ดั่งรักบันดาล 134

ตอนที่ 134

ในตอนนั้นเอง หร่วนซือซือเบิกตากว้าง ร่างทั้งร่างแข็งทื่อไปหมด

สองวินาทีหลังจากนั้น เธอถึงมีสติกลับคืนมา ราวกับว่าไปกดโดนปุ่มเปิดปิดอะไรสักอย่าง ร่างทั้งร่างถึงดีดตัวลุกขึ้นทันที

"คุณ…อวี้อี่มั่ว คุณคิดจะทำอะไร?"

เธอโกรธจนแทบจะกระทืบเท้า ทว่าเมื่อสบมองสายตาซื่อตรงที่ไม่ปกปิดความรู้สึกอะไรเลยของฝ่ายชายแล้ว ใบหน้ากลับเห่อร้อนขึ้นมาทันที

เมื่อครู่ตรงที่ที่ถูกจูบไปยังคงมีร่องรอยอุ่นร้อนของเขาอยู่เลย มันชาๆไปหมด รู้สึกร้อนนิดหน่อย

เธอคิดเพียงแค่จะทำแผลง่ายๆให้เขา แต่ทว่ากลับโดนเขาฉวยโอกาส เอารัดเอาเปรียบเธอ

อวี้อี่มั่วเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ นัยน์ตาฉายแววขบขันอย่างไม่ปกปิดอะไร "ฉันทำไม?"

"คุณ…คุณว่าคุณอะไรนะ!"

หร่วนซือซือก้าวถอยหลัง รักษาระยะห่างกับเขาเอาไว้

เขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะยื่นแผลที่แขนให้เธอดู "นี่ไม่ใช่แผลจากฝีมือของเธอหรือไง?"

"แล้วอย่างไรล่ะคะ?"

อวี้อี่มั่วเอ่ยขึ้นอย่างไม่ทุกข์ร้อนว่า "ดังนั้นเธอจะต้องชดใช้ให้ฉัน"

พูดไป เขาก็สาวเท้ายาวขึ้นไป เดินตรงไปหาเธอ

หร่วนซือซือตกตะลึง ก่อนจะสาวเท้าก้าวถอยหลัง ใครจะรู้ล่ะว่าขาจะไปสะดุดเข้ากับโซฟา ก่อนที่จะล้มลงไปทันที

เธออยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน ยังไม่ทันที่จะได้ลุกขึ้นดี ทว่าอวี้อี่มั่วกลับเดินตรงเข้ามา ย่อตัวลง มือทั้งสองข้างเท้าเข้ากับโซฟา กักขังเธอเอาไว้ใต้อาณัติ

หร่วนซือซือรู้สึกจิตใจไม่สงบ สบมองนัยน์ตาของอวี้อี่มั่ว เธอก็รู้สึกราวกับว่าเขาจะแทบจะจับเธอกินเข้าไปทั้งตัวก็ไม่ปาน

"คุณคิดจะทำอะไรคะ?"

อวี้อี่มั่วขยับตัวเข้าใกล้ นัยน์ตาสุขุมนุ่มลึกเป็นประกาย "ทายสิ"

"ฉันไม่……อื้อ……"

หร่วนซือซือยังไม่ทันที่จะได้พูดจบ ริมฝีปากก็ถูกปิดเสียแล้ว ร่างกายสูงใหญ่ของชายหนุ่มกดทับแนบชิดลงไป ทำให้เธอแนบไปกับโซฟากว้าง ขยับไปไหนไม่ได้

เพิ่มแรงขึ้นเป็นเท่าตัว อวี้อี่มั่วบังคับให้เธอเปิดริมฝีปากออกอย่างง่ายดาย ก่อนจะเพิ่มระดับความลึกซึ้งขึ้นไปอีก

"ไม่……"

หร่วนซือซือร่างทั้งร่างแข็งทื่อ ราวกับมีน้ำท่วมปาก ไม่รอให้เธอได้มีสติกลับคืนมา ก็มีแรงบางอย่างสัมผัสเข้าที่สะโพกของเธอ โอบกอดเธอเอาไว้แน่น

