[นิยายแปล]โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร” 139 บทที่ 7 23

ตอนที่ 139 บทที่ 7 ตอนที่ 23

บทที่7 ตอนที่ 23

「อืม เอาแล้วไง….เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นกับโนโซมุ……」

 

 

 

หลังจากที่ได้รับการรักษาจากซอนเน่ ทอม และโซเมีย ลิซ่าก็ถามสถานการณ์ทั่วไปจากคนรอบข้างเธอ

 

ถ้าจะพูดเจาะจงกว่านั้นก็คือเรื่องราวของทั้งสาม

 

บาดแผลของลิซ่าหายไปแล้วด้วยการรักษาของซอนเน่ แต่เมื่อเธอฟื้นตัว เธอก็ภาวนาให้แก่โนโซมุ

 

ดัวยอัตรานี้เธอคงหมดแรงที่จะตามหาเขาอีกต่อไป ในความเป็นจริงเธอพยายามวิ่งลึกเข้าไปในป่า ซอนเน่และทอมต้องหยุดเธออย่างเร่งรีบ

 

อย่างน้อยที่สุด เราก็ต้องเล่าสาเหตุและการโจมตีของโนโซมุให้ชัดเจนก่อน จากนั้นทำให้เธอเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมด เมื่อตัดสินใจได้ ทอมพยายามทำให้เธอสงบด้วยการบอกความลับของโนโซมุและสถานการณ์ปัจจุบันให้เธอฟังมากที่สุดเท่าที่ทำได้

 

ในอตนแรกทอมและซอนเน่คิดว่าจะใช้คำพูดคลุมเครือเพื่อปิดบังข้อมูล แต่พวกเขาก็ตัดสินใจจะบอกความจริงเพราะไม่เก่งในการใส่สีตีไข่

 

อันที่จริงการตัดสินนี้ถูกต้องแล้ว เพราะเธอเคยได้ยินเรื่อง “เทียแมต” ที่อาเซลพูดกับโนโซมุ

 

 

 

「อืม…คุณลิซ่า ไม่เป็นไรนะคะ?」

 

 

 

「อ่า ขอบคุณนะ….ฉันไม่เป็นไรหรอก……」

 

 

 

เมื่อลิซ่าได้ยินเรื่องราวจากทอม เธอก็ตกใจเล็กน้อย

 

โซเมียเรียกด้วยความเป็นห่วง แต่คำตอบของลิซ่ากลับมีความมุ่งมั่นเกินขาด

 

ไม่น่าแปลกใจที่เธอจะรู้สึกกลัว

 

มังกรที่ถูกหลอมรวมเข้ากับร่างของโนโซมุคือมังกรที่กินเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองและกลายเป็นมังกรที่แข็งแกร่งที่สุด ยิ่งไปกว่านั้น แม้แต่ภายในเผ่าพันธุ์มังกร แม้จะเป็นเผ่าที่อ่อนด้อยที่สุดแต่ก็สามารถบดขยี้ได้ง่ายๆ

 

เธอเองก็คิดว่าโนโซมุมีความลับบางอย่าง

 

สาเหตุเกิดขึ้นก็ตอนที่โนโซมุต่อสู้กับจิฮัดที่ลานประลอง ความสงสัยของเธอได้รับการยืนยันเป็นเพราะเคนที่ถูกสัตว์ประหลาดเข้าสิง

 

ความทรงจำในช่วงนั้นของเธอไม่ชัดเจน แต่เธอรู้ได้ว่าโนโซมุเป็นคนช่วยเธอเอาไว้

 

ในเวลาเดียวกันความจริงนั้น ยังทำให้เธอเข้าใจได้ว่าตัวเขาเป็นโนโซมุที่เปลี่ยนไปจากเดิม

 

อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงที่ชื่ออาเซลได้ไล่ล่าโนโซมุ และสิ่งที่ทอมบอกมันก็พอที่จะทำให้เธอช็อคไปชั่วครู่

 

ลิซ่าคิดว่าเขาอาจจะเก็บซ่อนบางอย่างที่เธอไม่ควรรู้ แต่เธอไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะไปพัวผันกับอันตรายเช่นนี้

 

 

 

「ตอนนี้เจ้าหนุ่มนั่นคงอาละวาดไปทั่วแล้ว เนื่องจากความโกรธของเทียแมตได้กลืนกินร่างของเขา ไม่น่าจะกลับเป็นดั่งเดิมได้ คง “หนี”ไม่พ้น……」

 

 

 

「หนี……?」

 

 

 

เมื่อลิซ่าตะลึงกับคำว่า “หนี” เธอจึงหันไปมองชายชราตรงหน้า เขาก็มองราวกับเจ็บปวดใจ

 

โซเมียที่เป็นห่วงก็เงยหน้ามองชายชราที่อยู่ตรงหน้า

 

 

 

「ตอนที่มาถึงโลกแห่งนี้ ข้าก็รู้สึกได้ถึงพลังอันแข็งแกร่ง นอกจากนี้หากพิจารณาจากอาการบาดเจ็บสาหัสถึงชีวิต จึงเป็นเรื่องง่ายๆที่คาดเดาว่าจะเกิดอะไรขึ้น」

 

 

 

「เห็นด้วย……」

 

 

 

ทอมพยักหน้าเล็กน้อยกับคำพูดของซอนเน่

 

ลิซ่า ฮาวนด์ ไม่มีความเกี่ยงข้องโดยตรงกับเทียแมตและแม้แต่อาเซลก็ไม่สนใจ ราวกับวัชพืชที่ขึ้นรอบๆ

 

เมื่อพิจารณาจากอาการบาดเจ็บที่ได้รับ เป็นเรื่องง่ายที่จะจินตนาการว่าใครเป็นคนทำเช่นนี้และผลลัพธ์ออกมาอย่างไร

 

 

 

「อาเซลกำจัดเธอออกมาเพราะความรำคาญและทำร้ายเธอซึ่งไปกระตุ้นความโกรธให้กับเขา ในเวลาเดียวกัน เขาก็ปลดปล่อยพลังของเทียแมต ในขณะที่สูญเสียซึ่งเหตุและผล ตอนนี้เขาจึงหลอมรวมเป็นหนึ่งกับเทียแมตเป็นที่เรียบร้อย」

 

 

 

「ยิ่งไปกว่านั้นหากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ ร่างกายของโนโซมุคงจะอยู่ต่อได้อีกไม่นาน กรณีเลวร้ายที่สุด เทียแมตจะเจาะร่างของโนโซมุจากภายใน」

 

 

 

「หากเป็นเช่นนั้นโนโซมุก็จะ……」

 

 

 

「แน่นอน ว่าต้องตายไปถึงขั้วของวิญญาณ」

 

 

 

ม่านตาของลิซ่าเบิกกว้างเมื่อได้ยินคำว่า “ตาย” ในเวลาเดียวกันเธอก็ลมจับเดินโซเซไปรอบๆ

 

โซเมียที่อยู่ข้างๆรีบพยุงตัวเธอเอาไว้ แต่ใบหน้าของลิซ่าซีดลง

 

ทอมมองเธอด้วยความเจ็บปวดและยืนอยู่ตรงนั้น แต่เขาส่ายหัวราวกับเปลี่ยนใจและจ้องมองไปยังซอนเน่อีกครั้ง

 

 

 

「อะถ้าเป็นสิ่งนั้น! ใช่แล้ว คุณปู่ช่วยทำอะไรกับคุณโนโซมุคนปัจจุบันหน่อยจะได้ไหมคะ!?」

 

 

 

โซเมียที่คอยสนับสนุนลิซ่าส่งเสียงเหมือนกับกรีดร้องออกมา

 

