ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋องบทที่ 249 ไม่เจอกันนาน คิดถึงแล้วนะ

บทที่ 249 ไม่เจอกันนาน คิดถึงแล้วนะ

หลิน​ชิงเวย​หันกลับ​ไป​มอง​ นาง​เห็น​เพียง​เงาของ​ดาบ​ฟาดฟัน​อย่าง​รวดเร็ว​ กลุ่มคน​ที่​ไล่​ตามมา​เป็น​คน​ชุด​ดำ​เช่นกัน​ พวกเขา​ล้วน​เป็น​องครักษ์​ลับ​ที่ทำการ​อารักขา​หลิน​ชิงเวย​อย่าง​มิต้องสงสัย​ หลิน​ชิงเวย​นับ​ดู​แล้ว​มีทั้งหมด​แปด​คน​

ทันใดนั้น​มีคน​ชุด​ดำ​อีก​กลุ่ม​หนึ่ง​โรยตัว​ลง​มาจาก​ท้องฟ้า​ราวๆ​ เจ็ด​แปด​คน​ ทั้งสองฝ่าย​ประมือ​กัน​อย่าง​ดุเดือด​ ไม่รู้​แพ้ชนะ​

หัวสมอง​ของ​หลิน​ชิงเวย​แล่น​ปราด​ๆ คน​ชุด​ดำ​เหล่านี้​เตรียมการ​มาเป็น​อย่าง​ดี​ ไฉน​จึงไม่สังหาร​นาง​เสีย​เลย​ แต่กลับ​สังหาร​คน​ข้าง​กาย​นาง​ก่อน​เล่า​?

ทันทีที่​คิดได้​เช่นนั้น​ นาง​ก็​ดึง​สายบังเหียน​พร้อมกับ​ร้อง​ “ย่าห์!”​ แล้ว​ควบม้า​พุ่ง​ออก​ไป​ข้างหน้า​

จุดประสงค์​ของ​คน​ชุด​ดำ​หา​ใช่เพื่อ​มาสังหาร​นาง​ แต่​เป็น​การสลัด​องครักษ์​ลับ​เหล่านั้น​ เห็นได้ชัด​ว่า​เป็น​การกระทำ​เพื่อ​จับกุม​ตัวนาง​หรือ​ถ่วงเวลา​ของ​นาง​ เป็น​ผู้ใด​กัน​แน่​ที่​ได้รับ​ข่าวสาร​ว่องไว​เช่นนั้น​ แต่​ไม่ว่า​จะเป็น​ใคร​ สิ่งที่​นาง​จำเป็นต้อง​ทำเป็น​สิ่งแรก​ก็​คือ​หนี​

ทว่า​หลิน​ชิงเวย​เพิ่งจะ​สลัด​คน​ชุด​ดำ​กลุ่ม​นั้น​มาได้​แล้ว​ควบม้า​ออกมา​ได้​ไม่ไกล​นัก​ กลับ​พบเห็น​บุรุษ​รูปร่าง​สูงใหญ่​ประดุจ​หยก​ยืน​อยู่​กลาง​ถนน​ท่ามกลาง​อากาศ​อัน​หนาวเหน็บ​และ​หิมะ​ที่​ตก​ลงมา​ เสียง​ลม​พัด​ชาย​อาภรณ์​ของ​เขา​ ท่ามกลาง​แสงสลัว​จาก​โคมไฟ​ทำให้​มอง​เค้า​โครงหน้า​ของ​เขา​ได้​ไม่ชัดเจน​นัก​

หลิน​ชิงเวย​หรี่ตา​ลง​ ภายใต้​สถานการณ์​ที่​นาง​ไม่อาจ​มองเห็น​ใบหน้า​ของ​อีก​ฝ่าย​ได้​ชัดเจน​นัก​ เมื่อ​นาง​ตัดสินใจ​แน่วแน่​แล้วจึง​ควบม้า​ตรง​เข้าไป​ยัง​คน​ผู้​นั้น​

