ชายาเคียงหทัย 337-1 ม่อจิ่งหลีเสียเลือดมาก

ตอนที่ 337-1 ม่อจิ่งหลีเสียเลือดมาก

ภายใน​ห้องโถง​ใหญ่​จวน​เยี​่ย​ ​ม่อ​จิ​่ง​หลี​นั่ง​จิบ​ชาด​้ว​ยสี​หน้าบึ้ง​ตึง​ ​มี​เพียง​มือ​ที่​กำ​แน่น​อยู่​ด้วยกัน​เท่านั้น​ ​ที่​ทำให้​มองออก​ว่า​ใจ​เขา​ในเวลานี้​ร้อนรุ่ม​และ​โกรธ​เกรี้ยว​เพียงใด​ ​หลังจาก​ใคร่ครวญ​มาทั​้​งคืน​ ​อย่างไร​เขา​ก็​ยัง​วางใจ​ไม่​ลง​ ​เดิมที​คิด​อยาก​มาที​่​จวน​เยี​่ย​เพื่อมา​ลองดู​ว่า​จะ​สามารถ​นำ​ของ​ที่​สำคัญ​ที่สุด​ใน​มือ​เยี​่ย​เย​่ว​์​ไป​ก่อน​ได้​หรือไม่​ ​จากนั้น​ค่อย​ส่งตัว​นาง​ออกจาก​เมือง​ ​แต่​คิดไม่ถึง​ว่า​เขา​ยัง​มาช​้า​ไป​ก้าว​หนึ่ง​ ​ปล่อย​ให้​ม่อ​ซิว​เหยา​กับ​เยี​่ย​หลี​ชิง​มาถึง​ไป​ก่อน​เสีย​ได้​ ​ไม่ว่า​ยาม​อยู่​ที่​เจียง​หนาน​ ​ม่อ​จิ​่ง​หลี​จะ​มีอำนาจ​ล้นมือ​เพียงใด​ ​แต่​เมื่อ​อยู่​ใน​เขตแดน​ของ​เมือง​หลี​นี้​เขา​ยังคง​ต้อง​รอมชอม​ให้​ม่อ​ซิว​เหยา​มาก​พอดู​ ​ดังเช่น​ประโยค​ที่​กล่าว​กัน​ไว้​ว่า​ ​มังกร​ผู้​แข็งแกร่ง​หรือ​จะ​สู้​งู​ดิน​เจ้าถิ่น​ได้​ ​ใน​เขตแดน​ส่วน​ซี​เป่ย​นี้​ ​ต่อให้​มีอำนาจ​ล้นพ้น​เพียงใด​ ​เป็น​เสือก​็​ยัง​ต้อง​หมอบ​ ​เป็น​มังกร​ก็​ยัง​ต้อง​ขด

ม่อ​จิ​่ง​หลีก​วาด​ตาม​อง​องครักษ์​ใน​ชุด​ดำ​ที่​ยืน​ประสานมือ​อยู่​หน้า​ประตู​ด้วย​ความ​นอบน้อม​ ​สีหน้า​ก็​พลัน​นิ่ง​ขรึม​ลง​ไป​ ​ในที่สุด​เขา​ก็​ข่ม​ความร้อนรน​ใน​ใจ​เอาไว้

“​เช้าตรู่​เพียงนี้​ ​หลี​อ๋อง​มาที​่​จวน​เยี​่ย​ได้​อย่างไร​หรือ​”​ ​น้ำเสียง​กลั้ว​หัวเราะ​เจือ​แวว​เกียจคร้าน​ของ​ม่อ​ซิว​เหยา​ดัง​มาจาก​หน้า​ประตู​ ​หาง​ตาม​่อ​จิ​่ง​หลีก​ระ​ตุก​ขึ้น​ ​พอ​เงยหน้า​ก็​มองเห็น​เงา​คน​คู่​หนึ่ง​ที่​เดิน​จับมือ​กัน​เข้ามา​ ​สายตา​เขามอง​ไป​ยัง​สอง​มือ​ที่จับ​ประสานกัน​อยู่​ ​สีหน้า​ม่อ​จิ​่ง​หลี​จึง​ยิ่ง​ดู​ย่ำแย่​หนัก​ขึ้นไป​อีก​ ​เขามอง​ไป​ยัง​ม่อ​ซิว​เหยา​ ​ปาก​ยิ้ม​ตา​ไม่​ยิ้ม​พลาง​เอ่ย​ว่า​ ​“​ติ้ง​อ๋อง​กับ​พระ​ชายา​ติ้ง​อ๋อง​ไม่ได้​มา​เช้า​กว่า​ข้า​อีก​หรอก​หรือ​”

