ดั่งรักบันดาล 54

ตอนที่ 54

หร่วนซือซือกลับมาที่ห้องทำงานด้วยอารมณ์หดหู่ นั่งเก้าอี้ยังไม่ทันอุ่นก็มีคนผลักประตูเข้ามา

เมิ่งจื่อหันยืนมองหร่วนซือซืออยู่ที่หน้าประตูและถามว่า “เป็นยังไงบ้าง?จัดการเรียบร้อยรึยัง?”

หร่วนซือซือไม่มีอารมณ์ จึงตอบกลับว่า “อืม”

เมิ่งจื่อหันประหลาดใจ “ประธานอวี้มาแล้วหรอ?”

“อืม”

เมิ่งจื่อหันมองไปที่หร่วนซือซือที่ไม่ได้พูดเกินกว่าสองคำ เธอจึงพูดอย่างไม่พอใจว่า “นี่เธอหมายความว่ายังไง?งานเป็นยังไงบ้าง?”

หร่วนซือซือสูดหายใจเข้าลึกๆ และได้สติกลับมา เธอหันไปมองเมิ่งจื่อหันแล้วพูดว่า “ต้อนรับประธานเสี่ยวเฉิงแล้วพาไปที่ห้องรับแรกสิ่งที่ฉันควรทำก็ทำแล้ว ประธานอวี้ก็มาแล้ว ส่วนพวกเขาคุยกันว่ายังไงบ้าง ฉันก็ไม่รู้”

เมื่อได้ยินที่เธอพูด เมิ่งจื่อหันก็ไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่ได้แสดงออกใดๆ

เธอเคยได้ยินข่าวลือว่าประธานเสี่ยวเฉิงชอบเย้าแหย่และรังแกผู้หญิง ดังนั้นเธอจึงจงใจที่จะโยนงานนี้ไปให้หร่วนซือซือ เพราะอยากให้เธอขายหน้า แต่ไม่คิดว่าเรื่องจะไม่ได้เป็นไปอย่างที่เธอคิดไว้

เมื่อเห็นว่าหัวข้อนี้ไปต่อไม่ได้ เธอจึงต้องเปลี่ยนเรื่อง “งั้นตารางสรุปการเข้างานทำเสร็จรึยัง?ฉันต้องรีบใช้”

หร่วนซือซือสูดหายใจเข้าลึกๆ และพูดตามความจริง “คุณเพิ่งให้ฉันวันนี้ตอนเช้าแล้วตอนบ่ายฉันก็มีงานอื่น มีเวลาไม่พอ และฉันก็ยังทำไม่เสร็จ”

เมื่อเมิ่งจื่อหันได้ยินอย่างนั้นก็พูดอย่างเย็นชา “เธอก็รีบทำให้เร็วที่สุด”

หลังจากพูดจบเธอก็หันหลังเดินออกไปจากห้องทำงาน

“ปัง” ประตูถูกปิดเสียงดัง หร่วนซือซือนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน โดยไม่มีท่าทีว่าจะอารมณ์ดีขึ้นเลย

เมื่อนึกถึงอวี้อี่มั่ว เธอก็เหมือนมะเขือที่ถูกน้ำค้างแข็ง ไม่สามารถฟื้นฟูได้

ในที่สุดก็ถึงเวลาเลิกงาน หร่วนซือซือกลับไปที่บ้าน เดิมทีอยากจะไปขอคำแนะนำจากป้าหรงว่าต้องทำยังไงให้อวี่อี่มั่วหายโกรธ แต่หลังจากถามเธอก็รู้ว่าคืนนี้อวี้อี่โม่ไม่ได้กลับมาบ้าน

ตอนแรกเธอคิดว่าแค่คืนเดียว แต่ใครจะรู้ว่าอวี้อี่มั่วจะไม่กลับมานอนที่บ้านสามวันติดต่อกัน

ดูเหมือนว่าครั้งนี้เขาจะโกรธเธอจริงๆ

เวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว เธอยุ่งอยู่กับงานที่แผนก เธอได้เจอกับอวี้อี่มั่วโดยบังเอิญในบริษัทแค่ไม่กี่ครั้ง และเป็นการพบกันอย่างเร่รีบ

หร่วนซือซือหาโอกาสนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดที่แผนกก็มีเอกสารที่ต้องเอาไปส่งให้ที่ห้องทำงานประธานบริษัท เธอจึงอาสาที่จะไปส่งเอกสาร

เธอไม่ขออะไรอีก แค่อยากจะพบหน้าอวี้อี่มั่วและพูดกันเพียงไม่กี่คำ

หร่วนซือซือหยิบเอกสาร และเดินไปที่ห้องทำงานของประธานบริษัท เมื่อเดินมาถึงหน้าประตูห้องทำงาน เธอก็เห็นเฉิงลู่

ดูเหมือนว่าเธอเพิ่งจะออกจากโรงพยาบาล

เมื่อทั้งสองมองหน้ากัน หร่วนซือซือก็หันไปมองข้างๆ แล้วเดินต่อไปยังห้องทำงานของอี้อี่มั่ว

“เดี๋ยวก่อน”

ทันทีที่เธอเดินผ่านก็ถูกเรียกให้หยุด

หร่วนซือซือกันกลับไปมองเฉิงลู่ “มีอะไรหรอ?”

