บ่วงมาร 10

ตอนที่ 10

“คุณมาร์คอสคะ ริก้า…” หญิงสาวตามมาทันมาร์คอสที่หน้าลิฟต์แก้ว

“อย่าพูดอะไรเลยนาริกา เธอควรจะอยู่เฉยๆ บอกแล้วไงว่างานนี้เธอได้ประโยชน์ทั้งขึ้นทั้งล่อง ทั้งเจ้าชาย ทั้งปราสาท เธอได้มันทุกอย่าง รวมทั้งทะเบียนสมรสด้วย…”

มาร์คอสหยุดเดินและหันกลับมาเผชิญหน้า ความจริงเขาก็สงสารนาริกาไม่น้อย แต่เป็นเพราะเจ้าเดนนิสมันไม่ยอมรามือจากการจ้องจะเขมือบน้องสาวของเขา ทำให้เขาต้องใช้วิธีนี้จัดการกับมัน ซึ่งมันก็ได้ผลชะงักนัก

“แต่ริก้าไม่ได้ต้องการของพวกนี้นี่คะ ริก้าต้องการ…”

หญิงสาวพูดขึ้นด้วยเสียงเจ็บปวด หากย้อนเวลากลับไปได้หล่อนจะยอมตายอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ไม่มีวันยอมให้ตัวเองเข้าไปอยู่ในชายคาของตระกูลโรเจอริโอเด็ดขาด

มาร์คอสหรี่ตามองคู่สนทนาที่ตอนนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยความโศกเศร้า “เธอต้องการอะไรหรือริก้า… วาเลนบอกฉันว่าเธออาจจะหลงรักเจ้าเดนนิสขึ้นมาจริงๆ แต่ฉันไม่อยากเชื่อ…”

“ไม่ใช่ค่ะ ริก้าไม่ได้…”

อยากจะปฏิเสธแต่ก็ทำได้ไม่ดีเลย หล่อนรักเดนนิสจริงๆ นั่นแหละ รักอย่างถอนตัวไม่ขึ้นเสียด้วย มันน่าอาย มันน่าขายหน้า แต่หล่อนบังคับตัวเองไม่ได้ หล่อนรักเขาจริงๆ ผู้ชายตาสีฟ้า

มาร์คอสถอนใจออกมาเบาๆ “ริก้า… ความรักน่ะหาจากผู้ชายเลือดเย็นอย่างเจ้าเดนนิสมันไม่ได้หรอกน่ะ มันร้ายกว่าฉันหลายเท่านัก และหากเธอต้องการหัวใจของหมอนั่นล่ะก็ เธออาจจะต้องรอไปทั้งชีวิต เพราะฉันเองก็ยังไม่เคยแน่ใจเลยว่าเจ้าหมอนี่มันมีหัวใจเหมือนคนอื่นๆ เขาบ้างหรือเปล่า” เสียงถอนอกถอนใจของมาร์คอสดังออกมายาวเฟื้อย ขณะที่เขาจ้องหน้าหล่อนด้วยความเวทนา

“ตัดใจซะเถอะนะ และฉันคาดว่าน่าจะไม่ถึงหนึ่งเดือนหมอนี่ก็จะขอหย่าขาดจากเธอ แล้วจากนั้นเธอก็จะเป็นอิสระพร้อมๆ กับสินสมรสอีกอื้อซ่า…”

“แต่ริก้าไม่อยากได้…”

คร่ำครวญทั้งน้ำตา ตอนนี้หล่อนเจ็บปวด เจ็บช้ำ รวดร้าวจนแทบจะไม่อยากหายใจอีกแล้ว มาร์คอสไม่มีทางเข้าใจหรอกว่าหล่อนกำลังชอกช้ำแค่ไหนกับสิ่งที่เขาสั่งให้หล่อนทำ

นรกมันเป็นอย่างนี้นี่เอง…

“เธอสมควรได้รับมัน…”

“แต่…”

“ทุกอย่างมันถูกกำหนดเอาไว้หมดแล้ว เธอแค่เดินตามทางที่ฉันบอกก็พอ และเมื่อไหร่ที่เธอเป็นอิสระ ฉันอนุญาตให้เธอไปไหนก็ได้ตามใจของเธอ โดยไม่ต้องสำนึกถึงบุญคุณของโรเจอริโออีก”

ปลดปล่อย…

นี่มาร์คอสกำลังปลดปล่อยหล่อนอย่างนั้นใช่ไหม?