ม่อ​ซิว​เหยา​จูง​เยี​่ย​หลี​ให้​เดิน​ไป​นั่งลง​บน​ตำแหน่ง​ประธาน​ ​เอ่ย​กลั้ว​หัวเราะ​ว่า​ ​“​เรื่อง​นี้​น่ะ​หรือ​…​เมื่อวาน​มี​คน​มารา​ยงา​นว​่า​พบเห็น​คน​หนี​ความผิด​ที่​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​ล่า​ตัว​อยู่​หลาย​ปี​ที่​จวน​เยี​่ย​ ​ข้า​กับ​อา​หลี​จึง​นึก​เป็นห่วง​ความปลอดภัย​ของ​ทุกคน​ใน​จวน​ ​ถึง​ได้มา​ดูกัน​แต่​เข้า​ ​หรือว่า​หลี​อ๋อง​เอง​ก็ได้​รับ​ข่าว​นี้​เช่นกัน​”​ ​ม่อ​จิ​่ง​หลี​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​เรียบ​เฉย​ว่า​ ​“​ติ้ง​อ๋อง​ล้อเล่น​แล้ว​ ​ข้า​ไม่เห็น​เคย​ได้ยิน​เรื่อง​นี้​เลย​”​ ​ใน​ใจ​ม่อ​จิ​่ง​หลี​นึก​ยิ้ม​เย็น​ ​เขา​มี​หรือ​จะ​ไม่รู้​จัก​ม่อ​ซิว​เหยา​ดี​ ​เกรง​ว่า​ต่อให้​ตระกูล​เยี​่ย​ตาย​ลง​ต่อหน้า​เขา​ ​ก็​ไม่แน่​ว่า​เขา​จะ​กะพริบตา​ด้วยซ้ำ​ ​พูดจา​เพ้อเจ้อ​เช่นนี้​ออกมา​ได้​ ​ตั้งใจ​กวน​อารมณ์​เขา​ชัดๆ

“​หลี​อ๋อง​ยัง​ไม่​บอก​ข้า​เลย​ ​ว่า​หลี​อ๋อง​มาที​่​นี่​แต่เช้า​เช่นนี้​เพราะเหตุใด​”​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​ถาม​เขา​อย่าง​อารมณ์ดี​ ​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ตอบ​เสียงเย็น​ว่า​ ​“​ข้ามา​ที่​จวน​เยี​่ย​ไม่ได้​อย่างนั้น​หรือ​”

ม่อ​ซิว​เหยา​ยักไหล่​ ​“​หลี​อ๋อง​ก็​เป็น​บุตร​เขย​ของ​ตระกูล​เยี​่ย​เช่นกัน​ ​ย่อม​มา​ได้​อยู่​แล้ว​ ​ช่างเถิด​ ​หลี​อ๋อง​เป็น​ผู้​มา​เท่ากับ​เป็น​แขก​ ​หาก​ข้า​ซักไซ้​ต่อไป​ ​คนนอก​จะ​คิดได้​ว่า​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​ไม่รู้​จัก​กาละ​เทศะ​ใน​การ​ต้อนรับ​แขก​ ​เช่นนั้น​หลี​อ๋อง​ก็​เชิญ​นั่ง​ตามสบาย​เถิด​ ​ข้า​เพิ่ง​ได้​ของ​ที่​น่าสนใจ​อย่างหนึ่ง​จาก​ใน​จวน​ไป​ ​กำลัง​คิด​จะ​กลับ​ไป​ศึกษา​อยู่​พอดี​”

