บ่วงมาร 15

ตอนที่ 15

นาริการะบายยิ้มบางๆ กับความตั้งใจของตัวเอง อาหารน่าตาน่ากินถูกวางเรียงอยู่ตรงหน้าหลายต่อหลายอย่าง หล่อนทำด้วยหัวใจ อยากขอโทษ อยากให้เดนนิสยกโทษให้หล่อนจริงๆ อยากให้เขายอมรับฟังหล่อนบ้าง และให้เขามั่นใจว่าหล่อนจะไม่มีวันทำให้ต้องลำบาก หรือสูญเสียทรัพย์สินใดๆ ให้แก่หล่อนเลย

ถอนใจออกมาด้วยความคาดหวัง… หวังว่าเดนนิสจะไม่ใจแข็งเกินไปนัก…

“หวังว่าคุณจะยอมฟังฉันบ้างนะคะเดนนิส…”

สาวน้อยมองอาหารที่ตัวเองเข้าครัวทำตั้งแต่เที่ยงด้วยความภาคภูมิใจเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปจากห้องครัว มุ่งหน้าไปยังห้องนอนของเดนนิส หล่อนจะต้องทำตัวเป็นภรรยาที่ดี แม้จะไม่ใช่ภรรยาจริงๆ ก็ตาม หล่อนจะต้องเตรียมเสื้อผ้าให้เขา จะต้องเตรียมน้ำอุ่นไว้รอเขากลับมา

ยิ้มน้อยๆ เมื่อนึกถึงคำขอบคุณจากปากของคนตัวโต… แม้จะรู้ตัวว่าหวังมากเกินไป แต่หล่อนก็ยังอดคาดหวังไม่ได้

มือบางกำลูกบิดทองเหลือแน่น ก่อนจะหมุนมันแล้วดึงประตูให้เปิดกว้างออก จากนั้นก็แทรกตัวผ่านรอยแยกเข้าไปด้วยความเงียบเชียบ

ห้องนอนของเดนนิสใหญ่เหลือเกิน ทั้งกว้างทั้งหรูหรา แม้ว่าการตกแต่งจะเน้นไปทางโทนสีเข้มทำให้มันดูลึกลับและอันตราย แต่มันก็ดูเข้ากันกับเจ้าของห้องเป็นอย่างดี

นาริกาถอนใจยาวๆ อีกครั้ง ก่อนจะเดินตรงเข้าไปยังห้องน้ำ ด้วยความรีบร้อนหล่อนจึงไม่ได้สังเกตอะไรเลย และเมื่อเปิดประตูออกแล้วเข้าไปเท่านั้น หญิงสาวก็ต้องสะดุ้งเฮือก เมื่อพบกับคนที่หล่อนคิดว่ายังไม่กลับตระหง่านอยู่ตรงหน้า ร่างกายกำยำเปลือยเปล่าที่ยามนี้ใหญ่โตกว่าตอนที่มีเสื้อผ้าห่อหุ้มอยู่ทำให้นาริกาหายใจไม่ออก หล่อนอ้าปากค้างกับสิ่งที่ได้เห็น กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ อยู่ในทุกส่วนที่ควรจะอยู่ ผิวเนื้อสีแทนเรียบตึงมีหยาดน้ำเกาะพราวอยู่ แล้วหล่อนก็แทบเป็นลมเมื่อมองต่ำลงไปยังหน้าท้องที่น่าจะแข็งยิ่งกว่าไม้กระดานของเขา

โอ้… แม้มันจะเป็นครั้งที่สอง หลังจากเมื่อวานถูกเขาบังคับให้ดูดกลืนมันด้วยปากไปแล้ว แต่หล่อนก็ยังร้อนผ่าวจนเส้นประสาททุกเส้นตึงเครียดอยู่ดี ยามได้เห็นมันอีกครั้ง มันใหญ่โต ใหญ่จนหล่อนหวาดกลัว แถมยังแข็งชันและดูดุดันเต็มไปด้วยอันตรายเหลือเกิน

และเมื่อสามารถเรียกสติกลับคืนมาได้บ้าง สิ่งแรกที่นาริกาทำก็คือการหมุนตัวหนี เตรียมพร้อมจะวิ่งออกไป แต่ก็ถูกมือใหญ่ตวัดทีเดียวก็สามารถทำให้ร่างบอบบางของหล่อนเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดอำมหิตนั้นได้อย่างง่ายดาย ใช่… มันง่ายดายจนหล่อนเองยังตกใจ

