นางบำเรอเติมใจ 103

ตอนที่ 103

“หวงจริงนะ” คุณหญิงทิพย์ฉายส่งค้อนให้ลูกชาย แตะนิดแตะหน่อยไม่ได้เธอแค่อยากทดสอบว่าหญิงสาวที่ลูกชายบอกว่ารักเป็นคนยังไง แต่นี่อะไร เจ้าลูกชายไม่ยอมเปิดโอกาสให้ทดสอบอะไรสักนิด ออกตัวแทนหมด

“แฟนผมหนิครับและจะเป็นภรรยาในอนาคตด้วย” หทัยรัตน์ตาโตเมื่อได้ยินแบบนั้น ไม่คิดว่ากรวิทย์จะพูดตรงๆ แบบนี้

“คุณกร” เธอเรียกเขาเสียงเบา

“แหม ออกตัวเองนะพ่อคุณ”

“ผมต้องออกตัวไว้ก่อนครับ พ่อกับแม่จะได้ไม่จับคู่ให้ผมอีก ถ้าอยากได้หลานต้องให้ผมแต่งกับคนนี้ไม่งั้นก็อดอุ้มหลานได้เลยครับ” หทัยรัตน์ก้มหน้างุด

“พูดขนาดนี้เราจะทำยังไงละคุณ” ทรงพลหัวเราะเบาๆ

“ลูกว่าไงก็ตามนั้น ผมอยากอุ้มหลานเต็มที” คุณหญิงทิพย์ฉายถอนหายใจเบาๆ

“ก็ได้แม่ตามใจลูก หวังว่าลูกจะเลือกคนไม่ผิด” หทัยรัตน์กำมือเม้มปากแน่น

“เอาล่ะๆ ไปทานข้าวกันเถอะคงพร้อมแล้ว” เมื่อประมุขของบ้านพูดทุกคนถึงย้ายไปที่โต๊ะอาหาร ตลอดเวลาหทัยรัตน์เป็นผู้ฟังและตอบคำถาม

พอออกจากบ้านของชายหนุ่มเธอก็ถอนหายใจออกมายาวๆ อย่างโล่งอก

“ถอนหายใจซะยาวเลย” กรวิทย์หันมาล้อ เธอก็ส่งค้อนให้เขา

“ก็หวานเกร็งหนิคะ” ถึงทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี พ่อกับแม่เขาให้ผ่านแต่เธอก็ยังไม่สบายใจ ครอบครัวของกรวิทย์มีหน้าตาทางสังคม เธอกลัวว่าจะทำให้เขาเสื่อมเสีย

“แล้วสบายใจยัง ฉันบอกแล้วพ่อกับแม่ฉันท่านไม่ห้ามหรอก เพราะฉันยื่นคำขาดแล้วว่าครั้งนี้ฉันขอเลือกเอง”

“ค่ะ ขอบคุณนะคะที่คุณกรดีกับหวานขนาดนี้” หทัยรัตน์เอนตัวซบลงที่แขนแกร่ง

“เพราะฉันรักเธอ”

“หวานก็รักคุณค่ะ” เพราะว่าเธอรักเขาเธอถึงยอมขนาดนี้ เธอยากใช้ชีวิตอยู่กับผู้ชายคนนี้จริงๆ แต่ก็แอบกังวลว่าเรื่องในอดีตจะทำให้เขาเสื่อมเสีย

“รักฉันก็ต้องอยู่กับฉัน อย่าคิดมาก เชื่อใจฉัน ว่าฉันสามารถปกป้องเธอได้” หทัยรัตน์โน้มตัวเข้าไปจูบแก้มสากเบาๆ เพื่อเป็นการขอบคุณ

“ขอบคุณนะคะ หวานจะเชื่อใจคุณค่ะ”

“งั้นเราแต่งงานกันเดือนหน้าเลยนะ” หทัยรัตน์ตาโต

“ไวไปไหมคะ”

“ไม่ไวไปหรอก เธอไม่ได้ยินเหรอว่าพ่อกับแม่ฉันอยากอุ้มหลาน”

“แต่หวานยังไม่ได้เตรียมตัวเลยนะคะ” หทัยรัตน์หน้างอแอบเขินนิดๆ

“เตรียมตัวอะไร อยากทำอะไรทำเลยเรื่องงานแต่งฉันจัดการเอง จะเข้าคอร์สเจ้าเลยไหมฉันจะได้ให้เลขาจองให้” เธอทุบแขนเขาเบาๆ หนึ่งที คนอะไรเอาแต่ใจที่สุด เจ้ากี้เจ้าการ

“คุณกร”

หนึ่งเดือนต่อมาพิรุณรักก็ได้รับการ์ดงานแต่งของเพื่อน เธอดีใจกับหทัยรัตน์ที่ฝ่าฟันอุปสรรคมาได้