ร่างทั้งสองแนบชิดกันโดยไม่มีช่องว่าง หร่วนซือซือรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกแนบเข้ากับเตารีดร้อนๆ ถูกร่างกายของเขาหลอมละลายไปอย่างช้าๆ……

ลมหายใจถี่เร็วขึ้นตามลำดับ อวี้อี่มั่วตะโบมจูบอย่างไม่รู้จักพอ ฝ่ามืออุ่นร้อนของเขาลูบไล้ไปทั่วสะโพกผายของเธอ เลื่อนขึ้นเบาๆ ก่อนที่จะดันเสื้อของเธอขึ้นไปด้านบน……

หร่วนซือซือร้อนรุ่มไปทั้งตัว ใบหน้าแดงก่ำ รู้สึกว่าเขากำลังสัมผัสไปทั่วทั้งตัว เธอบิดตัวเข้าหากันโดยไม่รู้ตัว นัยน์ตาของอวี้อี่มั่วขึงขังขึ้น การกระทำรุนแรงขึ้นกว่าเดิม

ผู้หญิงคนนี้ รีบร้อนขนาดนี้เลยหรือ?

ในวินาทีต่อมา หร่วนซือซือรู้สึกหดเกร็งไปที่แผ่นหลัง มือของฝ่ายชายกำลังปลดตะขอของเธออยู่ทางด้านหลัง ทันใดนั้นเอง เธอก็แทบจะสามารถเดาได้ในทันทีเลยว่าเขาคิดจะทำอะไร!

"อย่า……"เมื่อได้สติกลับคืนมา เธอก็รีบผลักไสเขาให้ถอยห่างออกไปทันที

เธอจะทำแบบนี้กับเขาไม่ได้!

หากว่าเป็นเมื่อก่อน ที่พวกเขาเป็นสามีภรรยากัน เธอก็จะไม่พูดขัดอะไร แต่ทว่าตอนนี้พวกเขาคืออดีตสามีอดีตภรรยากัน อีกทั้งอวี้อี่มั่วก็มีแฟนแล้วด้วย!

อวี้อี่มั่วนัยน์ตาดุดันขึ้น ฝ่ามือใหญ่บีบเค้นไปที่สะโพกของเธอ ไม่ว่าเธอจะผลักอย่างไร เขากลับไม่ขยับเขยื้อนเลยสักแม้แต่น้อย

หร่วนซือซือเอ่ยขึ้นอย่างตกใจว่า "พวกเราไม่ควรทำอย่างนี้……"

อวี้อี่มั่วเปิดปากเอ่ยเสียงเรียบขึ้นมาว่า"สายไปแล้วล่ะ"

มาจุดไฟใส่เขาแบบนี้แล้ว กลับไม่คิดที่จะรับผิดชอบ แบบนี้เห็นแก่ตัวไปหน่อยแล้ว

สบมองเขาที่ยังคงผลักแล้วไม่ไปไหน หร่วนซือซือนัยน์ตาแดงก่ำไปหมด ในเวลานั้นเอง "ตือดึง–" เสียงออดจากหน้าประตูก็ดังขึ้น ร่างของทั้งสองคงหยุดชะงักโดยไม่ได้นัดหมายขึ้นมาในทันที

อวี้อี่มั่วขมวดคิ้วแน่น สบมองไปยังหร่วนซือซือ นัยน์ตาเต็มไปด้วยคำถาม

เวลานี้แล้ว ยังมีคนมาหาเธออีกงั้นหรือ?

หร่วนซือซือสมองขาวโพลน ก่อนจะรีบผลักเขาออกไป กุลีกุจอจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทาง ก่อนจะกดเสียงต่ำว่า "อาจจะเป็นอันอันที่มาหาฉัน คุณอย่าส่งเสียงนะคะ……"

พูดไป เธอก็รีบสาวเท้าไปที่ประตูอย่างรวดเร็ว สบมองผ่านตาแมวครั้งหนึ่ง ก่อนจะชะงักนิ่งไปทันที

เป็นซ่งเย้อัน! ทำไมเขาถึงมาหาเธอในเวลาแบบนี้กันนะ?