“ยะ… อย่า…”

“เข้ามาให้เอาถึงในห้องน้ำเชียวนะ”

“ไม่ใช่… ปล่อยฉันเถอะค่ะ”

ยิ่งดิ้นนาริกาก็ยิ่งรับรู้ถึงความแข็งชันที่ทิ่มแทงอยู่บริเวณหน้าท้องชัดเจนขึ้น และมันก็ทำให้หล่อนตัวสั่นระริก พยายามช่วยเหลือตัวเองอย่างสุดความสามารถ

“ปล่อย ได้โปรด… ปล่อยริก้า…”

เดนนิสที่ตอนนี้กำลังถูกราคะครอบงำเต็มเปี่ยมหัวเราะออกมา เลื่อนมือใหญ่ลงไปบีบเคล้นบั้นท้ายอวบงามเต็มแรง แรงจนเจ้าของร้องคัดค้าน

“อย่าทำแบบนี้…”

“ทำไมจะทำไม่ได้… อย่าลืมสิว่าเมื่อเช้าฉันจ่ายค่าตัวเธอด้วยอะไร” คำพูดของเดนนิสนั้นเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม ชิงชัง จนคนฟังอดสูเหลือเกิน

“อิสรภาพของฉันเชียวนะ” เขาแสยะยิ้ม

“ฉันจะหย่าให้… ได้โปรดอย่าหยาบคายแบบนี้…”

“หย่าหรือ? มันสายไปหน่อยมั้ง… เธอทำให้ฉันต้องมาติดแหง็กอยู่กับเธออย่างน้อยๆ ก็หนึ่งเดือน แล้วคิดหรือว่าฉันจะไม่ทำอะไรเธอเลย…”

ใช่ หล่อนหวังเอาไว้แบบนั้น หวังว่าพระเจ้าจะเมตตา แต่มันจะมีประโยชน์อะไรเล่า ต่อให้พระเจ้าเมตตา แต่ถ้าหากเดนนิสไม่เมตตา หล่อนก็ไม่รอดอยู่ดี

ก็เพราะตอนนี้เดนนิส โอซิล คือพระเจ้าที่จะชี้เป็นชี้ตายกับชีวิตของหล่อนยังไงล่ะ นาริกาน้ำตาซึม ความอัปยศอดสูแล่นพลั่กเข้าใส่อย่างท่วมท้น

“ฉันคิดว่าคุณจะกรุณา…”

“ฉันจะเอาเธอทุกวัน ทุกเวลาที่ฉันต้องการ ฉันจะตักตวงให้คุ้มค่ากับสิ่งที่ฉันต้องสูญเสียไป และไม่ต้องมานั่งร้องห่มร้องไห้ล่ะ เพราะนี่คือโทษทัณฑ์ที่เธอสมควรจะได้รับมันแล้ว… หรือถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ มันยังน้อยเกินไปด้วยซ้ำ สำหรับผู้หญิงแพศยาที่จ้องจะจับเจ้าชายอย่างเธอ…”

อยากจะบอกว่าหล่อนไม่เคยต้องการเจ้าชาย… แต่ก็พูดไม่ออก สายตาของเดนนิสที่มองมานั้นเต็มไปด้วยความดูแคลน เขาไม่มีทางเชื่อหล่อน ใช่… สายตาเขาบอกแบบนี้ และที่สำคัญที่สุดก็คือเขาจะไม่มีวันยอมให้อภัยกับสิ่งที่หล่อนได้กระทำลงไป

แม้ว่าหล่อนจะเป็นแค่เหยื่ออีกคนหนึ่งก็ตาม…

“ร้องไห้สิ… ร้องคร่ำครวญออกมา ทำให้ฉันสงสาร…”

เดนนิสยังใจร้ายต่อไปไม่หยุด ขณะจับร่างอรชรที่สั่นระริกกระแทกเข้ากับผนังห้องน้ำอย่างไร้ความปรานี สาวน้อยเบ้หน้าเพราะเจ็บระบมเพราะบั้นท้ายกระแทกเข้ากับกำแพงหินอ่อนอย่างจัง แต่เขาก็ยังไม่ลดความรุนแรง ปากร้อนผ่าวกดขยี้ลงมาหนักหน่วง ทุกสัมผัสเต็มไปด้วยการลงทัณฑ์ที่แสนเหี้ยมโหด นาริกาน้ำตาไหลพรากออกมาอาบแก้ม ภาวนาให้ทุกอย่างมันผ่านพ้นไปเสียที ภาวนาให้เขาช่วยจบๆ การะกระทำเถื่อนถ่อยลงสักที