อย่างไรก็ตาม ซอนเน่ยังคงเม้มปากแน่นราวกับหนักใจ

 

 

 

「อย่างที่ข้าบอกไปแล้ว ถ้าข้าปรากฏตัวต่อหน้าเทียแมตจะยิ่งไปเพิ่มความโกรธให้มันเข้าไปอีก ถ้ามิคาเอลปลอดภัย ก็น่าจะสามารถระงับการเคลื่อนไหวของชายคนนั้นได้ในระดับหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าตัวเขาจะได้สติกลับมารึเปล่า……」

 

 

 

「ทำไมกัน?」

 

 

 

「เจ้าหนุ่มและเทียแมต นั้นจิตวิญญาณได้หลอมรวมกันกลายเป็นสิ่งที่แข็งแกร่งยิ่งกว่ากายนอกเสียอีก พวกเขาต่างมีสิ่งที่เชื่อมโยงกันและกัน ภายในจิตวิญญาณของพวกเรา ก่อนหน้านี้ข้าพยายามตรวจสอบวิญญาณของพ่อหนุ่มนั่น แต่ก็ทำได้ไม่ดีนักด้วยพลังของข้าที่ถดถอยลง ดังนั้นข้าจึงไม่สามารถเข้าไปยังส่วนลึกของจิตวิญญาณพ่อหนุ่มนั่นได้」

 

 

 

「เป็นแบบนั้นเหรอ…」

 

 

 

「ก็ไม่รู้ว่าเทียแมตคอยแทรกแซงข้ารึเปล่า หรือว่าพ่อหนุ่มนั่นเป็นดราก้อนสเลเยอร์ที่ไม่สมบูรณ์…」

 

 

 

「นั่นฟังดูไม่สมเหตุสมผลเลยนะ……」

 

 

 

แม้ว่าเขาจะสามารถผนึกมันได้ แต่ก็ไม่มีความหมายหากวิญญาณของเขาไม่กลับมา

 

โซเมียอดไม่ได้ที่จะมองต่ำใส่ซอนเน่ที่พูดแบบนั้น

 

เมื่อเห็นสีหน้าปวดใจของสาวน้อย ทอมก็กัดริมฝีปากแน่น

 

 

 

「หวังว่าไอริสและคนอื่นๆจะสามารถช่วยโนโซมุกลับมาได้อย่างปลอดภัยนะ……」

 

 

 

「มันอาจจะยาก สถานการณ์แตกต่างไปจากเมื่อก่อน และเด็กชายก็ลืมตัวตนของเขา ในสถานการณ์แบบนี้การผลักดันให้ก้าวไปข้างหน้าจะมีแต่เสียกับเสีย」

 

 

 

เทียแมตเกลียดมังกรทุกตน และเผ่ามังกรก็คิดแต่จะผนึกเทียแมต เป็นเรื่องยากที่จะทำให้สงบภายใต้สถานการณ์สิ้นหวังเช่นนี้ เนื่องจากแต่ละฝ่ายต่างมีอิทธิพลต่อกัน

 

นอกจากนี้แม้ว่าจะจัดการโนโซมุได้ มันก็คงไม่มีความหมายหากจิตวิญญาณเจ้าตัวไม่กลับมา

 

จะระงับความโกรธของเทียแมตได้อย่างไร?

 

ไม่สงสัยว่าการจะแยกดวงวิญญาณของโนโซมุกับเทียแมตจะทำได้รึเปล่า?

 

ในขณะนั้นคำพูดของซอนเน่ยังคงกวนใจทอมอยู่

 

 

 

「ลองคิดดูสิ อาเซลซังจะไล่ตามเทียแมตในฐานะศัตรูของพ่อเธอถูกไหม แต่ตาแก่ก็บอกว่า “ถ้ามิคาเอลอยู่ที่นั่น” แสดงว่าเขายังมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ?」

 

 

 

อาเซลไล่ตามเทียแมตในฐานะศัตรูของพ่อตัวเองอย่างไรก็ตาม จากสิ่งที่ตาแก่พูดเหมือนพ่อเธอจะยังมีชีวิตอยู่

 

มิคาเอลการดำรงอยู่นั้นเชื่องโยงอย่างลึกซึ้งต่อตัวเทียแมตเรียกได้ว่าเป็นต้นเหตุแห่งความเกลียดชัง

 

เมื่อคิดเช่นนั้น ทอมจึงถามซอนเน่ถึงข้อสงสัยก่อนหน้านี้อย่างตรงไปตรงมา

 

 

 

「อ่า พูดตามตรง มิคาเอลยังมีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ ตอนนี้เขาน่าจะพยายามปิดผนึกเช่นเดียวกับอาเซล

 

 

 อย่างไรก็ตามตัวเขาเป็นเพียงแค่วิญญาณไร้ซึ่งร่างสถิตย์และพลังของมังกรยังคงอยู่ และวิญญาณของเขาเป็นกุญแจสำคัญในการผนึกเทียแมต……」

 

 

 

「กุญแจ?」

 

 

 

เพื่อให้แน่ใจทอมถามซอนเน่อีกครั้ง

 

จากสิ่งที่ได้ยินมา ดูเหมือนมิคาเอลจะเสียร่างมังกรไปแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าตายจากโลกนี้ไป

 

ในตอนแรกถ้าเทียแมตฆ่าเขา เทียแมตก็ต้องมีพลังของมังกรขาวด้วย

 

อย่างไรก็ตามเทียแมตไม่มีพลังของมังกรขาว

 

ตามเรื่องราวที่ทอมได้ยินจากโนโซมุ เทียแมตเป็นมังกรยักษ์ที่มีห้าสีหกปีก แต่ปีกสีขาวที่เป็นสัญลักษณ์ของมังกรขาวไม่ได้ถูกกล่าวถึง

 

เทียแมตไม่ได้ฆ่ามิคาเอล ยังไงก็ตามมีเหตุผลว่าทำไมจึงถูกตกเป็นเป้าหมาของอาเซล

 

 

 

「ตาแก่ทำอะไรกับเทียแมตไม่ได้เหรอ? ไม่ ในตอนแรกเกิดอะไรขึ้นกับมังกรตัวนั้น?」

 

 

 

อาจเป็นทั้งหมดเกี่ยวกับที่ซอนเน่กล่าวว่า “มิคาเอลคือกุญแจสำคัญในการผนึก” แต่น่าเสียดายที่ข้อมูลไม่พอที่จะตัดสินเรื่องราว

 

 

 

「ตามประวัติของเทียแมต เธอถูกปฏิบัติเป็นมังกรผู้ชั่วร้ายกินเพื่อนตัวเองเพราะต้องการพลัง อย่างไรก็ตาม จากสิ่งที่ได้ยินจากตาแก่ ดูเหมือนจะมีอะไรมากกว่านั้น……」

 

 

 

「เรื่องราวที่เกี่ยวกับเทียแมต ที่มนุษย์รู้จักเป็นเพียงผิวเผินของเรื่องราวทั้งหมดและไม่มีใครรู้จริงหรอก……」

 

 

 

เพื่อตอบคำถามของทอมซอนเน่หายใจเข้าลึกๆบ่อไหล่ลงและเริ่มพูดช้าๆด้วยออร่าลึกลับ

 

 

 

「ห้าพันปีก่อน ข้าอยู่ในตำแหน่งที่เป็นหัวหน้าเผ่ามังกรขาว ในเวลาเดียวกัน ข้าก็เป็นคนที่เปลี่ยนมิคาเอลให้อยู่ในรูปลักษณ์ของวิญญาณเพื่อไว้ใช้ผนึกเทียแมต」

 

 

 