คล้ายกับว่าได้ยินเสียงมาจากในตัวห้อง ซ่งเย้อันจึงเอ่ยถามขึ้นว่า "ซือซือครับ อยู่บ้านหรือเปล่า?"

หร่วนซือซือยืนอยู่ด้านในของประตู เมื่อได้ยินเสียงเรียกของเขา รู้สึกตื่นตระหนกตกใจเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับไปว่า "ฉัน…ฉันอยู่ค่ะ"

พูดไป เธอก็ค่อยเปิดประตูออกช้าๆ เพียงแค่แง้มออกเป็นช่องเล็กๆเท่านั้น "มาหาฉัน มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ?"

เมื่อเห็นหร่วนซือซือ ใบหน้าของซ่งเย้อันก็ยิ้มแย้มขึ้นมาทันที ก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงเบาว่า "พักผ่อนอยู่หรือเปล่าครับ?"

ใบหน้าของหร่วนซือซือไม่เป็นธรรมชาติเลยสักนิด ก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงเบาว่า "กำลังจะพักผ่อนค่ะ"

"ดูท่าผมคงบุ่มบ่ามมาหาแล้วสินะครับ" ซ่งเย้อันคลี่ยิ้มกว้าง นัยน์ตาอ่อนโยน ก่อนจะเอ่ยเสียงเบาว่า "แต่ว่าผมแค่จะมาส่งของเท่านั้นเองครับ"

พูดไป เขาก็หยิบกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินขึ้นมาทันที แล้วค่อยๆเปิดออกอย่างช้าๆ "ผมพึ่งกลับจากไปดูงานที่ญี่ปุ่นมาครับ เผอิญไปเห็นสร้อยเส้นนี้มาพอดี คิดว่าคงต้องเข้ากับคุณมากแน่ๆ ก็เลยซื้อมาครับ เมื่อครู่นี้ผ่านหน้าบ้านคุณพอดี ก็เลยแวะเอามาให้น่ะครับ"

บนผ้ากำมะหยี่สีดำมีสร้อยเส้นเล็กวางอยู่ จี้เป็นรูปดาวผ่านการเจียระไนอย่างดี เป็นประกายต้องแสงแวววาว

เป็นรูปแบบที่เธอชื่นชอบจริงๆ

"นี่……แพงไปนะคะ" หร่วนซือซือปฏิเสธอย่างนอบน้อม "ฉันรับไว้ไม่ได้หรอกค่ะ"

ตั้งแต่ที่เธอรู้จักกับซ่งเย้อันมา ก็พบเจอกับเขาเพียงไม่กี่หน มาวันนี้เขายังให้เครื่องประดับกับเธออีก เธอจะกล้ารับได้อย่างไรกัน?

ซ่งเย้อันขมวดคิ้ว ก่อนจะเอ่ยด้วยท่าทีสบายๆว่า "เพื่อนกันนี่ครับ แค่ของขวัญเล็กๆน้อยๆเอง ผมก็ซื้อมาฝากอันอันนะ คุณเป็นเพื่อนสนิทของเธอ ยังไงก็ต้องซื้อมาฝากด้วยอยู่แล้วครับ"

หร่วนซือซือลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สบมองเขาที่ยื่นส่งกล่องของขวัญมาให้ หากว่ายืนกรานที่จะปฏิเสธต่อไปล่ะก็ เธอก็คงจะดูแล้งน้ำใจไปเล็กน้อย อีกทั้งเขายังอุตส่าห์มาส่งของให้เองถึงที่แบบนี้ เธอจะไม่รับก็ไม่ได้

"ขอบคุณนะคะ เย้อัน"

หร่วนซือซือรับกล่องของขวัญมาถือ ก่อนจะเอ่ยขอบคุณเขาไป

ซ่งเย้อันยิ้มกว้าง ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า "เพื่อนกันนี่ ขอบคงขอบคุณอะไรกันครับ เอาล่ะ นี่ก็ดึกแล้ว คุณพักผ่อนเถอะครับ"

