ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLDบทที่ 316 ทำไมข้าต้องคืนของที่ยึดมาได้ด้วยกำลังตัวเองด้วย

บทที่ 316 ทำไมข้าต้องคืนของที่ยึดมาได้ด้วยกำลังตัวเองด้วย

เซียว​เยวี่ย​รีบ​พุ่ง​ไป​ประคอง​เซียว​เห​มิง ใบหน้า​ของ​เขา​ถมึงทึง​ขึ้น​มาทันที​

ชายหนุ่ม​ดึง​กระบี่​บน​หลัง​ออกจาก​ฝัก​ ลำแสง​จาก​กระบี่​กะพริบ​อยู่​เหนือ​ตัว​ของ​เขา​ ดู​ราวกับ​เป็น​ดาวหาง​ที่​กำลัง​ผ่า​ท้องฟ้า​ออก​เป็น​สอง​ซีก​ โดย​มีจุดหมาย​อยู่​ที่​ผู้อาวุโส​ซุน​

“เจ้าอยาก​ลอง​กับ​ข้า​สัก​ตั้ง​รึ​” กล้ามเนื้อ​ทุก​มัด​บน​ตัว​ผู้อาวุโส​ซุน​ปูด​โปน​เต้น​ตุบๆ​ พลัง​ปราณ​เที่ยงแท้​ระเบิด​ออกจาก​มือ​ พลัง​กดดัน​น่ากลัว​ทับ​โถมลงมา​บน​ร่าง​ของ​เซียว​เย​วี่ย​ กด​ทับ​ตัว​ชายหนุ่ม​เอาไว้​

“ผู้อาวุโส​ซุน​ ควบคุม​อารมณ์​หน่อย​”

จ้าน​คงที่​เงียบ​มาตลอด​ก้าว​ขึ้น​มายืน​บัง​เซียว​เยวี่ย​เอาไว้​ จากนั้น​ก็​โบกมือ​เพื่อ​ไล่​พลัง​กดดัน​ของ​ผู้อาวุโส​ซุน​ทิ้ง​ไป​

สีหน้า​ของ​เซียว​เยวี่ย​เย็นเยียบ​ขณะ​เก็บ​กระบี่​เข้าฝัก​ ชายหนุ่ม​ไม่ชอบ​ขี้หน้า​ผู้อาวุโส​ซุน​แม้แต่น้อย​

จ้าน​คง​มีตำแหน่ง​เป็น​ถึงขุนพล​ของ​สำนัก​เมฆาขาว​ อย่างไร​เสีย​ผู้อาวุโส​ซุน​ก็​ไม่อยาก​มีเรื่อง​หมางใจ​กับ​คน​ผู้​นี้​ ด้วยเหตุนี้​เขา​จึงสลาย​พลัง​ปราณ​ของ​ตนเอง​ไป​ จากนั้น​เขา​ก็​ทำ​เพียง​พ่นลม​เยาะ​ออกมา​แล้ว​ไม่ได้​พูด​อะไร​อีก​

“พวก​เจ้ามอง​บ้า​อะไร​กัน​ รีบ​ไป​บอก​ปู้​ฟางให้​ส่งของ​นั่น​มาเสีย​!” ผู้อาวุโส​ซุน​จ้อง​บรรดา​ขุนนาง​ที่​ยืน​อยู่​รอบตัว​เขม็ง​ เสียง​ตะโกน​ของ​เขา​ทำให้​ทุกคน​ขวัญหนีดีฝ่อ​ไป​ตาม​ๆ กัน​

ร่าง​ของ​ขุนนาง​เหล่านั้น​แข็งทื่อ​ ก่อนที่จะ​เรียก​สติ​ตนเอง​กลับมา​ได้​ ทุกคน​รีบรุด​ลง​จาก​กำแพงเมือง​เพื่อ​มุ่งหน้า​ไป​ยัง​ร้าน​เล็ก​ๆ ของ​ฟางฟางทันที​