นัยน์ตา​ม่อ​จิ​่ง​หลี​มี​ประกาย​ประหลาด​ ​เดิมที​เขา​ก็​ไม่ได้​คาดหวัง​ว่า​เยี​่ย​เย​่ว​์​จะ​ทน​รับมือ​ม่อ​ซิว​เหยา​และ​ไม่​คาย​ความลับ​ออกมา​ได้​อยู่​แล้ว​ ​แต่​เมื่อมา​ได้ยิน​ม่อ​ซิว​เหยา​พูด​เช่นนี้​กับ​ปาก​ ​กลับ​ยัง​อด​นึก​โกรธ​เกลียด​อยู่​ใน​ใจ​ไม่ได้​ ​หาก​รู้​แต่แรก​ว่า​จะ​เป็น​เช่นนี้​ ​เมื่อวาน​ต่อให้​ต้อง​กลัว​ว่า​จะ​ถูก​ม่อ​ซิว​เหยา​จับได้​แค่ไหน​ ​ก็​ต้อง​จับตัว​เยี​่ย​เย​่ว​์​ผู้​นั้น​กลับ​ไป​ที่​โรงพัก​ม้า​ก่อน​ให้​ได้​ ​สตรี​ตระกูล​เยี​่ย​ ​นอกจาก​เยี​่ย​หลี​แล้ว​ ​ที่​เหลือก​็​ล้วนแต่​ไม่ได้ความ​ ​ทำประโยชน์​อะไร​ไม่ได้​เลย​จริงๆ​!

เมื่อ​พูด​สิ่ง​เหล่านี้​จบ​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​ก็​ไม่รีบร้อน​อีก​ ​เอนหลัง​พิง​เก้าอี้​ ​จับ​ผม​เยี​่ย​หลี​เล่น​พลาง​รอดู​ปฏิกิริยา​ของ​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ไป​ด้วย​ ​ถึงอย่างไร​หมาก​ก็​อยู่​ใน​มือ​เขา​แล้ว​ ​จะ​เสนอ​อะไร​อย่างไร​ก็​ขึ้นอยู่กับ​เขา​ ​เช่นนี้​แล้ว​ ​ดูท่า​ว่า​เยี​่ย​เย​่ว​์​คง​ให้​ของขวัญ​ชิ้น​ใหญ่​แก่​เขา​แล้ว​จริงๆ

ผ่าน​ไป​พักใหญ่​ ​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ถึง​ได้​หันมา​จ้อง​ม่อ​ซิว​เหยา​พลาง​เอ่ย​เสียง​ขรึม​ว่า​ ​“​เจ้า​จะ​เอาอย่าง​ไร​”

ม่อ​ซิว​เหยา​เลิก​คิ้ว​ด้วย​ความ​งุนงง​ ​ประหนึ่ง​ไม่เข้าใจ​สิ่ง​ที่​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ต้องการ​จะ​เอ่ย​ ​“​หลี​อ๋อง​หมายความ​เช่นไร​หรือ​ ​ขออภัย​ที่​ข้า​ฟัง​ไม่เข้าใจ​”​ ​ความโกรธ​เกรี้ยว​ใน​แววตา​ของ​ม่อ​จิ​่ง​หลี​เป็นประกาย​ชัดเจน​ ​ถลึงตา​ดุ​ใส่​ม่อ​ซิว​เหยา​พลาง​พูดว่า​ ​“​ของ​ที่​เจ้า​ได้​ไป​จาก​เยี​่ย​เย​่ว​์​นั้น​ ​จะ​ต้อง​ทำ​เช่นไร​ถึง​จะ​ยอม​มอบ​มัน​ให้​ข้า​!​”​ ​เมื่อวาน​เขา​ได้​ของ​จาก​เยี​่ย​เย​่ว​์​ไป​เพียง​ส่วนน้อย​นิด​เท่านั้น​ ​หลังจาก​ให้​หมอดู​แล้ว​ ​ก็​ยืนยัน​ว่า​สิ่ง​นั้น​เป็น​ยา​ถอนพิษ​เพียง​ตัว​เดียว​ที่สามา​รถ​ถอน​ยาพิษ​ที่​ม่อ​จิ​่ง​ฉี​วางยา​เขา​ใน​ครั้งนั้น​ได้​จริงๆ​ ​แต่​ปริมาณ​ของ​มัน​ช่าง​เล็กน้อย​จน​แทบ​ไม่มี​ประโยชน์​ใดๆ​ ​เลย

