ดั่งรักบันดาล 168

ตอนที่ 168

ไม่รู้เวลาผ่านไปนานมากแค่ไหนแล้ว หร่วนซือซือได้ยินเสียงเอะอะโวยวายดังลอยเข้ามาในหู ร่างกายแข็งเกร็งราวกับถูกอะไรมามัดอยู่ก็ไม่ปาน ร่างทั้งร่างชาไปหมดจนแทบจะไม่มีเรี่ยวแรงเหลือแล้ว

กลิ่นบุหรี่ฉุนทำคนแสบจมูกลอยเข้ามา ทำให้การหายใจเข้าออกของเธอสำลักจนรู้สึกทรมานเล็กน้อย เธอใช้แรงทั้งหมดไปกับการพยายามเปิดเปลือกตาขึ้น ค่อยๆเงยหน้าขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนจะพบว่าตนเองนั้นถูกจับมัดไว้อยู่บนเก้าอี้ตัวหนึ่ง กระดุกกระดิกตัวไปไหนไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว

ไม่ไกลจากนี้มากนัก มีเสียงเอะอะโวยวายกำลังดังขึ้น มีกลุ่มชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งยืนล้อมรอบโต๊ะสนุกเกอร์ พูดคุยและสถบคำหยาบสารพัด ก่อนที่จะโห่ร้องออกมากันเสียงดัง คำยาบคายทั้งหลายล้วนแล้วแต่ไม่น่าฟังทั้งสิ้น

เธอ……อยู่ที่ไหนกันนะ?

หร่วนซือซือกัดฟันแน่น เงยหน้าขึ้นแล้วสบมองไปทางด้านข้าง เมื่อมองไปรอบๆครั้งหนึ่ง ก็ยังคงมองไม่ออกว่าที่นี่คือที่ไหน

เป็นสถานที่ที่ใหญ่มากๆ มีโซฟา มีโต๊ะสนุกเกอร์ อีกทั้งยังมีเครื่องเล่นอีกนิดหน่อย คนพวกนั้นเป็นชายฉกรรจ์ทั้งหมด มีทั้งภาษาจีนภาษาไทยปนกันมั่วไปหมด ในรอบๆบริเวณเต็มไปด้วยกลุ่มควันจากบุหรี่

เมื่อสูดกลุ่มควันนั้นเข้าไปจึงทำให้เกิดอาการระคายเคืองที่จมูก ทำให้หร่วนซือซืออดไม่ได้ที่จะส่งเสียงไอออกมาเบาๆ คนที่อยู่ด้านข้างจับสังเกตเห็นได้ทันที ไม่นานนัก ก็มีชายฉกรรจ์สองสามคนเดินตรงมาที่เธอ

คนที่เป็นหัวหน้ามีสีผิวดำคล้ำ เป็นผู้ชายผมสกปรกถักเป็นเปีย คิ้วของเขาทั้งยาวทั้งหนา มีท่าทางน่าหวาดกลัว มีรอยสักเต็มตัวไปหมด ที่เห็นได้ชัดเจนมากที่สุดก็คงจะเป็นรอยสักที่เป็นอักษรภาษาอังกฤษรูปตัว K ที่ต้นคอ

ด้านข้างของเขามีชายที่ทั้งตัวเล็กทั้งผอมอยู่อีกคน เป็นคนที่เธอเจอที่ข้างถนนคนนั้น!

ภายในใจของหร่วนซือซือรู้สึกหวาดหวั่น หรือว่าเธอถูกจับมาเรียกค่าไถ่งั้นหรือ? ถ้าไม่อย่างนั้นแล้วจะมาปรากฏตัวขึ้นที่นี่ได้อย่างไร? มาเจอกับคนพวกนี้?

"ลูกพี่ K ครับ ยายผู้หญิงนี่ตื่นแล้วครับผม"

ชายที่ถูกเรียกว่าลูกพี่ K ก็คือชายคนที่มีรอยสักภาษาอังกฤษตัว K นั่น นัยน์ตาแหลมคมทั้งสองข้างของเขาติดประกายขึ้น แต่ทว่าบริเวณนัยน์ตาขาวขึ้นเป็นเส้นเลือดให้เห็นอย่างชัดเจน และยังคงขัดขวางปกปิดความอยากฆ่าคนภายในตาของเขาไว้ไม่ได้

หร่วนซือซือตัวเย็นวาบไปทั้งตัว ขยับริมฝีปากไปมา ก่อนจะรวบรวมความกล้าแล้วเอ่ยขึ้นว่า "คุณ…พวกคุณเป็นใครคะ?"

