ดั่งรักบันดาล 135

ตอนที่ 135

หร่วนซือซือตกตะลึง ในความทรงจำของเธอ ซ่งเย้อันคือชายหนุ่มที่ดีเลิศในทุกๆด้านจริงๆ ทั้งอบอุ่นอ่อนโยนและเอาใจเก่ง ปฏิบัติกับเธอก็ไม่เลวเลย

เธอก็เคยคิดเหมือนกันว่าจะพัฒนาความสัมพันธ์กับซ่งเย้อันต่อไปดีไหม แต่ทว่าในตอนนี้ที่อวี้อี่มั่วถามเธอมาแบบนี้ เธอกลับไม่รู้ว่าควรจะตอบกลับไปอย่างไรดี

เมื่อสัมผัสได้ถึงความลังเลของหญิงสาวตรงหน้าได้ นัยน์ตาของอวี้อี่มั่วดุดันขึ้นทันที สีหน้าเคร่งขรึมเย็นชามากขึ้นว่าเดิม

เขาเข้าใจดี ที่หร่วนซือซือลังเล ก็แสดงออกว่าเธอกำลังไตร่ตรองอยู่ มันแสดงออกให้เห็นว่าเธอไม่ได้มีความรู้สึกรักใคร่กับซ่งเย้อันเลยสักนิด

ภายใจในตบตีกันให้วุ่นวายไปหมด ไม่รอให้หร่วนซือซือได้ทันเอ่ยอะไร เขาก็เอ่ยเสียงเข้มขึ้นมาว่า "ฉันเข้าใจแล้ว"

หร่วนซือซือหลุดจากภวังค์ ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างไม่เป็นสุขว่า "ฉัน…ฉันยังไม่ทันจะได้พูดอะไรเลยนะคะ!"

เธอพึ่งจะพูดจบ ก่อนที่จะมองไม่เห็นอะไร สายตากลับถูกอกแกร่งของร่างสูงโปร่งของฝ่ายชายปิดกั้นเอาไว้ด้วยท่าทางน่าเกรงขาม เธอรีบเงยหน้าขึ้น มองเห็นนัยน์ตาสุขุมนุ่มลึกคู่นั้นของอวี้อี่มั่ว "ดังนั้นแล้ว?"

คำตอบของเธอคืออะไร?

หร่วนซือซือสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเอ่ยตอบกลับไปเสียงเบาว่า "ฉันกับเขาเป็นแค่เพื่อนกันค่ะ"

เมื่อประโยคหลุดพูดออกไปแล้ว เธอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ถ้าจะให้พูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับอวี้อี่มั่วตอนนี้ เดิมทีก็ไม่ต้องอธิบายอะไรให้มากความนัก แต่ทว่าประโยคที่พูดออกไปเมื่อสักครู่นี้ก็เป็นแค่การพูดส่งๆไปก็เท่านั้น

เมื่อได้ยินดังนั้นแล้ว ริมฝีปากของอวี้อี่มั่วเหยียดยิ้มออกมาเบาๆ นัยน์ตาเคร่งขรึมดูอ่อนลงไปเท่าตัว เพียงแต่ว่าใบหน้าของเขายังคงนิ่งเรียบเหมือนเคย เมื่อสบมองไปที่เธอหนึ่งรอบ ก็เอ่ยเสียงราบเรียบออกมาว่า "เป็นแบบนี้ก็ดี"

พูดไปพลาง เขาก็หมุนตัวไปพลาง เดินตรงไปที่โซฟาก่อนจะล้มตัวนั่งลง

หร่วนซือซือยืนอยู่ที่เดิม รู้สึกสับสนมึนงงเล็กน้อย ก่อนที่จะดึงสติกลับมาได้ สบมองไปยังอวี้อี่มั่วที่นั่งวางมาดอยู่บนโซฟา ก่อนที่จะอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วออกมา

ทำไมเธอถึงรู้สึกได้ว่า วันนี้เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะกลับไปกันนะ? ตอนนี้ก็ดึกมากแล้วด้วย……

"แค่ก…"หร่วนซือซือกระแอมกระไอออกมา ก่อนจะสบมองไปยังนาฬิกาครั้งหนึ่ง "ฉัน…จะพักผ่อนแล้วค่ะ"

อวี้อี่มั่วตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบกลับมาแค่ว่า "อืม"

นอกจากนั้นแล้ว ก็ไม่ได้มีท่าทีขยับตัวไปมากกว่านั้น

เมื่อเห็นเขามีปฏิกิริยาตอบกลับมาดังนั้น หร่วนซือซือจึงรวบรวมความกล้าแล้วเอ่ยถามขึ้นอีกประโยคหนึ่งว่า "คุณ…ไม่กลับหรือคะ?"

