[นิยายแปล] Kanojo ga Senpai ni NTR-reta node, Senpai no Kanojo wo NTR-masu 40 มรสุมริษยา ณ โรงอาหาร (ตอนปลาย)

ตอนที่ 40 มรสุมริษยา ณ โรงอาหาร (ตอนปลาย)

“อ้าว? อิชชิกิคุง!”

 

พอหันหลังไปตามเสียงที่ว่า ตรงนั้นก็มีเพื่อนสนิทของรุ่นพี่โทวโกะ คุณคาโนะ คาซุมิ อยู่

ที่มาด้วยกันก็คือเด็กผู้หญิงที่อยู่ด้วยกันก่อนหน้านี้ คุณมินะ ชั้นปีสองคณะเศรษฐศาสตร์ กับคุณอายากะ ชั้นปีหนึ่งที่อยู่ชมรมเดียวกัน

 

“อ้ะ คุณคาซุมิ”

 

ผมทักตอบ แต่วันนี้ไม่ได้ตั้งใจว่าจะมาเจอกันมาก่อน

พอได้ยินเสียงทักมา ก็รู้สึกแปลกใจนิดหน่อย

 

“ตรงนี้ นั่งได้มั้ย? พอดีว่าหาที่นั่งว่าง ๆ ไม่มีเลยน่ะ”

 

ที่นั่งตรงนี้ปกติสำหรับนั่งกันสี่คน

ถ้าลากเก้าอี้เปล่ามาเพิ่มอีกตัวก็ยังนั่งห้าคนได้สบาย ๆ

 

“อ้อ เชิญครับ”

 

ผมที่พูดอย่างนั้น ก็เลื่อนเก้าอี้ตัวเองเข้าไปใกล้กับคาเรน

กรณีแบบนี้มันก็ช่วยไม่ได้

พอหันไปข้าง ๆ คาเรนกำลังทำหน้าเหมือนไม่ได้สนใจอะไรเป็นพิเศษ

 

“คาเรน ขอโทษที่รบกวนเวลาของเธอสองคนน้า~”

 

คนที่พูดก็คือคุณมินะ

 

“ไม่เป็นไรหรอก ประเดี๋ยวพวกคาเรนก็กินเสร็จแล้วล่ะ”

 

มินะยิ้มเจื่อน ๆ ให้คาเรนที่ตอบอย่างไม่มีอะไร

 

“แต่ว่า ได้จังหวะเจออิชชิกิคุงพอดี กำลังตามหาเธออยู่เลย”

 

“ผมหรอครับ? เรื่องอะไรหรอครับ?”

 

“นี่ไง เรื่อง ‘การบ้านโปรแกรมมิ่ง’ ที่เคยคุยกันคราวที่แล้วน่ะ นั่นน่ะ เลยว่าอยากจะขอร้องหน่อยได้มั้ยนะ”

 

พร้อมกับคุณมินะที่ว่าอย่างนั้น คุณคาซุมิก็พยักหน้า

 

“เรื่องนั้นเองหรอครับ? ได้เลย บอกมาว่าโจทย์ปัญหาว่ายังไงแล้วเดี๋ยวทำให้ครับ”

 

“เรื่องนั้นอะนะ ขออีเมลแอดเดรสของอิชชิกิคุงหน่อยได้มั้ย? ถ้าเป็นกรุ๊ปเมลจะถามกันลำบากน่ะ”

 

ตอนนั้นคุณคาซุมิก็พูดขึ้น

 

“ชั้นก็อยากจะบอกข้อมูลติดต่อของอิชชิกิคุงให้อยู่หรอกนะ แต่ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าตัวเนี่ย คิดว่ามันจะเสียมารยาทหรือเปล่าน่ะสิ”

 

“นั่นสินะครับ ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้แลกข้อมูลติดต่อกันเลยสินะครับ ถ้าอย่างนั้น”

 

ผมแลกอีเมลแอดเดรสกับ SNS ID กับคุณมินะกับคุณอายากะสองคน

คาเรนมองหลบไปทางข้าง

คุณมินะยกมือถือแล้วพูด

 

“ข้อมูลติดต่อของอิชชิกิคุงเนี่ย บอกมินามิกับยูริด้วยได้มั้ย? พวกนั้นเองก็อยู่ในกลุ่มตรงนั้นด้วยนี่เนอะ”

 

“อา ได้ครับ เพราะสัญญาไว้แล้วว่าจะ ‘ช่วยทำงานโปรแกรมให้’ น่ะครับ”

 

“งั้นเดี๋ยวบอกสองคนนั้นนะ”

 

คุณอายากะซึ่งอยู่ชั้นปีเดียวกันมองไปทางคาเรน

 

“ต่อหน้าแฟนสาวเนี่ย รู้สึกเกรงใจจังที่มาถามข้อมูลติดต่อจากแฟนหนุ่มอยู่หรอก แต่ก็ดีกว่าแอบไปกระซุบกระซิบกันลับหลังอะเนอะ?”

