ดั่งรักบันดาล 22

ตอนที่ 22

ในเวลาที่หร่วนซือซือกำลังจ้องมองผู้ชายคนนั้น บังเอิญมากที่เขาเงยหน้าขึ้นมา ในช่วงเวลานั้น ทั้งสองคนสบตากัน

หร่วนซือซือต้องการถอนสายตากลับ แต่ใครจะไปรู้ว่าผู้ชายคนนั้นกระตุกยิ้มริมฝีปาก ส่งยิ้มมาที่เธอ

ดวงตาคู่นั้นคล้ายกับมีรอยยิ้ม ทำให้คนยากที่จะปฏิเสธไม่ให้หัวใจเต้นแรง

หร่วนซือซือกระตุกมุมปาก ยิ้มตอบกลับตามมารยาท ทันทีหลังจากนั้นก็หมุนตัวกลับ ไปมองดูปากกาหมึกซึมด้ามนั้น ในใจก็รู้สึกหดหู่

ในเมื่อขายออกไปแล้ว งั้นเธอก็ไม่มีวิธีอะไรแล้ว จำเป็นต้องไปเลือกของอย่างอื่น

เดินอยู่ในร้านหนึ่งรอบ หร่วนซือซือก็ยังมองไม่เห็นของขวัญอะไรที่เหมาะสม ก้าวเท้าเดินไปข้างหน้าคิดจะออกไป แต่ใครจะไปรู้ว่า ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงดังขึ้นมาจากด้านหลัง“คุณผู้หญิงหยุดก่อน”

เธอหมุนตัวกลับไป ก็มองเห็นผู้ชายคนนั้นที่นั่งรถเข็นไฟฟ้าเมื่อกี้ตรงเข้ามาทางนี้

หร่วนซือซือถามอย่างนุ่มนวล“มีธุระอะไรเหรอคะ?”

ผู้ชายที่นั่งอยู่บนรถเข็นไฟฟ้ามุมปากกระตุกยิ้ม“เมื่อกี้ได้ยินเถ้าแก่พูดว่า คุณก็ชอบปากกาหมึกซึมด้ามนี้?”

หร่วนซือซือ มองเห็นปากกาหมึกซึมสีเทาด้ามนั้นอยู่ในมือเขา ดวงตาก็ส่องประกาย“ใช่ เพียงแต่ในเมื่อมีเจ้าของแล้ว ก็ช่างมันเถอะค่ะ”

ผู้ชายที่นั่งอยู่บนรถเข็นไฟฟ้ากระตุกมุมปาก ดวงตาเป็นประกายสดใส“ผมยังไม่ได้จ่ายเงิน ถ้าหากว่าคุณชอบจริงๆ ผมก็จะหลีกทางให้คุณ”

“จริงเหรอคะ?”หร่วนซือซือถามเขาด้วยความตื่นเต้น“คุณจะหลีกทางให้ฉันจริงๆเหรอคะ?”

ผู้ชายคนนั้นพยักหน้า“สุภาพบุรุษไม่เอาเปรียบผู้อื่น และผมเพียงแค่ชอบเก็บสะสม ถ้าคุณต้องการมากกว่า ผมจะหลีกทางให้คุณ”

“งั้นขอบคุณคุณมากค่ะ!”

หร่วนซือซือรับปากกาหมึกซึมจากในมือเขา และขอบคุณไปหลายครั้ง จึงไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ด้วยความดีใจ

รอจนห่อของขวัญเสร็จ หร่วนซือซือก็หมุนตัวกลับไปอีกครั้ง พบว่าผู้ชายคนนั้นไม่อยู่แล้ว

สรุปได้ว่า ไม่ว่ายังไงก็ตาม เธอสามารถซื้อของขวัญที่พ่อชอบได้ ก็เป็นเรื่องดีที่หาได้ยากมาก!

เธอออกจากร้านวัตถุโบราณอย่างร่าเริง แต่ไม่ได้พบว่าในร้านกาแฟที่อยู่ไม่ไกล มีผู้ชายที่นั่งอยู่บนรถเข็นไฟฟ้าคนนั้นก็กำลังนั่งอยู่ข้างหน้าต่างจ้องมองดูเธอ

ในตอนนี้ สายตาบนใบหน้าของผู้ชาย หลงเหลือเพียงความเย็นชา

ครู่ใหญ่ๆ เขาจึงเปิดปากถาม“ผู้หญิงที่แต่งงานกับอวี้อี่มั่ว ก็คือเธอไหม?”