ไม่ว่า​จะมาด้วย​จุดประสงค์​ใด​ก็ตาม​ นาง​ไม่เชื่อ​ว่า​เขา​คิด​ว่า​นาง​ไม่กล้า​ควบม้า​เหยียบ​ผ่าน​ร่าง​ของ​เขา​ไป​ ถ้าเป็น​เช่นนั้น​เขา​ก็​คิดผิด​และ​ผิด​อย่าง​ใหญ่หลวง​เสีย​ด้วย​

ใน​เมื่อ​ออก​มาจาก​วังหลวง​แล้ว​ ไม่ว่า​ใคร​ก็​ขัดขวาง​การตัดสินใจ​เดินทาง​ไป​หนาน​เจียง​ของ​นาง​ไม่ได้​

ใน​วินาที​ที่​ม้าควบ​เต็ม​ฝีเท้า​กำลังจะ​พุ่ง​เข้า​ชน​คน​ผู้​นั้น​ เขา​เพียง​แตะ​พื้น​ด้วย​ปลายเท้า​เล็กน้อย​ คน​ทั้งคน​ก็​เหิน​กาย​ขึ้น​กลางอากาศ​ ส่งผล​ให้​หิมะ​และ​ไอ​เย็น​บน​ร่างกาย​ของ​เขา​กำจาย​ออกมา​ หลิน​ชิงเวย​ถึงกับ​ตาพร่า​ ต่อมา​เห็น​เขา​เหยียบ​หัว​ม้าของ​ตน​ หลิน​ชิงเวย​ไม่มีวรยุทธ์​แต่​นาง​ไม่ยอมให้​คน​ผู้​นี้​กระทำ​ตามอำเภอใจ​เช่นกัน​จึงยื่นมือ​ออก​ไป​หมาย​จะจับ​ข้อเท้า​ของ​อีก​ฝ่าย​แล้ว​ออกแรง​สุดฤทธิ์​เพื่อที่จะ​ให้​เขา​พลัด​ตกลง​ไป​

ทว่า​คน​ผู้​นี้​กลับ​ไม่ได้​สูญเสีย​สมดุล​ของ​ร่างกาย​ เขา​พลิก​กาย​ไป​ด้าน​ข้าง​อย่าง​รู้​จังหวะ​ จากนั้น​นั่งลง​ด้านหลัง​หลิน​ชิงเวย​ เสียงหัวเราะ​ของ​เขา​ดัง​เข้ามา​ใน​โสตประสาท​ของ​หลิน​ชิงเวย​ ต่อมา​นาง​ถูก​คน​ผู้​นี้​โอบ​อยู่​ใน​อ้อมกอด​โดย​ไร้​ซึ่งหนทาง​ขัดขืน​

ชิงห​ลัน​เลื้อย​ขึ้น​มาบน​หัวไหล่​ของ​นาง​แล้ว​หันไป​แลบลิ้น​แยกเขี้ยว​ใส่เขา​

เขา​ยื่นมือ​มาสกัด​จุด​บน​ร่าง​ของ​หลิน​ชิงเวย​พร้อม​เอ่ย​อย่าง​อารมณ์ดี​ว่า​ “เวยเวย​ ผ่อนคลาย​ลง​หน่อย​ หาก​งูตัว​นี้​กัด​เปิ่น​หวา​ง เปิ่น​หวา​งจะลาก​เจ้าให้​ตกลง​จาก​หลัง​ม้าด้วยกัน​ มีความเป็นไปได้​ว่า​อาจจะ​ต้อง​ตาย​ภายใต้​เกือกม้า​ก็​เป็นได้​”

“เซียว​อี้​!” หลิน​ชิงเวย​ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน​ ระหว่าง​ที่​ใกล้ชิด​กัน​เมื่อ​สักครู่​ นาง​เห็น​ใบหน้า​ของ​บุรุษ​ผู้​นี้​ชัดเจน​ รอยยิ้ม​เปี่ยม​ไป​ด้วย​ความมั่นใจ​ ทำให้​ผู้พบเห็น​รู้สึก​เดือดดาล​สุด​จะเปรียบ​

