ดั่งรักบันดาล 50

ตอนที่ 50

มองเห็นเธอแก้มแดงขึ้นในชั่วพริบตาเดียว อวี้อี่มั่วก็รู้สึกสนใจขึ้นมาทันที กลับจะอยากแกล้งเธอ

เขาเลิกคิ้วขึ้น ถามซ้ำอีก“ไม่ต้องจริงๆเหรอ?”

หร่วนซือซือลุกลี้ลุกลนไม่หยุด พูดอย่างแน่ใจ“ไม่ต้อง ไม่ต้องจริงๆ!”

มองเห็นท่าทางแบบนี้ของเธอ คล้ายกับกลัวว่าจะถูกเขาเอาเปรียบ อวี้อี่มั่วกระตุกริมฝีปากเบาๆ ค่อยๆนำยาที่นิ้วมือเช็ดให้สะอาด หลังจากนั้นก็ลุกขึ้นเดินออกไป

“เดี๋ยวก่อน!”

ทันใดนั้นหร่วนซือซือคิดอะไรขึ้นได้ รีบเรียกเขาเอาไว้

เกี่ยวกับเรื่องของเฉิงลู่ เธอยังไม่ทันได้ถามเขา

อวี้อี่มั่วก็หันหน้ากลับมา จ้องมองเธอด้วยดวงตาดำขลับ“หือ?”

หร่วนซือซือเปิดปากพูดอย่างระมัดระวัง“ฉันได้ยินว่าเฉิงลู่ถูกลงโทษ ยังเข้าโรงพยาบาลด้วย คุณเป็นคนทำเหรอ?”

สีหน้าของอวี้อี่มั่วจริงจังขึ้นมา เขากระตุกมุมปาก“ใช่ผมเอง”

“เรื่องที่ฉันเป็นภูมิแพ้…เป็นเธอที่ทำจริงๆเหรอ?”

“ไม่เพียงแต่เรื่องภูมิแพ้ พวกเราถูกแอบถ่ายก็เป็นเธอที่ทำ”

ได้รู้ความจริงแล้ว หร่วนซือซือแปลกใจและหาคำตอบไม่ได้ พูดพึมพำ“แต่ว่าฉัน…ยังไม่เคยทำให้เธอไม่พอใจเลยนะ”

เธอกับเฉิงลู่เจอกันไม่กี่ครั้ง ถึงแม้ว่าเธอรู้ชัดเจนว่าเฉิงลู่ไม่ชอบหน้าเธอ แต่ว่าคิดไม่ถึงว่าจะมาถึงกับให้ร้ายกัน

เห็นการแสดงออกของผู้หญิง อวี้อี่มั่วก็หยุดไปชั่วขณะ ก้าวเท้าเดินไปตรงหน้า จ้องมองเธอ“บนโลกใบนี้ไม่มีอะไรที่ง่ายดาย คุณต้องจำประโยคนี้ไว้จิตคิดทำร้ายไม่ควรมีใจป้องกันระวังคนไม่ควรขาด”ใจคิดป้องกันคนไม่อาจไม่มีเอาไว้ ใจคิดหลอกลวงคนไม่อาจให้มีได้

หร่วนซือซือกัดริมฝีปาก ความรู้สึกซับซ้อนขึ้นมา

เห็นเธอไม่พูดจาเป็นเวลานาน อวี้อี่มั่วก็พูดเสียงเบา“พอแล้ว รีบพักผ่อนเถอะ”

ทันใดนั้น หร่วนซือซือยื่นมือออกไป ดึงมือของเขาเอาไว้

รู้สึกถึงอุณหภูมิของฝ่ามือ อวี้อี่มั่วนิ่งอึ้งไป ในความทรงจำของเขา นี่คล้ายกับว่าเป็นครั้งแรกที่หร่วนซือซือเป็นฝ่ายจับมือของเขา

หร่วนซือซือหายใจเข้าลึกๆ พูดอย่างจริงจัง“ขอบคุณคุณมาก ขอบคุณที่คุณปกป้องฉัน”

เธอไม่เคยได้รับรสชาติของการถูกปกป้อง ก่อนหน้านี้เป็นคุณนายหลิวกับศาสตราจารย์หร่วนที่รับบทบาทปกป้องเธอ แต่ว่าตอนนี้ ข้างกายของเธอมีคนปกป้องเธอเพิ่มขึ้นมาอีกคน

อวี้อี่มั่วมองไป เห็นดวงตาคู่นั้นที่ใสสะอาดของผู้หญิง ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทันใดนั้นการหายใจก็ติดขัดขึ้นมา

ดูเหมือนเธอจะเชื่อใจเขาอย่างสมบูรณ์ แต่ว่าเขาไม่ได้บริสุทธิ์ใจกับเธอร้อยเปอร์เซ็นต์ มีเพียงตัวของเขาเองที่รู้ดี เขาทำเรื่องเหล่านี้เป็นเพราะว่ามีเป้าหมายอย่างอื่น เป้าหมายของเขาทำให้คนรู้สึกกลัวจนตัวสั่น