แค่แต่งงานอยู่จนเดนนิสจะขอหย่า แล้วบุญคุณที่ค้ำคออยู่ก็จะจบสิ้น หล่อนจะเป็นอิสระ จะทำอะไรได้ดั่งที่ใจคิด มันเป็นสิ่งที่ดี หล่อนปรารถนาอิสรภาพมานานแล้วไม่ใช่หรือ

แล้วทำไมไม่ดีใจล่ะ? ทำไมไม่หัวเราะออกมาดังๆ ให้สมกับรางวัลที่ได้ล่ะ ทำไมต้องร้องไห้ออกมาด้วย ทำไมต้องรู้สึกเจ็บจนหัวใจแหลกสลายแบบนี้ด้วย ทำไมล่ะ?

“ขอให้เธอโชคดีนะริก้า ฉันต้องกลับก่อน เมียฉันรออยู่…” ร่างสูงใหญ่ของมาร์คอสเดินหายเข้าไปในลิฟต์แก้ว ทิ้งให้หล่อนยืนจมอยู่กับน้ำตาแห่งความเจ็บปวด มาร์คอสจากไปแล้วแต่ไม่ได้เอาหายนะลูกใหญ่ตามติดไปด้วย เขายังทิ้งมันไว้ในมือของหล่อน

นาริกาตัวสั่นระริกเมื่อนึกถึงเวลาที่ต้องเข้าไปในห้องสวีทห้องเดิมที่เดนนิสยังคงอยู่ในนั้น เขาจะต้องฉีกหล่อนเป็นชิ้นๆ แน่ หรือไม่ก็… บางทีเขาอาจจะจับหล่อนโยนลงมาจากหน้าต่างในห้องก็ได้ เพื่อให้หล่อนตาย จะได้สาสมกับสิ่งที่หล่อนได้กระทำลงไป

เมีย…

เมีย… ที่สามีไม่ได้ต้องการเลย

เขาถูกแบล็คเมล์ให้รับหล่อนเป็นภรรยา ด้วยแผนเลวร้าย และเดนนิสโกรธมาก โกรธจนเนื้อตัวสีแทนของเขาแทบปริแตกออกมา หล่อนยังจดจำสายตาสีฟ้าที่จ้องมองมาได้เป็นอย่างดี ทั้งชิงชัง ทั้งขยะแขยง หล่อนคงเป็นสัตว์โลกที่เขาเกลียดที่สุดอย่างแน่นอน

น้ำตาไหลออกมา ร่วงหล่นผ่านแก้มนวล มันนำพาความเจ็บช้ำให้แล่นไปทั่วทั้งรูขุมขน ร่างสาวบอบบางกำลังจะล้มครืนลงกับพื้น เดชะบุญที่มีมือใหญ่ของใครคนหนึ่งมาคว้าเอาไว้ได้ทันเวลา

“ขะ ขอบคุณ… ค่ะ”

“แล้วเธอจะไม่พูดคำนี้กับฉัน… นาริกา…!”

พึ่งมารู้ว่าเจ้าของมือร้อนๆ นั้นเป็นใครก็ตอนที่ร่างของหล่อนถูกแบกเข้ามาทุ่มลงบนเตียงกว้างภายในห้องสวีทห้องเดิมนั่นแหละ

“เดนนิส!”

“ว่าที่ผัวของเธอไง ผัวที่เธอได้มาอย่างสุจริตที่สุด!”