“ฉันเกลียดคุณ…”

“ดี… ยิ่งเกลียดฉันเท่าไหร่ ฉันยิ่งชอบ… ขอให้เกลียดให้ตลอดรอดฝั่งล่ะคนสวย อย่ามาหลงรักผู้ชายป่าเถื่อนที่เธอป่าวประกาศว่าเกลียดเข้าก็แล้วกัน” เขากระซิบชิดปากที่บวมเบ่งของหล่อนด้วยน้ำเสียงดุดัน

“ปล่อย… ได้โปรดเถอะ เดนนิส… ฉันยังไม่พร้อม…”

“หึ… ไม่พร้อม ความจริงเธอน่าจะพร้อมตั้งแต่ตัดสินใจรับงานจากไอ้มาร์คอสแล้วนะ แต่ว่าผู้หญิงอย่างเธอต้องอาศัยความพร้อมด้วยหรือ แค่ใส่ๆ ส่ายๆ เด้งไปเด้งมา เดี๋ยวก็จบน่า…”

และคนตัวโตก็เลื่อนตัวเองลงคุกเข่ากับพื้นห้องน้ำสะอาดสะอ้าน ใช้มือข้างหนึ่งดันร่างบางให้บั้นท้ายชิดกับกำแพงห้องน้ำ ส่วนอีกมือหนึ่งกระชากกางเกงขาสั้นของสาวน้อยจนขาดแหว๊กตกลงมาที่ข้อเท้า ก่อนจะจับมันโยนไปอีกทางหนึ่งและก็หันมาทำกับกางเกงชั้นในลูกไม้สีขาวของหล่อนแบบเดียวกัน

“ไม่นะ จะทำอะไร…”

ส่ายหน้าดิ้นรนแต่ไม่มีผลต่อการตัดสินใจของเดนนิสเลย เพราะคนตัวโตเดินหน้าต่อไป เขาบังคับเรียวขาของหล่อนข้างหนึ่งให้ขึ้นมาฟาดที่บ่ากว้างทรงพลังของตัวเอง และนั่นก็ทำให้ทุกอย่างที่ควรเป็นความลับเปิดเปลือยแก่สายตาของเขาอีกครั้ง

“สวย…” นิ้วของเขานำหน้าแตะลงมาก่อน ไล้แผ่วเบาผ่านเส้นไหม้สีเข้มอ่อนนุ่มเข้าไปหยอกล้อกับเนื้อสาวแท้จริง

“อย่า… อ๊ะ…”

ความร้อนจากทุกมุมโลกพุ่งเข้าใส่ช่องท้องอย่างอำมหิต ซาบซ่านรุนแรง ความหิวกระหายในบางอย่างกำลังครอบงำหล่อนอย่างเหี้ยมโหด และหล่อนกำลังจะหายใจไม่ออก

“โอ้…”

ในที่สุดนาริกาก็ร้องครางออกมา เมื่อนิ้วแกร่งของผู้ช่ำชองเกมรักของเดนนิสล่วงล้ำเข้าไปหยอกล้อกับเกสรกุหลาบที่แสนอ่อนไหวเป็นจังหวะหนักหน่วง แต่เดนนิสไม่ได้หยุดแค่นั้น… ใช่ เขาไม่ได้หยุดแค่นั้น เพราะต่อมาไม่นานเขาก็ใช้ลิ้นกับหล่อน

ไม่จริง! นาริกาส่ายสะบัดกายไปมา ความเสียวซ่านที่ไม่เคยได้รับมาก่อนกำลังถูกลิ้นแกร่งปลุกปั่นมันขึ้นมา หล่อนจำได้ว่าตัวเองกรีดร้องครั้งแล้วครั้งเล่า ร้องจนเสียงแหบแห้งยามที่ลิ้นใหญ่เลียไล้ขยี้กลีบสาวอย่างอำมหิต แต่คนตัวโตก็ยังไม่หยุด