ช่วงเวลานั้น คาดไม่ถึงว่าเขาจะรู้สึกละอายใจจากก้นบึ้งของหัวใจ

มองเห็นดวงตาคู่นั้น อวี้อี่มั่วทนไม่ไหว เขาถอนสายตากลับ ดึงมือออกจากมือเธอ พูดอย่างเย็นชา“รีบพักผ่อน”

พูดจบ เขาก็ก้าวเท้ายาวเดินตรงออกไปด้านนอก

หร่วนซือซือไม่ได้สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงอารมณ์ของผู้ชายเลย เธอกระตุกริมฝีปากยิ้มอย่างดีใจ ไม่เคยรู้สึกพอใจจากหัวใจแบบนี้มาก่อน

ชีวิตของเธอตอนนี้ ถึงแม้ว่าจะซับซ้อน แต่ว่ายิ่งอบอุ่นขึ้นเรื่อยๆ

เธอนอนหลับไปอย่างฝันดี หร่วนซือซือตื่นขึ้นมาวันที่สอง ผื่นแดงส่วนใหญ่บนร่างกายได้หายไปแล้วครึ่งหนึ่ง เธอยืดเอวบิดขี้เกียจ มองดูตัวเองในกระจก อารมณ์ดีมาก

มาถึงบริษัท แผนกก็เรียกประชุมชั่วคราว หลังจากที่คุณหลานหัวหน้าได้พูดเรื่องสำคัญในช่วงนี้ ทันใดนั้นก็มองไปที่หร่วนซือซือ“หร่วนซือซือ คุณรายงานความคืบหน้าของงานที่คุณได้รับสักหน่อย”

หร่วนซือซือตอบรับ“ค่ะ”

เธอรายงานสถานการณ์ใหม่ล่าสุดของการสั่งจองของขวัญ และรายงานเนื้อหาอย่างละเอียดและรายละเอียดปลีกย่อย คุณหลานได้ฟัง ก็พยักหน้า พูดเสียงเบา“นำเอกสารอย่างละเอียดมาให้ฉันดูหน่อย”

หร่วนซือซือรีบส่งเอกสารไปทันที

หลังจากที่คุณหลานเปิดดูเอกสารตั้งแต่ต้นจนจบ รอยยิ้มพึงพอใจก็ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้า“อืม ตามสัญญา ของขวัญสามารถนำจัดส่งไปยังคลังสินค้าของบริษัทก่อนเทศกาลวันหยุด”

“ใช่ค่ะ ฉันยังปรึกษาหารือกับผู้ช่วยของบริษัทเทียนเยี่ยเรียบร้อยแล้ว เมื่อถึงเวลาพวกเขาจะช่วยส่งสิ้นค้าไปให้ที่คลังเก็บสินค้าของบริษัท พวกเราก็จะได้ประหยัดค่าขนส่งเป็นพิเศษ”

“ทำได้ไม่เลว”คุณหลานพูดพลาง กวาดสายตามองคนที่อยู่รอบๆ พูดกำชับ“พวกเธอควรเรียนรู้ทัศนคติในการทำงานของหร่วนซือซือ ไม่ใช่พูดนินทาลับหลังทั้งวันสามารถทำให้งานเสร็จไหม?”

พูดคำพูดนี้ออกมา เพื่อนร่วมงานที่อยู่ด้านข้างก็มีสีหน้าแตกต่างกันออกไป ไม่กี่วันมานี้มีคนที่ชอบกระตือรือร้นพูดซุบซิบนินทาสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นซีดเผือดกะทันหัน ไม่มีอะไรที่จะพูด

ตอนนี้เรื่องที่เฉิงลู่ถูกลงโทษให้ทานมะม่วงไปครึ่งกล่องก็แพร่กระจายไปทั่วบริษัทแล้ว ทุกคนไม่กล้าจะพูดนินทาตามอำเภอใจอีก โดยเฉพาะนินทาเรื่องหร่วนซือซือ เรื่องนี้ก็ผ่านไปแล้ว คนที่มีสติปัญญาความรู้ก็ล้วนจะดูออกว่าฐานะของเธอไม่ธรรมดา

การประชุมสิ้นสุดลง หร่วนซือซือเดินออกมาจากห้องประชุม เพื่อนร่วมงานสองสามคนล้อมรอบเธอ พูดประจบสอพลอ“ผู้ช่วยหร่วน คุณเก่งมาก ทำเรื่องของขวัญเทศกาลวันหยุดสำเร็จเพียงคนเดียว!”

“ใช่แล้ว!”ตอนนี้คุณหลานให้ความสำคัญกับคุณแล้ว หลังจากนี้คุณก็ช่วยแนะนำพวกเราด้วย!”