“​เรื่อง​นี้​น่ะ​หรือ​…​”​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​มอง​ท่าทาง​โกรธ​เกรี้ยว​ด้วย​ความร้อนรน​ประหนึ่ง​แมว​ถูก​ไฟ​ลวก​ของ​ม่อ​จิ​่ง​หลี​อย่าง​นึก​สนุก​ ​อารมณ์​พลัน​ดีขึ้น​ในทันที​ ​เขา​อารมณ์ดี​จน​ถูไถ​ศีรษะ​กับ​เส้น​ผม​ของ​เยี​่ย​หลี​ ​แล้วจึง​เอ่ย​ถาม​เสียงอ่อน​โยน​ว่า​ ​“​อา​หลี​ ​มีสิ​่ง​ใด​ที่​อยากได้​หรือไม่​ ​รีบ​ขอ​จาก​หลี​อ๋อง​เร็ว​เข้า​ ​เจียง​หนา​นที​่​หลี​อ๋อง​ปกครอง​อยู่​ไม่ได้​แร้น​เค้น​ไป​กว่า​ซี​เป่ย​ของ​พวกเรา​เลย​ ​หรือว่า​หลี​อ๋อง​จะ​ใจกว้าง​เช่นนั้น​”

เยี​่ย​หลี​มอง​ท่าทาง​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ที่​ถูก​ม่อ​ซิว​เหยา​ยั่ว​แหย่​ด้วย​ความขบขัน​ ​ก็​ไม่​แปลกที่​ม่อ​จิ​่ง​หลี​จะ​โกรธ​เป็นฟืนเป็นไฟ​ ​ไม่ว่า​บุรุษ​คนใด​ ​หาก​ถูก​คน​จับ​ไพ่ตาย​เช่นนี้​เอาไว้​ได้​ ​ก็​เป็น​ต้อง​หัว​ร้อน​เดือดดาล​กัน​ทุกคน​ ​แน่นอน​ว่า​เยี​่ย​หลี​ย่อม​ไม่รู้​ว่า​ ​ที่​ม่อ​จิ​่ง​หลี​โกรธ​เกรี้ยว​เช่นนี้​ ​เหตุผล​ส่วนหนึ่ง​เป็น​เพราะ​เยี​่ย​หลี​นั่ง​ฟัง​พวกเขา​สนทนา​กัน​อยู่​ด้วย​ ​ถึงแม้​ตนเอง​จะ​ถูก​ม่อ​จิ​่ง​ฉี​วางยา​ ​แต่​ไม่ว่า​บุรุษ​คนใด​ที่​มีปัญหา​ใน​ด้าน​นี้​ ​ก็​มัก​รู้สึก​ประดักประเดิด​และ​ไม่กล้า​สบตา​ผู้คน​ ​โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ยาม​อยู่​ต่อหน้า​สตรีที​่​เขา​ต้องการ​ตัว​มาต​ลอด​เช่นนี้

ม่อ​จิ​่ง​หลี​นั่ง​อยู่​บน​เก้าอี้​ ​หอบ​หายใจ​ด้วย​ความโกรธ​ ​ดวงตา​ที่​ถลึง​มอง​ม่อ​ซิว​เหยา​แดงก่ำ​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​วรยุทธ​ของ​พวกเขา​ต่างกัน​มากเกินไป​แล้ว​ ​เยี​่ย​หลี​เชื่อ​ว่า​ ​ม่อ​จิ​่ง​หลี​จะ​ต้อง​พุ่ง​เข้ามา​ฉีก​ทึ้ง​ม่อ​ซิว​เหยา​โดย​ไม่​นึก​ลังเล​อย่างแน่นอน