หรือว่า เขายังคิดที่จะอยู่ที่นี้งั้นหรือ?

อวี้อี่มั่วสบมองผ้าที่พันเอาไว้รอบแขนหนึ่งรอบ นัยน์ตาเป็นประกายแวววาว สีหน้ายังคงไม่แปรเปลี่ยนไปจากเดิม "เธอติดหนี้ฉัน และยังไม่ได้ชดใช้"

หร่วนซือซือไม่คิดอะไรให้มากความ ก่อนจะรีบถามกลับไปว่า "ฉันติดหนี้อะไรคุณหรือคะ?"

เมื่อเอ่ยถามออกไปแล้ว หร่วนซือซือถึงจะหวนนึกถึงเรื่องที่พึ่งเกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้ได้ ทว่าเมื่อคำพูดเมื่อได้เอื้อนเอ่ยออกไปแล้ว จะให้กลืนน้ำลายตัวเองตอนนี้ก็คงไม่ทันเสียแล้ว

เป็นไปตามคาด อวี้อี่มั่วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้เธอ นัยน์ตาสุขุมมิอาจคาดเดาอารมณ์ได้

เธอคิดว่าเธอจะกลืนน้ำตัวเองอย่างนั้นหรือ? ฝันไปเถอะ

เมื่อสาวเท้าเข้าไปไกลแล้ว เขาสบตามองเธอพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย มุมปากยกยิ้มขึ้นสูงก่อนจะถามกลับไปว่า "เธอคิดว่าไงล่ะ? เธอติดหนี้อะไรฉันไว้ล่ะ?"

หร่วนซือซือขบฟันเข้าหากันแน่น ใบหน้าแดงก่ำขึ้นโดยไม่รู้ตัว เธอสูดหายใจเข้าลึกๆหนึ่งครั้ง สองมือกำเข้าหากันจนแน่น

ในเวลานี้ ถึงแม้ว่าในใจเธอจะรู้อย่างชัดเจนแต่ก็ไม่สามารถที่จะพูดมันออกมาได้ ทำได้เพียงแค่แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เท่านั้น!

เธอยื่นมือออกไปผลักอวี้อี่มั่วให้ถอยห่าง "ฉัน…ไม่รู้ค่ะ นี่ก็ดึกมากแล้วนะคะ คุณกลับไปเถอะ รีบกลับ……"

มือเล็กขาวใสทั้งสองข้างของเธอยื่นออกไป มันดันทาบทับลงบนอกแกร่งของอวี้อี่มั่ว คิดไม่ถึงเลยว่า ความรู้สึกที่ได้สัมผัสกับหน้าอกที่แข็งแรงของชายหนุ่มมันจะให้ความรู้สึกแบบนี้นี่เอง ทั้งล่ำสัน ทั้งแข็งแรง กล้ามเนื้อทุกมัดมันดูแข็งแรงทุกสัดส่วนไปหมด

หร่วนซือซือชะงักนิ่ง มือทั้งสองข้างยังคงอยู่บนตัวของอวี้อี่มั่วอยู่พักใหญ่ แถมปลายนิ้วยังเผลอกดย้ำไปมาอีกด้วย

ที่แท้มันก็คือความรู้สึกแบบนี้เองสินะ……

เธอยังคงไม่หลุดออกจากภวังค์ สีหน้าของอวี้อี่มั่วตอนนี้เคร่งเครียดมากขึ้นกว่าเดิมแล้ว

เมื่อก่อนไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าที่จะลวนลามสัมผัสเขามาก่อน เธอพูดว่าเธออยากจะให้เขากลับไปได้แล้ว แต่ทว่าทำไมการกระทำกลับตรงกันข้ามกันเสียอย่างนี้นะ หรือว่านี่คือประโยคที่คนเขาชอบพูดกันบ่อยๆว่า "ปากพูดว่าไม่เอา แต่ร่างกายกลับซื่อตรงมากกว่า" กันนะ?

หรือว่าเธอก็ทำแบบนี้กับผู้ชายคนอื่นเหมือนกัน?

