ดั่งรักบันดาล 103

ตอนที่ 103

การประชุมเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ สวี่เฟิงหมิงกลับมามีท่าทีของรองประธานบริษัทดั่งเดิม หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องแสดงความคิดเห็นอะไรบ้าง

หร่วนซือซือนั่งอยู่หน้าโต๊ะ เงยหน้าสบมองชายหนุ่มที่กำลังพูดจาฉะฉานด้วยความเรียบเฉยอยู่ที่โต๊ะประชุมด้านหน้าสุด จิตใจสับสนวุ่นวาย

"ครับ ที่ควรจะพูดก็พูดไปหมดแล้ว ตอนนี้จะไม่พูดออกนอกประเด็นแล้วนะครับ ผมพึ่งจะมาที่บริษัท อาจจะยังไม่คุ้นเคยกับสถานการณ์ของทุกแผนกมากนัก ขอให้ผู้จัดการทุกท่านได้สลับขึ้นมารายงาน ตอนนี้ในแผนกกำลังรับช่วงต่อโครงการอะไรอยู่บ้าง เพื่อให้ผมเข้าใจสถานการณ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้"

สวี่เฟิงหมิงพูดจบ ผู้จัดการแผนกต่างๆก็ลุกขึ้นยืนเพื่อสลับกันรายงานสาระสำคัญอย่างละเอียด หร่วนซือซือบันทึกจุดสำคัญของการประชุม ยังคงมีอาการใจลอยเล็กน้อย

เธอควรจะรับมือกับสวี่เฟิงหมิงอย่างไรดี อีกทั้งทำไมเขาถึงต้องทำแบบนี้กับเธอด้วยนะ?

สมองเต็มไปด้วยคำถาม ทุกแผนกรายงานสถานการณ์กันไปไม่น้อยแล้ว เธอยังคงไม่มีปฏิกิริยาตอบรับอะไร

เมื่อเวลาผ่านไป การประชุมดำเนินมาสู่ช่วงสุดท้ายแล้ว สวี่เฟิงหมิงยืนขึ้น นัยน์ตาแวววาวเป็นประกาย ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ่มต่ำว่า "โอเคครับ วันนี้ก็แค่ทำความเข้าใจง่ายๆก็พอแล้วล่ะครับ หลังจากเสร็จประชุมขอให้ทุกแผนกส่งหนังสือภารกิจของแผนกมาอย่างละเล่มด้วยนะครับ ส่งไฟล์ให้กับผู้ช่วยชั่วคราวของผมอย่างหร่วนซือซือก็โอเคแล้วครับ"

เมื่อรู้สึกได้ว่ามีสายตาของคนจำนวนมากสบมองตรงมาที่เธอ หร่วนซือซือถึงได้สติกลับคืนมา ก่อนจะนิ่งเงียบและไม่ได้พูดอะไร

"งั้น ถ้าไม่มีคำถามอะไรแล้ว ก็เลิกประชุมแล้วกันครับ"

เมื่อทิ้งประโยคจบ สวี่เฟิงหมิงสาวเท้ายาวก่อนที่จะเดินออกจากห้องประชุมไป

เพื่อนร่วมแผนกทุกคนเห็นสถานการณ์ดังนั้นแล้ว ก็ค่อยๆทยอยลุกขึ้นยืน ก่อนจะหันไปพูดคุยกันด้วยเสียงเบาๆ หัวข้อที่พูดคุยกันส่วนใหญ่ก็จะเป็นหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับสวี่เฟิงหมิง

"เห้อ ทำไมฉันกลับรู้สึกว่าท่านรองประธานสวี่แต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่ได้สนใจพวกเราที่เป็นคนของท่านประธานอวี้อยู่ในสายตาเลยล่ะ? ได้ยินมาว่าการประชุมครั้งนี้ก็เป็นเขาที่เรียกประชุมขึ้นมากระทันหันนี่"

"จริงหรือ? มิน่าล่ะถึงได้เป็นประกาศที่กระทันหันแบบนี้……"

"ใครจะไปรู้ล่ะ? ได้ยินมาว่ารองประธานสวี่คนนี้เมื่อก่อนเคยเป็นลูกน้องของท่านประธานอวี้นะ เล่ห์เหลี่ยมเยอะจะตาย!"

