ซ่างเย่ 26 โจรที่ขโมยฝักดอกบัว

ตอนที่ 26 โจรที่ขโมยฝักดอกบัว

นิสัยของซ่งเยี่ยนไม่ดี ตะเกียบตกลงพื้นอย่างเสียงดัง

ทำให้กู้รั่วลี้ตกใจจนรีบคุกเข่าขอประทานโทษ"ขอประทานโทษเจ้าค่ะ องค์ชายเล็ก รั่วลี้ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นนะคะ เพียงแต่……"

"ไม่ว่าเจ้าหมายความว่ายังไง ในเมื่อกล้าพูดก็ต้องกล้ายอมรับ!"ซ่งเยี่ยนนั่งอยู่ตอนนั้น เสียงเย็นชากว่าเดิม"ในเมื่อเจ้าอยากไป งั้นก็ไปซะ!"

พอพูดเสร็จ ซ่งเยี่ยนก็สะบัดหน้าออกไป

กู้รั่วลี้บีบแขนเสื้อโดยจิตสำนึก องค์ชายเล็กไม่ได้ลงโทษอะไร หมายความว่ายังมีใจต่อนางอยู่

แต่ว่าวินาทีต่อไป ซ่งเยี่ยนกลับหยุดฝีเท้าลง"งานไหว้พระจันทร์ของคืนนี้ ไม่ต้องออกงานตามข้าแล้ว"

เลิกคิ้วขึ้นมาทันที กู้รั่วลี้ยืดตัวขึ้นอย่างกระทันหัน"องค์ชายเล็กเจ้าคะ?"

ซ่งเยี่ยนไม่ได้สนใจนาง เดินออกจากห้อง ไม่ได้หันกลับมาอีก

ใจเหมือนขาดไปส่วนหนึ่ง มีลมพัดเข้าไปในช่องว่าง ทำให้คนรู้สึกหนาวจนตัวสั่น

ผ่านไปอีกนาน กู้รั่วลี้ถึงจับเก้าอี้ แล้วค่อยๆลุกขึ้นมา ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ยังโทษตัวเองอยู่ ตั้งแต่ผ่านเรื่องนั้นแล้ว ท่าทีที่เขาต่อนาง ก็เปลี่ยนแปลงใหญ่มาก จนทำให้ต่อจากนั้นมา……

"องค์ชายเล็ก?"เฉิงหนานตามอยู่หลังซ่งเยี่ยน"เราไปไหน?"

ซ่งเยี่ยนก็ไม่รู้ว่าจะไปไหน เพียงแต่รู้สึกว่าอึดอัดใจ อยากจะออกไปเดินเล่น ก็เลยเดินตามทะเลสาบ

ทะเลสาบเทียมของตระกูลฟู่ขุดได้ดีมาก น้ำในทะเลสาบไหลเข้ามาจากคูน้ำด้านนอก และใช้น้ำนี้ในการรดน้ำต้นไม้และดอกไม้ในเรือน จนกระทั่งขยายตัวออกเป็นคลองเล็กๆในทุกที่ทุกแหล่ง

ฤดูนี้ดอกบัวเหี่ยวเฉาเหลือไม่มาก ในฤดูใบไม้ร่วงนี้ ก็ยังมีดอกบัคสองสามดอกกำลังออกดอก แต่ก็คงอยู่ได้ไม่นาน เพราะดอกที่ออกนั้นเอียงไปเอียงมาพิงอยู่บนผิวน้ำ

ไม่ว่าสีจะสดใสขนาดไหน ก็ไม่มีชีวิตชีวาเท่ากับในฤดูร้อน

ตอนนี้ทุกที่ไม่มีคน จิ้นเยว่ใช้สองมือปีนขึ้นไปบนภูเขาเทียม ใช้นิ้วเท้าเกี่ยวฝักดอกบัวกลับมาหนึ่งดอก

ซวงจือใจร้อนมากอยู่ข้างๆ"คุณหญิงเจ้าคะ เรากลับไปเถอะเจ้าค่ะ!ถ้าหากถูกคนอื่นรู้ว่า ท่านยังอยู่ในระยะห้ามออกไปเลย ถ้าถูกนายท่านทราบว่าท่านมาเด็ดฝักดอกบัว ท่านคงต้องมีเรื่องเกิดขึ้นเจ้าค่ะ พอถึงเวลานั้นรวมไปถึงคนใช้ที่ดูแลท่านในเรือนก็ต้องถูกลงโทษด้วยนะเจ้าคะ!"

