ดั่งรักบันดาล 102

ตอนที่ 102

คุณนายหลิวมองหร่วนซือซือที่เมามายจนไม่ได้สติ ก่อนจะรีบขยับตัวหลบให้อวี้อี่มั่วเดินเข้ามา

หลังจากที่นำหร่วนซือซือวางไว้บนเตียงในห้องแล้ว คุณนายหลิวก็ดึงผ้ามาคลุมให้เธอพลางมองไปยังหวี่อี่มั่ว ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นว่า "เธอ…ทำไมเธอถึงดื่มหนักขนาดนี้!"

อวี้อี่มั่วชะงักนิ่งไป ก่อนจะตอบกลับเสียงเบาว่า "มีงานหนึ่งที่ต้องคุยกันที่บาร์ครับ เธอก็เลยดื่มเหล้าไปนิดหน่อย"

เมื่อคุณนายหลิวได้ยินดังนั้นแล้ว ไม่นานนักก็มีสีหน้าที่แปรเปลี่ยนไป "บาร์? ทำไมคุณถึงให้เธอดื่มเป็นเพื่อนได้ล่ะคะ?"

อวี้อี่มั่วขมวดคิ้ว นัยน์ตาเข้มขึ้นเล็กน้อย นิ่งเงียบและไม่ได้ตอบคำถามอะไรกลับไป

เขาคิดเอาไว้อยู่ก่อนแล้วว่าสวี่เฟิงหมิงอาจจะต้องก่อเรื่องให้เธอต้องลำบากแน่ๆ ถึงได้กำชับเป็นพิเศษแล้วว่าถ้าหากเธอมีเรื่องอะไรให้โทรศัพท์หาเขาทันที แต่ทว่าเธอกลับไม่ฟัง ถ้าหากว่าวันนี้ไม่ไปบังเอิญเจอเธออยู่ที่หน้าประตูของโรงแรมนานาชาติเจียวโจวล่ะก็ ไม่แน่ว่าอาจจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นก็เป็นได้

คุณนายหลิวเห็นเขานิ่งเงียบอยู่นาน สีหน้าก็เริ่มไม่น่าดูขึ้นเรื่อยๆ "เมื่อก่อนฉันมองคุณเป็นเหมือนลูกเขยของตัวเองแท้ๆ แต่มาตอนนี้ ซือซือหย่ากับคุณเป็นเรื่องที่ตัดสินใจถูกต้องแล้วล่ะ! คุณไปเถอะ ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณอีกต่อไปแล้ว!"

อวี้อี่มั่วมีท่าทีลังเล ก่อนจะโค้งคำนับให้คุณนายหลิวเล็กน้อยแล้วพูดเสียงเบาว่า "ขอโทษที่รบกวนครับ"

พูดจบ เขาก็หมุนตัวออกมาจากห้องนอนแล้วสาวเท้าก้าวยาวๆออกไปด้านนอก

เมื่อหันกลับมาทบทวนเรื่องราวต่างๆที่เคยเกิดขึ้น หลังจากที่หร่วนซือซือแต่งงานกับเขา เขาก็ไม่เคยที่จะทำหน้าที่ของสามีเลยจริงๆ ทั้งยังไม่ปกป้องเธอเอาไว้ให้ดี ไม่ว่าคุณนายหลิวจะพูดอะไร ภาระหน้าที่ทั้งหมดตกอยู่ที่เขา เขาก็ไม่สามารถที่จะพูดอะไรออกไปได้

เมื่อออกมาจากเขตบ้าน หลังจากที่ขึ้นรถแล้ว ตู้เยี่ยมองออกว่าสีหน้าของอวี้อี่มั่วไม่ค่อยสู้ดีมากนัก ก่อนจะรีบไถ่ถามขึ้นมาว่า "ท่านประธานอวี้ ตอนนี้จะไปที่ไหนครับ?"

อวี้อี่มั่วที่พึ่งจะได้สติกลับคืนมา เขาตอบกลับเสียงต่ำว่า "ไปโรงพยาบาล"

สองวันมานี้ เขาทุ่มไปทั้งแรงทั้งใจ จนในที่สุดก็หาไตที่เข้ากันได้กับเย่หว่านเอ๋อได้แล้ว หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายติดต่อประสานงานกันเรียบร้อยแล้ว ในช่วงนี้ต้องวางแผ่นการผ่าตัด ก่อนที่จะทำการผ่าตัด เพื่อป้องกันและรักษาให้ทุกอย่างเป็นปกติดี เขาก็ไปเฝ้าอยู่ข้างกายของเย่หว่านเอ๋อทุกคืน