ไม่มีร่องรอยของความร่าเริงในน้ำเสียงขณะที่พูดอย่างช้าๆ

 

 

 

「ก่อนที่เทียแมตจะถูกเรียกว่าเป็นมังกรแห่งหายนะ เธอได้ทำงานร่วมกับเพื่อนๆของเธอเพื่อช่วยเหลือมนุษย์จากความทุกข์ทรมาน

 

จุดศูนย์กลางโดยมีมังกรเป็นคนเริ่มในสถานที่ๆธรรมชาติโหมกระหน่ำไปด้วยความโกลาหล มังกร มนุษย์ สัตว์อสูรและเผ่าพันธุ์อื่นๆทั้งหมดต่างทำงานร่วมกันเพื่อสร้างยูโทเปีย(ดินแดนแห่งฝัน)

 

 อย่างไรก็ตาม ด้วยแผนการ ความปรารถนา และความเข้าใจผิดทั้งหลาย ทำให้ทั้งหมดกลายเป็นดิสโทเปีย(ดินแดนแห่งการล่มสลาย)……」

 

 

 

ซอนเน่กัดริมฝีปากด้วยสีหน้าเจ็บปวดราวกับว่าสะเก็ดแผลเป็นที่รักษาไม่หายได้หลุดออก เขาจึงพูดต่อ

 

 

 

「หลังจากที่ยูโทเปียถูกทำลายด้วยน้ำมือพวกเขาเอง เพื่อที่จะหยุดยั้งเธอจากการอาละวาดและทำลายทุกสิ่ง เราซึ่งเป็นเผ่ามังกรจึงได้ผนึกซากปรักหักพังของยูโทเปียและตัวเธอที่เป็นคนสร้างมันขึ้นมา

 

ในท้ายที่สุดที่เราทำได้ก็มีเพียงแค่นั้น」

 

 

 

ด้วยแววตาสุดแสนเสียใจ ซอนเน่เงยหน้ามองท้องฟ้าสีเทาด้วยสีหน้าเศร้าใจ

 

 

 

「……มันเป็นความเข้าใจผิดอันน่าเศร้า ทั้งเทียแมตและมิคาเอลพยายามทำทุกสิ่งเพื่อคนที่พวกเธออยากจะปกป้องเอาไว้」

 

 

 

บางทีมันอาจจะเจ็บปวดเกินกว่าจะพูดไดด้ ซอนเน่จึงเงียบไป

 

ลมหายใจอันหนักหน่วงของซอนเน่ดังอยู่ในหูของทอม

 

หากมองใกล้ๆจะเห็นเส้นเลือดที่ไหลเวียนจากหมัดที่กำแน่นของเขา

 

ทั้งทอมและโซเมียได้แต่จ้องซอนเน่อย่างเงียบๆซึ่งมีสีหน้าเศร้าๆอยู่

 

 

 

「เอ่อ คือ!」

 

 

 

ในเวลานั้นลิซ่าได้ก้าวเข้าสู่ส่วนลึกของป่า ปากของเธอผิดรูปด้วยความหงุดหงิด

 

โซเมียที่พยุงร่างเธออยู่ข้างๆรีบตะโกนเรียกลิซ่า

 

 

 

「เอ่อ คุณลิซ่า ไม่เป็นไรนะคะ?」

 

 

 

「ไม่เป็นไร…นี่ไม่ใช่เวลามาตกตะลึงกับสถานการณ์แบบนี้…ฉันจะไปหาโนโซมุ」

 

 

 

น้ำเสียงสิ้นหวังราวกับถูกขับเคลื่อนด้วยความหงุดหงิด

 

 

 

「แล้วจะทำอะไรเหรอคะหากไปหาไปหาคุณโนโซมุได้แล้ว?」

 

 

 

「ฉันไม่รู้หรอกว่าต้องทำอะไร แต่ฉันทนไม่ไหวที่ไม่ได้ทำอะไรเลยต่างหากล่ะ……」

 

 

 

「……นั่นหมายความว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะไร้ความหมาย หากไม่ลงมือทำอะไรเลยสินะ? แต่ว่าแม่สาวน้อย ไม่ใช่ว่าเธอกำลังจะยอมแพ้กับตัวเองใช่ไหม」

 

 

 

การมองทะลุของซอนเน่ทำให้ลิซ่านิ่งเงียบ

 

สำหรับเขา ลิซ่าคือกุญแจสำคัญที่ทำให้โนโซมุเกิดความปั่นป่วน หากตายขึ้นมา จะไม่มีทางพาเขาย้อนกลับมาอีกแล้ว

 

 

 

「ถ้าถามว่าฉันเป็นแบบนั้นไหม ก็ต้องบอกว่าได้แต่โกหกจริงๆ ใจจริงฉันอยากจะฟันคอตัวเองให้หลุดแบบรู้แล้วรู้รอดไปเลย……」

 

 

 

จริงๆแล้วแม้แต่ตอนนี้ลิซ่านึกถึงคำพูดของตัวเธอเองที่พูดดูถูกเหยียดหยามโนโซมุมากมายในอดีต

 

 

 

「แต่ฉันทำแบบนั้นไม่ได้จริงๆ หากเป็นแบบนั้นทุกสิ่งที่โนโซมุต้องอดทนมาอย่างยากลำบากจะต้องสูญเปล่าเพราะฉัน ฉันปล่อยให้เป็นแบบนั้นไม่ได้จริงๆ ฉันเริ่มคิดแบบนั้นเมื่อได้เห็นไอริสดิน่าและคนอื่นๆ……」

 

 

 

ใช่ เธอเป็นคนให้คำตอบ

 

ดังที่โนโซมุคาดหวังไว้ พวกเราควรเดินไปข้างหน้า

 

แม้ว่าความรู้สึกของเขาจะซับซ้อนต่อหญิงสาวที่เขามีใจให้ แต่เขาก็เลือกที่จะข้ามผ่านอดีตอันโหดร้ายและเผชิญวันใหม่

 

เธอยิ้มโดยไม่สนใจว่าคู่ต่อสู้จะเป็นใครต่อให้เธอไม่มีสิทธิ์จะยืนเคียงข้างอีกแล้วก็ตาม

 

 

 

「นอกจากนี้ ฉันยังมีเรื่องที่ต้องบอกเขามากมายเป็นภูเขาเลยล่ะ ถ้าไม่พูดคุยกันให้รู้เรื่อง พวกเราก็เริ่มต้นใหม่กันไม่ได้หรอก……。

 

 นอกจากนี้ ในแง่ที่ว่าฉันไม่สามารถตายได้ ไอริสและคนอื่นๆก็เช่นเดียวกันไม่ใช่เหรอไง?」

 

 

 

ซอนเน่ได้ยินแบบนั้นก็ครุ่นคิด

 

คำพูดของลิซ่าถูกต้องในแง่ที่ว่าไม่ควรมีใครตาย

 

คราวนี้ลิซ่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้โนโซมุอาละวาด แต่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ถ้าเป็นคนอื่นก็คงไม่ต่างกัน

 

หากอาเซลจับไอริสและคนอื่นๆที่เกี่ยวข้องได้ ตำแหน่งของลิซ่าและเหล่าสาวๆก็คงจะกลับกัน

 

นอกจากนี้ ยังไม่สามารถปล่อยโนโซมุและไอริสกับคนอื่นๆเผชิญหน้ากับเขาที่คุมตัวเองไม่ได้

 

หากเขาควบคุมพลังตัวเองไม่ได้และจับพวกสาวๆไว้ในมือก็จะเป็นสถานการณ์ที่ยากเกินแก้ไข

 

เมื่อมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับใครสักคน ความสิ้นหวังที่เกิดขึ้นจากสิ่งนั้นมันนับไม่ถ้วน

