ซ่างเย่ 9 นางป่วย

ตอนที่ 9 นางป่วย

จิ้นเยว่กัดฟันของนาง "สหายข้าให้มา ข้ามิถอด"

"สหาย?" ฟู่จิ่วชิงขึ้นเสียงเล็กน้อย เขายืดตัวตรงและจ้องไปที่นางจากด้านบน "เยว่เอ๋อร์……มิเชื่อฟังเลยนะ"

น้ำเสียงดูเหมือนจะแข็งเป็นน้ำแข็ง เมื่อเข้าไปถึงหูของจิ้นเยว่มันช่างเย็นชา……ทำให้นางชะงักลง

นางยืนอยู่ท่ามกลางเงาอันทอดยาวของเขาและสบกับสายตาที่มืดมน นางรู้สึกเพียงบัดนี้ว่าสภาพแวดล้อมรอบตัวนางหดหู่อย่างยิ่ง ลมหายใจของนางดูยุ่งเหยิง

ครู่ต่อมา นางก็หันข้างและวิ่งเข้าไปในบ้านทันที

นั่นหมายความว่า มิถอด! ข้ามิถอด!

"คุณชาย?" จวินซานรู้สึกกังวลเล็กน้อย

มีเพียงมิกี่คนที่กล้าขัดคำสั่งของคุณชาย

"ลงโทษนาง!" ฟู่จิ่วชิงสะบัดแขนและหันกลับมา

จวินซานตัวสั่นโดยมิรู้ตัว ใบหน้าของเขาซีด

จิ้นเฟิงเหนียนมองไปยังจิ้นเยว่ที่รีบวิ่งเข้ามาแล้วขมวดคิ้ว "เจ้าเองก็ออกเรือนไปแล้ว เหตุใดยังทำท่าทางกระโดกกระเดกอีกเล่า? ปกติพ่อสอนเจ้าอย่างไร? เมื่อแต่งเข้าไปในตระกูลฟู่แล้วเจ้าควร……"

"ควรสง่าผ่าเผยและอ่อนโยน!" จิ้นเยว่กล่าวแทรกออกมาอย่างดื้อรั้น "แต่บัดนี้ข้าอยู่ในเรือนข้า หาใช่เรือนตระกูลฟู่ไม่ ข้ามิสนใจเรื่องศักดิ์ศรีสง่างาม"

"เจ้าลูกคนนี้ เมื่อไรเจ้าจึงจะรู้จักโต?" จิ้นเฟิงเหนียนหยิบขวดกระเบื้องออกมาจากกล่องยาแล้วยื่นให้นาง "นี่คือยาของเจ้า ตอนพ่อในเรือนขังเจ้ายังปวดท้องอยู่หรือไม่?"

จิ้นเยว่พยักหน้าและนำขวดยาไว้ในแขนเสื้อของนาง "มีอาการกำเริบขึ้นครั้งหนึ่ง กินยาแล้วก็หายดี!"

จิ้นเฟิงเหนียนถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อพบว่าฟู่จิ่วชิงเดินเข้ามา เขาจึงมิได้ตักเตือนอะไรนางอีก

"ได้ยินมาว่าท่านเจ้าเมืองเชิญชวนตระกูลฟู่เข้าร่วมงานเลี้ยงในเทศกาลไหว้พระจันทร์งั้นหรือ?" จิ้นเฟิงเหนียนนั่งลง

พ่อตาและบุตรเขยดูคุ้นเคยสนิทสนมกันดี แต่จิ้นเยว่ที่เป็นบุตรสาวกลับถูกทิ้งให้อยู่ในความหนาวเย็นนั่งอยู่ข้างๆ นางมิอาจเอ่ยคำใดแทรกขึ้นมาได้เลย

ฟู่จิ่วชิงตอบรับว่า "อืม" จากนั้นก็มิได้เอ่ยอันใดอีก

บรรยากาศช่างเงียบสนิท

แม้ว่าจิ้นเยว่ยืนอยู่ข้างๆฟู่จิ่วชิง แต่นางมักรู้สึกเสมอว่าชายผู้นี้กำลังมองนางอยู่

ในใจนางรู้สึกผิดเล็กน้อย นางนำข้อมือที่สวมกำไรไม้ซ่อนเอาไว้ข้างหลังอย่างเงียบๆ แสร้งทำเป็นสงบและมองไปทางอื่น แต่ขนบนตัวของนางลุกซู่เป็นครั้งคราวด้วยเหตุผลบางอย่าง หูของนางก็ร้อนขึ้นเล็กน้อย

หลังจากนั่งอยู่ในศาลาอยู่สักพัก ฟู่จิ่วชิงก็ทำท่าจะจากไป

จิ้นเยว่พยายามขยิบตาให้บิดาของนางครั้งแล้วครั้งเล่า แต่บิดาของนางซึ่งเป็นพ่อตาของเขากลับทำเป็นมองมิเห็นแล้วผลักลูกสาวของเขาเข้าไปในรถม้า

"ท่านพ่อ?" จิ้นเยว่ลดเสียงของนางลง "ข้ามิอยากไป!"

"เจ้าเป็นสะใภ้ของตระกูลฟู่ เมื่อออกเรือนแล้วอย่าได้เอาแต่ใจ!" จิ้นเฟิงเหนียนโบกมือไปมาอย่างไร้ความอดทน "จงใช้ชีวิตอยู่กับคุณชายอย่างสงบสุข อย่าได้สร้างปัญหา และอย่าทะเลาะกันเด็ดขาด!"