“หยุด​เดี๋ยวนี้​! พวก​เจ้ากล้า​ขัดคำสั่ง​ของ​ข้า​รึ​” จีเฉิงเสวี่ย​ตะโกน​ใส่เหล่า​ขุนนาง​ด้วย​ความโกรธ​

“ฝ่าบาท​!” ผู้อาวุโส​ซุน​ตะโกน​ใส่จีเฉิงเสวี่ย​พร้อม​จ้อง​อีก​ฝ่าย​ตาเขียว​

บรรดา​ขุนนาง​ที่​กำลังจะ​วิ่ง​ลง​กำแพงเมือง​ละล้าละลัง​เล็กน้อย​ แต่​เมื่อ​เห็น​ว่า​จีเฉิงเสวี่ย​ไม่ได้​เอ่ย​ขัด​ผู้อาวุโส​ซุน​ก็​พา​กัน​วิ่ง​ต่อ​อีกครั้ง​

ทันทีที่​ลง​จาก​กำแพงเมือง​ พวกเขา​ก็​พา​ทหาร​กอง​ใหญ่​รุด​ไป​ยัง​ร้าน​เล็ก​ๆ ของ​ฟางฟาง

จีเฉิงเสวี่ย​โกรธ​การกระทำ​ของ​เหล่า​ขุนนาง​เป็นอันมาก​ สีหน้า​ของ​จักรพรรดิ​หนุ่ม​ซีดเผือด​ แต่​ก็​ทำ​อะไร​ไม่ได้​แม้แต่น้อย​

พอ​องครักษ์​โลหิต​เห็น​จีเฉิงเสวี่ย​และ​คนอื่นๆ​ กำลัง​ตี​กัน​พัลวัน​อยู่​บน​กำแพงเมือง​ พวกเขา​ก็​มอง​คน​เหล่านั้น​ด้วย​สีหน้า​เดียดฉันท์​ จากนั้น​ก็​หัวเราะเยาะ​เหล่า​คน​ที่​ยืน​อยู่​บน​กำแพงเมือง​เสียง​เย็น​

จีเฉิงเสวี่ย​เห็น​องครักษ์​โลหิต​หัวเราะเยาะ​ตน​จึงหันไป​มอง​ทั้งสอง​ด้วย​สายตา​เย็นเยียบ​

…..

ณ ตรอก​แห่ง​หนึ่ง​ใน​นครหลวง​ ที่​ร้าน​เล็ก​ๆ ของ​ฟางฟาง

ปู้​ฟางยังคง​นั่ง​อยู่​บน​เก้าอี้​ ดวงตา​หรี่​เล็ก​ เขา​กำลัง​นอน​อาบแดด​อย่าง​เกียจคร้าน​ แดด​อุ่น​สบาย​ทำให้​รู้สึก​อบอุ่น​มาก​เสีย​จน​ใกล้​จะหลับใหล​ เจ้าดำ​นอน​อยู่​หน้า​ร้าน​ กำลัง​หลับ​ฝันดี​ตอนกลางวัน​ ส่วน​เด็กหญิง​โอว​หยาง​เสี่ยว​อี้​ก็​นั่ง​อยู่​ข้างๆ​ ต้น​ตื่น​รู้ทาง​ห้า​สาย​เพื่อ​ฝึก​ปราณ​ เสียง​เซียว​เสี่ยว​หลง​ฝึก​วิชา​ทำอาหาร​ดัง​ออกจาก​ห้องครัว​ไม่หยุดหย่อน​

ทุกอย่าง​ดู​เงียบสงบ​เป็นปกติ​

ทันใดนั้น​เสียง​ฝีเท้า​รีบร้อน​ไม่เป็นระเบียบ​ก็​ดัง​มาจาก​ตรอก​นอ​กร้าน​

ปู้​ฟางที่​กำลังจะ​ผล็อย​หลับ​ลืมตา​ตื่นขึ้น​ทันที​ เขา​เปิด​เปลือกตา​ขึ้น​มอง​กลุ่ม​ขุนนาง​ที่​กำลัง​รุด​เข้า​มาหา​ สีหน้า​ของ​ชายหนุ่ม​เรียบ​เฉย​เมื่อ​เห็น​ทหาร​จำนวนมาก​ที่​ตามหลัง​เหล่า​ขุนนาง​มา

