ดั่งรักบันดาล 307

ตอนที่ 307

เสียงที่ดังขึ้นมาคือเสียงเรียกเข้ามือถือของอวี้อี่มั่ว

อวี้อี่มั่วแววตาเบิกกว้าง รีบนั่งตัวตรง เว้นระยะห่างออกจากตัวเธอ

เขาหยิบมือถือขึ้นมา มองไปยังชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์ เขาขมวดคิ้วแน่น

อวี้อี่มั่วหันหน้าออกไปทางหน้าต่างพร้อมกับรับสายที่โทรเข้ามา : "ฮาโหล?"

ปลายสายมีเสียงหวานตอบกลับมา : "พี่มั่ว พี่อยู่ไหนคะ?"

หร่วนซือซือที่อยู่ในความเงียบงัน ก็รู้ทันทีว่าเป็นเสียงของเย่หว่านเอ๋อ วินาทีนั้น เธอก็ได้สติทันที

ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะเสียงเรียกเข้า ไม่รู้ว่าเธอและเขาจะทำอะไรลงไป

หร่วนซือซือโกรธตัวเธอเองที่ไม่ค่อยมีสติ ทุกครั้งที่เข้าใกล้ใบหน้านั้นของอวี้อี่มั่ว เธอก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ทุกที

อวี้อี่มั่วคุยไปสักพักก็วางสาย หร่วนซือซือหันไปมองอวี้อี่มั่ว ยิ้มพร้อมกับพูดขึ้นว่า : "ท่านประธานอวี้ ถ้ามีเรื่องด่วนก็รีบไปจัดการเถอะค่ะ ฉันพึ่งนึกขึ้นได้ว่าจะต้องไปเอาของใกล้ๆแถวนี้ ไม่รบกวนคุณไปส่งดีกว่า"

พูดจบ เธอก็ยิ้มให้เขาอีกที ไม่รอให้เขาได้พูดอะไร ก็เปิดประตูรถออกแล้วลงรถอย่างรวดเร็ว

อวี้อี่มั่วขมวดคิ้วแน่น กำลังจะลงรถไปตามเธอกลับมา แต่ในหัวกลับมีเสียงเสียงหนึ่งดังขึ้น

หลายวันก่อน ซูอวี้เฉิงที่พูดกับเขาด้วยสีหน้าจริงจังว่า : "เธอและนาย ไม่ใช่คนโลกเดียวกัน"

เหตุการณ์นั้นยังวนเวียนอยู่ในหัวของเขา เขากำมือแน่น ผ่านไปสักพัก ก็เริ่มสงบลง

ตู้เยี่ยที่ยืนอยู่ข้างรถก็รู้สึกแปลกใจ หันไปมองอวี้อี่มั่ว พร้อมถามขึ้นว่า : "ท่านประธานอวี้ ไม่ตามไปเหรอครับ?"

อวี้อี่มั่วขมวดคิ้ว รู้สึกข้างในใจสั่น ปากบางเม้มแน่น : "ไม่ละ ออกรถ กลับคฤหาสน์"

ตู้เยี่ยได้ยินแล้ว ก็ได้แต่ขึ้นรถ แล้วขับออกไป

อวี้อี่มั่วเงยหน้าขึ้นมองกระจกรถ มองภาพด้านหลังที่เล็กลงเรื่อยๆ จนหายไป

หร่วนซือซือนั่งรถไฟใต้ดิน ไม่ได้กลับบ้านทันที แต่ตรงไปที่โรงพยาบาลแทน

ช่วงที่ผ่านมานี้ เธอไม่ได้เข้าไปเยี่ยม ศจ.หร่วนกับคุณนายหลิวเลย ก่อนหน้านี้เพราะได้รับบาดเจ็บที่หัว กลัวว่าทั้งคู่จะเป็นห่วงเอา เลยไม่กล้ามา หลังจากนั้นที่หลังเธอก็ได้รอยอีกสองรอย จึงพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน และไม่ได้ไปเยี่ยมทั้งคู่เลย

ในที่สุดครั้งนี้เธอก็มีเวลาไปเยี่ยมเสียที

เธอเดินใจลอยจนไปถึงหน้าห้องผู้ป่วย ยืนอยู่หน้าประตูสักพัก เธอรู้สึกสับสนมึนงง

ตั้งแต่เกิดเรื่องพ่อก็เข้าโรงพยาบาลจนถึงตอนนี้ เป็นเวลานานมากแล้ว

เธอเงยหน้าขึ้น มองผ่านเข้าไปที่ช่องกระจกใสของประตู เห็นคุณนายหลิวที่ช่วย ศจ.หร่วนนวดขาอยู่