พอล​องคิด​ดู​อย่างจริงจัง​แล้ว​ ​เยี​่ย​หลีก​็​ส่าย​หัว​น้อย​ๆ​ ​“​ดูเหมือน​ข้า​จะ​ไม่มี​อัน​ใด​ที่​อยากได้​”​ ​อยู่​ๆ​ ​จะ​ให้​เยี​่ย​หลี​มาคิด​ว่า​ต้องการ​สิ่งของ​ที่​มีคุณค่า​อัน​ใด​จาก​ม่อ​จิ​่ง​หลี​และ​เป็น​สิ่ง​ที่​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ยินยอม​ให้​เช่นนี้​ ​นาง​คิดไม่ออก​จริงๆ​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​ระบาย​ยิ้ม​อบอุ่น​ ​“​ในเมื่อ​อา​หลี​คิดไม่ออก​ ​เช่นนั้น​ก็​ให้​ข้า​เป็น​คน​คิด​ก็แล้วกัน​”​ ​เยี​่ย​หลี​หัน​มอง​เขา​โดย​ไม่ได้​ตอบรับ​หรือ​ปฏิเสธ​ ​เดิมที​เขา​ก็​คิด​จะ​แหย่​ม่อ​จิ​่ง​หลี​เล่น​อยู่​แล้ว​ไม่ใช่​หรือ

ม่อ​ซิว​เหยา​จับ​คาง​ ​ใคร่ครวญ​ด้วย​ความจริงจัง​อยู่​พัก​หนึ่ง​แล้ว​ถึง​เอ่ย​ว่า​ ​“​ในเมื่อ​หลี​อ๋อง​ใจกว้าง​เพียงนี้​ ​ข้า​ก็​จะ​ไม่​เกรงใจ​แล้ว​ ​ชุด​คลุม​ไหม​หิมะ​ ​ฉิน​หงส์หยก​ขาว​ ​ตราประทับ​ลาย​เก้า​มังกร​ ​กับ​ดาบ​เพลิง​อัคคี​จักรพรรดิ​ไท่​หวัง​ ​แล้วก็​ ​หลานชาย​กับ​หลานสาว​ของ​เจ้า​เพิ่ง​อายุ​ครบ​หนึ่ง​ขวบ​ไป​ได้​ไม่นาน​ ​หลี​อ๋อง​ยัง​ไม่ทัน​ได้​ให้​ของขวัญ​เลย​ ​ข้า​จำได้​ว่า​มี​ร้าน​เล็ก​ๆ​ ​ร้าน​หนึ่ง​ที่​ชื่อ​เฉิน​เซียง​ฝาง​ ​กิจการ​ถือว่า​ไม่เลว​ทีเดียว​ ​น่าจะ​ได้​กระมัง​ ​แล้วก็​…​”

“​ม่อ​ ​ซิว​ ​เหยา​!​”​ ​ดวงตา​ม่อ​จิ​่ง​หลี​แทบจะ​มี​เลือด​พุ่ง​ออกมา​ ​สายตา​ที่​จ้อง​ม่อ​ซิว​เหยา​ไม่​สามารถ​ใช่​คำ​ว่า​เจ็บแค้น​มา​อธิบาย​ได้​แล้ว​ ​ไม่ใช่​ว่า​ม่อ​จิ​่ง​หลี​จิตใจ​คับแคบ​ ​นึก​เสียดาย​ไม่​อยาก​ให้​ ​แต่​เป็น​ม่อ​ซิว​เหยา​ที่​ร้องขอ​มากเกินไป​จริงๆ​ ​ไม่ต้อง​พูดถึง​ร้าน​เฉิน​เซียง​ฝาง​ที่​เขา​เรียกว่า​เป็น​ร้าน​เล็ก​ๆ​ ​ซึ่ง​เป็น​กิจการส่วนตัว​ของ​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ที่​ทำเงิน​ได้มาก​ที่สุด​เลย​ ​แค่​ของ​สี่​อย่างที่​เขา​พูดว่า​ก็​เป็น​เพียง​ของ​สี่​ชิ้น​เท่านั้น​ ​แต่​มูลค่า​ของ​ของ​สี่​สิง​นี้​ต่อให้​เอา​ของ​ใน​ท้องพระคลัง​ของ​ราชวงศ์​ต้า​ฉู่​ขาย​ไป​จน​สิ้น​ ​ก็​ไม่แน่​ว่า​จะ​เทียบเคียง​ได้