คน​ทั้งหมด​มาหยุด​อยู่​ที่​หน้า​ร้าน​ของ​ปู้​ฟาง บรรดา​ขุนนาง​มอง​พ่อครัว​หนุ่ม​ด้วย​สายตา​เป็นประกาย​ เหมือน​กำลัง​มอง​ขุมทรัพย์​ล้ำค่า​อย่างไร​อย่างนั้น​

ชายหนุ่ม​ตัวสั่น​ขนลุกซู่​เมื่อ​สัมผัส​ได้​ถึงสายตา​ของ​คน​พวก​นั้น​ที่​จ้องมอง​มา รู้สึก​เหมือน​มีอะไร​ไม่ชอบมาพากล​

ไอ้​พวก​มนุษย์​ลุง​นี่​มาทำ​อะไร​ที่นี่​ แล้ว​เหตุใด​จึงต้อง​จ้องมอง​เขา​ด้วย​สายตา​ชวน​สยอง​เช่นนี้​ด้วย​

“เถ้าแก่​ปู้…”​

เหล่า​ขุนนาง​รู้ดี​ว่า​ร้าน​นี้​แข็งแกร่ง​เพียงใด​ ไม่มีใคร​ใน​นครหลวง​ไม่รู้​วีรกรรม​ของ​ร้าน​เล็ก​ๆ ของ​ฟางฟาง และ​พวกเขา​ก็​เลือก​ที่จะ​ไม่ยั่วโมโห​ปู้​ฟางหาก​ไม่จำเป็น​จริงๆ​

“เอ่อ​ มากินข้าว​รึ​ เข้ามา​สิ” ปู้​ฟางพูด​หน้าตาย​

“เถ้าแก่​ปู้​ วันนี้​… พวก​ข้า​ไม่ได้มา​หาอาหาร​ใส่ท้อง​ แต่​มาเพราะ​มีบางอย่าง​อยาก​จะขอร้อง​ท่าน​” หนึ่ง​ใน​ขุนนาง​คลี่​ยิ้ม​ออกมา​พร้อม​เอื้อนเอ่ย​

ปู้​ฟางชะงัก​ไป​ครู่หนึ่ง​ พวก​นี้​มาขอร้อง​ข้า​รึ​ หรือว่า​อยาก​จะขอยืม​เงิน​ ไม่ได้​หรอก​ ข้า​จน​เกินไป​

ด้วยเหตุนี้​เขา​จึงลุกขึ้น​จาก​เก้าอี้​ เอา​มือ​ไพล่หลัง​ จากนั้น​ก็​เดิน​เข้า​ร้าน​ไป​โดย​ไม่พูด​อะไร​อีก​ ใน​สถานการณ์​เช่นนี้​สิ่งที่​ควร​ทำ​ที่สุด​คือ​ไม่โต้ตอบ​

“เถ้าแก่​ปู้…​ อย่า​เดิน​หนี​สิ พวก​ข้า​เพียงแต่​อยาก​จะขอยืม​บางอย่าง​จาก​ท่าน​เท่านั้น​” เมื่อ​ขุนนาง​ผู้​นั้น​เห็น​ปู้​ฟางเดิน​หนี​เข้า​ร้าน​ไป​ ดวงตา​ของ​เขา​ก็​เต็มไปด้วย​ความ​กระวนกระวาย​

‘นั่นไง​… พวก​นี้​จะมายืม​เงิน​ข้า​จริง​เสีย​ด้วย​’ ด้วยเหตุนี้​ปู้​ฟางจึงเร่งฝีเท้า​ขึ้น​อีก​โดยที่​ตัวเอง​ก็​ไม่ทัน​รู้ตัว​