เซียว​อี้​แย่ง​สายบังเหียน​มาจาก​มือ​ของ​หลิน​ชิงเวย​พร้อมกับ​เปลี่ยน​ทิศทาง​

สายลม​อัน​เหน็บ​หนาว​พัด​เส้น​ผม​ดำขลับ​ของ​หลิน​ชิงเวย​ลูบ​ไป​กับ​แก้ม​ของ​เซียว​อี้​ มีโฉมสะคราญ​อยู่​ใน​อ้อมกอด​เขา​มีความสุข​เหลือเกิน​ ราวกับ​ดอกไม้​ท่ามกลาง​แสงจันทร์​ก็​มิสู้ควบม้า​ท่ามกลาง​หิมะ​ใน​ยาม​นี้​

หลิน​ชิงเวย​เอ่ย​เสียง​เย็น​ “ท่าน​รู้​ได้​อย่างไร​ว่า​ข้า​จะออกจาก​วัง​คืนนี้​?”

เซียว​อี้​พูด​ยิ้ม​ๆ “เจ้าลอง​เดา​”

“ท่าน​วาง​คน​ไว้​ใน​ตำหนัก​ฉางเหยี่ยน​ของ​ข้า​?”

“เวยเวย​ฉลาดเฉลียว​จริงๆ​”

ต่อมา​หลิน​ชิงเวย​ย่อม​ไม่ถามอัน​ใด​ เขา​ต้อง​รู้​เป็นแน่​ว่า​นาง​ต้องการ​ไป​ที่ใด​ หาไม่​แล้ว​คง​ไม่แย่ง​คน​มาอย่าง​เปิดเผย​เช่นนี้​ หรือไม่​อีกที​ เขา​กระจ่างแจ้ง​เรื่อง​ที่​เซียว​เยี่ยน​เดินทาง​ไป​หนาน​เจียง​แต่แรก​แล้ว​

เซียว​อี้​ไม่ได้​พา​นาง​กลับ​ไป​ยัง​จวน​เซี่ยน​อ๋อง​ หลิน​ชิงเวย​ไม่คุ้นเคย​กับ​เมืองหลวง​ นาง​ไม่รู้​ว่า​คนสารเลว​ผู้​นี้​จะพา​นาง​ไป​ที่ใด​ เขา​เพียง​หยุด​ม้าลง​หน้า​ประตู​คฤหาสน์​หลัง​หนึ่ง​ใน​ตรอก​แห่ง​หนึ่ง​

หลิน​ชิงเวย​ถูก​สกัด​จุด​จึงไม่อาจ​เคลื่อนไหว​ร่างกาย​ได้​ เซียว​อี้​อุ้ม​นาง​ลง​มาจาก​หลัง​ม้าอย่าง​ง่ายดาย​ มีบ่าว​รับใช้​ท่าที​ธรรมดา​สามัญเดิน​มาจาก​หน้า​ประตู​เข้ามา​จูงม้าออก​ไป​โดย​ไม่พูดไม่จา​ เซียว​อี้​อุ้ม​หลิน​ชิงเวย​เข้าไป​ใน​ห้องโถง​

คฤหาสน์​หลัง​นี้​ภายนอก​ดู​แล้ว​แสน​จะธรรมดา​สามัญ ทว่า​ข้างใน​กลับ​กว้างขวาง​ใหญ่โต​ เขา​เดิน​ไป​พัก​หนึ่ง​จึงหยุด​ลง​หน้า​เรือน​เล็ก​หลัง​หนึ่ง​แล้ว​เข้าไป​วาง​หลิน​ชิงเวยลงบน​ตั่ง​ยาว​ตัว​นั้น​

