ทาสรักทาสหัวใจ 46 กำเนิดสายใยรัก

ตอนที่ 46 กำเนิดสายใยรัก

ห้าเดือนต่อมา

เวลาเที่ยงคืนภายในผับชื่อดังภพกำลังนั่งดื่มเพียงลำพังอยู่มุมหนึ่งของผับด้วยความสิ้นหวังในชีวิต ผ่านมาหลายเดือนแล้วเขายังไม่ได้ข่าวอะไรเกี่ยวกับมุกเลย เขาไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงแล้ว ทุกวันนี้ทำได้เพียงแต่รอให้คนที่ว่าจ้างสืบตามหาส่งข่าวมาเท่านั้น

“ไงเพื่อนยาก ดูท่าจะกลุ้มใจมากสิท่า” แม็กซ์เอ่ยพลางนั่งลงข้างๆ ชายหนุ่ม

“อืม ฉันไม่รู้จะทำยังไงแล้ว” ภพพูดพลางกระดกแก้วลงคอ

“เราก็ไม่รู้จะช่วยยังไงแล้วเหมือนกัน” ปรางเดินเข้าไปสมทบพร้อมกับถอนหายใจ

“ผ่านมาก็ตั้งหลายเดือนแล้ว ป่านนี้มุกน่าจะใกล้คลอดแล้วล่ะ” ภพเอ่ยเสียงอ่อน

“ค่อยๆ หากันไปก็แล้วกันนะ ต้องเจอเข้าสักวันแหละ” แม็กซ์เอ่ยปลอบใจเพื่อน

“อืม ฉันก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้นเหมือนกัน” ภพเอ่ยใบหน้าแดงก่ำน้ำตาคลอเบ้าอย่างคนสิ้นหวัง

“สู้ๆ นะ ดูแลตัวเองให้ดี” ปรางเอ่ยเป็นกำลังให้ภพ

“ขอบใจทั้งสองคนมากนะ ฉันสัญญาถ้าเจอมุกเมื่อไหร่ ฉันจะไม่ทำให้มุกเสียใจอีก ฉันสัญญา”

“ไว้บอกกับเจ้าตัวเขาเถอะนะ” ปรางเอ่ยขึ้น

“ภพคะ” ซินดี้เดินตรงเข้าไปหาภพที่โต๊ะ

“____” ภพเงยหน้าขึ้นมองหน้านางแบบสาวด้วยใบหน้าเรียบเฉย

ปรางกับแม็กซ์เห็นภพไม่ได้เมามายอะไรมากมายทั้งสองคนจึงพากันเดินออกไป ปล่อยให้ภพจัดการกับซินดี้เพียงลำพัง เมื่อซินดี้เห็นว่าภพไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาสักคำเธอจึงทิ้งตัวนั่งลงเบียดแนบชิดกายกับชายหนุ่มอย่างหน้าระรื่น

“ออกไป” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น

“ทำไมล่ะคะ ตามหายัยนั้นไม่เจอก็ช่างมันเถอะค่ะ จะไปสนใจมันทำไมอีก คุณไม่ได้รักมันสักหน่อย”

“ออกไป! อย่ามายุ่งกับผมอีก!” ภพจับดึงกระชากแขนซินดี้พร้อมกับผลักร่างเธอลงไปกองกับพื้นด้วยความโมโห

“โอ๊ย! ภพซินดี้เจ็บนะคะ ทำไมต้องโมโหด้วย”

“ดี จะได้จำไว้ และเลิกยุ่งวุ่นวายกับผมสักที!” ภพขบกรามแน่นเอ่ยเสียงดุดันแล้วเดินจากไป

ภายในคอนโดหรูทันทีที่ร่างหนาเข้าไปถึงข้างในห้องนอนก็ทิ้งตัวนอนลงบนเตียงด้วยความอ่อนล้าเจ็บปวดอยู่ภายในหัวใจ ตลอดเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาไม่มีวันไหนที่เขาไม่คิดถึงมุกกับลูกในท้อง เขารู้สึกผิดที่ทำร้ายหัวใจของเธอครั้งแล้วครั้งเล่าทั้งๆ ที่เธอไม่ได้ทำอะไรผิดเลย แต่เขาก็ยังทำร้ายเธอได้ลงคอ ความเจ็บปวดทรมานใจที่เขาได้รับในตอนนี้มันยังน้อยไปกับสิ่งที่เขาทำกับเธอด้วยซ้ำ ขนาดฟ้ายังปิดทางให้เขาหาเธอไม่เจอเลย น้ำตาลูกผู้ชายค่อยๆ เอ่อไหลอาบแก้มด้วยความเจ็บปวดทรมานใจ