จิ้นเยว่ขมวดคิ้วและก้าวเข้าไปในรถม้าอย่างเงียบๆ เขาจงใจกระซิบเพื่อกำชับนางอีกครั้งว่า "ห้ามทะเลาะกันเด็ดขาด!" เฮ้อ ช่างหนักใจชายชราเสียจริง!

รถม้าเดินทางกลับเข้าเมือง จิ้นเยว่ก็งีบหลับเอียงศีรษะไปมา

ทันใดนั้นรถม้าก็สั่นอย่างรุนแรง และหัวของนางก็กระแทกไปที่หน้าต่างรถ

"คุณหญิงเจ้าคะ เป็นอะไรหรือไม่?" ซวงจือตะโกนเข้ามาถามอย่างกังวลจากด้านนอก หลังได้ยินการเคลื่อนไหวนั้น

จิ้นเยว่ลูบเข้าที่หน้าผากอันเจ็บปวดของนาง เปิดประตูรถม้าแล้วก้าวเดินออกไป "เกิดเรื่องอัน……"

นางยังมิทันเอ่ยจบก็ต้องเงียบเสียงลง

คนชุดดำกลุ่มหนึ่งเข้ามาล้อมขบวนรถเอาไว้ แต่ละคนถือมีดอยู่ในมือมองไปช่างดุและชั่วร้าย

"คุณหญิง อย่าออกมาขอรับ!" จวินซานยืนอยู่ด้านนอกรถและกระซิบบอก

จิ้นเยว่พยักหน้า "ซวงจือ เจ้าจงเข้ามารับใช้ข้า!"

ซวงจือผงะไปครู่หนึ่งและหันไปมองจวินซานทันที

เมื่อเห็นว่าจวินซานพยักหน้าตอบรับ นางจึงเลิกกระโปรงของนางขึ้นและรีบเข้าไปในรถม้าอย่างรวดเร็ว จากนั้นคุกเข่าลงในรถม้าด้วยความเคารพ "คุณหญิงมิต้องกังวลไปเข้าค่ะ สมุนที่อยู่รอบๆคุณชายล้วนมีฝีมือทั้งนั้น"

จิ้นเยว่มิได้เอ่ยอันใดออกมา นางฟังการเคลื่อนไหวภายนอกอย่างเงียบๆ

ฝูงโจรที่เข้ามาขวางทางไว้ต้องการเงิน แน่นอนว่าตระกูลฟู่สามารถให้พวกเขาได้

ในตอนแรกก็ดูเจรจากันอย่างว่าง่าย แต่มิรู้ว่าเพราะเหตุใดจึงลงไม้ลงมือกัน

เสียงใบมีดปะทะกันเสียงดัง จิ้นเยว่จึงมิอาจนั่งนิ่งๆได้

ทันใดนั้น จู่ๆประตูรถม้าก็ถูกมีดแทงทะลุออก ลำแสงที่เย็นเฉียบกระทบกับใบหน้าของซวงจือ

"หลีกไปเสีย!" จิ้นเยว่ผลักซวงจือออกไปอย่างไม่ลังเล

"คุณหญิงเจ้าคะ!"

ปลายมีดหยุดอยู่ห่างจากกึ่งกลางคิ้ว นิ้วเรียวงามทั้งสองข้างจับเข้าไปยังใบมีดด้วยแรงอันแม่นยำ

ดวงตาของซวงจือเบิกกว้างจ้องมองยังคุณหญิงของตน

นางเห็นเพียงกลิ่นอายของการสังหารแผ่ซ่านออกมาจากดวงตาที่สดใส ราวกับดาบแหลมคมที่หลุดออกจากฝัก แฝงไปด้วยพลังอันมิอาจบรรยายได้……

ซ่างเย่

ซ่างเย่

Score 10
Status: Completed
ในใจของฟู่จิ่วชิงมีความลับใหญ่ซ่อนอยู่ เมียของตัวเอง ถูกเขาแอบขโมยมา...... ใครๆล้วนรู้ว่า ตระกูลฟู่ในเมืองเหิงโจว ร่ำรวยเท่ากับประเทศชาติเลยทีเดียว แต่เสียที่ทายาทล้วนไม่เอาไหนทั้งนั้น ลูกคนโตตายตั้งแต่ยังเด็ก ลูกคนที่สองใช้เงินทองสุรุ่ยสุร่าย ลูกคนที่สามชอบหาโสเภณี ลูกคนที่สี่เป็นคนโง่ ฟู่จิ่วชิงเป็นลูกหลงซึ่งออกโดยเมียน้อย และก็เป็นคนขี้โรคมาตั้งแต่เกิดด้วย จิ้นเยว่ไม่ยอมแต่งเข้าไปในตระกูลฟู่ แต่พ่อเข้าคุก นางในฐานะที่เป็นแค่หญิงอ่อนแอเท่านั้น จะทำอะไรได้ล่ะ? แต่ว่าหลังจากแต่งเข้าไปแล้ว คนขี้โรคที่ได้ยินมานั้น เหมือนไม่ได้ป่วยหนักขนาดนั้น โดยเฉพาะวิธีการทรมานคน ทำไมถึง......โหดร้ายขนาดนั้น? อยู่มาวันหนึ่ง จิ้นเยว่ตื่นตัวขึ้นมาทันที สามีของตัวเองเป็นหมาป่าหางโตที่ใส่หนังแกะนี่เอง! หัวใจของข้าแบ่งเป็นสามส่วน ตะวัน นิศาบดีและเจ้า ตะวันและนิศาบดีมอบให้กับเจ้า ยอมล่มสิ้นใต้หล้าเพื่อเจ้าเพียงผู้เดียว!——ฟู่จิ่วชิง

Options

not work with dark mode
Reset