแล้ว

เดนนิสหัวเราะหยัน แสดงความไม่เชื่อออกมามากมาย “ไม่ต้องมาทำเป็นห่วงใย… ฉันไม่มีวันตายเพราะไอ้แผลระยำแค่นี้หรอกน่า…”

“อย่าดื้อสิคะเดนนิส…” ถึงเขาจะปฏิเสธด้วยถ้อยคำแสบสันแค่ไหน แต่นาริกาก็ยังไม่ละความพยายาม พยายามจะเดินเข้าไปหาอย่างไม่ลดละ แต่ผลที่ได้ตอบแทนกลับมาก็คือการถูกเขาผลักจนล้มหงายลงกับพื้นห้องอย่างไร้ความปรานี

“ทำไมทำกันแบบนี้คะ ริก้าแค่เป็นห่วงคุณ อยากทำแผลให้คุณ…” สาวน้อยเงยหน้ามองคนตัวโตด้วยสายตาตัดพ้อ เจ็บระบมไปทั้งบั้นท้าย

“ก็เพราะฉันไม่ต้องการยังไงล่ะ อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก จะไปไหนก็ไปเลย ตามไอ้มาร์คอสกลับไปได้เลยยิ่งดี และก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการหย่าล่ะ เพราะฉันจะเซ็นมันทันทีที่มีเวลาว่าง…” จบคำพูดโหดร้ายเดนนิส โอซิลก็ก้าวยาวๆ ออกไปจากห้องนอนในทันที

Options

not work with dark mode
Reset