นางบำเรอเติมใจ 80

ตอนที่ 80

แกริคตื่นตามเวลาปกติถึงจะได้นอนเพียงไม่กี่ชั่วโมง สายตาคมมองแผ่นหลังเปลือยเปล่าของหญิงสาวที่เขารังแกเธอมาทั้งคืนอย่าหลงใหล ก้มจูบลาดไหล่มนเบาๆ แล้วลุกขึ้นไปจัดการกับตัวเอง

วันนี้เมียตัวน้อยของเขาคงต้องลางานจริงๆ เมื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จร่างสูงใหญ่ก็เดินเข้ามาในครัว เปิดตู้เย็นหาวัตถุดิบเพื่อประกอบอาหาร เขาไม่เคยต้องเข้าครัวเองไม่เคยทำอาหารให้ใครทาน พิรุณรักเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้รับสิ่งแรกๆ จากเขาเสมอ

เมนูง่ายๆ ที่คนไทยเขาชอบทานกันเป็นอาหารเช้าถูกตั้งอยู่บนเตาแก๊ส กลิ่นหอมกรุ่นอบอวลไปทั่วห้องครัว เมื่อทำอาหารเสร็จแกริคก็เดินกลับเข้าไปในห้องนอนอีกครั้ง

คนที่นอนหลับพริ้มอยู่บนเตียงก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่น เขาจึงเขียนโน้ตแป๊ะไว้ให้เธอ ตื่นมาคงโวยวายเป็นแน่ที่เขาทำให้เธอต้องหยุดงาน

แกริคเดินออกจากห้องนอนลงมาขึ้นรถหน้าคอนโดหรูที่มีแซคจอดรอรับอยู่ก่อนแล้ว

“คุณปลายล่ะครับ” แซคมองไปข้างหลังไม่เห็นผู้หญิงของเจ้านายเดินออกมาด้วยเลยสงสัย

“วันนี้ปลายลา นายไปจัดการให้ด้วย”

“ไม่สบายเหรอครับ”

“อืม” แกริคตัดบท ก้มหน้าลงมองแทบเล็ตในมือ แซคเองก็ไม่ถามต่อ เขาพอจะเดาออกว่าพิรุณรักคงไม่ได้สบายอย่างที่เจ้านายว่าแต่โดนเจ้านายรังแกเป็นแน่ ถ้าพิรุณรักไม่สบายเจ้านายเขาคงไม่ลงจากห้อง

“บ่ายนี้ฉันมีงานอะไรรึเปล่าแซค”

“ไม่มีครับ” แกริคพยักหน้าแต่ไม่ได้พูดอะไรต่อ

“แต่เมื่อเช้าคุณเกรสันโทรมาถามเรื่องงานครับ”

“ถามทำไม” แกริคขมวดคิ้ว

“คุณเกรสันถามว่าเจ้านายเดินทางไปพบเอเย่นแถบเอเชียรึยังครับ ตั้งแต่มาประจำการที่เมืองไทย” กรามแกร่งบดเข้าหากัน นี่เจ้าพี่ชายจอมสั่งของเขามันจะไม่ให้เขาพักจริงๆ จังๆ สักครั้งสิน่า เขาก็บอกอยู่แล้วว่าขอพักสักสามเดือนยังจะหางานให้เขาอีก

“สั่งให้อาเธอร์ไปแทนฉัน”

“คุณเกรสันยังบอกอีกว่าถ้าเจ้านายยังไม่ไปก็ควรไปพบคู่ค้าของเราสักครั้งในฐานะเจ้าของบริษัทตัวจริง” มันเป็นข้ออ้างทั้งเพ แกริคสถบออกมาอย่างหัวเสีย คำพูดแบบนั้นเหมือนกับสั่งเขากลายๆ ว่ายังไงเขาก็ต้องไป

เอเย่นแถบเอเชียมันมีประเทศเดียวซะที่ไหน สายเดินเรือของซีคีเลียโนครอบคลุมไว้ทั่วแทบเอเชีย ทั้งเวียดนาม สิงคโปร์ กัมพูชา จีน และอีกหลายประเทศ เขาต้องใช้เวลาเดินทางเป็นเดือนถึงจะทัวร์ครบ

