ชั่วครู่ ก็มีค็อกเทลสีเขียวอ่อนๆมาเสิร์ฟตรงหน้าเธอ มองไปยังก้อนน้ำแข็งละเอียดและใบมิ้นต์ที่ลอยอยู่บนแก้ว หร่วนซือซือหัวเราะเบาๆ ยกแก้วขึ้นมาลองชิมไปหนึ่งคำ ก็ขมวดคิ้วขึ้น
คำแรกก็รู้สึกได้ทันทีว่าทั้งเย็นทั้งเผ็ด รสชาติน่าตื่นเต้น เมื่อกลืนลงคอแล้วเหลือไว้เพียงกลิ่นเหล้าอ่อนๆและกลิ่นใบมินต์ที่สดชื่น
รสชาติดีเลย ดื่มแล้วได้แรงทีเดียว
หร่วนซือซือดื่มจนหมดอย่างไม่รู้ตัว ในท้องเริ่มรู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมา
พอดีกับบนเวทีร้องเพลงฝรั่งที่ค่อนข้างเก่าเพลงหนึ่ง จังหวะเพลงค่อนข้างดี หร่วนซือซือฟังไปสักพัก จู่จู่ก็รู้สึกเศร้าขึ้นมา
ดื่มต่อแก้วที่สอง รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังล่องลอยอยู่ในอากาศ มองไปยังเวที หวนนึกถึงเหตุการณ์ครั้งที่แล้วที่เธอร้องเพลงบนเวทีแล้วอวี้อี่มั่วนั่งฟังอยู่ด้านล่าง……
ชั่วอึดใจ หร่วนซือซือขมวดคิ้ว ตบหน้าที่ร้อนผ่าวของตัวเองเบาๆ และเริ่มต่อว่าตัวเอง
ทำไมไปคิดถึงเขาล่ะ? บ้าไปแล้วเหรอ?
ชั่งเถอะ โทรหาอันอันให้มาดื่มเป็นเพื่อนเธอหน่อยดีกว่า
หร่วนซือซือหยิบมือถือที่วางอยู่ข้างๆ เธอกดเข้าประวัติการโทร แล้วโทรออก
เมื่อมีคนรับสาย หร่วนซือซือกลัวว่าอันอันจะปฏิเสธเธอ เธอจึงรีบพูดก่อนที่อันอันจะพูด : "อันอัน ฉันอยู่Kบาร์ ถ้ายังนับฉันเป็นเพื่อน ก็มาดื่นเป็นเพื่อนหน่อย"
พูดจบ เธอก็กดวางอย่างไม่ลังเล
ดื่มสังสรรค์รอบที่แล้ว เจอซ่งฉีเข้า มีเรื่องวุ่นวายไปหมด กลัวว่ารอบนี้อันอันจะเข็ดไม่กล้าออกมาเพราะฉะนั้นไม่รออันอันได้ปฏิเสธ เธอจึงชิงวางสายก่อน
เพราะยังไงก็เป็นเพื่อนรักกันอยู่แล้ว และเธอก็มีแค่ซ่งอวิ้นอันคนเดียวเท่านั้น ถ้ายังปฏิเสธอีก เธอก็ไม่รู้ว่าจะไปหาใครได้อีก
เวลาเดียวกัน อวี้อี่มั่วที่จับมือถือไว้ ขมวดคิ้วแน่น
ผู้หญิงคนนี้กำลังทำอะไร? มาถึงก็เรียกเขาว่า"อันอัน" ยังมาบอกว่าตัวเธออยู่Kบาร์คงไม่ได้ดื่มหนักหรอกมั้ง?
อวี้อี่มั่ววางมือถือลงบนโต๊ะ สีหน้าขรึม เขาไม่อยากจะสนใจ แต่ลึกๆในใจก็แอบเป็นห่วง
ฟังจากคำพูดของเธอแล้ว สายนี้คงจะโทรให้อันอัน งั้นก็แสดงว่า ตอนนี้ เธออยู่ในบาร์เหล้าคนเดียว!
เมื่อนึกถึงตรงนี้ อวี้อี่มั่วขมวดคิ้วแน่น รีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว กล่าวลากับแขกบนโต๊ะอาหาร : "ทุกท่าน ขอโทษจริงๆ พอดีมีเรื่องด่วนนิดหน่อย ขอตัวกลับก่อนครับ"
เขาไม่ได้สนใจสีหน้าของคนอื่นๆ หยิบมือถือเปิดประตูหรูแล้วออกไป
ตู้เยี่ยวิ่งตามาติดๆ ถามขึ้นอย่างร้อนใจ : "ท่านประธานอวี้ เกิดอะไรขึ้นครับ"
อวี้อี่มั่วสีหน้าเครียดขรึม ไม่อธิบายอะไร เดินออกไปจนถึงข้างนอก แล้วออกคำสั่งว่า : "ออกรถ ไปKบาร์"
ผู้หญิงอะไร ออกมาเมาเหล้าข้างนอกคนเดียวได้ยังไง ชักจะใจกล้าเกินไปแล้ว!