ชายหนุ่มประชดด้วยท่าทางคุกคาม ใบหน้าหล่อลากไส้บูดเบี้ยวด้วยโทสะแรงกล้า มือใหญ่ของเขาคว้าร่างของหล่อนเอาไว้รวดเร็ว เมื่อหญิงสาวพยายามจะพุ่งตัวลงจากเตียง เขากดร่างของหล่อนลงกับที่นอนด้วยต้นขาแข็งแรง จากนั้นก็ใช้ฝ่ามือบีบเคล้นลำคอของเจ้าหล่อน เขาไม่ได้ออกแรงสักเท่าไหร่เลย แต่แค่นั้นแม่สาวน้อยไอแครกๆ ออกมาราวกับขาดอากาศหายใจ

“อย่าค่ะ…”

“กลัวตายด้วยหรือ…” เขาถามขณะปล่อยมือออกจากลำคอขาวเนียน

“เดนนิสคะ ฉัน… ขอโทษ ฉัน…”

มองคนตัวโตอย่างขอลุแก่โทษ แต่ดูเหมือนว่าแค่สายตา และคำพูดของหล่อนจะไม่มีทางทำให้คนอารมณ์ร้ายอย่างเดนนิสลบความรุนแรงของไฟแค้นลงได้เลย มันกระพือมากขึ้นเรื่อยๆ ต่างหาก

“เธอมันแพศยา…! สารเลว! ไอ้มาร์คอสมันคงใช้เธอเบื่อแล้วสินะ ถึงได้โยนมาให้ฉันน่ะ!”

กระชากร่างอรชรให้ขึ้นมานั่งบนตักแกร่งของตัวเองจากนั้นก็สอดมือเข้าไปใต้กระโปรง กระชากกางเกงชั้นในลูกไม้แรงๆ จนมันขาดวิ่นจากนั้นก็ใช้นิ้วแกร่งยาวๆ ของตัวเองพุ่งเข้าใส่ช่องรักที่แห้งผากของสาวน้อยอย่างอำมหิต นาริกากรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด แต่เดนนิสหัวเราะร่วน ไฟแค้นทำให้เขามองข้ามทุกอย่างไป แม้แต่ความเมตตาที่ควรจะมีกับผู้หญิง

“อย่าค่ะ ฉันเจ็บ… อย่า…”

สาวน้อยดิ้นรน พยายามจะถดถอยให้พ้นจากฝ่ามือและนิ้วมือของเดนนิส แต่ก็ไม่พ้น เขาใช้มือข้างหนึ่งดันสะโพกของหล่อนเอาไว้ ขณะที่อีกข้างหนึ่งก็ทำหน้าที่เพชฌฆาตทำลายล้างเนินสาวของหล่อนจนยับเยิน ครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขาดันนิ้วเข้าไปและดึงออกมา

มันมีแต่ความเจ็บปวด น้ำตาแห่งความอดสูไหลทะลักออกมาอาบแก้ม…

“ไม่มั้ง… เธอควรจะชอบมันสิ… เธออยากจะตายไปนี่”

เขาดูถูกหล่อนอย่างร้ายกาจ นาริการ้องไห้กระซิกๆ ทำอะไรไม่ได้นอกจากปล่อยให้คนใจร้ายใช้นิ้วกับส่วนนั้นของหล่อนจนกว่าเขาจะพออกพอใจ เขาคงจะหยุดหากสมใจแล้ว แต่ผิดคาดเพราะไม่ใช่แค่ไม่หยุด แต่เดนนิสเพิ่มจำนวนนิ้วมากขึ้นอีก จากหนึ่งเป็นสอง…

ความแห้งผากในช่องเร้นลับทำให้นาริกาเจ็บจนแทบขาดใจ หล่อนไม่เคย… แล้วนิ้วของเดนนิสก็ไม่ใช่เล็กๆ ทั้งใหญ่และยาว

“ไม่นะ! เจ็บ… เดนนิสอย่าทำริก้า… อย่า…”

แม้จะรับรู้ได้ถึงความคับแน่นที่โอบรอบนิ้วแกร่งของตัวเองอยู่จนอึดอัดมากแค่ไหน แต่ความคลุ้มคลั่งที่เกิดจากการถูกล่อลวงให้ติดกับดักทำให้เดนนิสเลือกที่จะไม่สงสาร ไม่เวทนา ไม่ปรานี เขาจะทำให้แม่ผู้หญิงคนนี้ตกนรกทั้งเป็น หล่อนจะต้องซาบซึ้งใจกับนรกที่มีเขาเป็นมัจจุราช