ศจ.หร่วนที่กำลังอ่านหนังสือในมือ ถอนหายใจเบาๆแล้วพูดขึ้นว่า : "ช่วงนี้ที่เสี่ยวซ่งมา ก็พูดแต่ว่าซือซืองานยุ่ง แต่จะยุ่งยังไงก็ควรโทรมาหาสักสายสิ……"

"ลูกสาวทำงานข้างนอกก็ลำบากมากพอแล้ว ยังจะให้แวะมาโรงพยาบาลทุกวัน จะไหวเสียที่ไหนกัน ฉันล่ะชอบที่เธอมาโรงพยาบาลน้อยๆหน่อย จะได้มีเวลาพักผ่อนเยอะๆ"

“……”

ได้ยิน ศจ.หร่วนและคุณนายหลิวคุยกันไปมา ในใจของเธอก็จุกอย่างบอกไม่ถูก

ช่วงนี้ชีวิตของเธอช่างวุ่นวายเหลือเกิน จึงไม่ค่อยได้มาโรงพยาบาล รู้สึกว่าตัวเองบกพร่อง ละเลยหน้าที่ในการดูแลพ่อแม่ไป

เมื่อคิดแบบนี้ ในใจก็ยิ่งรู้สึกผิด น้ำตาเอ่อไหลออกมาอย่างกลั้นไม่ได้

จู่ๆก็หวนนึกถึงช่วงเวลาเก่าๆ ครอบครัวสามคนที่ตัวติดกันตลอด ชีวิตของเธอตอนนั้นนอกจากพ่อกับแม่แล้วก็งานแล้ว ไม่มีอย่างอื่นให้ปวดหัว วุ่นวายและเป็นกังวลใจเลย ถึงแม้จะไม่ได้มีสีสันขนาดนั้น แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเธอ

ไม่เหมือนตอนนี้ ที่ยังไม่รู้เลยว่าก้าวต่อไปของชีวิตจะเดินไปทางไหนดี

เหมือนกับว่าตั้งแต่รู้จักกับอวี้อี่มั่ว ชีวิตของเธอก็รวนไปหมด จนมาตอนนี้ คนที่จะเดินเข้าพิธีวิวากับเขากลับไม่ใช่เธอ

หัวใจเธอเจ็บแปล๊บ น้ำตาไหล่มาเป็นทางไม่หยุด

วินาทีนั้น ประตูห้องผู้ป่วยก็ถูกเปิดออก คุณนายหลิวที่ยืนอยู่ตรงประตู มองหน้าหร่วนซือซือด้วยความตกใจ : "ซือซือ เป็นอะไรไป? ร้องไห้ทำไม?"

เธอรีบพาหร่วนซือซือดึงเข้าไปในห้องผู้ป่วย ศจ.หร่วนที่เห็นแล้วก็รีบนั่งตัวตรง พร้อมจะลงจากเตียง : "ซือซือ ใครรังแกลูก? บอกพ่อมา ว่าใครหน้าไหนมันมารังแกลูก?"

มองใบหน้าของทั้งสองที่ห่วงเธอมากขนาดนี้ หร่วนซือซือจึงกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

เธอสนใจและใส่ใจกับคนมากมาย แต่กลับละเลยคนที่เธอควรจะดูแลมากที่สุดไป ความรู้สึกละอายใจบวกกับหัวใจที่เป็นแผลมา กลายเป็นอารมณ์ที่ซับซ้อนและสับสนวุ่นวาย

สุดท้ายแล้ว เธอส่ายหน้าเบาๆ เช็ดน้ำตา แล้วพูดขึ้นว่า : "ไม่มีใครรังแกหนูหรอกค่ะ พ่อคะ แม่คะ หนูก็แค่คิดถึงพ่อกับแม่เกินไปค่ะ……"

คุณนายหลิวที่ได้ยินแล้วก็น้ำตาคลอเบ้า ยื่นมือออกมากอดหร่วนซือซือไว้ในอ้อนแขน

หร่วนซือซือที่ได้กลิ่นที่คุ้นชินจากแม่แล้ว ในใจก็สงบลง เธอสัญญากับตัวเองในใจ

รอพ่อผ่าตัดเสร็จเรียบร้อย เธอจะรีบพาทั้งคู่ออกจากโรงพยาบาล เปลี่ยนงานใหม่ และอยู่ข้างๆดูแลทั้งคู่ให้ดีๆ พร้อมกับบอกลาความวุ่นวายแบบนั้น บอกลาอวี้อี่มั่ว บอกลาชีวิตแบบนี้

วันรุ่งขึ้น หร่วนซือซือกลับไปทำงานปกติ พึ่งถึงห้องทำงานของท่านประธาน ก็ได้รับจดหมายลาของผู้ช่วยหลิว