เธอไม่ได้มีความแค้นอะไรกับพวกเขานี่ ทำไมต้องลักพาตัวเธอมาด้วยล่ะ? ยิ่งไปกว่านั้นเธอก็เป็นแค่ยาจกคนหนึ่งเท่านั้น ทั้งเนื้อทั้งตัวก็มีเงินไม่เท่าไหร่เองนะ!

เมื่อหร่วนซือซือพูดออกไปแล้ว กลับอดไม่ได้ที่จะเรียกเสียงหัวเราะจากชายฉกรรจ์สองสามคนนั้นได้ แม้กระทั่งลูกพี่ K เองก็ยกยิ้มมุมปากขึ้นเยาะหยัน เมื่อรอให้เหล่าพี่น้องทั้งหลายได้หัวเราะกันจนพอใจแล้ว เขาจึงเปิดริมฝีปากเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่ทุกข์ร้อนว่า "เธอคือหร่วนซือซือ?"

หัวใจของหร่วนซือซือกลัวรู้สึกหวาดหวั่นมากขึ้นไปกว่าเดิม ที่แท้พวกเขารู้จักเธอด้วยงั้นหรือ?

"ฉัน…ใช่ค่ะ"

เมื่อเห็นเธอยอมรับอย่างไม่มีท่าทีลังเลแล้ว ลูกพี่ K ยิ้มเย็น จุดบุหรี่ขึ้น ยืนประจันหน้ากับเธอ ก่อนจะสูบบุหรี่เข้าไปเฮือกใหญ่

ผ่านไปครู่ใหญ่ เขาสบมองไปที่เธอก่อนจะพ่นควันออกมายาวๆ แล้วเอ่ยถามขึ้นมาอย่างช้าๆว่า "รู้ไหมว่าทำไมฉันถึงมัดเธอเอาไว้?"

ยังไงๆหร่วนซือซือก็ต้องไม่รู้อยู่แล้ว เมื่อสบมองไปที่คนพวกนี้แล้ว แผ่นหลังของเธอเย็นวาบ ในช่วงเวลานั้นเองที่รู้สึกว่ารับไม่ไหวแล้ว

พวกเขามัดเธอเอาไว้ เธอจะไปรู้เหตุผลได้อย่างไรเล่า?

เธอกัดฟันแน่น ก่อนจะสูดอากาศเข้าลึกๆแล้วเอ่ยขึ้นว่า "พวกคุณทำแบบนี่มันผิดกฏหมายนะคะ……"

ถึงแม้จะอยู่ที่ประเทศไทยก็ตาม แต่ทว่าพวกเขาก็เป็นคนจีน คงจะรู้ว่าอะไรคือการกระทำที่ผิดกฏหมายอยู่แล้วแน่

เป็นไปตามคาด เมื่อเธอพูดแบบนี้แล้ว สีหน้าของคนด้านข้างก็แปรเปลี่ยนไปทั้งหมด คนที่รูปร่างทั้งผอมทั้งตัวเล็กคนนั้นรีบสบมองไปยังลูกพี่ K ทันที ก่อนจะรีบเอ่ยถามขึ้นไปว่า "ลูกพี่ K ครับ สั่งสอนเธอเสียหน่อยเป็นไงครับ?"

ลูกพี่ K สบมองหร่วนซือซือครั้งหนึ่ง ก่อนจะนิ่งไปสองวินาที หลังจากนั้นก็จ้องมองเธอแล้วหยักหน้าขึ้นลงเบาๆ

หร่วนซือซือยังคงไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ก็มองเห็นเจ้าคนผอมแห้งคนนั้นตรงเข้ามาหา ก่อนที่จะจ้องมองเธอแล้วยกมือขึ้น ไม่พูดไม่จาอะไรสักคำ ฝ่ามือก็ถูกฟาดลงมาอย่างไม่ปราณี!

หร่วนซือซือไม่มีทางหลบหนี ใบหน้าทั้งหน้าถูกหวดลงมาจนหันไปทางด้านข้าง ริมฝีปากแตกจนช่องปากรับรู้ได้ถึงรสชาติฝาดเค็ม มีรอยเลือดไหลย้อยออกมาจากมุมปากเป็นทางยาว

เธอก็นึกไม่ถึงเลย ว่าพวกเขาจะกล้าลงไม้ลงมือจริงๆ!

เธอขบกรามแน่น สบมองไปที่พวกเขาด้วยสายตาเย็นยะเยือก ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นอีกครั้งว่า "พวกแกจับฉันมาทำไม!"