ริมฝีปากเย็นยะเยือกขบเม้มเข้าหากัน นัยน์ตาทั้งสองข้างของเขาเป็นประกายไฟ เขายื่นมือออกไป รวบมือของหร่วนซือซือที่ไม่ทันได้เก็บกลับไปเข้าไว้ด้วยมือเดียว

"หร่วนซือซือ เธอคิดที่จะทำอะไร?"

ฉวยโอกาสเอารัดเอาเปรียบเขางั้นหรือ ยังฉวยโอกาสเอาเปรียบเขาไม่พออีกหรือไง?

"ฉัน……ไม่ใช่นะคะ!"หร่วนซือซือเบิกตากว้าง กลับเริ่มหวั่นใจขึ้นมาเล็กน้อย

ไม่รอให้เธอได้พูดอธิบายอะไร อวี้อี่มั่วย่อตัวลง ก่อนจะรวบเอวแล้วอุ้มเธอขึ้นมาทันที

"อ๊ะ! คุณ….."

เธอส่งเสียงด้วยความตกใจ แต่ทว่าเวลานี้กลับสายไปเสียแล้ว อวี้อี่มั่วอุ้มเธอเอาไว้ก่อนจะสาวเท้ายาวก้าวตรงไปทางห้องนอนทันที

เมื่อเข้าไปในห้องนอนแล้ว เธอก็ถูกวางลงบนเตียง ร่างกายที่ยังคงอ่อนระทวยนอนแผ่หลาอยู่บนเตียงกว้างไม่นานนัก ทันใดนั้นเอง ร่างสูงโปรงของชายหนุ่มก็ตามเข้ามาทาบทับกักขังเธอเอาไว้ใต้อาณัติทันที

"ไม่ได้นะคะ……"

อวี้อี่มั่วลงน้ำหนักส่วนหนึ่งไว้บนร่างเธอ ก่อนจะค่อยๆปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกด้วยมือข้างเดียวทีละเม็ด สบมองไปทางเธอก่อนจะเลิกคิ้วถามขึ้นว่า "ทำไมจะไม่ได้ล่ะ? ทำให้ไฟติดแล้ว คิดจะไม่รับผิดชอบหรือไง?"

"หรือจะบอกว่า เธอไม่พอใจกับร่างกายของฉันงั้นหรือ?"

หร่วนซือซือตกตะลึงจนตาค้าง รู้สึกเป็นใบ้ไปชั่วขณะ ไม่รู้ว่าควรจะตอบกลับอย่างไรดี ใบหน้าแดงซ่านจนเลือดแทบจะไหลย้อยออกมาอยู่แล้ว

ทันใดนั้นเอง ร่างทั้งร่างก็เย็นวาบ ก่อนจะตามมาด้วยร่างกายที่ร้อนผ่าวราวกับเตาหลอม ทั้งไฟทั้งน้ำผสมผสานกันอย่างลงตัว ร่างกายของเธอสั่นสะท้านไปทั่วร่าง ไม่มีแรงที่จะผลักเขาให้ถอยห่างอีกต่อไปแล้ว……

คืนนั้น หลับสนิทโดยที่ไม่ฝันเลย หร่วนซือซือหลับสนิทราวกับว่าไม่เคยเป็นมาก่อน

เมื่อรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา พระอาทิตย์ก็เริ่มเข้างานแล้ว โชคดีที่เป็นวันเสาร์ ไม่จำเป็นที่จะต้องไปทำงาน

หร่วนซือซือหันศีรษะ สบมองไปยังช่องว่างที่มีแสงลอดผ่านตรงผ้าม่าน ก็รับรู้ได้ทันทีเลยว่าตอนนี้สายแล้วแน่ๆ

เธอค่อยๆขยับตัวทีละน้อย เมื่อมองไปทางด้านข้างก็เห็นกล้ามเนื้อเรียงตัวสวยของชายหนุ่มโผล่พ้นผ้าห่มออกมา ก็ตกใจอย่างสุดขีด

เธอยังคงไม่ชินสักทีที่เวลาตื่นเช้าขึ้นมา แล้วมีคนจากทางด้านข้างเพิ่มมาอีกคน

เมื่อดูท่าแล้วว่าคนข้างกายยังไม่ตื่น หร่วนซือซือจึงรีบนำผ้าห่มมาห่อร่างกายเอาไว้ ก่อนที่จะรีบไปหยิบชุดนอนสะอาดสะอ้านจากตู้ขึ้นมาสวมใสทันที

ใครจะรู้ล่ะว่าเมื่อหันกลับไปแล้ว ชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียงกลับตื่นขึ้นมาแล้ว มือไม้ถูกยกขึ้นมาเกาที่ศีรษะไปมา นัยน์ตาสุกสกาวจับจ้องมาที่เธอ

หร่วนซือซือแผ่นหลังแข็งทื่อ เอ่ยขึ้นด้วยความโกรธและอับอายว่า "คุณ……คุณตื่นขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ!"