เขา​นั่งลง​ริม​เตียง​ด้วย​ท่าที​เสแสร้ง​แกล้งทำ​ บน​ร่าง​ของ​เขา​ยังมี​ไอ​เย็น​จาก​หิมะ​หลง​เหลืออยู่​ เสียงหัวเราะ​นั้น​ฟังดู​แล้ว​ราวกับ​จิ้งจอก​เจ้าเล่ห์​ก็​ไม่ปาน​ ทั้ง​เจ้าชู้เสเพล​และ​เจ้าเล่ห์แสนกล​ เขา​พินิจ​อาภรณ์​เรียบง่าย​ที่​หลิน​ชิงเวย​สวม​อยู่แล้ว​ยก​มือขึ้น​ดึง​หยก​ครอบ​ผม​ของ​หลิน​ชิงเวย​ออก​พร้อมกับ​มองดู​เส้น​ผม​ดำขลับ​ที่​แผ่​สยาย​ทิ้งตัว​ลงมา​อย่าง​งดงาม​ราวกับ​ม่าน​น้ำตก​ด้วย​สายตา​พึงพอใจ​อย่าง​เอกอุ​

หลิน​ชิงเวย​หัวเราะ​เสียง​เย็น​ “คิดไม่ถึง​ว่า​เซี่ยน​อ๋อง​ยังคง​มีพฤติกรรม​เยี่ยง​คน​ต่ำช้า​เช่นนี้​”

เซียว​อี้​หัวเราะ​อย่าง​เบิกบานใจ​ขึ้น​อีก​ ปลายนิ้ว​เย็น​เล็กน้อย​แตะ​ใบหน้า​ของ​นาง​พร้อมกับ​ลูบไล้​เบา​ๆ “เวยเวย​ ไม่พบกัน​ตั้ง​นาน​ ข้า​คิดถึง​เจ้าแล้ว​นะ​”

หลิน​ชิงเวย​ “หาก​ข้า​ไม่ได้​จำผิด​แล้ว​ละ​ก็​ ข้า​ควรจะ​มีบุญคุณ​ที่​ช่วยชีวิต​ท่าน​เอาไว้​กระมัง​” หาก​รู้​แต่แรก​ว่า​จะมีวันนี้​ ไม่สู้ให้​เจ้าหนุ่ม​คน​นี้​ตาย​ตกไป​ให้​สิ้นเรื่อง​สิ้น​ราว​!

เซียว​อี้​ผงกศีรษะ​พูดว่า​ “ใย​จะจำไม่ได้​เล่า​ กระทั่ง​ใน​ความฝัน​ข้า​ก็​ปรารถนา​ที่จะ​ตอบแทน​บุญคุณ​เจ้า เวยเวย​ จนใจ​ที่​ข้า​ปรารถนา​จะพลี​กาย​เพื่อ​ตอบแทน​บุญคุณ​ ทว่า​เวยเวย​ไม่ยินยอม​ ข้า​จึงได้​แต่​ใช้บุญคุณ​ช่วยชีวิต​มาตอบแทน​บุญคุณ​ที่​ช่วยชีวิต​อย่างไรเล่า​”

“ตอบแทน​บุญคุณ​ที่​ช่วยชีวิต​?” หลิน​ชิงเวย​หัวเราะ​ออกมา​พรืด​หนึ่ง​อย่าง​ดูแคลน​ “ข้า​มองไม่เห็น​ว่า​ท่าน​มีบุญคุณ​ช่วยชีวิต​ต่อ​ข้า​แต่อย่างใด​ ในทางกลับกัน​คน​ชุด​ดำ​เหล่านั้น​ล้วน​เป็น​คน​ของ​ท่าน​กระมัง​ ครั้ง​ที่แล้ว​ข้า​และ​เซ่อ​เจิ้งอ๋อง​ถูก​ลอบทำร้าย​เป็น​ฝีมือ​ของ​ท่าน​จริงๆ​ ด้วย​”