 

แม้ว่าลิซ่าจะสามารถรอดจากความตายได้ แต่สถานการณ์ยังคงคาดเดาไม่ได้

 

 

 

「สุดท้ายถ้าไม่ลงมือทำ ก็จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เอาล่ะไปหาไอริสและคนอื่นๆกันเถอะ」  

 

 

 

ยังไม่เห็นถึงวิธีแก้ไขปัญหาในตอนนี้ แต่เสียเวลามากกว่านี้ไม่ได้แล้ว เมื่อตัดสินใจได้แล้ว ทอมก็ร่วมเดินทางไปด้วย

 

แม้ว่าจะมัวแต่ตั้งคำถามไป แต่คำตอบมันไม่วิ่งเข้ามาหาเราเองหรอกนะ

 

ความรู้คือพลัง แต่ความมุ่งมั่นก็ต้องมีเหมือนกัน

 

ทอมปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาไม่ถนัดด้านใดด้านหนึ่งเป็นพิเศษ แต่คงเป็นเรื่องยากสำหรับพวกไอริสและคนอื่นๆที่ใช้ความรู้สึกนำทาง

 

หากเป็นแบบนี้ไม่มีทางเลือกที่จะต้องเข้าร่วม

 

อย่างไรก็ตาม ตัวทอมที่ตกอยู่ในความสับสน พูดไม่ได้อยากภาคภูมิใจว่าจะเผชิญหน้ากับโนโซมุในสภาพบ้าคลั่งได้รึเปล่า

 

สิ่งที่จำได้คือโนโซมุที่ชำแหละมังกรแห่งความตายประกอบด้วยพลังสีดำที่พุ่งออกจากร่าง มันเป็นภาพติดตาถึงทุกวันนี้

 

ร่างกายเริ่มแข็งทื่อ อดไม่ได้ที่กลัวหรือร้องไห้

 

 

 

「คุณทอม….!」

 

 

 

พยายามจะยิ้มเพื่อไม่ให้โซเมียต้องเป็นห่วง ทำให้เธอสบายใจแต่ปากของชั้นก็ยิ้มไม่ออกอยู่ดีและตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า

 

ทอมหัวเราะให้กับโซเมีย จากนั้นกระแอมไอด้วยความเขินอาย

 

ความตึงเครียดในไหล่หายไปก่อนที่จะรู้ตัว

 

 

 

「ไปกันเถอะ คุณปู่เองก็ด้วยมีอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องการยืนยัน」

 

 

 

「มันคืออะไร? ข้าจะไม่ปกปิดอะไรหรอกนะเชิญถามมาได้เลย」

 

 

 

「เกี่ยวกับเรื่องนั้น……」

 

 

 

ขณะที่มองลึกเข้าไปในป่าที่ไอริสและคนอื่นๆกำลังต่อสู้ ทอมถามคำถามสุดท้ายกับซอนเน่

 

 

————————————————————————

 

เมื่อความฝันของเขายังถูกย้อมไปด้วยโลหิต โนโซมุยังคงเปล่งเสียงต่อไปด้วยความโกรธแค้น

 

เขาไม่สามารถบอกได้อีกต่อไปว่าควาบเจ็บใจนั่นเป็นของตัวเองหรือเทียแมตกันแน่

 

การระเบิดอารมณ์จากการที่เห็นลิซ่าถูกทำร้าย

 

การใช้สิ่งนี้กลายเป็นให้เทียแมตได้เข้าครอบงำจิตใจ ทำให้ความโกรธของทั้งสองหลอมรวมกัน และทำให้สิ่งที่เห็นตรงหน้านั้นพร่ามัว

 

รู้สึกเหมือนกับกำลังจะละลายหายไป

 

ความเหื่อยล้าที่หนักหน่วงไปทั่วทั้งร่างกายถูกบังคับให้ขับเคลื่อนด้วยพลังที่เอ่อล้นจากส่วนลึกภายในร่างกาย

 

ไม่รับรู้ถึงความเจ็บปวดอีกต่อไปแแล้ว

 

ไม่รู้สึกอึดอัดแม้จะมองไม่เห็นสิ่งตรงหน้าที่ถูกย้อมไปด้วยโลหิต ในทางกตรงกันข้ามโลหิตนั้นกลับเข้มข้นยิ่งขึ้น

 

โดยการมุ่งความสนใจไปที่ “ศัตรู” สีขาวที่อยู่ตรงหน้าเขาเท่านั้น เขายกดาบขึ้นเพื่อสังหารมันและมุ่งหน้าต่อไป

 

 

 

“เท็ต ขอบคุณที่พยายามอย่างหนักนะ”

 

 

 

“จริงเหรอ~ทำไมฉันต้องทำหน้าแบบนั้นในร่างมนุษย์ด้วยล่ะ~!”

 

 

 

“ฉันเคยพูดเรื่องแบบนั้นเหรอ? หากกลายเป็นประมุขของประเทศหนึ่งก็ต้องมีศักดิ์ศรีและความภาคภูมินะ เท็ตรู้สึกผิดหวังรึเปล่า เพราะว่าต้องทำอะไรสักอย่างกับรูปลักษณ์ตัวเองในตอนนี้นะ?”

 

 

 

“เอ่อ มิคาเอลโหดร้ายจังเลยนะ……”

 

 

 

เสียงของใครบางคนดังก้องอยู่ในหูของโนโซมุ เสียงของคนที่เขารู้จักและไม่รู้จัก

 

ไม่มีความโกรธในน้ำเสียงเหล่านั้น มีเพียงความสับสนและอับอายเท่านั้น

 

แม้ว่าเสียงที่ผมไม่รู้จักจะเป็นเหมือนคนที่ดูอันตราย แต่ก็มีบางอย่างที่ฟังดูคุ้นเคย

 

ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงนั้น ความเจ็บปวดในอกก็มากล้น

 

 

 

“มิคาเอลลลลลลลลลลลลลลลลลลล!”

 

 

 

เสียงของเธอเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ถึงแบบนั้น โนโซมุก็สัมผัสได้ว่ามันเป็นของคนอื่น

 

โลหิตสีเข้มที่บดบังการมองเห็นได้มืดลงและความโกรธที่ปะทุอย่างไร้ขอบเขต

 

โนโซมุและเทียแมตทั้งสองยังคงเดินหน้าต่อไปราวกับรถม้าที่บ้าคลั่ง

 

ขณะที่รู้สึกเจ็บแปล๊บที่หน้าอกราวกับถูกทิ่มแทง

 

——————————————————————————

 

「「กร๊าซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซ!」」

 

 

 

เสียงกรีดร้องอันโกรธเกรี๊ยวดังทั่วไปในป่าสีเทาซึ่งสีสันได้จางหายไป

 

ชายหนุ่มคนนั้นที่เต็มไปด้วยความโกรธวิ่งเข้าหาขณะกระทืบพื้นเข้ามาใกล้

 

มิคาเอลซึ่งสูญเสียพลังและนอนอยู่บนพื้นอยู่ในทางเดินของเขา และไอริสที่ยืนปกป้องเขาอยู่

 

 

 

「มิมูรุ ขอฝากหน่อยนะ!」

 

 

 

「เอ่อ ไว้ใจได้เลย」

 

 

 

ไอริสอุ้มมิคาเอลขึ้นมาจากเท้าและขว้างไปให้มิมูรุ

 

ด้วยการเคลื่อนไหวอันว่องไวมิมูรุจับมิคาเอลที่ถูกโยนออกไปและพยายามจะถอยหนี

 

สายตาของโนโซมุจับจ้องไปยังมิมูรุที่ถือมิคาเอลเอาไว้

 

