นางบำเรอเติมใจ 54

ตอนที่ 54

“เราไม่จำเป็นต้องบอกหมดก็ได้ บอกว่าฉันตามจีบเธอก็ได้ ฉันยอมเสียหาย” คนที่อยากเปิดเผยเรื่องยื่นข้อเสนอให้ พิรุณรักเม้มปากเข้าหากันรู้สึกขัดเขินกับคำพูดของเขา

“ก็ได้ค่ะ หนูจะบอกว่ามีตาแก่โรคจิตตามหนูตั้งสองปี” เธอพูดหน้าง้ำงอ

“ตาแก่เหรอ หืม” แกริครู้สึกมันเขี้ยว

“ใช่ค่ะ หนูยังไม่ลืมนะคะเรื่องยัยนิรินนั้น” พิรุณรักจ้องเขาเขม็งจนคนตัวโตสะดุ้ง เธอไม่จำเป็นต้องเรียกคนที่จะมาแย่งคนรักของเธอสุภาพ เธอไม่ใช่นางเอกที่จะยอมยกเขาให้ใครถ้าเขาไม่ไปเอง

“มันไม่มีอะไร ฉันแค่อยากลองยั่วเธอเล่นๆ คิดว่าฉันโง่ดูผู้หญิงไม่ออกรึไง” ก่อนหน้านี้เขาผ่านผู้หญิงมาตั้งเท่าไหร่ เห็นมาหมดวิธีที่ผู้หญิงเข้าหา มีหรือที่เขาจะไม่ทันคน

“ยั่วเล่น”

“ใช่ เผื่อเธอหึงจนโผล่บอกเรื่องของเรา” แกริคยิ้มแหยๆ ให้เธอ

“หึ เจ้าเล่ห์นักนะ หนูไม่เอาแบบนี้แล้วนะ ไม่ยั่ว ไม่ประชดหนูด้วยวิธีนี้อีก หนูไม่ชอบ คุณไม่ชอบให้หนูโดนตัวคนอื่นหนูก็ไม่ชอบเหมือนกัน”

“ครับ ไม่ทำอีกแล้ว” แกริคยอมรับปากอย่างง่ายดายเมื่อเมียตัวน้อยมีท่าทีจะโกรธอีก จูบลงบนกลุ่มผมของเธอแล้วโยกเบาๆ

ยิ้มบางๆ ที่มุมปาก

อย่างน้อยวันนี้เขาก็ได้เปิดเผยกับคนในแผนกเธอ

ทางด้านของหทัยรัตน์หลังจากที่ออกมาจากร้านอาหารเธอก็ตรงมาโรงพยาบาลทันที เข้ามาในห้องของยายที่พักรักษาตัวก็เจอกับคุณหมอที่กำลังตรวจยายของเธอ

“สวัสดีค่ะคุณหมอ”

“สวัสดีครับคุณหวาน”

“ยายเป็นยังไงบ้างคะ” หมอกวินเป็นหมอเจ้าของไข้ยายของหทัยรัตน์ตั้งแต่เริ่มเข้ารักษาตัวที่นี่ จึงรู้จักมักคุ้นกับเธอเป็นอย่างดี เขาเป็นคนสุภาพเป็นกันเอง และทำหน้าที่อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

“หมออยากคุยกับคุณอยู่พอดีเลยครับ เชิญที่ห้องทำงานหมอนะครับ”

“ได้ค่ะ”

หลังจากที่เข้ามาในห้องทำงานของหมอกวิน เขาก็เปิดแฟ้มประวัติการรักษาของยายหญิงสาว เขารู้ว่าผู้หญิงคนนี้รักยายมากทำทุกวิถีทางที่จะหาทางรักษายายของตัวเอง

“อย่างที่หมอเคยบอกไปแล้วว่าร่างกายของยายคุณท่านไม่ไหวแล้ว สิ่งที่ยื้อท่านไว้คือเครื่องช่วยหายใจ” กวินเว้นจังหวะการพูด เมื่อเห็นหญิงสาวน้ำตาคลอเบ้า

“หวานรู้ค่ะ แต่..” หทัยรัตน์พยายามฝืนตัวเองไม่ให้ร้องไห้

“หมออยากให้คุณตัดสินใจ ถ้าคุณบอกว่าอยากให้ท่านอยู่กับเรานานๆ หมอก็จะทำเต็มที่เพื่อให้ท่านอยู่กับเรานานที่สุด”

“แล้วยายหวานจะเป็นยังไงคะ”

“คุณก็รู้ว่าอายุท่านก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้ว” ในที่สุดหทัยรัตน์ก็ปล่อยโฮออกมาอย่างอดกลั้นไม่ไหว เธอรู้แต่เธอยังทำใจยอมรับไม่ได้ สิ่งที่เธอทำทุกวันนี้ก็เพื่อยายคนที่เธอรักที่สุด