"เจ้าเฝ้าอยู่ที่นี่"จิ้นเยว่ตาไวมือเร็ว หักก้านบัวและเด็ดฝักดอกบัวทั้งหมด2อัน ทำให้หญิงน้อยคนนี้รีบร้อนจนตาแดง สามารถเห็นได้ว่าพวกเขาล้วนหวาดกลัวต่อนายท่านฟู่

นางไม่ใช่คนที่อยู่นิ่งๆได้ เมื่อก่อนที่ยังอยู่ที่บ้าน ไม่ใช่ว่าเข้าป่าก็คือปีนเขา ไม่ใช่ปีนต้นไม้ก็คือลงน้ำ เกือบจะทำได้ทุกอย่าง ขังนางอยู่ในเรือน มันน่าเบื่อจริงๆ

ยังไงงานไหว้พระจันทร์ล้วนจัดที่ฝั่ง"ศาลาชิวสุ่ย" พวกบ่าวทาสล้วนอยู่ทางนู้น จะมีคนมาที่นี่ได้ยังไงล่ะ ยังไงให้ดอกบัวพวกนี้เน่าเสียในทะเลสาบมันก็น่าเสียดาย เด็ดสองอันมาลองชิมมันก็ดีอยู่"

"คุณหญิง?"ซวงจือเหมือนจะร้องไห้

"พอเถอะพอเถอะ!"จิ้นเยว่ถอนหายใจเบาๆ"กลับเถอะ!"

ซวงจือรีบพยักหน้า และไปรับฝักดอกบัวในมือของจิ้นเยว่

แต่วินาทีต่อไป ซวงจือก็เบิกตากว้าง และคุกเข่าลงทันที"องค์ชายเล็กเจ้าค่ะ!"

จิ้นเยว่ตกใจ รีบอุ้มฝักดอกบัวในอกไว้อย่างแน่น และคำนับอย่างรวดเร็ว"ถวายบังคมองค์ชายเล็กเจ้าค่ะ!"

ซ่งเยี่ยนก็คิดไม่ถึงว่าจะพบกับนางที่นี่ เพียงแค่ตอบอย่างราบเรียบ"ไม่ต้องพิธีรีตอง"

"ข้าขอตัวก่อนเจ้าค่ะ!"จิ้นเยว่แอบส่งสายตาสะกิดซวงจือ และทั้งสองคนก็ถอนตัวไปข้างๆ ฉวยโอกาสที่องค์ชายเล็กไม่ได้ถามถึงเรื่องออกนอกเรือน รีบไปดีกว่า

แต่ใครจะทราบว่าวินาทีต่อมา ซ่งเยี่ยนก็เบิกตากว้างทันที"แขนของเจ้า……เป็นอะไร?"

ตำแหน่งนั้น……

มองไปตามสายตาของซ่งเยี่ยน จิ้นเยว่ถึงพบว่าแขนเสื้อของตัวเองยังพับอยู่ เมื่อกี้นึกแต่ไปเด็ดฝักดอกบัว ไม่ได้ใส่ใจดูเลย จิ้นเยว่จึงรีบวางแขนเสื้อลงแล้วทำความเคารพ"ข้าขอประทานโทษเจ้าค่ะ ข้าประพฤติไม่งามต่อหน้าท่านองค์ชายเล็กเจ้าค่ะ!"

"บาดแผลของเจ้าเกิดขึ้นเมื่อไหร่?"ซ่งเยี่ยนถาม

จิ้นเยว่รู้สึกประหลาดใจ ทำไมเรื่องเล็กๆแบบนี้องค์ชายเล็กก็จะสนใจล่ะ?แต่องค์ชายเล็กถาม ยังไงก็ต้องตอบ ก็เลยก้มหน้าและตอบว่า"เมื่อไม่นานที่แล้วไม่ระวังไป……"

จมูกของสุนัขดมกลิ่นได้ดีมาก พูดถึงสุนัข ไม่แน่ฟู่จิ่วชิงก็จะโผล่ตัวออกมา นางนึกถึงผ้าคลุมขนจิ้งจอกที่คลุมอยู่บนร่างกายของเขา ก็เลยพูดอย่างมีเหตุผลว่า"โดนจิ้งจอกกัดเจ้าค่ะ"

"จิ้งจอก?"นิ้วมือของซ่งเยี่ยนค่อยๆกำขึ้นมา ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อ"ตระกูลฟู่มีเลี้ยงจิ้งจอกหรือ?"