มือหนายื่นมาคลึงที่บริเวณระหว่างคิ้ว ใบหน้าของอวี้อี่มั่วเต็มไปด้วยความอ่อนล้า ไม่ได้ตั้งใจที่จะก้มศีรษะลง สายตาก็ถูกดึงดูดลงไปปะทะกับรอยคราบน้ำบางอย่างเป็นสายที่บริเวณหน้าอกทันที

เขารู้สึกงุนงง ทันใดนั้นเองก็คิดถึงเหตุการณ์ที่หร่วนซือซือนอนทับอยู่ในอ้อมกอดของเขา เขาชะงักงันไปพักใหญ่ ที่แท้ก็เป็นรอยคราบน้ำลายที่เธอทิ้งเอาไว้นี่เอง

ไม่รู้ว่าทำไม เมื่อคิดถึงท่าทางของหญิงสาวเมื่อครู่นี้แล้ว ความเหนื่อยล้าและอ่อนเพลียทั้งหมดของอวี้อี่มั่วกลับมลายหายไปทันที มุมปากถูกยกยิ้มขึ้นอย่างไม่รู้ตัว

เขาติดค้างหร่วนซือซือ วันใดวันหนึ่งไม่ช้าก็เร็ว

เขาจะต้องชดเชยให้กับเธออย่างแน่นอน

……

เช้าวันต่อมา ยามเมื่อหร่วนซือซือตื่นขึ้นมาแล้ว รู้สึกเพียงแค่ว่าปวดศีรษะจนแทบจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ลำคอแห้งผากจนแทบจะคล้ายการสำลักควันแล้ว

เธอลุกขึ้นนั่งด้วยความยากลำบาก หยิบน้ำครึ่งแก้วที่อยู่บนหัวเตียงขึ้นมาดื่มจนหมด เมื่อวางแก้วน้ำลงแล้ว ความทรงจำที่แตกเป็นแผ่นๆก็ค่อยๆสมานกลับเข้ามาในสมองอย่างเชื่องช้า

เมื่อวานเธอกลับมาอย่างไรกันนะ? เธอไม่มีความทรงจำในส่วนนั้นเลยจริงๆ

ในช่วงเวลานั้นเอง ประตูอยู่ๆก็ถูกเปิดออก คุณนายหลิวยกน้ำอุ่นหนึ่งแก้วแล้วเดินเข้ามา เมื่อเห็นเธอตื่นแล้วก็รีบกุลีกุจอเข้ามาไถ่ถามในทันที "ซือซือ ลูกเป็นอย่างไรบ้าง?"

"หนูปวดหัวนิดหน่อยค่ะ……"หร่วนซือซือสูดลมหายใจเข้า ก่อนจะยื่นมือไปรับน้ำอุ่นมาถือไว้ ดื่มไปไม่กี่อึกแล้วถามขึ้นต่อว่า "แม่คะ เมื่อวานหนูกลับมาอย่างไรเหรอคะ?"

คุณนายหลิวมีสีหน้าแปรเปลี่ยนไปในทันที คล้ายกับว่าไม่ค่อยอยากจะพูดออกมาเท่าไหร่นัก ก่อนจะพูดอย่างขอไปทีว่า "ลูกรีบลุกขึ้นเถอะ ตอนนี้ก็สายมากแล้ว ยังต้องไปทำงานอีกนะ!"

หร่วนซือซือตอบรับคำก่อนจะถามขึ้นต่อว่า "เมื่อวานหนูกลับมาเองใช่ไหมคะ?"

คุณนายหลิวขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะพูดติดโทสะว่า "คือเมื่อวาน…อวี้อี่มั่วมาส่งลูกกลับมาจ้ะ"

"อะไรนะคะ?"

ที่แท้เป็นเขาหรือ? แต่ทำไมเธอถึงจำอะไรไม่ได้สักนิดหนึ่งเลยล่ะ?

"ช่างเถอะ ช่างเถอะ คิดไม่ออกก็ไม่ต้องคิดแล้ว รีบไปล้างหน้าป้วนปากเถอะจ้ะ เดี๋ยวไปทานข้าวเช้าอีก!"