“ไว้ฉันจะหาเวลาไป” ช่วงนี้เขายังไม่อยากห่างพิรุณรัก ผู้หญิงยิ่งเป็นประเภทที่คิดมากอยู่ด้วย แค่เห็นเขาคุยกับคนอื่นเธอก็หาว่าเขานอกใจ ถ้าเขาหายไปอีกเป็นเดือนยิ่งไม่แล้วไปกันใหญ่เหรอ

“เวลาไหนล่ะครับ เจ้านายมาอยู่ที่นี่เกือบจะสองเดือนแล้วนะครับอีกแค่เดือนกว่าต้องกลับอิตาลีแล้ว” นี่เขาอยู่นี่เกือบจะสองเดือนแล้วเหรอ ทำไมเขารู้สึกว่าเวลามันช่างน้อยนิดนัก

“กลับไปแล้วฉันค่อยไปก็ได้”

“แต่งานทางโน้นก็เยอะแล้วนะครับ คุณเกรสันอยากให้เจ้านายเคลียร์งานทางนี้ให้เรียบร้อยก่อนกลับไป”

“วะ นายเป็นลูกน้องใครกันแน่วะแซค ฉันพูดอะไรนายก็ขัด” ไล่มันออกตอนนี้เลยดีไหม

“แหะๆ เป็นลูกน้องเจ้านายครับ ผมแค่พูดตามที่คุณเกรสันบอก” แซคเหลือบตามองกระจกหลังรีบแก้ตัวกลัวว่าแกริคจะระเบิดลง

“แล้วเจ้านายจะกำหนดการเดินทางวันไหนดีครับ” แต่แซคก็ยังถามต่อ เพราะยังไงงานนี้เจ้านายของเขาต้องไป ไม่งั้นคุณเกรสันคงไม่ยอมแน่

“ไว้ฉันบอกอีกที” แกริคตอบกลับไปอย่างหงุดหงิด

“มีอีกเรื่องครับ”

“เรื่องอะไรอีกวะ” มันมีเรื่องอะไรนักหนา จากที่อารมณ์ดีกลับต้องมาอารมณ์เสีย

“คุณริก้าครับ เธอยังอยากพบเจ้านายอยู่ จะเอาไงดีครับ” แกริคถอนหายใจ

“นายยังจะให้ต้องบอกอีกเหรอแซค ฉันไม่รู้จักผู้หญิงคนนั้น อย่าพูดเรื่องนี้อีก” แกริคไม่มีความจำเป็นต้องให้ทุกคนสมหวัง ผู้หญิงที่ขอพบเขามีมากมายก่อนหน้านั้น แต่ช่วงสองปีหลังเขาไม่ค่อยตอบรับคำเชิญของใคร

“ครับ”

มาถึงบริษัทร่างสูงใหญ่เต็มด้วยอำนาจก็เดินเข้าไปในบริษัท พนักงานทุกคนก้มหัวทำความเคารพทันทีที่ร่างสูงใหญ่เดินผ่าน นิรินที่กำลังก้าวเข้ามาในบริษัทเห็นเข้าพอดีรีบเดินตรงไปทางแกริคทันที การที่จะได้เจอหรือพบแกริคไม่ใช่เรื่องง่ายถึงจะอยู่ในบริษัทเดียวกันก็ตาม เพราะเขามีคนล้อมหน้าล้อมหลัง

นิรินพยายามวิ่งให้ทันร่างใหญ่เมื่อเห็นว่าอยู่ในระยะใกล้เธอก็ล้มลงร้องโอดโอย

“โอ๊ย” เสียงร้องพร้อมกับร่างบางที่ล้มลงกลายเป็นจุดสนใจของคนที่อยู่ในบริเวณนั้นทันที รวมทั้งแกริคและแซคที่กำลังจะเดินเข้าไปในลิฟต์

ทุกคนไม่กล้าขยับเข้าไปพยุงหญิงสาว เพราะระยะที่เธอล้มนั้นอยู่ใกล้ท่านประธานใหญ่

“เจ็บจัง ท่านประธาน” ใบหน้าสวยที่ฉาบไปด้วยเครื่องสำอางเงยขึ้นมองไปรอบๆ และทันทีที่เห็นท่านประธานใหญ่เธอก็ทำท่าตกใจไม่คิดว่าเขาจะมาอยู่ตรงนี้