เมื่อ​เห็น​ว่า​ปู้​ฟางกำลัง​สาวเท้า​อย่าง​เอาเป็นเอาตาย​ บรรดา​ขุนนาง​ก็​แทบ​กระอัก​เลือด​ออกจาก​ปาก​ พวกเรา​แค่​มาขอยืม​ของ​จาก​ท่าน​เท่านั้น​… จะวิ่งหนี​ไป​เพื่อ​อะไร​ แล้ว​อย่างนี้​จะคุย​กัน​รู้เรื่อง​หรือ​

“เถ้าแก่​ปู้…​ ท่าน​มีของ​ที่​ยึด​มาจาก​ลัทธิ​อสุรา​ใช่หรือไม่​” ขุนนาง​คน​หนึ่ง​ทนไม่ไหว​อีกต่อไป​จน​ต้อง​รีบ​ถามออกมา​

ปู้​ฟางที่​วิ่ง​ไป​จน​ใกล้​จะถึงห้องครัว​หยุด​เท้า​ลง​ทันที​

“พวก​เจ้าทุกคน​มาที่นี่​เพื่อ​ขอยืม​ของ​ที่​เกี่ยวกับ​ลัทธิ​อสุรา​หรือ​” ชายหนุ่ม​หรี่ตา​แล้ว​เรียก​ยันต์​ทั้ง​ห้า​แผ่น​ออกมา​ วงแหวน​ปราณ​พลัน​ก่อตัว​ขึ้น​ใน​มือ​ของ​เขา​

จากนั้น​เขา​ก็​หันหลัง​กลับมา​มอง​เหล่า​ขุนนาง​ทั้งหลาย​พลาง​โบก​ยันต์​ใน​มือ​ไปมา​ “ตามหา​สิ่งนี้​อยู่​หรือ​”

ขุนนาง​คนอื่นๆ​ ไม่ได้​คาดหวัง​มาก​นัก​กับ​คำถาม​ที่​พวก​ของ​ตน​ถามออก​ไป​ พวกเขา​ไม่คิด​ว่า​จู่ๆ ปู้​ฟางจะหยิบ​สิ่งที่​ถามหา​ออกมา​ให้​ดู​ทันที​

พอ​สติ​กลับ​เข้า​ร่าง​ พวกเขา​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ก่น​ด่า​ปู้​ฟางอยู่​ใน​ใจ ดูเหมือนว่า​เจ้าเด็ก​นี่​จะคิด​จริงๆ​ ว่า​พวกเขา​มาเพื่อ​ขอยืม​เงิน​

“ใช่แล้ว​ ใช่แล้ว​! เถ้าแก่​ปู้​ พวก​ข้า​ขอยืม​ก่อน​ได้​หรือไม่​” ดวงตา​ของ​หนึ่ง​ใน​ขุนนาง​เป็นประกาย​ขึ้น​มาทันที​ ดูเหมือนว่า​เถ้าแก่​ปู้​จะมีบางสิ่ง​ที่​เป็น​ของ​ลัทธิ​อสุรา​จริง​เสีย​ด้วย​

องครักษ์​โลหิต​ของ​ลัทธิ​อสุรา​มาถึงจักรวรรดิ​วายุ​แผ่ว​เพื่อ​ตามหา​วัตถุ​ที่​หน้าตา​เหมือน​จะพัง​ไม่พัง​แหล่​ชิ้น​นี้​เนี่ย​นะ​

มุมปาก​ของ​ปู้​ฟางกระตุก​ขณะ​โยน​วงแหวน​ปราณ​ให้​กลุ่ม​ขุนนาง​ วงแหวน​ปราณ​หมุน​อยู่​ใน​อากาศ​ชั่วครู่​ก่อนที่​กระเป๋า​คลังเก็บของ​เขา​จะเก็บ​มัน​กลับ​เข้าไป​

“ข้า​ไม่ให้ยืม​หรอก​” ปู้​ฟางตอบ​หน้าตาย​

แค่​ก.​..