และหล่อนจะไม่มีวันลืมที่ทำให้เขากลายเป็นไอ้งั่งในสายตาของทุกคนแบบนี้…

“นังแพศยา… อย่างเธอแค่นิ้วเดียวมันไม่พอหรอก ต้องทั้งมือ…”

นาริกาไม่รู้หรอกว่าเดนนิสใช้กี่นิ้วกับหล่อนกันแน่หลังจากชักนิ้วเดียวออกไป เพราะหล่อนสิ้นสติลงไปเสียก่อน ทิ้งให้ผู้ชายที่กำลังแก้แค้นกับเรือนกายของหล่อนนั่งสบถยาวเหยียดด้วยความเดือดดาลเพียงลำพัง

“คิดว่าฉันจะใจอ่อนง่ายๆ อย่างนั้นหรือ ไม่มีทาง…!”

เดนนิสผลักร่างอ่อนปวกเปียกของแม่สาวน้อยคนสวยที่พึ่งรู้จักชื่อจริงๆ ว่าคือนาริกา ธรรมพัฒนากุล ผู้หญิงที่เขาเคยหลงคิดว่าเป็นแองเจลล่า โรเจอริโออยู่นาน ลงกับที่นอนแรงๆ ไม่มีคำว่าปรานีอยู่ในการกระทำนั้นเลย เขาผุดลุกขึ้น กระโดดลงจากเตียงอย่างรวดเร็ว กำลังจะเดินออกไปจากห้อง แต่ก็อดหันกลับมามองร่างอรชรของนาริกาอีกครั้งไม่ได้

หล่อนสวยไปทั้งเนื้อทั้งตัว… ใช่ เขาปฏิเสธความจริงข้อนี้ไม่ได้ นาริกาสวยได้พอๆ กับความเลวของหล่อนนั่นแหละ

ริมฝีปากหยักลึกสีสดบิดเบ้เมื่อสองความคิดในสมองตีกันยุ่ง ใจหนึ่งอยากจะทิ้งยายแสบนรกนี่ไว้ที่นี่ และเขาก็ไปซะ แต่อีกใจหนึ่งก็ทำไม่ได้ เขาต้องแต่งงานกับหล่อน นี่คือความจริงที่ต้องทำ… พรุ่งนี้หนังสือพิมพ์คงจะลงข่าวกันครึกโครมเลยทีเดียวแหละ หากเขาไม่ยอมทำตามในสิ่งที่เจ้ามาร์คอสมันต้องการ

แต่งงาน…

บ้าชะมัด! ไอ้ความคิดนี้มันไม่เคยอยู่ในสมองมาก่อนเลย แต่พอจะต้องแต่งเข้าจริงๆ มันกลับมาเร็วจนเขาตั้งรับไม่ทัน แถมยังเป็นการแต่งงานแบบมัดมือชกเสียอีก

ทุเรศ ระยำ แล้วอะไรอีกล่ะ บัดซบที่สุด…!

ทุกคำหยาบคายในโลกนี้ถูกเดนนิสนำมาใช้สบถจนหมดสิ้น แต่ดูเหมือนว่าพ่อคนตัวโตยังไม่สาแก่ใจ เขาเดินกลับไปกลับมาราวกับราชสีห์ติดจั่น เดินอยู่นานก่อนจะตัดสินใจก้มลงช้อนร่างไร้สติของนาริกาขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน นัยน์ตาสีฟ้าจัดลดลงมองดวงหน้าสวยสดด้วยความชิงชังมหาศาล

“นรกขุมที่ลึกที่สุดกำลังรอเธออยู่… นาริกา ธรรมพัฒนากุล!”

ช่วงขากำยำทรงพลังของเดนนิสกำลังก้าวยาวๆ ออกไปจากห้องสวีทของโรงแรมชื่อดัง มุ่งหน้าพาแม่ภรรยาฉุกเฉินของตัวเองกลับไปยังเพ้นเฮ้าส์หรูที่อยู่บนตึกสูงระฟ้าอย่างรวดเร็ว ระหว่างการเดินทางสมองก็ครุ่นคิดหาทางออกให้กับตัวเองตลอดเวลา

Options

not work with dark mode
Reset