ณ บ้านเช่านอกชานเมืองมุกกำลังเดินพาตนเองท้องแก่เก้าเดือนออกมาตรงหน้าบ้านนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวดหลังจากที่น้ำคร่ำแตกโดยมีป้าบุญเจ้าของบ้านเช่าคอยช่วยพยุงเธอตรงไปยังรถด้วยความเป็นห่วง พอเธอเข้าไปนั่งในรถพร้อมกับข้าวของเครื่องใช้เด็กอ่อนรถก็ถูกขับบึ่งแล่นตรงไปยังโรงพยาบาลทันที

ผ่านไปนานหลายชั่วโมงหลังจากที่มุกคลอดเสร็จเธอก็ถูกส่งตัวไปยังห้องพักฟื้น รอไม่นานพยาบาลก็เข็นพาลูกน้อยที่เพิ่งคลอดเข้ามาให้เธออุ้ม มุกยิ้มมองหน้าลูกชายตัวน้อยทั้งน้ำตาด้วยความดีใจตื้นตันที่ได้เห็นหน้าลูกที่คอยฟูมฟักทะนุถอมตั้งแต่ในท้องออกมาอย่างปลอดภัย

“คนเก่งของแม่ ในที่สุดเราสองคนก็ได้เจอหน้ากันสักที” กอดลูกน้อยแนบอก

“หน้าเกลียดหน้าชัง จังเลยนะหนู จะตั้งชื่อว่าอะไรดีล่ะ” ป้าบุญเจ้าของบ้านเช่าเอ่ยถามขึ้น

“ชื่อ มิคค่ะ” ที่เธอตั้งใจตั้งชื่อลูกเป็นชื่อเดียวกันกับน้องชายก็เพราะเธอรักทั้งคนเสมือนดวงใจของเธอเหมือนกัน

“จ้ะ เพราะดีเหมือนชื่อฝรั่งเลย”

“ค่ะ ขอบใจป้ามากนะจ๊ะ ที่คอยช่วยเป็นธุระพามุกมาส่งโรงพยาบาล”

“ป้าเต็มใจจ้ะ”

“ขอบคุณค่ะ” มุกยิ้มรับ

คล้อยหลังพยาบาลออกไปหลังจากที่สอนเอาลูกน้อยเข้าเต้าจนอิ่ม มุกก็นอนมองหน้าลูกน้อยอยู่อย่างนั้นด้วยความสุขใจ เธอดีใจที่ต่อไปชีวิตของเธอจะไม่เงียบเหงาอีกแล้วเพราะมีลูกน้อยเข้ามาเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไป ดวงตากลมโตมองไปมองมาก็อดที่จะคิดถึงพ่อของลูกขึ้นมาไม่ได้

วันต่อมา

ณ โรงพยาบาลนอกเมืองหมอนนท์รีบเข้าไปเยี่ยมมุกกับลูกชายแต่เช้าด้วยความตื่นเต้นพร้อมกับข้าวของเต็มไม้เต็มมือ จริงๆ เขาอยากจะมาเยี่ยมทั้งสองแม่ลูกตั้งแต่เมื่อคืนที่รู้ข่าวแล้วแต่ติดเข้าเวร หมอหนุ่มยืนมองมุกกับลูกชายพร้อมกับส่งยิ้มให้ด้วยความดีใจ

“มุกเป็นยังไงบ้าง เจ็บมากไหม” เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้น

“นิดหน่อยค่ะ” ยิ้มมุมปาก

“ผมดีใจนะ ที่มุกกับลูกปลอดภัยแข็งแรงดีทั้งคู่”

“ขอบคุณค่ะ”

“ผมขออุ้มเจ้าตัวเล็กหน่อยนะ”

“ได้สิคะ”

มือหนาค่อยๆ ช้อนอุ้มเด็กน้อยตัวแดงในผ้าอ้อมขึ้นจากเตียงอย่างเบามือที่สุดพร้อมกับส่งยิ้มให้ด้วยความเอ็นดู เด็กน้อยมองหน้าหมอหนุ่มตาแป๋ว ท่อนแขนหนาโอบอุ้มเด็กน้อยแนบอกแล้วเอ่ยพูดคุยไปด้วย มุกยิ้มดีใจที่หมอหนุ่มเอ็นดูลูกชายเธอ

“เป็นเด็กดี อย่าดื้อกับแม่นะครับ”

“แต่ดื้อกับหมอได้ใช่ไหมคะ” มุกเอ่ยขึ้น

“ครับ” หมอหนุ่มยิ้มรับ

“มุกล้อเล่นค่ะ”

“แต่ผมจริงจังนะ อยากจะช่วยแบ่งเบาภาระ จากมุกด้วยความเต็มใจ” เอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ขอบคุณมากนะคะ เอาเป็นว่าถ้ามุกมีอะไรให้ช่วย จะบอกหมอเป็นคนแรกก็แล้วกันค่ะ”

“ครับ”