“ท่านจะเสียใจเอานะครับถ้ารู้ว่าคุณร้องไห้หนักขนาดนี้” กวินรู้จักกับเธอและยายเธอเป็นอย่างดี เพราะเขารักษายายเธอมาตั้งแต่ต้น ผู้หญิงคนนี้ทำเพื่อยายแค่ไหนเขารู้ดี แม้จะเสียเงินมากมายแค่ไหน เธอก็หามาได้ ซึ่งเขาในฐานะหมอไม่มีสิทธิ์ถามหรอกว่าเธอหาเงินมาได้ยังไง และเขาก็ไม่ละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของเธอด้วย ได้แต่มองเธอเงียบๆ และทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่

ในวันนี้เขาเห็นเธออ่อนแอที่สุด ทำให้เขาอดสงสารไม่ได้ มันก็ใช่ที่หมออย่างเขาเห็นภาพแบบนี้จนชินชา แต่ทุกครั้งมันก็เป็นภาพที่สะเทือนอารมณ์ของคนเป็นหมอ

“หวาน อึก อือ” หทัยรัตน์รู้ว่ายายไม่อยากให้เธอร้องไห้ เพราะท่านพูดเสมอว่าไม่อยากให้เธอร้องไห้ ท่านอยากให้เธอเข้มแข็งในวันที่ต้องใช้ชีวิตคนเดียว สังขารคนมันไม่เที่ยงสักวันหนึ่งก็ต้องมีดับสูญ มีเกิดก็ต้องมีแก่ มีแก่ก็ต้องมีตาย อยู่ที่ว่าใครจะตายช้าตายเร็วแค่นั้น

กวินที่เห็นเธอร้องไห้หนักขึ้นเขาก็ไม่รู้จะทำยังไง จึงลุกขึ้นดึงเธอเข้ามากอดทำให้ตอนนี้หน้าของเธอซุกอยู่ที่หน้าท้องของเขา หทัยรัตน์เองสติเธอไม่อยู่กับตัวเพราะมัวแต่ร้องไห้ เมื่อมีคนมาให้กำลังใจมอบความอบอุ่นให้เธอก็เต็มใจรับ ร้องไห้สะอื้นอยู่กับหน้าท้องแกร่งของคุณหมอ

จนกระทั่งเธอสงบสติอารมณ์ของตัวเองได้ ถึงได้รู้ว่าเธอกอดหมออยู่ หทัยรัตน์ดันตัวเองออกห่างจากคนที่ปลอบเธอเบาๆ

“ขอโทษนะคะที่ทำให้เสื้อคุณหมอเปื้อน” มือเล็กเช็ดน้ำตาปอยๆ แต่สะอื้นยังไม่หยุด

“ไม่เป็นไรครับ ดีขึ้นรึยัง สะอื้นหนักเลย หายใจเข้าลึกๆ ครับ” กวินย่อตัวลงให้หน้าอยู่ระดับเดียวกับเธอ หญิงสาวมีน้ำตานองหน้า ปากแดงจมูกแดงไปหมด จนเขาอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นไปเช็ดน้ำตาให้ การกระทำของเขาทำให้หทัยรัตน์ชะงัก กวินเองก็ชะงักเช่นเดียวกัน

เขาก็ไม่เข้าใจการกระทำของตัวเองเหมือนกัน ตลอดเวลาที่รู้จักกับเธอในฐานะหมอเขาไม่เคยทำอะไรแบบนี้สักครั้ง หรืออาจจะเป็นเพราะความสงสาร ร่างใหญ่เมื่อรู้สึกตัวก็ดึงตัวเองขึ้นขยับตัวไปนั่งที่เดิม

หทัยรัตน์กะพริบตาปริบๆ หายใจเข้าลึกๆ จนอาการสะอื้นดีขึ้น และเข้าใจว่าหมอกวินคงสงสารเธอถึงทำแบบนั้น

“ขอบคุณนะคะคุณหมอ หวานขอตัวไปดูยายก่อนนะคะ”

“ครับ” หทัยรัตน์เดินออกมาจากห้อง เดินตรงมาที่ห้องของยาย นั่งลงกุมมือเหี่ยวย่น มือคู่นี้ที่คอยดูแลเธอ ป้อนข้าว ป้อนน้ำตั้งแต่เธอยังเด็ก มือที่คอยหาเงินส่งเสียให้เธอได้เรียนเหมือนเด็กคนอื่นๆ แค่คิดน้ำตาก็ไหลออกมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอพยายามเก็บเสียงเอาไว้ กลัวว่ายายจะได้ยินแล้วจะไม่สบายใจ