รถแล่นบนถนนอย่างเร็ว เมื่อถึงหน้าร้านบาร์ อวี้อี่มั่วเปิดประตูลงรถ เข้าไปในบาร์อย่างรวดเร็ว
เขาเงยหน้า แล้วกวาดตามองไปมองรอบๆ บาร์ที่นี่ไม่ใหญ่มาก สายตาเขาก็หยุดอยู่ที่หน้าบาร์
ที่มุมในสุดของบาร์ ร่างที่คุ้นเคยฟุบอยู่บนโต๊ะบาร์ ดูแล้วคงเมาไม่รู้เรื่อง ข้างๆเธอก็มีผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ หันไปมองเธอบ่อยๆ
ถึงแม้จะไม่ใกล้มาก และผู้ชายคนนั้นก็ไม่ได้ลงมือทำอะไร แต่อวี้อี่มั่วที่มองปราดเดียวก็รู้จุดประสงค์ของเขาแล้ว ว่ากำลังคิดจะทำอะไรอยู่
ถ้าไม่ใช่คิดจะจีบ ก็คงรอสบโอกาสตอนที่หร่วนซือซือเมา!
ในใจก็เหมือนมีไฟลุกโชนขึ้นมา อวี้อี่มั่วเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเดินใกล้ถึงเธอ ผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆหันมาพอดี สายตาจ้องไปที่หร่วนซือซือนั้นเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ เห็นชัดว่าต้องการทำเรื่องมิดีมิร้ายกับเธอแน่นนอน!
อวี้อี่มั่วโกรธจัดขึ้นมา รีบเดินไปจนถึงข้างๆหร่วนซือซือ สายตาจ้องไปที่ผู้ชายคนนั้น
เมื่อเห็นผู้ชายเข้มขรึมมาปรากฏตรงหน้า ผู้ชายคนนั้นก็ผงะเล็กน้อย สีหน้าค่อนข้างตกใจ รู้ได้ทันทีว่าผู้ชายที่ปรากฏตรงหน้าไม่ธรรมดาแน่นอน เขารู้สึกร้อนตัวเล็กน้อย ไม่รอให้อวี้อี่มั่วเอ่ยปาก ผู้ชายคนนั้นก็ลุกขึ้นแล้วออกจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว
อวี้อี่มั่วขมวดคิ้วแน่น หมุนตัวกลับมาด้วยสีหน้าดุดัน มองผู้หญิงที่เมาจนฟุบอยู่ที่หน้าบาร์แล้ว ในใจก็เหมือนไฟกำลังลุกไหม้โหมกระหน่ำหนักกว่าเก่า
หร่วนซือซือ ที่หลับไม่รู้เรื่องไม่รู้ราวว่ามีคนยืนอยู่ข้างๆ หลังจากนั้นก็รู้สึกเจ็บที้ข้อมือ เธอลืมตาตื่นขึ้น ก็เห็นว่าแขนของเธอโดนจับอยู่
"เจ็บ!"
เมื่อลืมตาตื่น มองเห็นผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า นึกว่าตัวเองกำลังฝันไป : "คุณ……คุณมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง?"
เธอผงะ มองหน้าที่เต็มไปด้วยสีหน้าเย็นชาของเขา ชั่วอึดใจ หร่วนซือซือก็พูดเองเออเองต่อ : "ที่แท้ก็แค่ฝัน……"
เขาอยู่ในหัวของเธอตลอดเวลา ถ้าจะฝันถึงเขาก็คงไม่แปลก
อวี้อี่มั่วที่ยืนอยู่ข้างๆเมื่อได้ยินแล้วขมวดคิ้วแน่น ยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่
ผู้หญิงคนนี้ ดื่มไปมากขนาดไหน ถึงมีสภาพเมาแบบนี้ได้
เขาขยับเข้าใกล้ พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า : "หร่วนซือซือ นี่ไม่ใช่ฝัน"
"ไม่เชื่อหรอก!" หร่วนซือซือหัวเราะแล้วโบกมือไม่เชื่อเบาๆ : "คุณจะหมั้นกับเย่หว่านเอ๋อแล้ว……เวลานี้คุณควรจะอยู่ด้วยกันกับเธอถึงจะถูก!"