เมื่อเธอเห็นเฉิงลู่ก็ทำตัวให้เป็นปกติ และพยายามไม่คิดมาก

ดูเหมือนว่าในใจของหร่วนซือซือจะหวาดกลัว เฉิงลู่พูดด้วยน้ำเสียงลังเลและเย็นชา “เธอจะไปทำอะไร?”

หร่วนซือซือยกเอกสารที่ถือไว้ในมือขึ้นมา “ส่งเอกสาร”

เฉิงลู่ยื่นมือออกมา “เอามาให้ฉัน ฉันจะไปส่งเอง”

หร่วนซือซือเอาเอกสารในมือหลบ และพูดเบาๆว่า “ยังมีบางอย่างที่ต้องรายงาน ฉันไปเองจะดีกว่า”

หลังจากพูดจบเธอไม่รอให้เฉิงลู่พูดอะไรอีก จากนั้นเธอก็เดินไป

เฉิงลู่สีหน้าบึ้งตึง เธอหันกลับไปมองหร่วนซือซือแล้วกัดฟัน

ไม่ช้าก็เร็ววันหนึ่ง เธอต้องชดใช้ให้ฉัน!

หร่วนซือซือเดินไปถึงหน้าห้องทำงานก็เคาะประตู และเมื่อได้ยินเสียงจากด้านในเธอก็ผลักประตูเข้าไป

หลังจากเธอเดินเข้าไปก็เห็นอวี้อี่มั่วนั่งอ่านเอกสารอยู่ที่โต๊ะ

เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ “ประธานอวี้ นี่คือเอกสารของแผนกบริหารที่คุณต้องการ”

เมื่ออวี้อี้มั่วได้ยินก็หยุดการเคลื่อนไหวแล้วเงยหน้าขึ้นมองเธอ “อืม วางไว้บนโต๊ะเลย”

“ค่ะ”

หร่วนซือซือค่อยๆวางเอกสารลงบนโต๊ะ หลังจากนั้นเธอก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิม โดยไม่ได้ตั้งใจที่จะจากไป

อวี้อี่มั่วมองท่าทางลังเลของเธอ และถามว่า “ยังมีเรื่องอะไรอีกไหม?”

หลายวันที่ผ่านมาเขาจงใจไม่กลับบ้าน เพียงเพื่อรักษาระยะห่างกับเธอ ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนเย็นชาลง และในตอนนี้เขาก็ไม่สะดวกที่จะกลับไป…

หร่วนซือซือบิดมือเข้าหากันแล้วดึงความกล้าออกมา จากนั้นก็ถามว่า “คืนนี้คุณจะกลับบ้านไหม?”

“ที่บ้านมีเรื่องอะไรหรอ?”

หร่วนซือซือกัดริมฝีปาก “……ไม่มี”

อวี้อี่มั่ววางเอกสารในมือลง “งั้นค่อยว่ากัน”

จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นเดินไปที่ไม้แขวนเสื้อ และหยิบเสื้อโค้ทขึ้นมา

หร่วนซือซือเศร้าเสียใจ จู่ๆเธอก็ยืนมือไปดึงเสื้อของเขาเบาๆ “คุณยังโกรธฉันอยู่ใช่ไหม……”

ตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่เขาพูดสิ่งเหล่านั้นกับเธอในห้องรับรอง เขาก็ไม่กลับไปที่บ้านอีก

อวี้อี่มั่วหยุดชะงัก และหันไปด้านข้าง “…เปล่า”

หร่วนซือซือก้มหน้า แล้วกัดริมฝีปาก “งั้นก็รังเกียจฉัน…”

เมื่อได้ยินอย่างนั้น อวี้อี่มั่วก็ขมวดคิ้ว “เปล่า”

เขาไม่เคยรังเกียจเธอเลย ไม่อย่างนั้นเขาจะแต่งงานกับเธอทำไม?