ถึงร่างกายของยายจะไม่รู้สึกตัว แต่เธอเชื่อว่ายายรับรู้ทุกอย่าง

“ยายจ๋า หวานไม่อยากให้ยายไปไหน” หัวทุยฟุบลงข้างเตียง เม้มปากสะอื้นเบาๆ

ยายเหมือนจะรับรู้อาการทุกข์ใจของหลานสาวนิ้วมือเหี่ยวย่นขยับเบาๆ ถ้ามือไม่ได้จับกันอยู่ก็จะไม่สามารถรับรู้ได้เพราะขยับแค่นิดเดียว ร่างบางหยุดสะอื้นเงยหน้าขึ้นมองหน้าเหี่ยวย่นที่อยู่ใต้หน้ากากออกซิเจน

“ยายจ๋า”

“ยายหวานขอโทษ หวานจะเข้มแข็ง ยายไม่ต้องห่วงนะจ๊ะ ยายไม่ต้องห่วง” ถึงปากจะบอกว่าจะเข้มแข็งแต่น้ำตาก็ไหลอาบแก้ม

ตี๊ดๆ ๆ ๆ เสียงสัญญาณในจอมอนิเตอร์ดังขึ้นทำให้หทัยรัตน์หน้าตื่น วิ่งออกไปเรียกหมอด้วยอาการตื่นตระหนก

“หมอ หมอ หมอช่วยยายด้วย”

หมอกวินและพยาบาลวิ่งตรงมาที่ห้องทันที

“รออยู่ตรงนี้นะครับ” กวินบอกหญิงสาวเมื่อเธอจะก้าวตามเข้ามาด้วย

หทัยรัตน์มองประตูห้องที่ปิดลงพร้อมกับขาของเธอที่อ่อนแรงทรุดลงกับพื้น ร้องไห้สะอื้นจนตัวโยง เธอแทบนึกอะไรไม่ออกได้แต่ร้องไห้เหมือนจะใจขาด ไม่รู้เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ หมอก็เดินออกมาจากห้อง หทัยรัตน์รีบเช็ดน้ำตาลุกขึ้นไปหาหมอทันที

“ยายเป็นยังไงบ้างคะ” ถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน

กวินพยายามจะไม่มองหน้าคนตรงหน้า เพราะเขากลัวว่าจะดึงเธอเข้ามากอด

“หมอเสียใจด้วยครับ ยายไม่ไหวแล้วจริงๆ” ถึงจะเตรียมใจไว้แล้ว แต่พอได้ยินแบบนั้นหทัยรัตน์ก็ปล่อยโฮออกมาอีกครั้ง สมองอื้ออึงไปหมดโลกของเธอมืดลงเรื่อยๆ

“คุณหวาน” กวินรีบรับร่างบางเอาไว้เมื่อเห็นว่าเธอเป็นลม

“พยาบาล”

“ยาย ยายจ๋า อย่าพึ่งทิ้งหวานไป ฮือๆ ยาย” มือเล็กไขว่คว้าอากาศละเมอร้องไห้

นางบำเรอเติมใจ

นางบำเรอเติมใจ

Score 10
Status: Completed
“ฉันไม่ชอบคนที่ไม่เป็นงาน” แกริคพูดย้ำแล้วก็หลับตาเอนหลังพิงโซฟา ตอนนี้เขาอยากปลดปล่อย เพราะอัดอั้นมาตั้งแต่เมื่อคืนพิรุณรักตาหลุกหลิกมองคนที่หลับตาอยู่ นึกถึงหนังที่ตัวเองดูและคำแนะนำของเพื่อน เธอไม่ควรทำให้เขารำคาญปลายฝนเธอค่อยๆ ขยับขึ้นไปนั่งบนตักแกร่งไม่กล้าจะเทน้ำหนักลงไปทั้งตัวกลัวว่าเขาจะหนัก แต่คนที่หลับตาอยู่ก็จับเธอกดลงบนตักเขาทั้งตัว ทำให้เธอผวาจับบ่าเขาไว้เพราะกลัวตก“เริ่มเลย” แกริคสั่งทั้งที่หลับตาอยู่“ตรงนี้เหรอคะ” ขอให้เธอถามเพื่อเตรียมใจอีกสักนิด นี่เธอกำลังจะเป็นของเขาจริงๆ เหรอแกริคเงยหน้าขึ้นหรี่ตามองเธอ“เอ่อ หนูคิดว่า เราเข้าห้องกันดีกว่าค่ะ” ที่นี่มันโล่งแจ้งเกินไป ถึงจะรู้ว่าไม่มีใครลงมาก็เถอะ แต่ลูกน้องของเขาก็อยู่ข้างบนตั้งหลายคน

Options

not work with dark mode
Reset