บรรดา​ขุนนาง​แทบจะ​ร้องไห้​ออกมา​ พวกเขา​คิด​ว่า​ปู้​ฟางจะให้ยืม​สิ่งนั้น​และ​ตั้งท่า​เตรียม​รับ​ไว้​แล้ว​ แต่​ชายหนุ่ม​กลับ​เก็บ​มัน​เข้า​กระเป๋า​กลางอากาศ​หน้าตาเฉย​…

“ทำไม​ข้า​ต้อง​ให้ยืม​ด้วย​”

“ความเป็นความตาย​ของ​จักรวรรดิ​ขึ้นอยู่กับ​มัน​นะ​…” หนึ่ง​ใน​ขุนนาง​เอ่ย​ตอบ​

วงแหวน​ปราณ​จาก​ยันต์​เก่า​คร่ำคร่า​นี่​น่ะ​หรือ​ที่จะ​มาตัดสิน​ชะตากรรม​ของ​อาณาจักร​ ไอ้​ของ​เก่าๆ​ นี่​มัน​มีค่า​ถึงเพียงนั้น​เลย​หรือ​

ปู้​ฟางหยิบ​ยันต์​ออกมา​อีกครั้ง​แล้ว​เริ่ม​พินิจ​มัน​ พอ​มอง​อยู่​สักพัก​เขา​ก็​เก็บ​กลับ​เข้าไป​อีก​ เนื่องจาก​ไม่พบ​อะไร​ผิดปกติ​

นอก​กำแพงเมือง​ องครักษ์​โลหิต​แทบจะ​ระเบิด​ตาย​ด้วย​โทสะ​ เข็มทิศ​ที่​พวกเขา​เอาไว้​ตรวจจับ​วงแหวน​ปราณ​ผสาน​วิญญาณ​รวน​ไม่หยุด​ เดี๋ยว​ก็​เรืองแสง​เดี๋ยว​ก็​ดับ​ลง​ไป​อีก​ ติดๆ​ ดับ​ๆ อยู่​เช่นนี้​หลาย​ต่อ​หลายครั้ง​ นี่​มัน​เกิดเรื่อง​บ้า​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​

พวกเขา​อยาก​จะรีบ​พุ่ง​เข้าไป​ใน​นครหลวง​เพื่อ​ชิงวงแหวน​ปราณ​ผสาน​วิญญาณ​กลับมา​เสีย​เดี๋ยวนี้​ให้​มัน​รู้แล้วรู้รอด​

บรรดา​ขุนนาง​เอง​ก็​หัวเสีย​เช่นกัน​ พวกเขา​เริ่ม​เล่า​สิ่งที่​เกิดขึ้น​บน​กำแพงเมือง​ให้​ปู้​ฟางฟัง ด้วย​หวัง​ว่า​ชายหนุ่ม​จะเห็นใจ​และ​ยอม​ส่งวงแหวน​ปราณ​ใน​มือ​มาให้​

“เหตุใด​ข้า​ต้อง​มอบ​ยันต์​นี่​ให้​ด้วย​ หาก​องครักษ์​โลหิต​อะไร​นั่น​อยากได้​ก็​บอก​ให้​มาเอา​เอง​ถ้ามีปัญญา​น่ะ​นะ​” ปู้​ฟางตอบ​เสียง​นิ่ง​

พอ​ปฏิเสธ​เสร็จ​ ชายหนุ่ม​ก็​เชิญให้​เหล่า​ขุนนาง​กลับ​ไป​

“เถ้าแก่​ปู้…​ ท่าน​แค่​ยอม​คืน​ยันต์​ให้​พวกเขา​ไป​ ก็​จะซื้อเวลา​ให้​จักรวรรดิ​วายุ​แผ่ว​ได้​เป็น​วัน​ นี่​เป็นเรื่อง​ที่​สำคัญ​ยิ่ง​ต่อ​การอยู่รอด​ของ​จักรวรรดิ​นะ​”

ขุนนาง​คน​หนึ่ง​ที่​ไม่พอใจ​การกระทำ​ของ​ปู้​ฟางเอ่ย​ขึ้น​

“ทำไม​ข้า​ต้อง​คืน​ของ​ที่​ยึด​มาได้​ด้วย​กำลัง​ตัวเอง​ด้วย​”