"……."

หร่วนซือซือเดินอยู่ทางด้านหลัง ได้ยินคำพูดซุบซิบนั้นทั้งหมด ภายในใจก็เริ่มไม่สงบเข้าไปกันใหญ่

หากเป็นอย่างที่ข่าวลือนี้จริงล่ะก็ ระหว่าสวี่เฟิงหมิงกับอวี้อี่มั่วมีเรื่องราวบาดหมางกัน ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วทำไมเขาถึงดึงเธอเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยกันนะ?

ไม่รอให้เธอคิดให้เข้าใจ ไม่ไกลจากนี้ก็มีเสียวุ่นวายของผู้หญิงดังลอบเข้ามาจากทางด้านนอก

"หลีทางไปให้หมด! สวี่เฟิงหมิงอยู่ที่ไหน! เขาอยู่ที่ไหน!"

หร่วนซือซือที่พึ่งจะเดินมาถึงหน้าประตูของห้องประชุม ได้ยินเสียงดังนั้นก่อนจะรีบเงยหน้ามองขึ้นทันที ก็พบว่ามีหญิงสาวแต่งกายด้วยชุดหรูหราราคาแพงท่านหนึ่ง กำลังส่งเสียงเอะอะโวยวายอยู่ในระหว่างที่เพื่อนร่วมงานทั้งหมดยังไม่ทันจะกลับไปที

หญิงสาวท่านนั้นเห็นว่าไม่ไม่ใครตอบคำถามของเธอที่ถามไปเมื่อครู่นี้ ใบหน้าขึ้นสีแดงก่ำด้วยโทสะ ก่อนจะตะโกนขึ้นอย่างบ้าคลั่งว่า "ใครคือหร่วนซือซือ? ฉันถามพวกเธอว่าใครคือหร่วนซือซือ!"

ทุกคนตกตะลึง ก่อนที่จะหันศีรษะมามองที่เธอโดยมิได้นัดหมาย คนที่ยืนบังอยู่ทางด้านหน้าของเธอค่อยๆเริ่มขยับตัวออกห่าง

หญิงสาวท่านนั้นมองตามสายตาทั้งหมดมายังทิศทางนี้ นัยน์ตาสีดำขลับมองมาทางหร่วนซือซือราวกับจะฉีกเลือดฉีกเนื้อออกเป็นชิ้นๆ เธอสวมใส่รองเท้าส้นสูง สาวเท้าก้าวเดินมาทางเธอด้วยโทสะ "เธอน่ะหรือคือหร่วนซือซือ?"

หร่วนซือซือชะงักไปนิดหน่อย ก่อนจะพยักหน้าแล้วพูดขึ้นว่า "ฉันเองค่ะ ไม่ทราบว่าคุณ……"

หญิงสาวคนนั้นยกไม้ยกมือขึ้น ก่อนจะฟาดเข้าที่ใบหน้าของหร่วนซือซืออย่างไม่ออมแรง มีเสียง "เพี๊ยะ" ดังขึ้นอย่างแรง ก่อนที่จะแทรกตัดประโยคที่เธอกำลังจะพูดถามขึ้น

หร่วนซือซือ หรือแม้กระทั่งเพื่อนร่วมงานทั้งหมดที่อยู่รอบๆนิ่งชะงักไปหมด ใครจะคิดล่ะว่าหญิงสาวคนนี้ขึ้นมาก็มาตบคนเข้าให้แล้ว

"นังสารเลว! หน้าไม่อาย! คลอดออกมาจากท้องแม่แล้วโดนเลี้ยงออกมาให้ล่อลวงผู้ชายหรือ! มีแขนมีขาแต่กลับทำเรื่องไม่ดี ทำไมต้องมาล่อลวงผู้ชายที่มีภรรยาแล้วกันนะ!"