คุณนายหลิวดันหร่วนซือซือให้เข้าไปในห้องน้ำ เธอจึงไม่ได้ถามอะไรต่อ

เมื่อรับประทานอาหารเช้าเสร็จ หร่วนซือซือก็ตรงไปทำงานทันที พึ่งจะถึงแผนก ก็ได้รับประกาศว่าอีกสักครู่จะมีประชุมแผนกใหญ่

การประชุมแผนกใหญ่ไม่เหมือนกับการประชุมในแผนกทั่วไป เพราะมันคือการเปิดประชุมที่มีพนักงานคนสำคัญๆของแต่ละแผนกเข้าร่วมประชุมด้วย เป็นเพราะว่าอวี้อี่มั่วไม่อยู่ ดังนั้นประธานในการประชุมวันนี้จึงเป็นสวี่เฟิงหมิง

หร่วนซือซือถือสมุดบันทึกการประชุมขึ้น ก่อนจะเดินตามเพื่อนร่วมแผนกทั้งหมดที่กำลังทยอยเข้าร่วมประชุมที่ห้องประชุม พึ่งจะเดินมาถึงประตูหน้าห้อง ก็เห็นสวี่เฟิงหมิงกับบรรดาลูกน้องเดินเข้ามาพอดี

นัยน์ตาดุดันคู่นั้นของเขาสบมองไปยังกลุ่มคน ก่อนที่ในที่สุดสายตาจะล็อกตรงไปยังหร่วนซือซือ หยุดมองเพียงเสี้ยววินาที ต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ เขาพยักหน้าเบาๆก่อนจะโพล่งไปทางหร่วนซือซือว่า "มานี่"

หร่วนซือซือชะงักนิ่ง "ท่านรองประธานสวี่ มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ?"

"ไปชงชามาให้ผมหน่อยสิ"

เมื่อจบประโยค สวี่เฟิงหมิงก็สาวเท้าก้าวเดินตรงเข้าไปในห้องประชุมทันที

หร่วนซือซือชะงักนิ่งแล้วรู้สึกว่ากำลังมีสายตาจากคนรอบข้างมองตรงมาที่เธอ สายตาและนัยน์ตาราวกับว่ากำลังติฉินนินทา ทำให้ร่างทั้งร่างของเธอรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง

เธอเป็นผู้ช่วยฝ่ายบริหาร แต่ทว่ารองประธานของบริษัทอยู่ๆกลับเรียกชื่อเธอเฉพาะเจาะจงแบบนี้ ต่อหน้าคนเยอะขนาดนี้แล้วสั่งให้เธอไปชงชามาให้เขา มันย่อมเป็นธรรมดาอยู่แล้วที่จะทำให้คนจำนวนไม่น้อยก่อเกิดความสงสัยและความอยากรู้อยากเห็น

หร่วนซือซือสูดหายใจเข้าลึกๆ แต่ก็ทำอะไรได้ไม่มากไปกว่านั้น ก่อนจะนำสมุดบันทึกในมือส่งไปให้เสี่ยวห่านที่อยู่ข้างกาย "เสี่ยวห่าน เธอช่วยฉันถือเข้าไปก่อนนะ เดี๋ยวฉันจะตามเข้าไป"

เสี่ยวห่านพยักหน้าหงึกหงัก หยิบสมุดบันทึกก่อนจะตามเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆเข้าห้องประชุมไป

เมื่อชงชาเสร็จเรียบร้อยแล้ว หร่วนซือซือถือแก้วชาไว้ด้วยสองมือ เดินเข้าห้องประชุม ก่อนจะนำแก้วไปวางไว้ที่มือด้านข้างของสวี่เฟิงหมิงแล้วเอ่ยเสียงเบา "ท่านรองประธานสวี่ นี่ชาของคุณค่ะ"

สวี่เฟิงหมิงพยักหน้าเบาๆก่อนจะพูดเสียงต่ำว่า "เธอมานั่งข้างฉัน"

หร่วนซือซือตะลึงชะงักงัน ก่อนจะรีบร้อนเอ่ยปฏิเสธไปว่า "ท่านรองประธานสวี่ นี่มันไม่เหมาะมั้งคะ"

การประชุมรูปแบบนี้ถูกจัดตามตำแหน่งจากใหญ่ไปเล็ก ตำแหน่งด้านข้างของสวี่เฟิงหมิงคือตำแหน่งของผู้จัดการ เธอมีตำแหน่งเพียงแค่เป็นผู้ช่วยตำแหน่งเล็กๆเท่านั้น จะข้ามมานั่งที่นั่นตรงนี้ได้อย่างไรกัน?