แววตา​ของ​เซียว​อี้​หม่น​ลง​ ปรากฏ​ให้​เห็น​สีหน้า​และ​แววตา​คิดบัญชี​ที่​แอบซ่อน​อยู่​ก้นบึ้ง​ดวงตา​ เขา​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ “ครั้ง​ที่แล้ว​เพียงแต่​เป็น​การล้อเล่น​เท่านั้น​ หาก​เซ่อ​เจิ้งอ๋อง​ต้อง​มาตาย​ด้วยเหตุนี้​จริงๆ​ เช่นนั้น​ย่อม​ไม่ใช่เซ่อ​เจิ้งอ๋อง​ผู้กุมอำนาจ​การบริหาร​ราชกิจ​แผ่นดิน​มาเป็นเวลา​หลาย​ปี​ เป็นเรื่อง​น่าเสียดาย​จริงๆ​ ที่​ครั้งนั้น​ไม่อาจ​สังหาร​เขา​ได้​ นี่​ไม่ใช่โอกาส​มาถึงมือ​อีกแล้ว​หรือ​ไร​”

สีหน้า​ของ​หลิน​ชิงเวย​แข็ง​ค้าง​

ปลายนิ้ว​ของ​เซียว​อี้​ยังคง​ลูบไล้​เส้น​ผม​ของ​หลิน​ชิงเวย​ เขา​หัวเราะ​ออกมา​อีก​ครั้งหนึ่ง​ “แต่​เปิ่น​หวา​งตัดใจ​ให้​เวยเวย​ต้อง​ไป​ตาย​เปล่า​เช่นนั้น​ไม่ได้​ ดังนั้น​จึงขัดขวาง​เจ้ากลางทาง​ นี่​มิใช่บุญคุณ​ช่วยชีวิต​หรอก​หรือ​ ที่จริง​หาก​เจ้าอยาก​จะตอบแทน​บุญคุณ​แล้ว​ละ​ก็​ เช่นนั้น​ก็​ตอบแทน​ด้วย​ตัว​ของ​เจ้าเป็น​พอ​”

หาก​ยาม​นี้​หลิน​ชิงเวย​สามารถ​เคลื่อนไหว​ร่างกาย​ได้​อย่าง​อิส​ระย่อม​ต้อง​ตบ​ปาก​เขา​สักครั้ง​สอง​ครั้ง​เป็นแน่​ จึงได้​แต่​ด่าทอ​ว่า​ “เชอะ​ ปู่​ท่าน​น่ะ​สิ!”

หลิน​ชิงเวยยก​ยิ้ม​ริมฝีปาก​ เอ่ย​กลั้ว​หัวเราะ​เสียง​เจ้าเล่ห์​ “เซียว​เยี่ยน​เป็น​คน​ที่​ท่าน​คิด​จะสังหาร​ก็​สังหาร​ได้​หรือ​?”

“ใน​เมื่อ​เจ้ารีบร้อน​ออกจาก​วังหลวง​เช่นนี้​ ข้า​ไม่เชื่อ​ว่า​เจ้าจะไม่รู้​ว่า​คน​ที่​ต้องการ​เอาชีวิต​เขา​ไม่ได้​มีเพียงแค่​คน​สอง​คน​” เซียว​อี้​กล่าว​อี​กว่า​ “เขา​เดินทาง​ไป​หนาน​เจียง​ครั้งนี้​ อวิ๋น​หนาน​อ๋อง​ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน​ด้วย​ความเคียดแค้น​ชิงชังเขา​ วางแผน​โอบล้อม​ให้​เขา​เดิน​เข้ามา​ติดกับ​ เจ้าคิด​ว่า​เขา​จะกลับมา​อย่าง​ปลอดภัย​ได้​หรือ​?”

หลิน​ชิงเวย​จ้องหน้า​เขา​เขม็ง​ “ท่าน​รู้เรื่อง​ที่​องค์​หญิง​อวิ๋น​หนาน​ตาย​แล้ว​?”

ใน​แววตา​ของ​เซียว​อี้​เต็มไปด้วย​ความ​แจ่มชัด​ “ไม่มีกำแพง​ที่​ลม​พัดผ่าน​ไม่ได้​มิใช่หรือ​?”