หนึ่งสัปดาห์ต่อมา

ภพยืนเผชิญหน้ากับหมอนนท์อีกครั้งในรอบหลายเดือนด้วยสีหน้าเคร่งเครียดเมื่อคำตอบที่ได้เหมือนเช่นเคยที่ผ่านมา ภพทิ้งตัวนั่งลงคอตกอย่างคนสิ้นหวัง หมอนนท์ยืนมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยใบหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึกเห็นใจใดๆ

“ผมว่าคุณกลับไปเถอะ มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมาถามผมอีก” หมอหนุ่มเอ่ยขึ้น

“ผมเป็นห่วงมุกกับลูก ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง”

“ผมว่าคุณปล่อยมุกเขาไปเถอะ ถ้าคุณรู้สึกผิดจริงๆ ป่านนี้มุกเขาอาจกำลังมีความสุขอยู่ที่สักที่ก็ได้”

“ผมแค่อยากขอโทษและชดเชยทุกอย่างให้มุกกับลูกแค่นั้น ไม่ได้หวังให้มุกอภัยให้ผมหรอก ขอแค่โอกาสได้เจออีกสักครั้ง”

“ผมคงช่วยอะไรคุณไม่ได้จริงๆ ขอตัวก่อนนะ” หมอนนท์ทำท่าจะเดินออกไป

“เดี๋ยวก่อน ดูคุณไม่ค่อยจะเป็นห่วงมุกเท่าไหร่เลยนะ คุณกำลังปิดบังอะไรผมอยู่หรือเปล่า” ภพจ้องมองหน้าหมอหนุ่มจริงจัง

“ผมจะปิดบังอะไรคุณ ทำไมผมต้องทำอย่างนั้นด้วย”

“คุณก็รู้อยู่แก่ใจ ถ้ามีโอกาสคุณคงจะไม่ปล่อยให้มันหลุดมือไปผมรู้”

“หึ ใช่ถ้ามีโอกาสผมจะคว้ามันเอาไว้อย่างไม่ลังเลเลยล่ะ พอใจคุณหรือยัง” หมอหนุ่มยิ้มมุมปาก

“ดี ได้ยินอย่างนี้มันก็ยิ่งเพิ่มแรงกระตุ้นให้ผมไม่ท้อตามหามุกต่อไป เจอเมื่อไหร่ผมจะทำทุกอย่างให้มุกมอบหัวใจให้ผมอีกครั้งด้วยความเต็มใจ” พูดจบภพก็เดินจากไป

ทางด้านบ้านเช่านอกชานเมืองมุกกำลังยืนหั่นผักอยู่ในครัวท่ามกลางเสียงร้องไห้งอแงของลูกน้อยไปด้วย ร่างบางจึงรีบวางมือออกไปช้อนอุ้มลูกน้อยในเปลขึ้นมาพร้อมกับเปลี่ยนผ้าอ้อมให้

“สบายตัวแล้วใช่ไหมหื้ม เงียบเซียวนะเรา” ใช้มือบางเกลี่ยแก้มลูกชายไปมา

“แงๆ” อยู่ๆ ลูกน้อยก็ร้องงอแงขึ้นมาอีกครั้ง

“หิวนมเหรอครับ” พูดพลางเอาลูกน้อยเข้าเต้าทันที

“ว่าแล้วร้องเสียงดังแบบนี้ ต้องหิวอีกแล้วแน่ๆ ” ป้าบุญเดินเข้ามาในบ้าน

“กินเก่งมากเลยค่ะ เดี๋ยวมุกว่าจะปั๊มนมเพิ่มแช่ตู้เอาไว้อีกสักหน่อย”

“จ้ะ กินเก่งแบบนี้อีกไม่นานสงสัยจะต้องอ้วนจ้ำม่ำแน่ๆ ”

“มุกก็ว่างั้นแหละค่ะ”

“โตขึ้นมาอีกหน่อย ไม่รู้จะเหมือนแม่หรือพ่อกันนะ” ป้าบุญจ้องมองหน้ามิคด้วยความเอ็นดู

“_____” มุกได้ยินอย่างนั้นก็ชะงักนิ่งไป

“โทษทีนะ ลืมตัวไปหน่อย ป้าไม่ควรจะพูดอะไรแบบนี้เลย”

“ไม่เป็นไรค่ะ มุกไม่ได้ถือสาอะไร” ก้มลงมองหน้าลูกชายหวงแหน

หลังจากที่ลูกน้อยกินนมอิ่มมุกก็ฝากป้าบุญช่วยดูให้แล้วเข้าครัวไปทำอาหารต่อด้วยอาการเหม่อใจลอยคิดถึงผู้ชายที่เคยทำร้ายจิตใจและเป็นทั้งพ่อของลูก คงมีแต่เธอที่คิดถึงชายหนุ่มทุกวัน แต่เขาคงไม่เคยคิดถึงเธอเลยแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว

Options

not work with dark mode
Reset