ชายาเคียงหทัย 332-2 จักรพรรดินีอันซี

ตอนที่ 332-2 จักรพรรดินีอันซี

​เมื่อ​เห็น​เด็กชาย​ที่​มีหน้า​ตารา​วกับ​แกะสลัก​ตรงหน้า​คำนับ​ให้​ตน​อย่างจริงจัง​ ​รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ของ​องค์​หญิง​อัน​ซียิ​่​งก​ว้าง​ขึ้นไป​อีก​ ​นาง​หันไป​หา​เยี​่ย​หลี​และ​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ ​“​สม​กับ​เป็น​ซื่อ​จื่อ​น้อย​แห่ง​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​ ​ตอนที่​ข้า​อายุ​เจ็ด​แปด​ขวบ​ยัง​วิ่งเล่น​อยู่​ใน​วัง​อยู่​เลย​”

​ใน​ฐานะ​แม่​ ​นาง​ย่อม​ชอบ​ได้ยิน​คนอื่น​ชื่นชม​ลูก​ของ​นาง​ ​เยี​่ย​หลี​ยิ้ม​พลาง​เอ่ย​ ​“​อย่า​มอง​แค่​ใบหน้า​เด็กดี​ของ​เขา​ใน​ตอนนี้​ ​ยาม​ปกติ​ก็​ดื้อ​ไม่เบา​ทีเดียว​”

​หลังจาก​คิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​องค์​หญิง​อัน​ซีก​็​หยิบ​อัญมณี​สีน้ำเงิน​ออกมา​ ​แล้ว​ยื่น​ให้​ม่อ​ตัว​น้อย​ ​นาง​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ ​“​ข้า​ลืม​เตรียม​ของขวัญ​มา​ให้​ ​อย่า​รังเกียจ​กัน​ล่ะ​”​ ​ม่อ​ตัว​น้อย​รับ​ด้วยมือ​ทั้งสอง​ข้าง​ ​ก่อน​จะ​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​สงบนิ่ง​ ​“​อวี​้​เฉิน​ขอบพระคุณ​จักรพรรดินี​มาก​”​ ​องค์​หญิง​อัน​ซี​มองดู​ใบหน้า​น้อย​นิด​ที่​ดู​เอาจริงเอาจัง​ของ​เขา​แล้ว​ ​ก็​ยิ่ง​ให้​รัก​จน​ถอนตัว​ไม่​ขึ้น​ ​“​ถ้า​ลูก​ของ​ข้า​หน้าตา​ดี​เหมือน​ซื่อ​จื่อ​น้อย​สัก​แปด​ส่วน​ ​ข้า​ก็​คงจะ​พอใจ​แล้ว​”

​ม่อ​ตัว​น้อย​กระพริบตา​ ​ก่อน​จะ​เอ่ย​เสียงดัง​ฟัง​ชัด​ ​“​จักรพรรดินี​เป็น​ธิดา​สวรรค์​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​องค์​ชายน้อย​หรือ​องค์​หญิง​น้อย​ ​ต้อง​เป็น​ผู้มีความรู้​ความสามารถ​และ​รูปลักษณ์​ไม่ธรรมดา​เป็นแน่​”

​องค์​หญิง​อัน​ซีสุข​ใจ​ ​“​เช่นนั้น​ก็​ขอบใจ​ใน​คำ​อวยพร​ของ​ซื่อ​จื่อ​น้อย​แล้ว​”

​หลังจาก​คำนับ​องค์​หญิง​อัน​ซี​ ​ม่อ​ตัว​น้อย​จึง​ส่ง​อัญมณี​ล้ำค่า​ที่​องค์​หญิง​อัน​ซี​มอบให้​ให้​กับ​ผู้ติดตาม​ที่อยู่​ด้านหลัง​ ​เขา​เดิน​ไปหา​เยี​่ย​หลีก​่อน​จะ​นั่งลง​ ​องค์​หญิง​อัน​ซี​ไม่​เพียง​เห็น​ว่า​เขา​รูปงาม​เท่านั้น​ ​แต่​ยัง​ประพฤติ​ตัวดี​และ​มีมา​รยา​ทอี​กด​้วย​ ​ราวกับว่า​เขา​เกิด​มา​พร้อมกับ​ความสูง​ส่ง​ ​นาง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ถอนหายใจ​ต่อ​ความโชคดี​ของ​เยี​่ย​หลี​และ​ม่อ​ซิว​เหยา​ ​นาง​ก้ม​ศีรษะ​ลง​พลาง​ลูบ​ท้องที่​นูน​ขึ้น​เล็กน้อย​ด้วย​ความคาดหวัง​มากกว่า​เดิม