ขาดแรงงานไปอีกหนึ่งอัตรา หน้าที่ที่เธอต้องทำก็เยอะขึ้นมาเป็นกอง ตอนแรกยังคิดว่าจะไปตื๊อเจียงฮ่วนเฉินเสียหน่อย

แต่ผู้ช่วยหลิวไม่อยู่ เธอก็คงจะต้องประจำอยู่ที่ออฟฟิศ เพื่อที่จะได้ยินอวี้อี่มั่วเรียกใช้ตลอดเวลา

ผ่านไปหนึ่งคืน ทั้งคู่ไม่ได้พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นตอนค่ำเมื่อวาน ต่างคนต่างทำหน้าที่ท่านประธานและเลขาอย่างปกติที่สุด

เมื่อกลางวัน หร่วนซือซือได้รับรายงานสรุปหลายฉบับจากหลายๆแผนก ในตอนแรกเธอเองยังนึกสงสัย ยังไม่ทันจะสิ้นเดือน ทำไมทุกๆแผนกทำรายงานสรุปส่งเข้ามาล่ะ?

เธอจึงเข้าไปดูหนังสือแจ้งเตือนภายในของบริษัทบนอินเทอร์เน็ต ที่แท้ก็เป็นเพราะงานหมั้นนี่เอง อวี้อี่มั่วกลัวว่าจะกระทบกับงาน ก็เลยให้ทุกแผนกส่งรายงานสรุปมาล่วงหน้า

เป็นแบบนี้ งานของท่านประธานก็เพิ่มมาไม่ใช่น้อยๆ

หร่วนซือซืออ่านใบแจ้งจากอีเมลแล้ว รู้สึกเบื่อหน่ายเล็กน้อย

ในอีเมลอวี้อี่มั่วลงรายละเอียดอย่างเปิดเผยไม่มีปิดบังสักนิด มีอะไรก็พูดออกไปอย่างนั้น พูดไปเลยโต้งๆว่าเป็นเพราะพิธีหมั้น

ทำแบบนี้ ก็คงเป็นเพราะอยากให้ทุกๆคนในบริษัทได้รับรู้เรื่องการหมั้นของเขาอย่างทั่วถึงมั้ง

ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ในใจของเธอเหมือนความรู้สึกมันหล่นฮวบลงไป

เธอรวบรวมเอกสารในมือที่ต้องให้อวี้อี่มั่วต้องคอนเฟิร์ม สูดลมหายใจเข้าลึก แล้วเอาเอกสารเข้าไปหาอวี้อี่มั่ว

เมื่อเปิดประตูเข้าไป ก็เห็นกับอวี้อี่มั่วที่กำลังยุ่งอยู่ เอกสารที่เยอะกว่าปกติเท่าตัววางกองกันอยู่บนโต๊ะของเขา

หร่วนซือซือเดินไปหน้าโต๊ะ แสร้งทำเป็นสงบ เอาเอกสารวางลงบนโต๊ะ : "ท่านประธานอวี้ เอกสารพวกนี้ต้องการให้คุณคอนเฟิร์มค่ะ"

อวี้อี่มั่วตอบรับ หยุดงานในมือลง เงยหน้ามองเธอ : "วันนี้ต้องทำงานล่วงเวลา เธออยู่ทำงานต่อกับฉัน"

หร่วนซือซือนิ่งเงียบไป พยักหน้าเบาๆ : "ค่ะ"

ในตอนแรกเมื่อคิดว่าต้องอยู่ตามลำพังสองต่อสอง เธอจึงอยากที่จะปฏิเสธ แต่พอคิดๆแล้ว ยิ่งทำแบบนี้ก็เหมือนยิ่งร้อนตัวเข้าไปใหญ่ สู้ตอบรับอย่างใจกว้างดีกว่า

หร่วนซือซือนิ่งไปชั่วครู่ มองอวี้อี่มั่วที่อยู่ตรงหน้า : "งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันไปทำงานต่อนะคะ"

"เดี๋ยว"

อวี้อี่มั่ววางเอกสารในมือลง เงยหน้าขึ้นมองเธออย่างจริงจัง : "ฉันมีเรื่องที่จะพูดกับเธอหน่อย ทางหัวหน้าเฝิงได้แบบแผนการผ่าตัดใหม่ล่าสุด เขาพึ่งบอกกับฉันมา ขอแค่ตรวจเช็กสภาพร่างกายของพ่อเธอแล้วไม่มีปัญหา ก็ทำการเตรียมผ่าตัดได้เลย"

Recommended Series

Options

not work with dark mode
Reset