ก้าวพริบตาถูกเปิดใช้งานอย่างรวดเร็ว โนโซมุปิดช่องว่างกับมิมูรุเร็วดั่งพายุ และยกดาบขึ้นในมือขวา

 

 

 

「เหมียววววววววววว!?」

 

 

 

「ศัตรูอยู่นี่เฟ้ย!」

 

 

 

มาร์ที่เข้ามาขัดโนโซมุที่ไล่ตามมิมูรุก็สบถคำด่าออกมา

 

ซึ่งไปทันเวลาพอดี เขาฟาดดาบใหญ่ลงอย่างสุดแรง และห้อยมันไว้กับเสื้อคลุม

 

ความสามารถทางกายภาพของเขาแข็งแกร่งขึ้นด้วยคิ และน้ำหนักของดาบใหญ่เมื่อรวมสองสิ่งเข้ราด้วยกัน การโจมตีของเขาสามารถทำให้หินแตกได้อย่างง่ายดาย

 

 

 

「ฮึบ!」

 

 

 

โนโซมุปัดป้องดาบที่เข้ามาใกล้อย่างง่ายดาย

 

ดาบของมาร์ที่ถูกฟาดด้วยแรงมหาศาลไหลไปตามดาบของโนโซมุและถูกเบี่ยงไปด้านข้าง

 

โนโซมุรับมือกับดาบของมาร์ราวกับเป็นของกล้วยๆ เขาก้าวไปข้างหน้าและพยายามจะฟันศัตรูตรงหน้า

 

ดาบของโนโซมุที่ใช้ความสามารถทางกายภาพที่มากขึ้น พลังที่ถูกปกคลุมไปทั่วใบดาบหากโดนมันเข้าจริงจัง ต่อให้เป็นมนุษย์ก็ถูกตัดขาดออกเหมือนเนย

 

นอกจากนี้มาร์ยังคงแกว่งดาบใหญ่โดยปล่อยให้ส่วนบนไร้ซึ่งการป้องกัน

 

 

 

「อึก ขอโทษ!」

 

 

 

เมื่อดูเหมือนว่าดาบของโนโซมุจะผ่าตัวมาร์ ถุงมือของมาร์ก็สว่างวาบอีกครั้ง

 

ทันทีหลังจากนั้น ร่างกายของมาร์และดาบใหญ่ที่เหวี่ยงออกไปหลอมรวมเข้ากับพลังเวทย์และพลังงานที่หนานแน่น และดาบใหญ่ถูกดึงกลับมาด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ โดยปิดกั้นดาบที่จะมาถึงของโนโซมุ

 

เคร้งงงงงงงง ! เสียงดังก้องบาดหู และคลื่นกระแทกก็สั่นไปทั่วทั้งตัวมาร์

 

 

 

「อั่ก!」

 

 

 

「ชิ!?」

 

 

 

แม้ว่ามาร์จะกัดฟันอดทนมันมาได้ แต่โนโซมุก็แสดงสีหน้าโกรธเกรี้ยวขณะที่มองดาบที่เคลือบไปด้วยคิถูกปัดออก

 

 

 

「โอ่ยยยยยยย่าาาห์!」

 

 

 

นอกจากนี้ด้วยการบังคับร่างกายที่ชาเล็กน้อยเพราะแรงกระแทก มาร์พยายามเอาดาบใหญ่เข้าไปขวางเหมือนเป็นโล่

 

โนโซมุยืดหยัดอย่างมั่นคงและสกัดกั้นแรงผลักของมาร์

 

ทั้งสองต่างเข้าปะทะด้วยความสมบูรณ์แบบ แม้จะมีเสียงโลหะเสียดสีกันและทั้งสองก็ถอยกลับ

 

 

 

「หนอยยยยยยยยยยยย……」

 

 

 

เสียงครวญครางเล็ดลอดออกมาจากปากมาร์

 

เหตุผลที่สามารถต่อสู้กับโนโซมุได้ แน่นอนว่าเพราะการเสริมร่างกายด้วยพลังเวทย์และคิในเวลาเดียวกัน

 

ในความเป็นจริง ในถุงมือของเขา เทคนิคสลักรูนที่ทอมทำเพื่อเพิ่มความสามารถทางกายภาพสูงสุดได้เปล่งประกายออกมา

 

ไม่ว่าจะใช้พลังเวทย์ไปมากเพียงใดก็ไม่เพียงพอจะหยุดโนโซมุ

 

ขณะที่โนโซมุยังเสริมพลังไปที่คมดาบขึ้นเรื่อยๆ ความสมดุลระหว่างทั้งสองก็ค่อยๆพังทลาย และดาบของโนโซมุก็เข้าใกล้มาร์มากขึ้น

 

ด้วยเสียงที่สั่นสะท้านมากยิ่งขึ้น ดาบของโนโซมุเริ่มเฉือนเข้าไปในดาบใหญ่ของมาร์

 

 

 

「อึ๋ย!?」

 

 

 

มาร์อดไม่ได้ที่จะร้องออกมาเพราะดาบของโนโซมุเริ่มที่จะตัดผ่านดาบของเขา

 

ในขณะที่โนโซมุดึงมือซ้ายออกจากด้ามดาบและชกไปที่สีข้างของมาร์ด้วยหมัด

 

 

 

「อึ่ก!? อ่อก! ท้ายที่สุดแล้วการมุ่งเน้นไปที่สองสิ่งด้วยการเสริมพลังกายยังไม่พอรึเนี่ย!」

 

 

 

มาร์เหยียบพื้นไว้และถอยหลังไปสองสามก้าวขณะที่แรงสั่นสะเทือนก้องไปถึงแกนกลาง

 

แม้ว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากเวทย์ของทอม แต่เดิมมาร์ก็ยังควบคุมพลังได้ไม่ดีเท่าโนโซมุ มีความแตกต่างแน่นอนมันขึ้นอยู่กับทักษะของแต่ละคน

 

มาร์ถอยกลับแต่โนโซมุก็ไล่ตามอย่างไม่ลดละ

 

ดาบของโนโซมุเหวี่ยงลงตัดเสื้อคลุมด้วยความเร็วที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น มาร์กรีดร้องด้วยความเจ็บปวดที่ไหล่ถึงสีข้างของเขาได้แต่กัดฟันและยกดาบใหญ่ขึ้น

 

ดาบสองเล่นชนกันกลางอากาศ เคร้งงงงงงงงงงง……..! เสียงแหลมสูงดังก้องอยู่ในหูของเขา

 

ทั้งสองฝ่ายเข้าห่ำหั่นกัน การโจมตีทุกครั้งล้วนมีประกายไฟเกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ

 

 

 

「ย๊ากกกกกกกกกกกห์!」

 

 

 

ด้วยจิตวิญญาณอันมุ่งมั่น มาร์ยืนหยัดอย่างมั่นคงไม่ยอมแพ้

 

แรงกระแทกที่ทำให้เท้าทรุดลงและดาบขนาดใหญ่ที่ฟันออกไปก็ฉีกบรรยากาศออกเป็นชิ้นๆ พยายามสังหารศัตรูตรงหน้า

 

รูปแบบการต่อสู้ชั่วพริบตานั้นทำให้นึกถึงจิฮัดคนนั้น

 

ในความเป็นจริงความสามารถของมาร์ที่ใช้เทคนิคประสานใกล้เคียงกับจิฮัดเลยล่ะ

 

แต่ว่าต่อหน้าดราก้อนสเลเยอร์ เป็นศัตรูที่ยากจะต่อกรจริงๆ

 

เทคนิคดาบของโนโซมุเบี่ยงเบนดาบของคู่ต่อสู้ได้ด้วยแรงเพียงนิดหน่อย และมันเฉือนไหล่ของมาร์เป็นการตอบแทน