และในที่สุดโลกทั้งใบของหล่อนก็แตกระเบิดอย่างรุนแรง รุนแรงจนสาวน้อยอ่อนประสบการณ์จะสามารถรับมือกับมันไหว สุดท้ายร่างแน่งน้อยที่พึ่งจะกระตุกเกร็งด้วยความสุขสมเป็นครั้งแรกในชีวิตก็สิ้นสติลงในทันที มันรวดเร็วจนคนที่กำลังดื่มด่ำกับความหอมฉ่ำราวกับหยาดน้ำค้างแทบจะรับเอาไว้ไม่ทัน

“นาริกา! นาริกา!” เดนนิสเขย่าร่างสาวน้อยในอ้อมแขนแรงๆ แต่เจ้าหล่อนก็ไม่กระดิกเลยแม้แต่น้อย

“บ้าอะไรกันวะ แค่นี้เป็นลมเลย…”

ชายหนุ่มสบถอย่างหัวเสีย ขณะกัดฟันละเลิกทุกอย่างกับร่างกายของสาวน้อย ก็ใครจะมีกระจิตกระใจทำอะไรต่อไปล่ะ ในเมื่อเจ้าหล่อนเล่นชิงเป็นลมไปซะแบบนี้

“ทำท่าราวกับสาวบริสุทธิ์พึ่งเสร็จเป็นครั้งแรกยังงั้นแหละ ทุเรศชะมัด”

ดวงตาสีฟ้าที่ยังอัดแน่นด้วยไฟปรารถนากวาดมองใบหน้านวลด้วยความหงุดหงิดงุ่นง่าน ก่อนจะตัดสินใจอุ้มร่างไร้สติของนาริกาออกไปจากห้องน้ำไปโยนลงบนเตียงนอนของตัวเองอย่างไม่มีทางเลือก จากนั้นหนุ่มหล่อก็หายกลับเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้งอย่างรวดเร็ว

หากมัวแต่นั่งมองเจ้าหล่อนต่อไป เขาจะต้องปล้ำหล่อนทั้งๆ ที่แม่คุณนอนหลับอยู่อย่างแน่นอน ไม่… เขาไม่ใช่ผู้ชายแบบนั้น นาริกาจะต้องรู้สึกถึงการมีตัวตนของเขาตอนที่มีสติครบถ้วน หล่อนจะต้องร้องขอ จะต้องวิงวอน และแน่นอนว่าหล่อนจะต้องติดเซ็กซ์ของเขาจนโง่หัวไม่ขึ้น

เดนนิสพยายามหัวเราะ แต่ให้ตายเถอะ ทำไมมันหัวเราะไม่ออกนะ มันเจ็บร้าว อึดอัดอย่างรุนแรง…

ชายหนุ่มก้มลงมองกลางลำตัวแล้วก็ต้องสบถออกมาอีกครั้ง “ระยำ! ยายผู้หญิงนรก!”

ไม่เคยที่จะรู้สึกอดอยากแบบนี้เลย ไม่เคยจะต้องรู้สึกอยากกินผู้หญิงมากมายแบบนี้มาก่อน แต่ตอนนี้เขากำลังอยากกินแม่นาริกา แม่สาวแพศยาที่กำลังนอนหลับสบายอยู่บนเตียงจนแทบบ้า

เดนนิสเอื้อมมือออกไปจัดการเปิดน้ำจากฝักบัวให้ราดรดลงมาบนเรือนกาย หวังว่าน้ำเย็นเฉียบจะทำให้ความร้อนรุ่มภายในกายลดลงบ้าง แต่เปล่าเลย ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง เมื่อไฟสวาทในกายยังคุกรุ่นไม่ยอมหยุด และต่อให้เป็นน้ำแข็งก็คงไม่สามารถช่วยอะไรเขาได้อย่างแน่นอน

เขากำลังอยากกินนาริกาจนเนื้อตัวปวดร้าว เขาต้องตายแน่หากคืนนี้ไม่ได้เชยชมเจ้าหล่อน…

รอให้ฟื้นมาก่อนเถอะ เขาจะจัดชุดใหญ่ให้ทีเดียว และคราวนี้ต่อให้หล่อนสลบ หรือหยุดหายใจ เขาก็จะไม่มีวันทำตัวเป็นผู้ชายใจดีอีกแล้ว

ใช่… เดนนิส โอซิล ห่างไกลจากคำว่าผู้ชายใจดีมากมายนัก

Options

not work with dark mode
Reset