ชายหนุ่ม​ตอบกลับ​ก่อน​จะเมิน​คน​เหล่านี้​ไป​โดยสิ้นเชิง​ เขา​กลับ​เข้าครัว​ไป​ ปล่อย​ให้​ฝูงขุนนาง​ยืน​อยู่​หน้า​ร้าน​อย่าง​เดียวดาย​

แม้สีหน้า​ของ​พวกเขา​จะเปลี่ยนไป​แต่​สุดท้าย​ก็​ต้อง​ยอมแพ้​ เนื่องจาก​ไม่มีกำลัง​พอ​จะบังคับ​ให้​ชายหนุ่ม​เจ้าของร้าน​ทำ​อย่าง​ที่​ตนเอง​ต้องการ​ ทั้ง​ยัง​ไม่อยาก​ก่อเรื่อง​ที่นี่​ด้วย​ นั่น​เพราะ​ชื่อเสียง​ความ​น่ากลัว​ของ​ร้าน​นี้​เป็นที่รู้กันดี​ภายใน​นครหลวง​

“การกระทำ​ของ​ท่าน​ใน​ตอนนี้​จะทำให้​ผู้คน​มากมาย​ใน​นครหลวง​ต้อง​ทุกข์ทรมาน​” ขุนนาง​คน​หนึ่ง​ไม่ยอมแพ้​ตะโกน​เข้าไป​ใน​ครัว​

“อย่า​มาใช้ความเป็นอยู่​ของ​คน​หมู่​มาก​บังคับ​ข้า​ ไสหัวไป​เสีย​!”

เสียง​ตะโกน​ไร้​เยื่อใย​ดัง​ออกมา​จาก​ห้องครัว​ เสียง​นั้น​ทำให้​เหล่า​ขุนนาง​สะดุ้ง​ตกใจ​จน​ต้อง​หันไป​มอง​รอบ​ๆ แต่​ก็​ไม่เห็น​อสูร​เวท​ขั้น​เซียน​เทพ​จึงรู้สึก​วางใจ​ได้​บ้าง​ และ​เมื่อ​เห็น​ว่า​ปีศาจร้าย​ที่​ชอบ​จับ​คน​แก้ผ้า​ไม่ได้​ปรากฏตัว​ขึ้น​ พวกเขา​ก็​ถอนหายใจ​ยาว​ออกมา​แล้ว​เริ่ม​ตั้ง​ขบวน​จากไป​

พวกเขา​จนปัญญา​แล้ว​ ไม่มีใคร​รู้​ว่า​จะจัดการ​กับ​คน​อย่าง​ปู้​ฟางที่​มีนิสัย​แข็งทื่อ​เหม็นบูด​เหมือน​โถส้วม​เย็น​ๆ อย่างไร​ดี​

สุดท้าย​เหล่า​ขุนนาง​ก็​กลับ​ไป​ที่​กำแพงเมือง​

บรรยากาศ​บน​กำแพงเมือง​ยังคง​หนักอึ้ง​เหมือน​เมื่อ​ก่อนหน้านี้​

“เป็น​อย่างไร​ พวก​เจ้าได้​ของ​นั้น​มาหรือไม่​” ผู้อาวุโส​ซุน​ถามเสียง​เย็น​

“ม… ไม่ได้​ขอรับ​ เถ้าแก่​ปู้…​ บอก​ให้​พวก​ข้า​ไสหัว​ออกจาก​ร้าน​ไป​” ขุนนาง​คน​หนึ่ง​ที่​กลัว​ผู้อาวุโส​ซุน​ละล่ำละลัก​ตอบ​

องครักษ์​โลหิต​ที่​ลอย​อยู่​หน้า​กำแพงเมือง​หมด​ความอดทน​ไป​นาน​แล้ว​ ทันทีที่​ได้ยิน​คำตอบ​ของ​ขุนนาง​ผู้​นั้น​ ดวงตา​ของ​พวกเขา​ก็​แดง​เรื่อ​ด้วย​สีเลือด​