“นิรินขอโทษนะคะ คือนิรินสะดุดเท้าตัวเองค่ะ น่าอายจังเลยค่ะ” นิรินแสร้งจับข้อเท้าและรีบขอโทษเขา

แกริคขมวดคิ้วมองผู้หญิงตรงหน้าที่เป็นพนักงานบริษัทเขาและเขาก็จำได้ทันทีว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร คนที่เคยอ่อยเขาจนทำให้พิรุณรักโกรธ แกริคยังคงสีหน้าเรียบเฉยไม่ขยับตัวหรือช่วยเหลือเธอ ซึ่งมันทำให้นิรินหน้าเสีย

“เจ็บข้อเท้าจังเลยค่ะ” นิรินบ่นเบาๆ เหมือนพูดกับตัวเอง

“แซคจัดการด้วยฉันมีเอกสารที่ต้องเซ็นต์” แกริคเดินเข้าไปในลิฟต์ผู้บริหารโดยไม่หันหลังกลับมามอง ซึ่งมันทำให้คนที่นั่งแหมะอยู่ที่พื้นอ้าปากเหวอ ร่วมถึงทุกคนในที่นั้นด้วย

ทุกคนคิดว่ายังไงแกริคก็ต้องเข้าไปช่วยมาเก็ตติ้งสาวสวยเพราะพอรู้ชื่อเสียงของท่านประธานใหญ่เรื่องผู้หญิงอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ทุกคนคงไม่รู้ว่าแกริคไม่ได้สนใจผู้หญิงที่อ่อยเขาเรี่ยราดแบบนี้อีกแล้ว ผู้หญิงพวกนี้มันน่าเบื่อเกินไปสำหรับเขา

คิดว่ามารยาหญิงแค่นี้จะทำให้เขาหลงกลรึไง

นิรินหน้าเสียมองไปรอบๆ ยิ่งทำให้เธออายหนัก ดูเหมือนพนักงานคนอื่นๆ จะมองออกว่าเธอตั้งใจล้มเพราะอยากอ่อยท่านประธาน

นิรินส่งสายตาอ้อนวอนไปให้แซค

“พวกนายมาช่วยพยุงคุณผู้หญิงคนนี้หน่อยซิ” แซคสั่งลูกน้องที่ยืนกระจายอยู่ทั่วทั้งบริษัทเสียงเรียบ นิรินเมื่อได้ยินแบบนั้นเธอก็โกรธจนตัวสั่นแต่ก็ต้องเก็บงำความโกรธเอาไว้

นางบำเรอเติมใจ

นางบำเรอเติมใจ

Score 10
Status: Completed
“ฉันไม่ชอบคนที่ไม่เป็นงาน” แกริคพูดย้ำแล้วก็หลับตาเอนหลังพิงโซฟา ตอนนี้เขาอยากปลดปล่อย เพราะอัดอั้นมาตั้งแต่เมื่อคืนพิรุณรักตาหลุกหลิกมองคนที่หลับตาอยู่ นึกถึงหนังที่ตัวเองดูและคำแนะนำของเพื่อน เธอไม่ควรทำให้เขารำคาญปลายฝนเธอค่อยๆ ขยับขึ้นไปนั่งบนตักแกร่งไม่กล้าจะเทน้ำหนักลงไปทั้งตัวกลัวว่าเขาจะหนัก แต่คนที่หลับตาอยู่ก็จับเธอกดลงบนตักเขาทั้งตัว ทำให้เธอผวาจับบ่าเขาไว้เพราะกลัวตก“เริ่มเลย” แกริคสั่งทั้งที่หลับตาอยู่“ตรงนี้เหรอคะ” ขอให้เธอถามเพื่อเตรียมใจอีกสักนิด นี่เธอกำลังจะเป็นของเขาจริงๆ เหรอแกริคเงยหน้าขึ้นหรี่ตามองเธอ“เอ่อ หนูคิดว่า เราเข้าห้องกันดีกว่าค่ะ” ที่นี่มันโล่งแจ้งเกินไป ถึงจะรู้ว่าไม่มีใครลงมาก็เถอะ แต่ลูกน้องของเขาก็อยู่ข้างบนตั้งหลายคน

Options

not work with dark mode
Reset