หร่วนซือซือรู้สึกอบอุ่นไปทั่วหัวใจ สบมองเขาที่หมุนตัวเดินจากไป ถึงจะค่อยๆปิดประตูลง

เมื่อหมุนตัวกลับมา เธอก็รู้สึกตัวเย็นยะเยือกขึ้นมาทันที ก่อนจะช้อนสายตามองขึ้น สบตาเข้ากับนัยน์ตาเย็นชาคู่นั้นของอวี้อี่มั่ว หร่วนซือซือก็รู้สึกว่าบรรยากาศโดยรอบเย็นยะเยือกขึ้นมาในทันที

หร่วนซือซือขบเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนจะรวบรวมความกล้าแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า "คุณ…มองฉันแบบนั้นทำไมคะ?"

ทำอย่างกับว่าเธอทำเรื่องอะไรผิดต่อเขาอย่างนั้นแหละ

อวี้อี่มั่วได้ยินดังนั้น กลับไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ แต่ทว่ากลับลุกยืนขึ้น สาวเท้ายาวก้าวเข้ามาหาเธอ

สาบเสื้อเชิ้ตบนร่างของชายหนุ่มถูกปลดกระดุมแยกออกจากกัน เผยให้เห็นกล้ามเนื้อแข็งแรงน่ามอง บวกเข้าผมเผ้ายุ่งเหยิงเล็กน้อยของเขา แล้วสาวเท้าเดินมาทางเธอด้วยท่าทางคุกคาม อดที่จะทำให้คนอื่นคิดไปไกลไม่ได้เลย

รอให้ชายหนุ่มเดินตรงมาตรงหน้า หร่วนซือซือถึงจะหลุดพ้นจากภวังค์ออกมา ทันใดนั้นเอง มือกลับว่างเปล่า กล่องของขวัญถูกคนมือดีฉวยออกไปเสียแล้ว

อวี้อี่มั่วเปิดกล่องออกดู สบมองไปยังสร้อยเส้นนั้นหนึ่งครั้ง สีหน้าดุดันขึ้นมากกว่าเดิม ก่อนที่เขาจะทิ้งมันไว้ตรงที่ข้างโต๊ะ แล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกว่า "ไม่เห็นจะสวย"

หร่วนซือซือชะงักค้างไปทันที คิดไม่ถึงว่าเขาจะทำแบบนี้

เธอไม่คิดอะไรให้มากความ ก่อนจะเอ่ยปากตอบกลับไปอย่างรวดเร็วว่า "ฉันคิดว่าสวยดีออกนะ"

เดิมทีอวี้อี่มั่วคิดจะหันกลับไป เมื่อได้ยินประโยคนั้นของเธอ ฝีเท้ากลับหยุดชะงักลง ก่อนจะหมุนตัวกลับมาหา

สายตาของชายหนุ่มแปรเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกขึ้นทันที น้ำเสียงติดเย็นชาขึ้นมากกว่าเดิม "เธอชอบหรือ?"

ถึงแม้ว่าหร่วนซือซือจะดูโง่ แต่เธอก็มองออกได้ว่าชายหนุ่มไม่สบอารมณ์เสียแล้ว เธอสูดหายใจเข้าลึกๆหนึ่งครั้ง ก่อนจะตอบเสียงเรียบกลับไปว่า "ก็…ใช้ได้"

"ใช้ได้งั้นหรือ?" อวี้อี่มั่วสาวเท้าเข้ามาหา ไล่บี้เธอ นัยน์ตาจ้องเขม็งมองเธอจากมุมที่สูงกว่า ก่อนจะเอ่ยปากถามขึ้นว่า "ถ้าอย่างนั้นแล้วชอบเขาหรือเปล่า?"

คำว่า"เขา"ของเขาในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงคนอื่นคนไกลเลย แต่กลับหมายถึงซ่งเย้อันนั่นเอง

Options

not work with dark mode
Reset