“อยากไปไหม” แกริคถามเห็นว่าเพื่อนสนิทของเธอจะแต่งงานเธอคงอยากไป

“อยากไปค่ะ”

“งั้นก็เตรียมตัว” พิรุณรักยิ้มกว้าง สวมกอดเอวสอบ ตอนนี้แกริคกลับมาเดินได้ปกติแล้วเหลืออย่างเดียวคือวิ่งยังไม่ได้ เป็นเพราะเขาขยันทำกายภาพและยังมีร่างกายที่แข็งแรงแถมมีกำลังใจดีเลยทำให้เขาฟื้นตัวได้เร็ว

แกริคมีความตั้งใจอย่างยิ่งที่จะกลับมาเดินได้ก่อนลูกคลอด เขาอยากให้ลูกเห็นว่าเขาเป็นพ่อที่แข็งแกร่งและอยากช่วยพิรุณรักเลี้ยงลูก

“ขอบคุณค่ะ หนูขอกลับไปหาพ่อกับแม่ด้วยนะคะ”

“ฉันคงต้องเข้าไปขอเธอเป็นเรื่องเป็นราวสักที” แกริคตั้งใจไว้อยู่แล้วว่าถ้าหายเขาจะเดินทางไปพบพ่อกับแม่ของหญิงสาว

“ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นก็ได้ค่ะ” แค่นี้เธอก็ซาบซึ้งมากแล้ว

“เธอจะมาเป็นภรรยาของฉัน ฉันต้องให้เกียรติครอบครัวเธอ ต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้อง อย่าพูดแบบนี้อีกเข้าใจไหม” พิรุณรักน้ำตาซึม เขาช่างดีกับเธอเหลือเกิน

“ขอบคุณนะคะ”

“จำไว้ ฉันรักเธอ ฉันให้เธอได้ทุกอย่าง” แกริคจูบซับหน้าผากมนเฉยคางมนขึ้นมารับจูบดูดดื่ม พิรุณรักเองก็จูบตอบเขา

“หนูก็รักคุณค่ะ”

“นอนเถอะ” มือแกร่งลูบไล้อยู่ที่หน้าท้องนูนๆของเธอเบาๆ ตอนนี้พิรุณรักท้องได้หกเดือนแล้วท้องจึงใหญ่พอสมควรแต่ก็ไม่ใหญ่มากสำหรับคนท้องแรก

ทางฝ่ายหทัยรัตน์ที่ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ เธอกำลังยืนอยู่ต่อหน้าพี่ๆ ทุกคนในแผนก มือถือซองในมือ

“คือ ทุกคนคะ” ทุกคนเงยหน้าขึ้นมองน้องของแผนก

“คือหวาน เชิญทุกคนด้วยนะคะ” หทัยรัตน์เม้มปาก ค่อยๆ เดินเข้ายื่นซองให้ทีละคน ทุกคนทำหน้างง แต่ก็รับมา ต้นหลิวเปิดดูเป็นคนแรก แล้วก็ตาโต

“แต่งงาน”

“ใช่ค่ะ ขอโทษนะคะที่ไม่ได้บอกล่วงหน้า” หทัยรัตน์ไม่รู้จะบอกพวกพี่ๆ ยังไงเลยคิดว่าบอกทีเดียวตอนให้ซองเลยดีกว่า ขนาดเธอเองยังตั้งตัวไม่ทัน ทุกอย่างกรวิทย์เป็นคนจัดการหมด เขาแค่ถามความคิดเห็นจากเธอนิดๆ หน่อยๆ

“ว้าว ดีใจด้วยนะจ๊ะหวาน ดีใจด้วยจริงๆ” มุตาเดินเข้ามากอดหทัยรัตน์

“น้องหวานสละโสดแล้ว แผนกเราไม่มีอะไรกระชุ่มกระชวยเลยทีนี้ มีแต่แก่ๆ” มาร์คบ่นกระปอดกระแปด ประโยคสุดท้ายพึมพำเบาๆ แต่คนหูดีก็ได้ยิน

“ไอ้มาร์ค มึงว่าใครแก่” ต้นหลิวตะโกนลั่น

“เปล่าคร๊าบ มาร์คไม่ได้พูดแบบนั้นสักหน่อย”

“นามสกุลเจ้าบ่าวคุ้นๆ นะ” ทัศนัยพูดขึ้นขมวดคิ้วเข้าหากัน เงยหน้ามองลูกน้องในแผนก

หทัยรัตน์ส่งยิ้มให้ ไม่รู้จะพูดยังไง

“กรวิทย์ ธนากรศิลป์ ธนากรศิลป์ นี่มันเจ้าของโรงแรม ธนากรศิลป์ ที่มีสาขาอยู่เกือบทั่วประเทศและแถบเอเชียใช่ไหม นี่อย่าบอกนะว่าคนเดียวกันกับเจ้าบ่าวของเราหวาน” ต้นหลิวอ่านชื่อเจ้าบ่าว และร้องถามด้วยความตื่นเต้น หทัยรัตน์ยิ้มแห้งๆ ให้ทุกคน แล้วพยักหน้า