“แปล​ว่า​ไอ้​เถ้าแก่​ปู้​นั่น​มีของ​อยู่ในครอบครอง​จริง​สินะ​ เช่นนั้น​ก็ดี​เลย​…”

พวกเขา​หันมา​มองหน้า​กัน​แล้วก็​เห็น​อาการ​หมด​ความอดทน​และ​ความโกรธเคือง​ใน​ดวงตา​ของ​อีก​ฝ่าย​

ทั้งสอง​ปลุก​พลัง​ปราณ​ขึ้น​แล้ว​เตรียม​จะบุก​เข้า​นครหลวง​ไป​

แต่​ตอนที่​พวกเขา​ปล่อย​พลัง​ปราณ​ออกมา​ บางอย่าง​ก็​ชิงเกิดขึ้น​เสีย​ก่อน​

เสียงร้อง​คำราม​ดัง​มาจาก​ฟากฟ้า​ นก​อัคคี​จรัส​ตัว​ใหญ่​ยักษ์​ลด​ระดับ​ลงมา​ พลาง​สยาย​ปีก​ขนาดใหญ่​ของ​มัน​ ลม​ร้อนระอุ​เดือด​พล่าน​พัดพา​ไป​ทั่ว​บริเวณ​ทันทีที่​นก​ตัว​นี้​ปรากฏ​ขึ้น​

บน​หลัง​นก​มีชาย​ชรา​ร่าง​ท้วม​นั่งขัดสมาธิ​อยู่​ ชาย​ผู้​นี้​มีสีหน้า​ใจดี​อบอุ่น​ ปาก​กำลังกิน​หวานเย็น​แท่ง​ใน​มือ​

นก​อัคคี​จรัส​ส่งเสียงร้อง​แล้ว​ลงมา​หยุด​อยู่​บน​กำแพงเมือง​

ทันทีที่​เห็น​ผู้​ที่อยู่​บน​หลัง​นก​ บรรดา​ผู้ฝึก​ตน​จาก​สำนัก​เจดีย์​นภา​กระจ่าง​แห่ง​ดินแดน​แสน​ภูผา​ก็​มีสีหน้า​ยิน​ดีขึ้น​มา พวกเขา​โค้ง​คำนับ​ชาย​ชรา​พร้อม​ส่งเสียง​ตะโกน​ดังลั่น​

“คารวะ​ผู้อาวุโส​สูงสุด​เย่อ​วิ๋น​ชิง!”

ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD

ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 200 อ่านนิยาย
( อ่านต่อข้างล่าง )


ในโลกแฟนตาซีมีผู้ฝึกยุทธสามารถแยกภูเขาและลำธารด้วยคลื่นพลังที่แผ่ออกมาจากฝ่ามือ และทำลายแม่น้ำได้จากลูกเตะ มีร้านอาหารเล็กๆตั้งอยู่

เป็นที่ๆมีพลังแห่งชีวิตนับไม่ถ้วนที่อยู่ภายใน

ที่นี่ท่านจะได้ลิ้มรสข้าวผัดที่ทำมาจากไข่ของนกฟินิกส์และข้าวเลือดมังกร

ที่นี่ท่านสามารถดื่มเหล้าแรงที่ทำมาจากผลสีชาดและน้ำจากน้ำพุแห่งชีวิต

ที่นั่นท่านสามารถลิ้มรสเนื้อย่างของวัวระดับเก้าที่โรยพริกไทยดำ

อะไรนะ? อยากจะลักพาตัวพ่อครัว? นี่ไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะมีสัตว์แห่งเทพระดับสิบ เฮลฮาวน์เฝ้าอยู่ที่ทางเข้า

พ่อครัวยังมีหุ่นยนต์ที่ฆ่านักฆ่าระดับเก้าด้วยมือข้าเดียว และยังมีกลุ่มผู้หญิงที่บ้าคลั่งหิวโหยที่จะต้องเอาชนะให้ได้


 

Options

not work with dark mode
Reset