รู้ชื่อเสียงเรียงนามของเธอ จับเธอมาแบบนี้ นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ แต่ทว่ากลับเป็นแผนกาชั่วร้ายที่ถูกเตรียมเอาไว้อยู่ก่อนแล้ว!

ลูกพี่ K สบมองท่าทีโวยวายของเธอ ไม่โกรธแต่กลับยิ้มขำ แต่ทว่านัยน์ตาคู่นั้นยังคงฉายแววเย็นยะเยือกอยู่ เขาจ้องเธอเขม็งก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า "สมกับที่เป็นผู้หญิงของอวี้อี่มั่ว นิสัยดุดันใช้ได้"

คำพูดถากถางของเขาดังเข้าที่ใบหูของหร่วนซือซือ ทำให้ร่างของเธอหดเกร็งขึ้นโดยอัตโนมัติ ลำคอตีบตัน

หรือว่า คนพวกนี้จ้องจะเล่นงานอวี้อี่มั่วงั้นหรือ? ถ้าอย่างนั้นแล้วจับตัวเธอมาทำไมล่ะ?

เมื่อสงบลงได้แล้ว หร่วนซือซือกัดฟันแน่น สูดลมหายใจเข้าปอดก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า "พวกคุณจับมาผิดคนแล้วล่ะค่ะ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงของเขา"

"งั้นหรือ?" เห็นได้ชัดเลยว่าลูกพี่ K เดิมทีก็ไม่เชื่อคำพูดของเธอ เขาสูบบุหรี่อย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร หางตาของเขาแฝงไปด้วยความเยือกเย็น "งั้นเธอคิดว่าเธออยู่ในใจของเขาในฐานะอะไร?"

หร่วนซือซือกำหมัดแน่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จิตใจสับสนวุ่นวาย

เขามีตำแหน่งในใจของอวี้อี่มั่วด้วยหรือไง? เย่หว่านเอ๋อคือคนที่เขาแคร์ ซูหลิงเป็นดาราสาวที่มีชื่อเสียงมีหน้ามีตา จะถือเอาอะไร มาเปรียบเทียบว่าเธอมีตำแหน่งอะไรในใจของอวี้อี่มั่วกัน?

เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้ว หร่วนซือซือหัวเราะเสียงเย็นออกมาทันที เธอรวบรวมความกล้า ช้อนสายตาสบมองนัยน์ตาเย็นยะเยือกคู่นั้นของลูกพี่ K ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้นว่า "ถ้าหากว่าพวกคุณจับฉันมาเพื่อที่จะต่อรองกับอวี้อี่มั่วแล้วล่ะก็ เกรงว่าพวกคุณคงจะเข้าใจผิดแล้วล่ะค่ะ ฉันก็เป็นเพียงแค่พนักงานตัวเล็กๆในบริษัทเขาเท่านั้น เขาจะไม่มาที่นี่เพื่อฉันหรอกค่ะ"

ในเวลานี้ เธอพูดออกมาแบบนี้ เพื่อจะหาทางหนีทีไล่ให้กับตนเองเท่านั้น ถ้าหากว่าลูกพี่ K รู้ว่าเธอไม่มีประโยชน์ ไม่แน่ว่าเขาอาจจะปล่อยเธอไปก็ได้

แต่ใครจะรู้ล่ะว่าลูกพี่ K กลับส่งเสียงเยือกเย็นในลำคอออกมา ถอยหลังกลับไปหนึ่งก้าว ก่อนจะเพ่งมองเธอไปมาอย่างละเอียดละออ หลังจากนั้นจึงเอ่ยขึ้นมาว่า "ในเมื่อฉันจับเธอมาแล้ว ก็เป็นเพราะว่าฉันมีเหตุผลของฉัน แต่ฉันกลับคิดว่า เธอต้องสำคัญสำหรับเขามากแน่ ถ้าไม่อย่างนั้น เรามาพนันกันไหมล่ะ?"

หร่วนซือซือแทบจะไม่ต้องคิดอะไร ก่อนที่จะปฏิเสธออกไปทันทีว่า "ไม่มีอะไรน่าพนันหรอกค่ะ"

เธอไม่อยากจะคิดเองเออเองไปว่าอวี้อี่มั่วจะมาช่วยเธอหรือเปล่า หากจะให้เธอพูดในตอนนี้แล้วล่ะก็ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือทำอย่างไรถึงจะหลบหนีออกไปจากที่นี่ได้ต่างหาก

เมื่อเธอเอ่ยปากปฏิเสธออกไปแล้ว เจ้าคนผอมแห้งคนนั้นที่อยู่ด้านข้างก็สาวเท้าเข้ามาใกล้ ก่อนจะยกมือขึ้นฟาดลงมาอีกครั้ง "เธอปฏิเสธลูกพี่ K ไม่ได้นะ!"