หร่วนซือซือสูดหายใจเข้าลึกๆ และพูดเบาๆว่า “งั้นคืนนี้คุณก็กลับไปบ้านสิ ฉัน…กับป้าหรงคิดถึงคุณมากเลย”

อวี้อี่มั่วหยุดชะงัก และไม่รู้ว่าจะปฏิเสธยังไง

แม้ว่าเขาจะแต่งงานกับเธอด้วยจุดประสงค์อื่น แต่เธอก็เป็นภรรยาในนามของเขา ยังไงก็ไม่ควรปฏิบัติต่อเธออย่างเย็นชา

หลังจากเงียบไปสองสามวินาที เขาก็พูดเบาๆว่า “โอเค”

เมื่อได้ยินเขาตอบอย่างนั้น หร่วนซือซือก็ดีใจ “คุณรับปากแล้วนะ!”

ด้วยความดีใจ เธอจึงดึงมือของเขาขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ทันใดนั้นสีหน้าของอวี้อี่มั่วก็เปลี่ยนไป และเปล่งเสียงออกมา

“เป็น…เป็นอะไร?”

หร่วนซือซือสะดุ้งตกใจ แล้วยกมือขึ้นโดยไม่รู้ตัว เธอมองเขาด้วยความกังวล “คุณเป็นอะไร?”

อวี้อี้มั่วเปลี่ยนสีหน้าแล้วพูดว่า “ไม่มีอะไร ฉันยังมีธุระต้องออกไปข้างนอก เธอกลับไปทำงานเถอะ

เมื่อเห็นท่าทีที่แน่วแน่ของอวี้อี่มั่ว หร่วนซือซือก็ไม่ได้ถามอะไรมาก หลังจากตอบกลับเขาแล้ว เธอก็ออกจากห้องทำงานไป

ไม่ว่าจะยังไงเรื่องก็มาถึงตอนนี้แล้ว เขาก็คงต้องกลับบ้าน!

หร่วนซือซืออารมณ์ดี เมื่อกลับไปที่แผนกเธอก็รีบส่งข้อความไปหาป้าหรงให้เตรียมอาหารอีกสองสามอย่าง

หลังจากได้รับคำตอบจากป้าหรง หร่วนซือซือก็หยิบแก้วไปที่มุมชงชาอย่างเบิกบานใจ

เสี่ยวหานเดินมาที่ข้างๆหร่วนซือซือ แล้วหยิบแก้วไปกดน้ำร้อน เมื่อเห็นสีหน้าของเธอก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “ทำไมดูมีความสุขขนาดนี้?มีประกายสีชมพูออกมาทั้งตัว หรือว่า……มีความรัก?”

หร่วนซือซือปฏิเสธโดยอัตโนมัติ “เปล่าซะหน่อย!”

แม้ว่าปากเธอจะบอกอย่างนั้น แต่ไม่รู้ทำไมแก้มของเธอถึงแดงมาก

เสี่ยวหานหัวเราะคิดคักและพูดว่า “หน้าแดงหมดแล้ว ยังบอกว่าไม่มีอะไร?ถ้าให้ฉันพูดเธอกำลังมีความรัก ไม่ก็กำลังคิดถึงคนที่ชอบ!”

เมื่อเธอพูดอย่างนี้ หร่วนซือซือก็ยิ่งไม่รู้ว่าจะพูดยังไง จึงหยิบแก้วแล้วรีบเดินหนีเข้าไปในห้องทำงาน

หลังจากที่พิงประตูอยู่นาน เธอก็สงบลง

เธอจับแก้มของตัวเอง มันร้อนมากจริงๆ!

เมื่อกี้เธอก็แค่คิดถึงอวี้อี่มั่วเท่านั้น……หรือว่า เธอหวั่นไหวกับอวี้อี่มั่วแล้วจริงๆ?

ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น “ติ๊งติ๊ง” หร่วนซือซือได้สติกลับมา เธอหยิบขึ้นมาดูและพบว่าคุณนายหลิวส่งข้อความวีแชทมา

“ซือซือ เธอปรึกษากับอวี้อี่มั่วแล้วเป็นยังไงบ้าง?ทำไมถึงไม่ส่งข่าวเลย?”

เมื่อเห็นข้อความ หร่วนซือซือก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเธอยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับอวี้อี่มั่วเลย!

มันคือเรื่องการจัดงานแต่งงาน ในช่วงหลายวันมานี้เธอกับอวี้อี่มั่วไม่ค่อยได้เจอหน้ากัน แล้วเธอก็ลืมเรื่องนี้ไปแล้ว

ถ้าวันนี้อวี้อี่มั่วกลับมาบ้าน เธอก็คงต้องหาจังหวะพูดคุยกับเขา

Options

not work with dark mode
Reset