"มีเจ้าค่ะ!"จิ้นเยว่เงยหน้าขึ้นมา หลอกอย่างจริงจัง"ตัวใหญ่มากเลย!สีขนเป็นสีดำ สวยมากๆ มองขึ้นไปแล้วเหมือนจะน่ารัก แต่ตามจริงมันโหดร้ายมาก!"

ภายในท่ามกลางของแสง แก้มของนางถูกปกคลุมด้วยสีที่อบอุ่น ดวงตาของเขาเปล่งประกายราวกับดวงดาวในคืนฤดูร้อน และรอยยิ้มบนมุมปากของนางก็บริสุทธิ์มาก โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงจิ้งจอกตัวนั้น เหมือนยังมีความดีใจเล็กน้อย

"องค์ชายเล็ก?"เฉิงหนานเรียกเสียงหนึ่ง

ซ่งเยี่ยนปรับสติ"แกะผ้าพันแผลออก"

จิ้นเยว่ถอยหลังไปสองก้าว"แผลมีการบวมแล้วเน่าเปื่อย กลัวว่าจะทำให้องค์ชายเล็กตกใจเจ้าค่ะ!"

"องค์ชายเล็กให้เจ้าพันออก ก็รีบๆพันออกสิ"เฉิงหนานรีบพูด

จิ้นเยว่ขมวดคิ้ว สายตาของซ่งเยี่ยนเย็นชามาก จ้องนางแบบนี้ทำให้นางรู้สึกกังวลมาก ทำไมคนพวกนี้ชอบแกล้งคนอื่นจังเลย?

นำฝักดอกบัวยื่นไปให้ซวงจือ จิ้นเยว่ก้มหน้าลง ค่อยๆเปิดผ้าพันแผลออก แผลบวมแดง เนื้ออย่าเพิ่งหายไปเมื่อเช้านี้ เครานี้รอยกัดของฟันชัดเจนมากๆ เป็นรอยกัดจริงๆ แต่ว่า……ดูเหมือนไม่ใช่ว่าถูกจิ้งจอกกัด

"เป็นรอยกัดเท่านั้น ไม่มีพิษอะไรเลย เจ้าใช้ครีมป้องกันการกัดกร่อนหรือ?"สีหน้าของซ่งเยี่ยนเย็นชามาก

จิ้นเยว่"??"

เมื่อเห็นสีหน้าที่ลังเลของนาง ซ่งเยี่ยนรู้สึกไม่สบายใจ ยกเท้าแล้วก็ไปทันที ผู้หญิงคนนั้นคล่องแคล่วอยู่ตลอด จะไม่มีสีหน้าที่โง่ๆแบบนี้หรอก ยิ่งจะไม่ไปถูกคนกัดแน่นอน และแม้กระทั่งครีมยังแยกแยะไม่ถูกอีก

หยุดไปสักพักหนึ่ง เขาเหมือนนึกถึงอะไรได้ หันไปมองฝักดอกบัวสองดอกนั้น นํ้าเสียงเย็นชามาก"นางไม่เคยกินเม็ดดอกบัวเลย"

เฉิงหนานก้มหน้า ไม่พูดอะไร

แน่นอนว่าจิ้นเยว่ไม่ได้ยินคำพูดนี้อยู่แล้ว หลังจากซ่งเยี่ยนไปแล้ว นางก็รีบวิ่งหนี ซวยจริงๆเลย ถูกพบเห็นโดยองค์ชายเล็กคนขอให้เขาไม่ใช่คนขี้ฟ้อง ไม่ไปฟ้องกับนายท่านฟู่ก็พอ อย่างงั้นนางคงต้องถูกลงโทษอีก

วิ่งกลับไปถึงเรือนอย่างรวดเร็ว จิ้นเยว่จับกำแพงแล้วหายใจเข้าออกอย่างแรง หันไปมองซวงจือที่หน้าซีก ตกไหล่ของนางเบาๆเหมือนเป็นการปลอบใจ"ไม่มีอะไรแล้ว ไม่ต้องห่วง!"