“……”

ทันใดนั้นก็กลายเป็นจุดศูนย์กลางของผู้คน หร่วนซือซือรู้สึกไม่ค่อยเหมาะสม เธอยิ้มส่ายหน้าด้วยความเกรงใจ“ฉันก็แค่โชคดีเท่านั้นเอง หลังจากนี้ก็ต้องเรียนรู้งานจากทุกคน…”

เมิ่งจื่อหันยืนอยู่ด้านหลังของเธอ สายตาปรากฏความเย็นชา เยาะเย้ยกับพฤติกรรมเอาใจของคนพวกนั้น

ก่อนหน้านี้ไม่นาน พวกเขายังอยู่ล้อมรอบตัวเอง ตอนนี้ก็กลับเปลี่ยนแปลงไปกะทันหัน ทุเรศจริงๆ!

เธอจ้องมองหร่วนซือซือ เพิ่มความรังเกียจเธอมากกว่าเดิม ก่อนหน้านี้ตัวเองแค่ไม่พอใจเธอ ไม่พอใจที่เธอได้เลื่อนตำแหน่ง หลังจากที่ผ่านเรื่องนี้ไปแล้ว เธอรับรู้ได้เด่นชัดว่าหร่วนซือซือใช้อำนาจคุกคามเธอ

ถ้าหากว่าตัวเองไม่กล้าต่อสู้กับเธอ เกรงว่าหลังจากนี้ตำแหน่งของเธอก็คงจะไม่มั่นคง ถ้าหากว่าคุณหลานเลื่อนตำแหน่ง ถ้าอย่างนั้นหร่วนซือซือก็เป็นคู่ต่อสู้คนสำคัญที่จะมาแย่งชิงตำแหน่งหัวหน้าจากเธอ!

เมิ่งจื่อหันยิ่งคิดก็ยิ่งไม่สงบ เธอกำหมัดแน่น จิตใจหมกมุ่น

ไม่ได้ เธอไม่อาจจะนั่งรอแบบนี้ได้ ต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว!

หร่วนซือซือถูกเพื่อนร่วมงานในแผนกพัวพันทั้งวัน เธอไปกดน้ำ พวกเธอก็ตาม เธอไปทานข้าว พวกเธอก็ตาม เหมือนติดหนึบสลัดทิ้งไม่ได้ ทำให้เธอกลัวจนไม่กล้าออกจากห้องทำงาน

ไม่ง่ายที่จะผ่านเวลาเลิกงานในช่วงบ่าย เธอกำลังจะส่งข้อความถามอวี้อี่มั่วว่าจะกลับบ้านพร้อมกันไหม ใครจะไปรู้ว่าข้อความยังไม่ได้ถูกส่งออก สายโทรศัพท์ของคุณนายหลิวก็โทรเข้ามา

“ฮัลโหล?แม่?”

“ซือซือ เลิกงานหรือยัง?กลับมาทานข้าวที่บ้าน”

“เลิกงานแล้วค่ะ ทำไมถึงเรียกหนูกลับบ้านกะทันหัน…”

คุณนายหลิวยังเผด็จการเหมือนเดิมทุกประการ“ไม่ต้องถามเยอะ ให้เธอกลับบ้านก็กลับมา แม่กับพ่อเธอมีเรื่องจะคุยกับเธอ”

หร่วนซือซือทั้งจำใจทั้งหัวเราะ นึกขึ้นมาได้ว่าหลายวันแล้วที่ตัวเองไม่ได้กลับไปหาพ่อแม่ จึงรับปาก“ได้ หนูจะกลับไป”

หลังจากวางสายโทรศัพท์ เธอก็ส่งข้อความให้อวี้อี่มั่ว หลังจากนั้นก็นั่งรถกลับไปในหมู่บ้าน

การเดินทางจากบริษัทถึงบ้าน พอดีกับที่ถึงเวลาเลิกงานที่เป็นชั่วโมงที่เร่งด่วน รอจนเธอกลับถึงบ้าน เวลาก็สายแล้ว

หร่วนซือซือเดินเข้าไป มองเห็นบนโต๊ะอาหารมีแต่อาหารที่เธอชอบกิน ก็ยิ้มผลิบานขึ้นมาทันที ยื่นมือออกไปจะหยิบปีกไก่หนึ่งชิ้นขึ้นมาชิม

“เพียะ!”

คุณนายหลิวเข้ามาตีด้วยตะเกียบ“ทำอะไรแบบนั้น แต่งงานไปแล้วยังทำตัวเหมือนเด็กไม่รู้จักโต ไปล้างมือก่อน”

“อ้อ”

ถูกดุด่า หร่วนซือซือก็ตอบรับ หมุนตัวกลับเข้าไปล้างมือในห้องครัว

ล้างมือเสร็จ ศาตราจารย์หร่วนก็วางหนังสือพิมพ์ลง นั่งลงบนที่นั่งด้านหน้าโต๊ะอาหาร คุณนายหลิวก็นั่งอยู่ตรงหน้าเขา สีหน้าของทั้งสองคนจริงจังกว่าปกติเยอะมาก

หร่วนซือซือในใจรู้สึกกังวลใจ หรือว่าเธอจะทำผิดพลาดอะไร?”

เธอถามด้วยความกังวล“พ่อ แม่ พวกคุณเป็น…”

Options

not work with dark mode
Reset