“อ๊ายยย น้องหวานโชคดีจัง อือ น้องปลายก็ได้คุณแกริคไปแล้ว นี่น้องหวานยังได้หนุ่มหล่อ รวย ระดับประเทศอีก ทำบุญด้วยอะไรเนี่ย” มุตากรี๊ดกราดด้วยความตื่นเต้น

“ซุ่มนะเรา ที่บอกว่ามีแฟนคนนี้เหรอ” ต้นหลิวถาม

“ค่ะ” หทัยรัตน์ยิ้มรับ

“คบกันนานรึยังคะ แล้วเจอกับได้ยังไง” มุตาจ่อมือสัมภาษณ์ หทัยรัตน์ยิ้มเจือน แต่ก็แป๊บเดียว ต่อไปนี้เธอจะไม่ใส่ใจกับเรื่องในอดีตเธอจะมองแค่อนาคตให้สมกับที่กรวิทย์ทุ่มเทให้เธอ

“มุตา เรื่องส่วนตัวของน้องไหม” ทัศนัยปราม

“แหม ก็ตาอยากรู้หนิคะ ตื่นเต้นอ่ะ”

“ตื่นเต้นยังกะจะแต่งเอง” มาร์คกัด

“ไอ้มาร์ค เงียบไปเลยไม่งั้นฉันจะบอกพี่ต้นหลิวตบกบาลแก”

“ทะเลาะกันเป็นเด็ก” ดนัยเงียบอยู่นาน

“หรือทุกคนไม่อยากรู้” มุตาว่าแบบนั้น ทุกคนก็เงียบถึงบอกว่าไม่อยากยุ่งเรื่องส่วนตัวของน้องแต่ลึกๆ ก็อยากรู้อยากเห็นกันหมด

“เอ่อ…คือปลายรู้จักกับคุณกรสามปีแล้วค่ะ ตั้งแต่เรียนอยู่ ก็คบกันมาเรื่อยๆ จนมีวันนี้แหละค่ะ” เธอเล่าในส่วนที่เล่าได้

“สุดยอดมากอ่ะ”

“เอาล่ะ ทำงานๆ” ทัศนัยบอกทุกคนแยกย้าย เมื่อซักพอหอมปากหอมคอ

จนกระทั่งถึงวันแต่งงานของหทัยรัตน์ ตอนนี้เจ้าสาวยืนเคียงข้างอยู่ข้างๆ เจ้าบ่าว เจ้าสาวชะเง้อมองประตูอย่างใจจดใจจ่อ

“คุณกรแน่ใจนะคะว่าปลายจะมา” เธอยังไม่ได้คุยกับเพื่อนรักเลยมีแต่กรวิทย์ที่บอกว่าแกริคจะพาพิรุณรักมา

“แน่ใจ”

“ตื่นเต้นอะไรของแก เดี๋ยวมันก็มาเองแหละ” เอมมี่ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ พูดขึ้น

“ยังกับแกไม่ตื่นเต้น ไม่ได้เจอมันตั้งหลายเดือนนะ เป็นยังไงไม่รู้”

นางบำเรอเติมใจ

นางบำเรอเติมใจ

Score 10
Status: Completed
“ฉันไม่ชอบคนที่ไม่เป็นงาน” แกริคพูดย้ำแล้วก็หลับตาเอนหลังพิงโซฟา ตอนนี้เขาอยากปลดปล่อย เพราะอัดอั้นมาตั้งแต่เมื่อคืนพิรุณรักตาหลุกหลิกมองคนที่หลับตาอยู่ นึกถึงหนังที่ตัวเองดูและคำแนะนำของเพื่อน เธอไม่ควรทำให้เขารำคาญปลายฝนเธอค่อยๆ ขยับขึ้นไปนั่งบนตักแกร่งไม่กล้าจะเทน้ำหนักลงไปทั้งตัวกลัวว่าเขาจะหนัก แต่คนที่หลับตาอยู่ก็จับเธอกดลงบนตักเขาทั้งตัว ทำให้เธอผวาจับบ่าเขาไว้เพราะกลัวตก“เริ่มเลย” แกริคสั่งทั้งที่หลับตาอยู่“ตรงนี้เหรอคะ” ขอให้เธอถามเพื่อเตรียมใจอีกสักนิด นี่เธอกำลังจะเป็นของเขาจริงๆ เหรอแกริคเงยหน้าขึ้นหรี่ตามองเธอ“เอ่อ หนูคิดว่า เราเข้าห้องกันดีกว่าค่ะ” ที่นี่มันโล่งแจ้งเกินไป ถึงจะรู้ว่าไม่มีใครลงมาก็เถอะ แต่ลูกน้องของเขาก็อยู่ข้างบนตั้งหลายคน

Options

not work with dark mode
Reset