มือและขาของซวงจือสั่นไม่หยุด แต่ยังคงจับฝักดอกบัวในอ้อมอกอย่างแน่น"คุณหญิงเจ้าคะ บ่าวกลัวเจ้าค่ะ"

จิ้นเยว่พูดอย่างจริงจัง"ฝึกบ่อยๆ เดี๋ยวก็กล้าหาญขึ้นมาเอง"

ซวงจือทำหน้าราวกับว่าจะร้องไห้ แต่ก็ไม่กล้าร้องออกมา

ตอนที่กินข้าวเที่ยง ฟู่จิ่วชิงไม่ได้มา

จิ้นเยว่ปอกฝักดอกลัว กินเม็ดบัวข้างใน พิงอยู่ที่หน้าต่างและมองไปข้างหน้า เขาคงไม่เก็บท้องไว้กินงานเลี้ยงไหว้พระจันทร์ของคืนนี้ ไม่ทราบว่าในงานเลี้ยงมีอะไรน่ากินๆเลย?

ก้มหน้าไปมองแผลทีีอยู่บนแขน เดี๋ยวรอเขากลับมาค่อยมาคิดบัญชีเรื่องนี้

หลังจากถึงตอนเย็นแล้ว ฝั่งของศาลาชิวสุ่ยก็สนุกสนานกัน อยู่ไกลๆก็สามารถได้ยินเสียงบรรเลงของดนตรี

แต่ฟู่จิ่วชิงกลับมาเพิ่อรับประทานอาหารเย็นพร้อมกับนาง

เพียงแค่ว่าอาหารทีละจานนี้น่ากลัวจริงๆ:ซุบเมล็ดบัว น้ำชาบัว เค้กดอกบัว ไก่ใบบัว ข้าวเหนียวรากบัว…..

จิ้นเยว่กัดริมฝีปากเอาไว้ ตายแล้วตายแล้ว!

ซ่างเย่

ซ่างเย่

Score 10
Status: Completed
ในใจของฟู่จิ่วชิงมีความลับใหญ่ซ่อนอยู่ เมียของตัวเอง ถูกเขาแอบขโมยมา...... ใครๆล้วนรู้ว่า ตระกูลฟู่ในเมืองเหิงโจว ร่ำรวยเท่ากับประเทศชาติเลยทีเดียว แต่เสียที่ทายาทล้วนไม่เอาไหนทั้งนั้น ลูกคนโตตายตั้งแต่ยังเด็ก ลูกคนที่สองใช้เงินทองสุรุ่ยสุร่าย ลูกคนที่สามชอบหาโสเภณี ลูกคนที่สี่เป็นคนโง่ ฟู่จิ่วชิงเป็นลูกหลงซึ่งออกโดยเมียน้อย และก็เป็นคนขี้โรคมาตั้งแต่เกิดด้วย จิ้นเยว่ไม่ยอมแต่งเข้าไปในตระกูลฟู่ แต่พ่อเข้าคุก นางในฐานะที่เป็นแค่หญิงอ่อนแอเท่านั้น จะทำอะไรได้ล่ะ? แต่ว่าหลังจากแต่งเข้าไปแล้ว คนขี้โรคที่ได้ยินมานั้น เหมือนไม่ได้ป่วยหนักขนาดนั้น โดยเฉพาะวิธีการทรมานคน ทำไมถึง......โหดร้ายขนาดนั้น? อยู่มาวันหนึ่ง จิ้นเยว่ตื่นตัวขึ้นมาทันที สามีของตัวเองเป็นหมาป่าหางโตที่ใส่หนังแกะนี่เอง! หัวใจของข้าแบ่งเป็นสามส่วน ตะวัน นิศาบดีและเจ้า ตะวันและนิศาบดีมอบให้กับเจ้า ยอมล่มสิ้นใต้หล้าเพื่อเจ้าเพียงผู้เดียว!——ฟู่จิ่วชิง

Options

not work with dark mode
Reset