หร่วนซือซือก้าวทอยหลังสองก้าว ใบหน้าและแก้มแสบร้อนปวดระบม "ฉัน…ฉันทำผิดอะไรต่อคุณหรือคะ?"

หากเธอจำไม่ผิด เธอกับผู้หญิงคนนี้พึ่งจะเคยพบเจอกันครั้งแรก!

หญิงสาวคนนั้นส่งเสียงชิเชอะ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงกระโชกโฮกฮากว่า "เธอไม่ได้ทำผิดอะไรต่อฉันงั้นหรือ? นังสารเลว! เธอล่อลวงสามีของฉันสวี่เฟิงหมิง! ยังต้องให้ฉันพูดให้ชัดเจนกว่านี้อีกไหม!"

เมื่อประโยคนี้ถูกพูดออกมา ชั่วขณะหนึ่งเหมือนมีระเบิดลงมาลูกหนึ่ง ระเบิดลงมาทำให้ผู้คนรอบข้างทั้งหมดแตกกระจาย คนที่เดิมทีกลับออกไปแล้วก็กลับเข้ามารวมตัวกันใหม่ นัยน์ตาสับสนมองไปทางหร่วนซือซือ ก่อนจะหันไปซุบซิบกันว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น

หร่วนซือซือก้าวทอยหลังไปอีกหนึ่งก้าว มองไปยังหญิงสาวคนดังกล่าว ก่อนที่จะสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วเริ่มอธิบาย "ไม่ใช่นะคะ ฉันไม่ได้ทำ!"

"เธอไม่ได้ทำ?"ใบหน้าของหญิงสาวคนนั้นแดงก่ำเป็นเท่าตัว ยื่นมือเข้าไปใบกระเป๋าก่อนจะหยิบภาพถ่ายออกมาปึกหนึ่ง ก่อนจะซัดเข้าไปที่ใบหน้าของหร่วนซือซืออย่างไม่ปราณี

เสียง "ฉึก" ดังขึ้น มุมขอบแข็งๆของภาพถ่ายบาดเข้าที่ใบหน้าของหร่วนซือซือ ความเจ็บแสบทำให้เธอที่มึนงงกลับมาได้สติมากขึ้น

ผู้คนโดยรอบเงียบตะลึงไปหมด หร่วนซือซือสบมองรูปที่กระจายตัวอยู่บนพื้นพวกนั้น เธอกำลังพยุงสวี่เฟิงหมิงลงบันได สวี่เฟิงหมิงที่กำลังเอนพิงมายังตัวของเธอ ภาพถ่ายถูกถ่ายให้เห็นใบหน้าของทั้งสองคนอย่างชัดเจน!

มันเป็นภาพถ่ายของเมื่อคืนวานที่โรงแรมนานาชาติเจียงโจว!

หร่วนซือซือขบกรามแน่น ทั้งประหลาดใจทั้งตกตะลึง

ทำไมเธอถึงโดนคนแอบถ่ายภาพได้กันนะ!

เธอตกใจมากก่อนจะมองไปยังผู้คนโดยรอบ ก่อนจะรีบกุลีกุจออธิบาย "นี่คือ…ไม่ใช่สิ่งที่คุณคิดอย่างแน่นอนค่ะ ท่านรองประธานสวี่เมา ฉันก็เลยช่วยพยุงเขาลงบันไดแค่นั้นเองค่ะ!"

คนรอบข้างก้าวถอยหลังในทันที สบมองไปยังเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยไม่มากก็น้อย ทั้งๆที่เมื่อสักครู่นี้ในห้องประชุม ท่าทางที่สวี่เฟิงหมิงมีต่อเธอก็ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ

หญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ยื่นมือเข้ามาคว้าเสื้อผ้าของเธอเอาไว้ ก่อนจะออกแรงกระชากแล้วพูดด้วยน้ำเสียงก้าวร้าวว่า "พวกจิ้งจอกเจ้าเล่ห์จะยอมรับว่าตัวเองเป็นชู้ไหมล่ะ!"