 

 

 

「อั่ก! ท้ายที่สุดแล้วก็ยังไม่เพียงพอ!」

 

 

 

เป็นไปไม่ได้ที่จะหยุดยั้งเขาด้วยเทคนิคประสาน มาร์ยังคงแกว่งดาบต่อไป แม้ว่าจะทนต่อความเจ็บปวดผ่านไหล่ของเขาก็ตาม

 

แม้ว่าจะถูกผลัก แต่ใบหน้าของมาร์ก็ยังคงกัดฟันสู้ โดยหวังว่าการต่อสู้นี้จะช่วยพัฒนาตัวเขาก็ยังดี

 

ไม่ว่าจะเพิ่มความแข็งแกร่งมากแค่ไหน แต่อีกฝั่งคือเทพมังกรในตำนานที่สถิตย์อยู่ในร่างมนุษย์ จึงเข้าใจได้จากการต่อสู้ครั้งก่อน

 

ใช่ ถ้ามาร์คนเดียวคงเอาไม่อยู่

 

 

 

「ฮะฮะฮะฮ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!」

 

 

 

ไอริสกระโดดออกมาจากด้านหลังของมาร์ที่กำลังรับการโจมตีอยู่และหมุนตัวไปรอบๆและฟันดาบบางๆลงมาด้วยพลังมหาศาล

 

โนโซมุรีบดึงฝักที่ผูกไว้กับเอวออกมาอย่างรวดเร็ว และเบี่ยงการโจมตีของไอริส

 

 

 

「ชิ!」

 

 

แรงกระแทกอันรุนแรงจนแทบไม่อยากจะเชื่อว่ามันถูกปล่อยออมาจากมือเดียวที่จับฝักดาบเอาไว้

 

นอกจากนี้โนโซมุยังเล็งมาที่เธอด้วยการเคลื่อนไหวอันรวดเร็วและพยายามใช้ดาบในมือขวาฟาดฟันไปที่ไอริส

 

คมดาบมากมายโถมกระหน่ำเข้าไอริสดุจพายุ

 

 

 

「อั่ก!」

 

 

 

ยังไงก็ตามวินาทีต่อมาไม่ใช่เสียงเฉือนเนื้ออันน่าขนลุกแต่เป็นเสียงโลหะที่มีความแหลมสูง

 

ดาบบางๆของไอริสถูกยกขึ้นด้วยความเร็วทำให้ดาบของโนโซมุถูกเบี่ยงออกไป

 

หากมองใกล้ๆจะเห็นได้ว่าร่างกายของไอริสรอบตัวถูกล้อมไปด้วยพลังเวทย์อันหนาแน่นและมีเครื่องหมายมากมายส่องอยู่บนอกเธอ

 

นี่เป็นเวทย์เสริมความแข็งแกร่งที่ใช้พลังเวทย์ของคนอื่นเช่นเดียวกับที่เอาชนะกับอาเซลก่อนหน้านี้

 

สำหรับเวทย์เสริมพลังตามปกติ เพียงคนเดียวก็พอแล้ว

 

อย่างไรก็ตามเพื่อให้สอดคล้องกับพลังเวทย์อันมหาศาลจากทิม่าที่ตั้งใช้พลังเวทย์สี่ธาตุเพื่อเปิดใช้งานเวทย์เสริมพลังขั้นสูงสุด จึงทำให้การควบคุมและซัพพอร์ตสอดคล้องในเวลาเดียวกัน

 

และดาบเวทย์ของไอริสก็คือดาบ “สุริยะคราส”

 

อาวุธลับของไอริส เดิมทีเป็นดาบที่สามารถเผชิญหน้ากับแฟนท่อมได้โดยตรง แต่การควบคุมเป็นเรื่องยากมาก ในขณะที่ใช้ดาบเวทย์นี้ เธอไม่สามารถใช้เวทย์อื่นได้เลย รวมถึงเวทย์เสริมพลังกาย

 

นั่นเเป็นเหตุผลที่เธอต้องรับพลังเวทย์มหาศาลมาจากทิม่าและการซัพพอร์ตจากฟีโอทำให้ได้รับความสามารถเหนือมนุษย์ชั่วคราวมาสู้กับโนโซมุ

 

 

 

「อึก!? อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!」

 

 

 

ดวงตาที่โกรธเกรี๊ยวของโนโซมุฉายแววออกมาด้วยความประหลาดใจเล็กน้อยขณะที่การโจมตีของตัวเองถูกขัดขวาง

 

โนโซมุแก้ไขด้วยการบิดเบือนวิถีดาบ เขาหมุนข้อมือของเขาและฟันดาบลงด้วยความรวดเร็ว

 

 

 

「ฮ่าห์!」

 

 

 

แต่ว่าไอริสก็สามารถรับดาบของเขาได้

 

โนโซมุที่ฟาดฟันดาบราวกับพายุซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ไอริสก็ป้องกันไว้ด้วยดาบเวทย์เป็นการแลกดาบกันอย่างไม่หยุดยั้ง เป็นเพียงการแลกดาบด้วยความเร็วแสงจนไม่มีใครตามทัน

 

 

 

「โนโซมุ ได้โปรดตื่นเถอะ!」

 

 

 

「「มิคาเอลลลลลลลลลลลลลลลลลล!」」

 

 

 

ดาบบางที่เขาฟันถูกสลับไปมือซ้ายและฝักดาบถูกสลับมาฝั่งขวาถูกดาบบางๆของเขาปิดกั้นไว้

 

 

 

「อึก! แม้ว่าจะยืมพลังเวทย์ของทิม่าและได้รับการสนับสนุนของฟัโอก็ยังไม่พอเหรอเนี่ย!」

 

 

 

แม้ว่าจะพยายามเรียกสติโนโซมุอย่างสิ้นหวัง เหมือนตอนนั้น แต่ตัวเขากลับไม่ตอบสนองต่อคำพูดของเธอ

 

การจ้องมองของเขามองไปหามิมูรุคนเดียวเท่านั้น

 

ครั้งสุดท้ายที่โนโซมุอาละวาด แม้ว่าเขาจะสับสนกับพลังของเทียแมต แต่สิ่งที่เขามองหาทุกครั้งคือไอริส และเพื่อนๆ นั่นทำให้เธอหงุดหงิดเล็กน้อยที่ไม่มองเธอ

 

ครั้งนี้ทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อลิซ่าได้รับบาดเจ็บ และยิ่งกว่านั้นบาดแผลปางตาย คงไม่แปลกที่เขาจะเสียสติ

 

โนโซมุหวังว่าลิซ่าจะหายดีไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ไม่่นาแปลกใจที่เขาระเบิดความโกรธจนสูญสิ้นทุกเหตุผล

 

 

 

(แค่ดึงสติยังไม่พอ ต้องมีเหตุผลมากกว่านี้ฉุดรั้งเขาขึ้นมา……)

 

 

 

「ย๊ากกกกกกกกกกห์!」

 

 

 

「อั่ก!」

 

 

 

ไอริสพยายามคิดอย่างสิ้นหวัง แต่ความคิดก็ถูกขัดด้วยดาบของโนโซมุ

 

เนื่องจากผลของการควบคุม “สุริยะคราส”และการเสริมพลังกายที่มากเกินไป ทำให้ความคิดอ่านของเธอเริ่มช้าลง

 

นอกจากนี้สถานการณ์ยังเป็นแค่ทางฝั่งนี้ฝ่ายเดียว ไม่รู้ว่าจะโดนไล่ต้อนจนมุมตอนไหน

 

 

 