หลิน​ชิงเวย​ถามขึ้น​อีกด้วย​เสียง​อัน​เบาหวิว​ “ดังนั้น​ท่าน​จึงส่งข่าว​เรื่อง​องค์​หญิง​อวิ๋น​หนาน​ตาย​แล้วไป​ให้​กับ​อวิ๋น​หนาน​อ๋อง​?”

เซียว​อี้​ยักไหล่​

หลิน​ชิงเวย​พูด​อี​กว่า​ “เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​อวิ๋น​หนาน​อ๋อง​ย่อม​ไม่ปล่อย​เซ่อ​เจิ้งอ๋อง​เอาไว้​เป็นแน่​ ทันทีที่​เซ่อ​เจิ้งอ๋อง​ตาย​ อวิ๋น​หนาน​ก็​จะกรีธาทัพ​มาโจมตี​ต้าเซี่ย​ ท่าน​ก็​จะเป็น​ผู้​ได้​รับประโยชน์​จาก​เรื่อง​นี้​?”

หลิน​ชิงเวย​พูด​อย่าง​ไตร่ตรอง​ สายตา​ที่​เซียว​อี้​มอง​นาง​แปร​เปลี่ยนเป็น​ห่างเหิน​ทันที​ ปลายนิ้ว​ของ​เขา​ลูบ​ผ่าน​เส้น​ผม​ของ​นาง​ เขา​พูดเสียงต่ำ​ว่า​ “เปิ่น​หวา​งชมชอบ​สตรี​ฉลาดเฉลียว​ ทว่า​สตรี​ฉลาดเฉลียว​รู้​มากเกินไป​มักจะ​อายุสั้น​ หาก​เจ้าเป็น​สตรี​ของ​เปิ่น​หวา​งจะดี​เพียงใด​ พวกเรา​เข้ากันได้​อย่าง​ดี​ยิ่ง​ ทั้ง​ยัง​รู้​อก​รู้ใจ​กัน​”

ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง

ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง

Score 10
Status: Completed
เพราะไม่อยากแต่งไปเป็นนางสนมที่ถูกลืม “หลินเสวี่ยหรง” จึงได้วางยา “หลินชิงเวย” พี่สาวของตนให้ขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวแทน ทั้งยังตามมาวางยากำหนัดนางอีกถึงในวัง เพื่อใส่ร้ายว่านางคบชู้ ทำให้ ‘หลินชิงเวย’ หญิงสาวยุคปัจจุบันที่ทะลุมิติเข้าร่างมาต้องตกกระไดพลอยโจรไปมีอะไรกับหนุ่มนิรนามที่มาช่วยนางไว้ จนถูกจับได้ว่าคบชู้สู่ชาย ทำให้นางโดนเนรเทศไปอยู่ตำหนักเย็น แม้นางจะทำใจ ยอมอยู่อย่างสงบในตำหนักเย็น ทว่าโลกใบนี้ ไม่ปล่อยให้นางมีความสุขง่ายๆ เช่นนั้น นางจึงต้องใช้ปัญญาและความสามารถทางแพทย์ปกป้องตัวเอง ผนวกกับการได้พบกับชายผู้ยิ่งใหญ่เย็นชาปากไม่ตรงกับใจอย่าง “เซ่อเจิ้งอ๋อง” การได้พบกับเขาทำให้นางค่อยๆ พบความหวัง ที่จะได้กลับมามีอิสรภาพอีกครั้ง! หลินชิงเวย: ท่านอ๋อง ท่านมองลำคออันขาวผ่องของข้าด้วยดวงตาที่เบิกกว้างเช่นนั้น นี่ข้ากำลังปลุกอารมณ์ของท่านหรือ ? เซ่อเจิ้งอ๋อง: คงไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าเจ้าจะเป็นสตรีที่ไร้ยางอายเช่นนี้ !

Options

not work with dark mode
Reset