หร่วนซือซือสวมใส่เพียงแค่เสื้อเชิ้ตสีขาว โดนเธอออกแรงกระชากแบบนี้ ทำให้กระดุมหลุดออกจากกันโดยปริยาย เธอพยายามแกะมือหญิงสาวคนนั้น ก่อนจะรีบอธิบายว่า "ฉันกับท่านรองประธานสวี่ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกันจริงๆนะคะ!"

"มีแต่ผีเท่านั้นแหละที่เชื่อว่าพวกเธอไม่ได้มีอะไรกัน!"

หญิงสาวคนนั้นเริ่มอาละวาด ก่อนจะใช้ทั้งมือทั้งเท้าเข้าช่วย เธอยกเท้าถีบเข้าไปที่หัวเข่าของหร่วนซือซือ

ความเจ็บปวดรวดร้าวแล่นตรงไปที่หัวเข่า หร่วนซือซือเจ็บร้าวไปหมด ก่อนที่ขาจะหมดแรงอีกนิดหนึ่งก็จะล้มลงไปที่พื้นอยู่แล้ว

เธอกัดฟันแน่น โทสะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ก่อนจะเงยหน้าสบตามองหญิงสาวคนนั้น แล้วขึ้นเสียงว่า "ฉันกับเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกัน!"

เสี่ยวห่านที่เบียดเสียงผู้คนเข้ามาทางอีกด้านหนึ่ง กุลีกุจอเข้ามาช่วยพยุงหร่วนซือซือ ก็จะช่วยเธอพูดขึ้นว่า "เรื่องยังไม่ชัดเจน มีสิทธิ์อะไรมาลงไม้ลงมือทำร้ายคนคะ!"

หญิงสาวคนนั้นเห็นว่ามีคนมาช่วยหร่วนซือซือพูด ทันใดนั้นเองโทสะที่มีกลับเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว สาวเท้ายาวเข้าใกล้พวกเธอด้วยโทสะ ก่อนจะจ้องเขม็งไปที่พวกเขาแล้วพูดว่า "ยังไม่ชัดเจนงั้นหรือ? เธอให้เขาพูดเองสิ ว่าผู้หญิงในภาพถ่ายนั่นสรุปแล้วคือใช่เขาหรือเปล่า!"

เมื่อคำถามถูกส่งกลับมา บรรยากาศโดยรอบเงียบลงทันที ผู้คนทั้งหลายต่างจับจ้องไปทางหร่วนซือซือ สายตาเต็มไปด้วยความสงสัยอยากรู้และคำถาม มีบางสายตาติดประกายเยาะเย้ยและถากถางเล็กน้อย

เสี่ยวห่านก็ร้อนรน ก่อนจะรีบหันไปเร่งหร่วนซือซือ "ซือซือเธอรีบพูดสิ!"

หร่วนซือซือสูดหายในเข้าลึกๆ เหมือนมีอะไรวางอย่างจุกอยู่ที่ลำคอทำให้พูดไม่ออก ในภาพถ่ายเป็นเธอจริงๆ มือของคนที่ยื่นไปพยุงสวี่เฟิงหมิงก็คือเธอ

เธอกัดฟันแน่น ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆ "ในภาพถ่ายคือฉันเองค่ะ แต่ว่าฉันกับเขาไม่ดีมีความสัมพันธ์อะไรกันนะคะ!"

เมื่อหญิงสาวคนดังกล่าวได้ยินดังนั้นแล้ว นัยน์ตาเป็นประกายไฟด้วยโทสะ "ในที่สุดก็ยอมรับแล้วสินะ! นังหน้าไม่อาย……"

เธอง้างมือขึ้นด้วยความโกรธ ก่อนเตรียมที่จะฟาดฝ่ามืออีกข้างไปทางใบหน้าของหร่วนซือซือ

นัยน์ตามองเห็นฝ่ามือที่เตรียมที่จะประทับลงบนใบหน้า ในสถานการณ์ที่เลวร้ายนั้นเอง หร่วนซือซือหลบไม่ทันแล้ว เปลือกตารีบขยับปิดโดยอัตโนมัติ!

Options

not work with dark mode
Reset