「หากเมินข้ามากเกินไปเดี๋ยวก็ได้ไม่ตายดีหรอกโนโซมุ!」

 

 

 

เพื่อสนับสนุนไอริส มาร์จึงเข้าประกบจากอีกด้านหนึ่ง

 

การโจมตีแบบเสริมพลังด้วยเทคนิคประสาน โนโซมุปัดป้องด้วยฝักในมือซ้าย

 

 

 

「อะไรวะนั่นรับดาบด้วยมือเดียวเนี่ยนะยังน่าทึ่งเหมือนเดิมเลยนะไอ้เพื่อนรักเอ้ย!」

 

 

 

มาร์และไอริสกำลังฟาดฟันดาบใส่เขา แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะได้ เรียกได้ว่า 1 รุม 4  

 

ขณะที่ส่งเสียงด้วยความประหลาดใจกับคำพูดไร้สาระของมาร์ โนโซมุก็รับดาบใหญ่ของมาร์ที่ทุ่มสุดตัวเอาไว้

 

 

 

「ย๊ากกกกกกห์!」

 

 

 

ทั้งสองต่างจ้องมองกันในระยะใกล้อีกครั้ง คราวนี้ดาบของโนโซมุไม่ได้ตัดผ่านดาบใหญ่ของมาร์ เพราะใช้ฝักดาบแทนดาบ

 

นอกจากนี้ไอริสยังโจมตีจากอีกฝั่ง

 

ดาบคาตานะและดาบเรเปียร์เข้าปะทะกัน “สุริยะคราส”ของไอริสป้องกันแฟนท่อมของโนโซมุ และเวทย์เสริมความแข็งแกร่งของทิม่าก็เสริมพลังทางกายภาพ

 

ไอริสและมาร์จับโนโซมุโดยการประกบทั้งสองด้าน

 

 

 

「หึ!?」

 

 

 

「เอาล่ะ จับได้แล้วโว้ย!」

 

 

 

「แต่ไม่ว่าจะต้อนยังไงเขาก็รับมือได้ด้วยเพียงมือข้างเดียว แข็งแกร่งสุดๆไปเลยนะคะ!」

 

 

 

โนโซมุไม่ว่าจะโดนโถมหนักมากเท่าไร ก็ไม่สามารถสลัดไอริสกับมาร์ให้หลุดได้ อย่างไรก็ตามไอริสและมาร์ก็บุกเข้าใส่เขาไม่ได้เช่นกัน  

 

 

 

「ขอร้องล่ะซีน่า ช่วยพยายามโน้มน้าวเขาที……」

 

 

 

ในสถานการณ์สุดแสนสิ้นหวังนี้ ไอริสมองไปยังผู้หญิงที่อยู่ข้างหลังเธอ

 

———————————————————————————————-

 

 

มิมูรุที่จับมิคาเอลมาได้วิ่งไปหาซีน่าพร้อมกับร่างที่เหนื่อยล้า และกระโดดไปตรงเท้าของเพื่อนสนิท

 

 

 

「อุหวาาาาาา ! คิดว่าจะตายซะแล้วอีกเมี๊ยว!」

 

 

 

มันคงจะน่ากลัวมากแม้แต่ตัวเธอที่รักสนุกจนถึงตอนนี้ยังหางสั่นเป็นเจ้าเข้า

 

 

 

「มิมูรุ ขอบคุณที่พยายามอย่างหนัก ส่งคริสตัลนั้นมาให้ฉันด่วนๆเลย」

 

 

 

「คงจะดีไม่น้อยนะหากให้กำลังใจกันมากกว่านี้อะ ! เอ้าเกือบหัวขาดตัวขาดมาหาเธอแล้วนะ!」

 

 

 

「งั้นเหรอ?」

 

 

 

「อย่างที่คาดไว้เลยน้อท่านซีน่าไว้ใช้บริการเมี๊ยวแว๊นซิ่งทั่วอาร์คมีล……」

 

 

 

「โอ้ยน่ารำคาญส่งมันมาได้แล้ว เดี๋ยวแม่ทุบให้!」

 

 

 

ซีน่าบังคับให้มิมูรุเอาคริสตัลมา อย่างที่คาดไว้ไม่มีเวลามาตบมุขของหล่อน

 

ซีน่าเรียกโนโซมุผ่านวงจรวิญญาณที่ทำไว้ก่อนหน้านี้แล้ว อย่างไรก็ตามรู้สึกได้แต่ความโกรธที่ลุกไหม้

 

แม้ว่าจะพยายามหลายครั้งที่พยายามจะเชื่อมต่อกับวิญญาณของโนโซมุ แต่ว่าการหลอมรวมระหว่างโนโซมุและเทียแมตมันหนาแน่นเกินไป และยากที่จะแยกวิญญาณทั้งสองออกจากกัน ด้วยการแทรกแซงจากภายนอก

 

ก่อนหน้านี้ จิตใจของโนโซมุถูกต้อนให้จนมุม แต่ความมีเหตุผลยังคงอยู่ แต่คราวนี้เข้าไร้ซึ่งสติอย่างสิ้นเชิงเนื่องจากหลอมรวมกับเทียแมต

 

 

 

「ฮึ แม้ว่าจะล้อเล่นแต่ก็เย็นชาจริงน้า ทอมมาหาเค้าเร็วๆหน่อยจิ……」

 

 

 

「มิมูรุ ถ้ายังจะบ่นอีก แม่สับจริงๆนะ มีอย่างอื่นให้เธอทำอีกรู้ไหม!」

 

 

 

「……โปรดส่งใครมารักฉันที อยู่อย่างนี้มันหนาวเกินไป~ อยากจะรู้ว่ารักแท้มันเป็นเช่นไร มีจริงใช่ไหม~」

 

 

 

ขณะที่เตะก้นของมิมูรุที่มัวแต่เพ้อเจ้อไร้สาระ ซีน่าพยายามเชื่อมต่อกับมิคาเอลโดยใช้เวทย์พันธสัญญา

 

คริสตัลที่อาเซลเรียกว่ามิคาเอล ถ้าเดาถูก นี่ก็คงจะเป็นเพื่อนสมัยเด็กของเทียแมตและเป็นพ่อของอาเซล

 

ถ้าเป็นเช่นนั้น ฉันอาจจะหยุดโนโซมุได้ก็ได้

 

 

 

「มิคาเอล ราชันย์แห่งเทพมังกรขาว โปรดจงฟังคำพูดของฉัน……」

 

 

 

“…………”

 

 

 

ซีน่าหวังเล็กๆในใจขณะที่ถ่ายเทพลังเวทย์ลงไปในคริสตัลและทำสัญญาง่ายๆ

 

แต่คริสตัลกลับไม่ตอบกลับอะไร

 

เสียงของซีน่าไปถึงอย่างแน่นอน แต่คำตอบของมิคาเอลคือความเงียบ เมื่อพิจารณาถึงหน้าตา คงจะหน้านิ่วขิ้วขมวดเพื่อนไม่คบแน่ๆ

 

ซีน่าเองก็ถอยไม่ได้เช่นกัน โดยไม่สนใจไมเคิลที่นิ่งเงียบ เธอพูดต่อ

 

 

 

「ได้โปรด ขอร้องล่ะ ช่วยพวกเราหยุดเทียแมตด้วย เธอคือ……」

 

 

 

“เปล่าประโยชน์……”

 

 

 

「เอ๊ะ?」

 

 

 

“หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความเกลียดชังเป็นที่เรียบร้อย เสียงของชั้นคงส่งไปไม่ถึงนางหรอก”

 

 

 

สิ่งที่ฉันได้ยินคือเสียงเรียบๆไร้อารมณ์

 

 

 