เมื่อเสียง "เพี๊ยะ" ดังขึ้น ใบหูของหร่วนซือซือสั่นสะเทือน นัยน์ตาทั้งสองข้างพร่ามัว

เมื่อเห็นเจ้าคนผอมแห้งคนนั้นจะลงมืออีกครั้ง นัยน์ตาของลูกพี่ K กลับดุดันขึ้น ใบหน้ามืดครึ้มก่อนจะเอ่ยขึ้นมาว่า "พอแล้ว!"

เกมนี้ยังไม่ทันเริ่ม อวี้อี่มั่วยังไม่ลงสนามเลย หากว่าทุบตีผู้หญิงคนนี้จนเละเทะไปเสียก่อน ถ้าเป็นแบบนั้นก็คงจะไม่สนุกแล้ว

เมื่อเจ้าคนผอมแห้งนั้นถูกตำหนิไป ก็รีบหยุดการกระทำทันที ก่อนจะถอยหลังออกไปหนึ่งก้าวด้วยท่าทางเชื่อฟัง

หร่วนซือซือรู้สึกว่าทั้งใบหน้าและแก้มเจ็บแสบไปหมด บวกกับความเจ็บที่ท้องน้อยที่เริ่มตีรวนขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่ทั้งความเจ็บแสบและความน้อยเนื้อต่ำใจจะตีรวนขึ้นมาในใจทันที

เธอไม่รู้ว่าทำไมตนเองถึงถูกคนพวกนี้จับตามองเข้าให้ แต่ทว่าเมื่อเรื่องมาถึงตอนนี้แล้ว ดูท่าแล้ว เธอคงจะไม่สามารถหลบหนีไปไหนได้อีกแล้ว

"ในเมื่อเธอไม่ยอมรับ ถ้าอย่านั้นแล้วพวกเราก็จะคอยดู"

ลูกพี่ K สูบบุหรี่มวนนั้นจนหมดแล้ว สบมองไปที่หร่วนซือซือที่กำลังถูกมัดอยู่บนเก้าอี้หนึ่งครั้ง แล้วทิ้งท้ายอีกหนึ่งประโยค ก่อนจะสบมองไปยังคนที่อยู่ด้านข้างทั้งสองคน แล้วกำชับว่า "เจ้าล้าน เจ้าแห้ง พวกแกสองคนเฝ้าเอาไว้ให้ดี"

คนหัวล้านกับเจ้าผอมแห้งแรงน้อยตกปากรับคำทันที "ครับผม!"

เมื่อสั่งงานเสร็จ ลูกพี่ K ก็เริ่มสาวเท้ายาวก้าวตรงไปด้านข้าง

เมื่อรอให้เขาเดินไปไกลแล้ว เจ้าผอมแห้งแรงน้อยที่อยู่ด้านข้างก็อดไม่ได้ที่จะยื่นหน้าเข้าไปหาเจ้าคนหัวล้านข้างกาย ก่อนจะจับจ้องไปที่หร่วนซือซือด้วยสายตาราวกับสัตว์ป่าแล้วเอ่ยขึ้นอย่างขำขันว่า "ลูกพี่ พี่รู้ไหม ยายผู้หญิงคนนี่ผิวเนียนละเอียดมาก เมื่อกี้นี้ที่ตบไป ทั้งนุ่มทั้งนิ่ม มือผมรู้สึกดีมากเลยล่ะ!"

เมื่อได้ฟังเขาพูดมาขนาดนี้ เจ้าคนหัวล้านก็อดไม่ได้ที่จะสบมองไปที่หร่วนซือซือมากขึ้น ก่อนที่จะมีสีหน้าท่าทางลามกออกมา "อย่าพูดสิวะ ยังไงๆสาวจีนก็ดีที่สุดอยู่แล้วแหละน่า……"

ทั้งสองคนสลับกันพูดคุยไปมา ไม่สนใจเลยสักนิดว่าหร่วนซือซือจะได้ยินหรือไม่ได้ยิน

หร่วนซือซือถูกมัดไว้อยู่ที่นั่น ขยับตัวไปไหนก็ไม่ได้ เมื่อได้ฟังพวกเขาทั้งสองคนพูดคุยกันแล้ว ภายในใจก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที

ในเวลาแบบนี้ ยังจะมีใครสามารถมาช่วยเธอได้อีกงั้นหรือ?

Options

not work with dark mode
Reset