ชุด​คลุม​ไหม​หิมะ​ ​ถัก​ทอ​ขึ้น​จาก​หนอน​ไหม​หิมะ​บน​ยอดเขา​ ​ว่า​กัน​ว่า​หนอน​ไหม​หิมะ​มี​จำนวน​น้อยมาก​หนำซ้ำ​แต่ละ​ปี​ยัง​คาย​เส้น​ไหม​ออกมา​เพียง​เล็กน้อย​ ​แค่​เก็บ​รวบรวม​มาทอ​เป็น​เสื้อผ้า​หนึ่ง​ชุด​ก็​จำเป็นต้อง​ใช้เวลา​เป็น​ร้อย​ปี​แล้ว​ ​ชุด​คลุม​ไหม​หิมะ​เป็น​ผ้า​ที่​ใส่​แล้ว​จะ​อุ่น​ใน​ฤดูหนาว​ ​เย็นสบาย​ใน​ฤดูร้อน​ ​น้ำ​ไฟ​หรือ​ความคม​จาก​มีด​และ​หอก​ไม่​อาจ​ทะลุ​ผ่าน​เนื้อผ้า​ได้​ ​ดังนั้น​จึง​กล่าว​ได้​ว่า​เป็น​ชุด​ป้องกันตัว​อัน​เลอ​ค่า​แห่ง​ใต้​หล้า​นี้​ ​แต่​ที่​สำคัญ​ที่สุด​ก็​คือ​วิธีการ​ถัก​ไหม​หิมะ​นี้​ไม่ได้​ถูก​สืบทอด​ต่อ​และ​ได้​หายสาบสูญ​ไป​แล้ว​ ​ที่​พระราชวัง​ต้า​ฉู่​เก็บ​สมบัติ​ชิ้น​นี้​เอาไว้​ถือว่า​เป็น​สมบัติ​ชิ้น​สุดท้าย​ของ​โลก​ ​หาก​ไม่ได้​เก็บ​อยู่​ใน​วัง​หลวง​ของ​ต้า​ฉู่​มาโดยตลอด​ ​เกรง​ว่า​อาจ​ก่อให้เกิด​การนองเลือด​ไป​ทั้ง​ใต้​หล้า​แล้วก็​เป็นได้​ ​ส่วน​ของ​ที่​เหลือ​อีก​สาม​อย่าง​ก็​ไม่​ต่าง​กับ​ชุด​คลุม​ไหม​หิมะ​ ​ว่า​กัน​ว่า​ดาบ​เพลิง​อัคคี​จักรพรรดิ​เป็น​ดาบ​ที่​บันทึก​ถึง​จักรพรรดิ​ไท่​หวัง​ด้วย​ลายลักษณ์อักษร​ชิ้น​แรก​ใน​ประวัติศาสตร์​ ​ไม่ต้อง​นึก​เลย​ว่า​ดาบ​เล่ม​นี้​ผ่าน​อะไร​มามาก​น้อย​เพียงใด​ ​แต่​มัน​ยัง​เป็น​ถึง​สัญลักษณ์​ของ​องค์​ฮ่องเต้​เลย​ทีเดียว

ม่อ​ซิว​เหยา​แค่​เปิดปาก​ก็​ต้องการ​ของ​ทั้ง​สี่​สิ่ง​นี้​แล้ว​ ​เรียก​ได้​ว่า​ขุด​ท้องพระคลัง​ของ​ต้า​ฉู่​กว่า​ครึ่ง​ไป​ใน​ทีเดียว​เลย​ก็​ว่า​ได้​ ​ซึ่ง​นี่​ทำให้​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ปวดใจ​เพียงใด​ ​เขา​แทบจะ​ใจสลาย​อยู่​แล้ว​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​นอกจาก​ของ​สี่​สิ่ง​นี้​แล้ว​เขา​ยัง​กล้า​พูดว่า​ ​แล้วก็​ ​ต่อ​อีก​!