「แต่ว่าคุณและเทียแมตเป็นเพื่อนสมัยเด็กกันนะคะ……」

 

 

 

“นั่นแหละเป็นเหตุผลที่เธอจะไม่มีวันให้อภัยชั้นเด็ดขาด ชั้นไม่คิดแม้แต่จะได้รับการให้อภัยจากเธอด้วยซ้ำ สิ่งเดียวที่ชั้นทำได้คือยอมรับว่าชั้นและเธอจะแตกสลายไปพร้อมๆกัน……”

 

 

 

「แต่ว่าในกรณีที่เลวร้ายที่สุด ไม่ใช่แค่ผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นี่นะคะ……」

 

 

 

“นอกจากนี้ ชั้นไร้อำนาจในฐานะเผ่ามังกรแล้ว สิ่งเดียวที่มีอยู่คือพลังที่เอาไว้ผนึกเท็ตและผลักดันเธอไปอยู่โลกอันเดียวดาย แม้ว่าจะขอให้ชั้นตัดสัมพันธ์ของเขากับเท็ต แต่ชั้นไม่มีพลังแบบนั้น……”

 

 

 

「ถ้างั้น……」

 

 

 

ซีน่าพูดไม่ออกกับคำพูดของมิคาเอล

 

หากคำพูดของเขาถูกต้อง นั่นหมายความว่าไม่สามารถพาโนโซมุกลับมาได้

 

 

 

「「ย๊ากกกกกกกกกกกกกห์!」」

 

 

 

「ว๊าาาาาาาาา!」

 

 

 

「อั่ก!」

 

 

 

「อึก!? ไอริสดิน่าจัง! มาร์คุง!?」

 

 

 

ในขณะนั้นคลื่นกระแทกก็กระจายไปทั่วป่าสีเทาพร้อมกับเสียงคำราม

 

ไอริสและมาร์ต่างปลิวไปหาซีน่าและคนอื่นๆในขณะที่ถูกคลื่นกระแทกทำลายขบวน

 

 

 

「เดี๋ยวก่อน! สิเห้ยยยยยยย!」

 

 

 

「ฟุเกี๊ย! เอ่อ เบาๆหน่อยเถิด……」

 

 

 

ร่างที่ถูกเป่าของมาร์ชนเข้ากับฟีโอ และพวกเขาก็ปลิวกันต่อไป มิมูรุจับร่างของไอริสเอาไว้แน่นขณะที่ล้มลง

 

 

 

「ให้ตายเหอะไม่คิดว่าจะใช้ประโยชน์จากแรงปะทะของดาบพวกเราส่งเป็นคลื่นกระแทกแบบนี้……」

 

 

 

「พวกเราวัดพลังกับเขาไม่ไหวหรอก……」

 

 

 

ทันทีที่โนโซมุซึ่งถูกรั้งไว้จากทั้งสองฝ่ายตระหนักได้ว่าเริ่มน่ารำคาญ เขาก็ผ่อนแรงจากแขนและหมอบลงทันที

 

โดยปกติแล้วจะถูกดาบที่เหวี่ยงมาผ่าครึ่งแต่ไอริสกับมาร์เข้าปะทะกันจึงชนกันในอากาศ และโนโซมุก็สลัดดาบของทั้งสองคน

 

 โนโซมุซึ่งเป็นอิสระครู่หนึ่ง รีบเดินตามหลังมาร์ไปอย่างรวดเร็ว และพัดทั้งสองคนที่ปลิวมาด้วย “ปืนใหญ่”

 

 

 

「อึก!? เสียการควบคุมหมดแล้ว!」

 

 

 

ขณะที่ฟีโอที่คุมพลังเวทย์ของทิม่าถูกเป่าทำให้เวทย์เสริมพลังกายของไอริสสิ้นผลลง

 

 

 

「หนอย ! มิมูรุ ! พวกเราสองคนต้องปากกัดตีนทีบ ยื้อเวลาจนกว่าไอริสจะได้เวทย์เสริมพลังกายกลับมา!」

 

 

 

「เนี๊ย ! เอ่อ ถ้างั้นจะให้ฉันไปเป็นแนวหน้า ! มูริมูริมูริมูริมูริมูริมูริมูริมูรี้ เป็นแบบนั้นฉันตายแหงๆ!」

 

 

 

「ลำพังฉันคนเดียวเอาไม่อยู่ ไม่ได้ขอให้ปะทะโดยตรง แค่ให้ล่อเฉยๆ ดังนั้นรีบไปได้แล้ว!」

 

 

 

「ไอ้บ้าเอ้ย ! ทุกคนในปาร์ตี้นี้ใช้งานแมวหนักจริงๆ จำไว้เลยพวกมนุษย์~!」

 

 

 

มิมูรุดึงกริซออกมาจากเอวด้วยน้ำตานองหน้า

 

แต่เมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว คำถามก็เกิดขึ้นกับไอริส ทำไมโนโซมุไม่ฆ่าพวกเขาในตอนที่หลบจากการจับของพวกเขาได้

 

คำถามนั้นได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว เพราะพลังคิที่ถูกจดจ่อมากมายอยู่ในมือซ้ายของเขา

 

ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างตัวหนาวทั้งๆที่อากาศอุ่นแท้ๆ รวมถึงมาร์และมิมูรุที่กำลังไปล่อซื้อด้วย

 

นั่นคือการเตรียมการสำหรับเคล็ดวิชาอันยิ่งใหญ่ของเขาเพื่อทำลายล้างศัตรู

 

คิ“ระเบิดทำลายล้าง”

 

หากเปิดใช้งานจะไม่มีใครรอดแน่ๆ รวมถึงไอริสและตัวโนโซมุเองจะแหลกสลายหายไปพร้อมกัน

 

 

 

「อึก!?แย่แล้วไง! ทุกคนเสริมพลังป้องกันเร็วเข้า!」

 

 

 

ไอริสพยายามสร้างบาเรียที่เท้าของเธออย่างเร่งรีบแต่แขนซ้ายของโนโซมุปล่อยแสงอันเจิดจ้าออกมาแล้ว ดังนั้นเธอจึงสร้างได้ทันเวลาฉิวเฉียด

 

 

 

「「ก๊าซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซ!」」

 

 

 

นอกจากนี้ ธาตุทั้งห้าที่ปะทุออกมาจากร่างของเขาไหล่เข้าสู่แขนซ้าย

 

แหล่งกำเนิดแสงริบหรี่ราวกับไฟนรกทำลายจิตวิญญาณของไอริส ขณะที่เธอพยายามสร้างบาเรีย

 

หากพลังของเทียแมตเพิ่มเข้าไปในคิ “ระเบิดทำลายล้าง” แม้ว่าพลังเวทย์จะเปิดใช้งานได้ทัน แต่ป้องกันไม่ไหวแน่

 

ถึงกระนั้น ไอริสพยายามสร้างบาเรียโดยไม่ยอมแพ้

 

แขนซ้ายของโนโซมุเหวี่ยงลงพื้น

 

กระสุนเพลิงที่ถูกยิงจากด้านหลังไอริสตกลงไปที่แขนซ้ายของโนโซมุทำให้เบี่ยงวิถีของระเบิดทำลายล้าง

 

 

 

「ทันเวลาสินะ……」

 

 

 

「ลิซ่า เธอ?」

 

 

 

เมื่อไอริสหันกลับมา ก็เห็นลิซ่ายืนอย่างสง่าผ่าเผยด้วยผมสีแดงเพลิงของเธอ

 

ตอนนี้ก็ไม่ยาวมากแค่ 26,727 คำ

[นิยายแปล]โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

[นิยายแปล]โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

Score 10
Status: Completed
สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

Options

not work with dark mode
Reset