"นี่มันก็แค่ความฝัน แค่แตะก็สลายหายไป" พูดพลางยื่นมือมาจับหน้าของเขาอย่าไม่เกรงใจ
"นี่……ของจริงเหรอ?" เธอผงะเล็กน้อย แต่กลับหัวเราะต่อ : "……หึหึ……สัมผัสดีทีเดียว"
อวี้อี่มั่วสีหน้าเครียดขรึมยิ่งขึ้น และความอดทนที่เหลืออันน้อยนิดก็กำลังจะหมดไป มองผู้หญิงตรงหน้าที่จับแก้มเขาไม่หยุด ยกมือขึ้นมาจับมือเธอไว้
หร่วนซือซือที่โดนจับแน่นจนเจ็บ ใบหน้าเรียวเล็กก็ขมวดคิ้วขึ้น : "เจ็บ……อวี้อี่มั่ว คนเลว"
เธอด่าออกไปคำหนึ่ง ความเจ็บปวดเสียใจในอกก็ย้อนกลับมา รอบดวงตาแดงก่ำ น้ำตาไหลริน : "คุณ……คุณมันคนขี้โกง!"
อวี้อี่มั่วผงะเล็กน้อย ยังไม่ทันเข้าใจ มือเล็กๆของหร่วนซือซือก็จับเข้าชายเสื้อของเขาไว้ เธอลุกขึ้นโซเซเข้ากอดเขา สะอื้นตัวโยนราวกับว่ากำลังเสียใจและน้อยใจมาก : "ฮือฮือฮือ……อวี้อี่มั่ว คุณมันคนขี้โกง! คุณทำแบบนี้กับฉันแล้ว ตอนนี้กลับไปสู่ขอผู้หญิงคนอื่น……จิตใจคุณมันทำด้วยอะไร!"
เธอร้องให้สะอื้นไม่หยุด ผู้คนรอบๆก็เริ่มหันมามอง ผู้คนค่อนข้างอ่อนไหวกับเรื่องแบบนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะดูเป็นธรรมดา
เขาที่เห็นผู้คนเริ่มมองเริ่มชี้และเริ่มพูดถึง ดวงตาของเขาฉายแววเย็นยะเยือก เขายกมือขึ้น โอบเอวเธอไว้ พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา : "หร่วนซือซือ มีสติหน่อย!"
"คุณ…..คุณดุฉันเหรอ!" หร่วนซือซือร้องไห้เสียงดังหนักกว่าเก่าอีก เธอสะอื้นจนตัวโยน น้ำตาไหลทะลักไม่หยุด
อวี้อี่มั่วเมื่อเห็นแบบนี้ ก็ใจอ่อนขึ้นมา เขายกมือขึ้นมาปาดน้ำตาบนหน้าเธอ พร้อมกับเชยคางเธอขึ้น พูดโอ๋เธอเบาๆ : "พอได้แล้ว ผมพาคุณกลับบ้าน"
เมาขนาดนี้แล้ว จะทิ้งไว้ตรงนี้ก็คงเป็นไปไม่ได้ ส่งเธอกลับคอนโดดีกว่า อย่างน้อยๆก็พอหายห่วง
หร่วนซือซือที่ซบอกเขาอยู่ก็เงียบลง ชั่วอึดใจ จู่จู่ก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเอาแต่ใจว่า : "อุ้มฉัน….."
อวี้อี่มั่วยิ้มอ่อนๆอย่างไม่เคยยิ้มมาก่อน เขายื่นมือหยิบกระเป๋าของเธอ ก้มลงเล็กน้อยแล้วอุ้มเธอขึ้นมา
ออกจากบาร์ ก็อุ้มเธอไปที่รถ อวี้อี่มั่วถอนหายใจเบาๆ
ตู้เยี่ยที่นั่งอยู่ด้านหน้า เห็นหร่วนซือซือที่เมาตัวปวกเปียก ก็รู้สึกประหลาดใจ
อวี้อี่มั่วเงยหน้าขึ้น พูดด้วยสีหน้าเย็นชาว่า : "ไปที่คอนโดเล็ก"
เมื่อพูดจบ แขนของเขาก็ถูกเธอกอดเข้า เขาหันไปมอง ก็เห็นหร่วนซือซือกอดแขนเขาไว้แน่น หน้าอกที่นุ่มนิ่มนั้น ก็เบียดและเสียดสีตามแรงกระเพื่อมของรถ
ความร้อนก็ประทุแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายเขา อย่าลืมตา หายใจเข้าลึกๆ แสร้งทำเป็นนิ่งสงบ
เวลานี้ เขาปฏิญาณตน เมื่อส่งเธอถึงคอนโดแล้ว ห้ามอยู่ต่อเด็ดขาด หนึ่งนาทีก็ไม่ได้ ต้องรีบกลับทันที!