 

ตอนนั้นเอง คาเรนก็พูดอย่างไม่ใส่ใจ

 

“ไม่เป็นไรหรอก ชั้นรู้ว่ายูคุงน่ะมีแต่คาเรนคนเดียวอยู่แล้ว ไม่ใส่ใจหรอกย่ะ~”

 

ทั้งสามคนมองหน้ากัน

 

“นั่นสินะ ตอนที่เจอกันครั้งก่อนเอง อิชชิกิคุงก็ประกาศตัวว่า ‘เป็นแฟนหนุ่มของคาเรน’ อยู่ด้วยสิ”

 

“คาเรนเนี่ยดีจังเลยเนอะ มีแฟนหนุ่มใจดี รักเดียวใจเดียว อย่างอิชชิกิคุงด้วย”

 

หน้าตักโดนสะกิดที่ใต้โต๊ะ

คาเรนนั่นเอง

พอมองดู นัยน์ตานั้นกำลังพูดว่า ‘ไปกันเถอะ’

สำหรับผมอยู่กับพวกเธอยังจะดีกว่าอยู่กับคาเรนอีก แต่มันช่วยไม่ได้

 

“ถ้าอย่างนั้นพวกผม ทานเสร็จแล้ว ได้เวลาขอตัวละครับ”

 

พอว่าอย่างนั้น พอกินเสร็จก็ยกถาดลุกยืนขึ้น

คาเรนก็ยืนพร้อมกัน

 

“อ้าว อิชชิกิคุง ไปซะแล้วหรอ?”

 

“ช่วยไม่ได้น้า ไว้เจอกันคราวหน้านะ”

 

“เรื่องการบ้าน ขอโทษทีรบกวนด้วย เดี๋ยวจะติดต่อไปนะ”

 

ผมโค้งให้พวกเธอเล็ก ๆ แล้วออกจากตรงนั้นไป

คาเรนเดินล่วงหน้าไปคนเดียว

ก่อนจะออกจากโต๊ะ พอมองไปที่โต๊ะรุ่นพี่โทวโกะ ก็สบตากับเธออยู่แวบหนึ่ง

แต่ว่าไม่ได้มีสัญญาณอะไรเป็นพิเศษ

ผมในตอนนั้นก็เก็บสำรับอาหารที่ช่องสำหรับเก็บ แล้วก็ออกไปจากโรงอาหาร

 

 

 

“อะไรกัน ตะกี้อะ? จู่ ๆ ก็มาขัดจังหวะตอนที่อยู่กันสองคนเนี่ย”

 

คาเรนพูดเหมือนระบายความเคืองที่อัดอั้นในใจออกมา

 

“เปล่าครับ ก่อนหน้านี้ พอดีบังเอิญเจอกันที่ร้านบุฟเฟ่ต์ของหวานน่ะ ตอนนั้นก็ถูกขอร้องมาว่า ‘พอดีมีวิชาโปรแกรมอยู่ เลยอยากจะขอร้องให้ช่วยการบ้าน’ น่ะครับ”

 

“อะไรน่ะนั่น ทุเรศไปหน่อยมั้ย?”

 

คาเรนชัดเลยว่าอารมณ์เสียอยู่

 

“ก็ อยู่ชมรมเดียวกันด้วยสิ ทางนี้เองก็อาจจะมีเรื่องอะไรต้องขอร้องอยู่ก็ได้ คิดว่าหากมีอะไรที่พอจะทำให้ได้ถ้าร่วมมือกันได้ก็จะดีน่ะ”

 

“ยูคุงเอง ก็อย่าจู๋จี๋กับผู้หญิงให้มันมากนักนะ! มันน่าเกลียด!”

 

—— ไม่อยากได้ยินคำนี้จากเอ็งเท่าไรเลย ——

 

ผมกลืนประโยคนั้นลงคอ

 

“ขอโทษนะ ก็แค่คิดว่าถ้าผมมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับพวกผู้หญิง คาเรนจะรู้สึกไม่ชอบใจหรือเปล่าน่ะ”

 

ตอนนั้นเอง คาเรนมองต่ำไปพูดไป

 

“คาเรน ไม่ชอบเวลาผู้หญิงรวมกลุ่มกันแบบนั้นเลย มันแบบว่าอิจฉาดี หรืออึมครึมดี… แบบนั้นมันเหมือนลงเรือลำเดียวกันแต่ต่างคนต่างขัดขากันอยู่อะ”

 

“งั้นหรอ”

 

ผมตั้งใจฟังคำพูดของคาเรน

 

“เพราะงั้นคาเรนน่ะ ถึงเข้ากับเพื่อนผู้ชายมากกว่าอยู่กับเพศเดียวกันไง มันสบายใจกว่า ไม่รู้สึกอึมครึมด้วย คาเรนเองก็นิสัยสบาย ๆ ด้วยสิ”

 

—— พูดอะไรของเธอ นางนี่ เอ็งก็แค่อยากให้ผู้ชายห้อมล้อมเอาอกเอาใจแค่นั้นรึเปล่าวะ ——

 

แต่ว่า เราที่มองไม่เห็นจุดนั้นมันโง่เองแหละ

คาเรนหันมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าผมทันใด

 

“อะไรหรอ?”

 

“ยูคุงน่ะ ห้ามนอกใจเด็ดขาดเลยนะ จะต้องดูแลคาเรนคนเดียวเท่านั้นนะ!”

 

คาเรนพูดเหมือนย้ำเตือน

 

นั่นสิเนอะ ‘เราห้ามนอกใจเด็ดขาด’ สินะ

สรุปก็คือตัวเองจะนอกใจก็โอเค ว่างั้นสินะ?

ความคิดที่เห็นแก่ตัวของนังนี่เนี่ย ทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ

จนถึงวันชี้ชะตา เหลือไม่ถึงเดือนแล้วสินะ

จนถึงตอนนั้น อยากจะพูดอะไรก็พูดไปให้เต็มที่เถอะ อี ช็อกการี!

Options

not work with dark mode
Reset