สวี่เฟิงหมิงนัยน์ตาวับวาว ก่อนจะเอ่ยเสียงเย็นยะเยือกว่า "ฉันพูดว่าเหมาะก็คือเหมาะ"

เสียงของเขาไม่ดังไม่เบา ดึงสายตาคนรอบข้างให้ค่อยๆหันมามอง หร่วนซือซือไม่รู้ว่าตัวเองสมควรที่จะทำอย่างไรต่อไปดีไปชั่วขณะหนึ่ง

ครั้งที่แล้วเขาให้เธอนั่งทำงานในห้องทำงานของเขาโดยตรง ครั้งนี้ก็ให้เธอนั่งข้างกายเขาต่อหน้าผู้คนมากมาย แบบนี้แล้วไม่รู้ว่าดึงดูดให้คนจำนวนไม่น้อยสามารถเกิดความสงสัยแล้วเข้าใจผิดได้ หากเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่ว่าจะเป็นเขาหรือเธอ ผลกระทบก็คงจะไม่เป็นการดีแน่

สวี่เฟิงหมิงทำแบบนี้ หรือว่าจะเป็นแบบที่เสี่ยวห่านเคยว่าเอาไว้ มีความสนใจต่อเธองั้นหรือ? หรือว่าเขาตั้งใจที่จะแสดงละครให้คนอื่นดู ให้เธอตกเป็นเป้าสายตา?

ไม่ว่าจะเป็นคำตอบแบบไหน ก็ทำให้เธอหลาดกลัว และไม่มีทางที่จะปฏิเสธได้

ริมฝีปากถูกขบเม้มแน่น หร่วนซือซือกดเสียงต่ำ ก่อนจะพูดว่า "ท่านรองประธานสวี่ มีเรื่องอะไร ขอให้คุณสั่งฉันมาตอนนี้เลยก็ได้ค่ะ ฉันรับประกันว่าจะทำมันให้สำเร็จค่ะ"

สวี่เฟิงหมิงได้ยินดังนั้นแล้ว คิ้วหนาขมวดขึ้นเล็กน้อย นัยน์ตาแสดงออกอย่างมีเลศนัย ก่อนจะเหยียดริมฝีปากแล้วพูดติดตลกด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า "เมื่อวานตอนกลางคืน ผมไม่เห็นคุณจะต่อต้านผมแบบนี้นะครับ?"

เมื่อพูดจบ หร่วนซือซือรู้สึกว่าใบหูร้อนแผ่วไปหมด แผ่นหลังรู้สึกเย็นวาบโดยไม่รู้ตัวขึ้นมาทันที

เพื่อนร่วมงานรอบๆได้ยินสวี่เฟิงหมิงพูดดังนั้น ทั้งหมดกลับมีสีหน้าตกตะลึงแล้วหันมองไปที่พวกเขาทันที

สวี่เฟิงหมิงทำแบบนี้เพื่อจงใจให้คนอื่นเข้าใจผิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาแน่ๆ!

หร่วนซือซือกำมือแน่น นัยน์ตามองต่ำลงบอกเป็นนัย "ท่านรองประธานสวี่ พูดเล่นออกมาแบบนี้ไม่ได้นะคะ เมื่อวานตอนกลางคืนที่บาร์คุณเมามากแล้ว ฉันส่งคุณขึ้นรถแล้วก็กลับเลยค่ะ คุณอาจจะลืมไปแล้วแน่ๆ แต่ว่าฉันยังจำได้อย่างชัดเจนค่ะ"

นัยน์ตาของสวี่เฟิงหมิงฉายแววประหลาดใจเล็กๆ แทบจะคิดไม่ถึงว่าหร่วนซือซือจะกล้าที่จะโต้แย้งขนาดนี้ เขาเหยียดยิ้มมุมปากก่อนจะเอ่ยเสียงราบเรียบว่า "แค่หยอกล้อเท่านั้นเอง ผู้ช่วยหร่วนคิดจริงหรือครับเนี่ย?"

หร่วนซือซือพยักหน้าเบาก่อนจะยิ้มน้อยๆ เธอไม่พูดอะไรอีกเลย ก่อนจะหมุนตัวแล้วเดินตรงไปยังตำแหน่งของฝ่ายบริหาร

มองแผ่นหลังเล็กของหญิงสาวที่ค่อยๆเดินจากไป นัยน์ตาของสวี่เฟิงหมิงเข้มขึ้น ก่อนที่สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

หร่วนซือซือกำมือแน่น ก่อนจะกลับไปยังที่นั่งของตัวเอง เสี่ยวห่านที่อยู่ทางด้านข้างก็รีบพุ่งเข้ามาถามทันทีว่า "เกิดอะไรขึ้นเหรอ?"

หร่วนซือซือสูดหายใจเข้าลึกๆหนึ่งที ส่ายหน้าเบาๆ ไม่พูดอะไรออกมาสักคำ แต่ทว่าในใจเธอกลับชัดเจน สวี่เฟิงหมิงมีแผนการที่เจ้าเล่ห์เพทุบายอะไรแน่นอน อีกทั้งเธอก็ยังเป็นหมากตัวหนึ่งของเขาอีกด้วย

Options

not work with dark mode
Reset