พอ​เห็นท่า​ทาง​เดือดดาล​ของ​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​ก็​ดูเหมือน​จะ​อารมณ์ดี​ขึ้น​มา​ ​เอ่ย​ต่อ​เรียบๆ​ ​ว่า​ ​“​แล้วก็​ ​ทาง​ตอนเหนือ​ ​โดยเฉพาะ​ที่​ฉู่​จิง​ ​หลี​อ๋อง​ยัง​เก็บของ​ที่​ไม่​ควร​เก็บ​เอาไว้​อีก​ ​หลี​อ๋อง​เห็น​ว่า​จะ​เอา​กลับ​ไป​เอง​ดี​ ​หรือ​จะ​มอบ​มัน​ให้​ข้า​ดี​หรือ​”​ ​ดวงตา​ม่อ​จิ​่ง​หลี​หรี่​เล็ก​ลง​ ​เขา​ย่อม​รู้ดี​ว่า​พูดถึง​อะไร​ ​ถึงแม้​ราชสำนัก​ต้า​ฉู่​จะ​ย้ายถิ่น​ฐาน​ลง​ใต้​แล้ว​ ​แต่​ไม่ว่า​จะ​ใน​ฉู่​จิง​หรือ​ซี​เป่ย​ ​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ยังคง​แฝง​สาย​สอดแนม​เอาไว้​ไม่น้อย​ ​ส่วน​ความหมาย​ของ​ม่อ​ซิว​เหยา​ก็​คือ​ ​ต้องการ​ให้​เขา​ถอน​คน​เหล่านี้​ออก​ไป​ทั้งหมด​!

ชายาเคียงหทัย

ชายาเคียงหทัย

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1-37 อ่านนิยาย

(อ่านตอนต่อไปด้านล่าง)


หลังถูกน้องสาวร่วมบิดาแทงข้างหลัง ทำให้ เยี่ยหลี คุณหนูสามแห่งจวนตระกูลเยี่ยถูกถอนหมั้นจาก ม่อจิ่งหลี ท่านอ๋องรูปงามแห่งเมืองหลวง แต่นางก็ยังมองโลกในแง่ดี หวังว่าตนจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขไปอีกสักสองสามปี ทว่าเหตุไฉนสามวันให้หลัง ฝ่าบาทถึงได้พระราชทานสมรสให้นางอีกครั้งเล่า!

การแต่งงานครั้งนี้แม้ฉากหน้าจะดูเหมือนเป็นเรื่องที่น่ายินดีนัก แต่คนที่นางต้องอภิเษกสมรสด้วยกลับเป็น ม่อซิวเหยา ท่านอ๋องพิการไร้ประโยชน์ อีกทั้งยังมีรูปโฉมอัปลักษณ์ เล่าลือกันว่าเขาเคยผ่านการแต่งงานมาแล้วถึงสองครา ทว่าหญิงสาวทั้งสองคนที่เขาสมรสด้วยกลับต้องมีอันเป็นไปภายหลังจากการแต่งงานได้ไม่นาน

แต่ช้าก่อน…บุรุษที่แสนอ่อนโยนและเก่งกาจตรงหน้านางนี้น่ะหรือคือม่อซิวเหยา บุรุษที่กล่าวกันว่าเป็นคนน่ากลัว ไร้ค่า ไม่ได้เรื่องได้ความคนนั้น นี่คงมีอะไรที่เข้าใจผิดไปแล้วกระมัง

Options

not work with dark mode
Reset