เมื่อครู่นี้ที่เธอกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่ได้สวมใส่อะไรเลยนะ!

อวี้อี่มั่วสีหน้าไม่แปรเปลี่ยนไปเลยสักนิด ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยความเบิกบานใจว่า "เมื่อกี้นี้ ตอนที่เธอกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าน่ะ"

เมื่อได้ยินดังนั้น หร่วนซือซือมีสีหน้าเปลี่ยนสี อยากที่จะหาถังอะไรสักอย่างมาแล้วเอาหน้ามุดลงไปเหลือเกิน นี่มันโคตรจะอึดอัดเลย!

เมื่อเปรียบเทียบกับเธอที่ขี้โวยวายแล้ว อวี้อี่มั่วดูสุขุมนุ่มลึกกว่ามาก เขาลงจากเตียงด้วยท่าทางเชื่องช้า เผยให้เห็นกล้ามเนื้อแข็งแรงและขายาวทั้งสองข้าง จุดตรงกึ่งกลางถูกผ้าห่มปกคลุมเอาไว้อย่างหมิ่นเหม่

เมื่อเห็นภาพดังนั้นแล้ว หร่วนซือซือเลือดไหลเวียนไปทั่วร่าง รู้สึกเหมือนสมองจะระเบิด

ภาพที่ปรากฏในสายตา คล้ายกับผู้ชายที่อยู่ริมชายชาดที่ขึ้นปกนิตยสารในยุคเจ็ดศูนย์แปดศูนย์ก็ไม่ปาน กล้ามเนื้อแข็งแรง ล่ำสัน ดึงดูดสายตา

เมื่อรู้สึกถึงสายตาอันเร้าร้อนของหญิงสาว อวี้อี่มั่วแทบจะยกยิ้มมุมปากขึ้นในทันที ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นอย่างอารมณ์ดีว่า "เมื่อคืนยังมองไม่พออีกหรือไง?"

ประโยคนั้น เมื่อพูดจบหร่วนซือซือถึงได้สติกลับคืนมา ก่อนจะกุลีกุจอเบนสายตาหลบไปทางอื่น ใบหน้าร้อนฉ่าไปหมด

เรื่องนี้จะโทษเธอก็ไม่ได้ อวี้อี่มั่วหุ่นดีมากเกินไปจริงๆ จนบางทีเธอก็อดไม่ได้……

ทว่า ถูกคู่กรณีจับได้คาหนังคาเขาเสียแล้ว นี่มันจะหน้าขายหน้าเกินไปแล้ว!

เมื่อรอเขาให้เดินเข้าห้องน้ำไปแล้ว หร่วนซือซือจึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

หลังจากนั้นก็รอให้อวี้อี่มั่วออกมา เธอหยิบผ้าขนหนูขึ้น ก้มหน้าแล้วเดินเข้าไปยังห้องอาบน้ำ เพื่อหลบเลี่ยงการปะทะหน้ากับเขา

กลุ้มอกกลุ้มใจอยู่เป็นครึ่งวัน หร่วนซือซือคิดว่าเวลานี้อวี้อี่มั่วควรที่จะจากไปแล้ว จึงยอมออกมาจากห้องน้ำ

เมื่อสบมองไปรอบบริเวณ ไม่พบชายหนุ่มในห้องนอน หร่วนซือซือจึงลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะค่อยๆเดินเข้าไป

ใครจะรู้ เมื่อออกมาจากห้องนอนแล้ว หร่วนซือซือกลับได้ยินเสียงบางอย่างดังลอยออกมาจากทางห้องครัว หัวใจของเธอบีบรัดเข้าหากันแน่น ก่อนจะรีบสาวเท้าก้าวเดินไปทางนั้นทันที

เมื่อเดินมาถึงหน้าประตู เธอกลับได้กลิ่นหอมลอยมาปะทะที่จมูกก่อน หลังจากนั้นจึงตามมาด้วยแผ่นหลังที่คุ้นเคย ที่กำลังวุ่นอยู่กับการทำอาหาร

อวี้อี่มั่วยังคงไม่จากไปไหน แถมยังกำลังทำอาหารเช้าอยู่ด้วย!

Options

not work with dark mode
Reset