ผู้ชายที่ยืนด้านข้างเขาพยักหน้าตอบ“ใช่ ก็คือเธอ หร่วนซือซือ”

ออกจากห้างสรรพสินค้าจนกลับมาถึงคฤหาสน์ เวลาก็สายแล้ว หร่วนซือซือรีบกลับเข้าไปในห้องนอน เขียนจดหมายอวยพรศาสตราจารย์หร่วนด้วยตัวเอง นำของขวัญห่อไว้เรียบร้อยแล้ว ก็คิดจะออกจากบ้าน

“ป้าหรง คืนนี้ฉันไปทานข้าวนอกบ้าน ไม่ต้องทำอาหารให้ฉัน”

“ทานข้าวนอกบ้าน?”ป้าหรงเดินออกมาจากห้องครัว ใช้ผ้ากันเปื้อนที่คาดไว้ที่เอวเช็ดมือ“ทำไมไม่ทานข้าวที่บ้านคะ?”

หร่วนซือซือส่งยิ้มไปให้เธอ“วันนี้เป็นวันเกิดของพ่อฉัน พวกเรานัดทานข้าวด้วยกัน”

ป้าหรงได้ฟัง ก็รีบถาม“งั้นคุณชายไปกับคุณไหม?”

หร่วนซือซือที่ได้ยินคำถามประโยคนี้ก็เงียบไม่พูดจา หยุดไปชั่วขณะ เธอจึงพูดอย่างนุ่มนวล“เขาน่าจะไม่มีเวลา ฉันไปคนเดียวก็ได้แล้ว”

ป้าหรงได้ฟัง ก็ลังเลเหมือนอยากจะพูดอะไร แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

หร่วนซือซือหิ้วของขวัญออกจากบ้านไป ไปยังที่อยู่ของร้านอาหารที่คุณนายหลิวส่งมาให้เธอ

เธอเพิ่งจะออกไป ไม่นานอวี้อี่มั่วก็กลับมา เขาเข้ามาในคฤหาสน์ ก็จะตรงขึ้นไปบนห้องหนังสือชั้นสอง เมื่อเดินไปถึงด้านหน้าบันได ก็รู้สึกได้ว่าในบ้านเงียบกว่าปกติ

หรือว่าเธอ…ไม่อยู่บ้านเหรอ?

เมื่อเดินมาถึงหน้าประตูห้องหนังสือ อวี้อี่มั่วก็หยุดเดินไปชั่วขณะ หมุนตัวกลับเดินตรงไปที่ห้องนอน ผลักประตูเข้าไป เป็นดังที่คาดหมายไว้ ภายในห้องไม่มีคน ไฟก็ปิดสนิท

ในสมองก็นึกไปถึงวันนี้หร่วนซือซือไปที่บริษัท อวี้อี่มั่วขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย หมุนตัวกลับออกจากห้อง ลงไปชั้นล่างถามป้าหรง“หร่วนซือซือไม่อยู่บ้าน?”

ป้าหรงตอบตามความจริง“คุณนายออกไปข้างนอกแล้ว พึ่งจะออกไปได้ไม่นาน พูดว่าจะต้องไปอยู่เป็นเพื่อนฉลองวันเกิดกับพ่อเธอ”

“ฉลองวันเกิด?”อวี้อี่มั่วขมวดคิ้วแน่นขึ้น

หรือว่าวันนี้เป็นวันเกิดของศาสตราจารย์หร่วน?

ป้าหรงที่อยู่ด้านข้างมองเห็นสีหน้าอวี้อี่มั่ว ก็พูดต่อไป“คุณชาย พูดตามเหตุผล พ่อตาฉลองวันเกิด ท่านต้องไปอยู่เป็นเพื่อน เมื่อกี้ป้าเห็นคุณนายออกไปคนเดียว ดูหดหู่มาก ป้าถามเธอว่าทำไมไม่บอกคุณ เธอพูดว่ากลัวจะกระทบกับงานของคุณ…”

อวี้อี่มั่วได้ยินประโยคเหล่านี้ในใจก็จมดิ่ง รู้สึกละอายใจไปชั่วขณะ

เขายุ่งจริงๆ แต่ยังไม่ได้ยุ่งถึงขนาดที่ไม่มีเวลาอยู่เป็นเพื่อนศาตราจารย์ทานข้าวฉลองวันเกิด

“คุณชาย ป้าเห็นว่าคุณนายใส่ใจคุณมาก เธอรู้ว่าเมื่อวานกวนโมโหคุณทำให้คุณไม่สบายใจ ตั้งใจเรียนทำซุปซี่โครงเป็นพิเศษ ตอนเช้าตุ๋นซุปเป็นเวลาหลายชั่วโมงกว่าจะทำเสร็จ…”

คำพูดของป้าหรงทำให้ภายในใจของอวี้อี่มั่วจมดิ่งลึกลงไปอีก

วันนี้เธอไปหาเขา เหมือนกับว่ามีเรื่องอยากจะพูด เพียงแต่ตอนนั้นมีคนมาเคาะประตู เขาก็ให้เธอออกไป

ดูเหมือนว่า ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากบอกตัวเอง แต่เป็นตัวเองที่ไม่ให้โอกาสเธอ

ในใจก็รู้สึกละอาย อวี้อี่มั่วก้าวเท้าเดินตรงไปด้านนอก ในขณะเดียวกัน ก็รีบโทรศัพท์หาตู้เยี่ยสั่งให้“หาว่าหร่วนซือซืออยู่ที่ไหน ยิ่งเร็วยิ่งดี!”

ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม วันนี้หร่วนซือซือก็เป็นภรรยาของเขา ที่มากกว่านั้นคือศาสตราจารย์หร่วนยังเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของเขา ด้วยเหตุผลนี้ เขาจะไม่ไปปรากฏตัวไม่ได้

ไม่นาน หลังจากที่ได้รับที่อยู่ที่ตู้เยี่ยส่งมาให้ อวี้อี่มั่วก็ขับรถออกไปทันที ตรงไปที่ร้านอาหารเฟิงชิงฟาง

ร้านอาหารเฟิงชิงฟาง

หร่วนซือซือเดินมาถึงหน้าประตูห้องรับรองพิเศษ ยังไม่ได้เปิดประตูเข้าไป ก็ได้ยินเสียงของของคุณนายหลิวดังออกมาจากข้างใน

“ลูกสาวของพวกเราโตแล้ว วันนี้ก็ได้แต่งงานกับผู้ชายที่ดี ตอนนี้พวกเพื่อนๆหลายคนก็พากันอิจฉา พูดว่าฉันลำบากเลี้ยงดูมาครึ่งชีวิต ในที่สุดก็มีหน้ามีตาแล้ว!”

“อย่าพูดแบบนั้น พวกเราไม่ได้พึ่งพาลูกสาว ฉันก็แค่รู้สึกว่า ขอเพียงแค่ลูกสาวของพวกเรามีความสุข ทุกอย่างก็ดีหมด”

“……”

ได้ยินเสียงพูดคุยที่ดังออกมาจากข้างใน หร่วนซือซือก็รู้สึกแสบจมูกขึ้นมา ในใจเธอรู้ดี ถึงแม้ว่าบางครั้งคุณนายหลิวจะอารมณ์ร้าย แต่ว่าสุดท้ายแล้วก็ยังรักและทะนุถนอมเธอลูกสาวคนนี้มาก แต่ตอนนี้ เธอมาฉลองวันเกิดให้กับพ่อเพียงคนเดียว

สูดหายใจเข้าลึกๆ หร่วนซือซือกัดฟัน ผลักประตูห้องรับรองพิเศษและเดินเข้าไป มองเห็นทั้งสองคนกำลังนั่งอยู่หน้าโต๊ะอาหาร กระตุกมุมปากยิ้มไปให้พวกเขา“พ่อค่ะแม่ค่ะ หนูมาแล้วค่ะ”

คุณนายหลิวรีบลุกขึ้นยืน เรียกเธอมานั่ง มองไปด้านหลังของเธอไม่หยุด“เสี่ยวอวี้ล่ะ?คนไปไหนแล้ว?แล้วพ่อแม่ของเขาล่ะ?”

“พวกเขา…”

หร่วนซือซือกำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว ไม่รู้ว่าควรจะตอบคำถามนี้ของคุณนายหลิวยังไง

เห็นหร่วนซือซือเงียบไม่พูดจา คุณนายหลิวรีบถาม“คนอยู่ด้านนอกเหรอ?แม่จะไปต้อนรับเขา เด็กคนนี้ใช้ไม่ได้จริงๆเลย ทำไมถึงไม่รู้จักโตสักที ทิ้งคนไว้แล้วตัวเองก็เดินเข้ามาคนเดียว…?”

มองเห็นคุณนายหลิวจะเดินตรงไปด้านนอก หร่วนซือซือคว้ามือออกไปจับเธอเอาไว้“แม่ค่ะ อวี้อี่มั่วงานยุ่งมาก ดังนั้น…”เขามาไม่ได้แล้ว

คุณนายหลิวสังเกตเห็นการแสดงออกของหร่วนซือซือผิดปกติ กำลังจะเปิดปากถามให้ชัดเจน แต่ใครจะรู้ว่าเวลานี้ ทันใดนั้นมีเสียงฝีเท้าดังมาจากประตู

“พ่อ แม่ ขออภัยด้วย ผมมาสายแล้ว?”

หร่วนซือซือได้ยินเสียงที่คุ้นเคยนั้น ยังนึกว่าตัวเองกำลังเพ้อฝัน เธอหันหน้ากลับไป ก็มองเห็นอวี้อี่มั่วยืนอยู่หน้าประตู

หร่วนซือซือในใจจมดิ่ง ทั้งตกใจและประหลาดใจ

 

เขา…มาได้ยังไง?

Options

not work with dark mode
Reset