​“​พระ​ชายา​ ​องค์​ชายน้อย​และ​ท่านหญิง​น้อย​อยู่​ที่นี่​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​ ​แม่นม​สอง​คน​เข้ามา​พร้อมกับ​ทารก​สอง​คนใน​อ้อมแขน​ ​ดวงตา​ของ​ม่อ​ตัว​น้อย​เป็นประกาย​ขึ้น​ทันที​ ​เขามอง​ไป​ที่​ตุ๊กตา​ตัว​น้อย​สอง​คนที​่​อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​เยี​่ย​หลี​และ​องค์​หญิง​อัน​ซี​ ​เด็ก​ทั้งสอง​ก็​เลี้ยง​ง่าย​มาก​เช่นกัน​ ​แม้แต่​คนแปลกหน้า​อย่าง​องค์​หญิง​อัน​ซี​มา​อุ้ม​ก็​ไม่​ร้องไห้​ ​เด็กทารก​ที่นอน​อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​เยี​่ย​หลี​ ​ดูเหมือน​จะ​รู้สึก​ถึง​ความอบอุ่น​ของ​แม่​ ​จึง​ยิ่ง​ยิ้ม​กว้าง​ขึ้น​กว่า​เดิม​ ​ม่อ​ตัว​น้อย​ยืด​คอม​อง​ ​“​ชอบ​ยิ้ม​เช่นนี้​ ​ต้อง​เป็น​น้องชาย​แน่ๆ​”​ ​เด็กแรกเกิด​ทั้งสอง​ใน​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​ไม่​งอแง​เลย​ ​น้องชาย​หลิน​เอ๋อร​์​ก็​เป็น​คนที​่​ยิ้ม​ง่าย​ ​ตราบใดที่​เขา​ยัง​ไม่​หลับ​ ​ไม่ว่า​ใคร​มา​เล่น​กับ​เขา​ ​ก็​สามารถ​ทำให้​เขา​หัวเราะ​คิกคัก​ได้​ทั้งนั้น​ ​ซึ่ง​แน่นอน​ว่า​คนที​่​มา​หยอกล้อ​กับ​เขา​ต้อง​ไม่ใช่​ติ้ง​อ๋อง​ม่อ​ซิว​เหยา

​องค์​หญิง​อัน​ซี​อุ้ม​เสี่ยว​ซิน​เอ๋อร​์​ ​มือ​เกร็ง​ตบ​ผ้าอ้อม​ของ​องค์​หญิง​ตัว​น้อย​ด้วย​ความระมัดระวัง​ ​พลาง​ถอนหายใจ​ด้วย​ความอิจฉา​ ​“​พระ​ชายา​และ​ติ้ง​อ๋อง​ช่าง​โชคดี​จริงๆ​ ​ซื่อ​จื่อ​น้อย​ทั้งสอง​และ​ท่านหญิง​น่ารัก​มาก​”​ ​เยี​่ย​หลี​เผย​ยิ้ม​บาง​ๆ​ ​โดย​ไม่ได้​เอ่ย​อะไร

​เมื่อ​ส่ง​องค์​หญิง​อัน​ซี​ไป​แล้ว​ ​เยี​่ย​หลีก​็​พาทา​รก​ทั้งสอง​กลับ​ไป​ที่​ห้อง​ ​และ​พา​พวกเขา​นอน​ก่อน​จะ​เดิน​ไป​ยัง​ห้อง​หนังสือ​ที่​เรือน​หน้า​ ​เพียงแค่​เดิน​ไป​ถึง​สวน​หน้า​ของ​ห้อง​หนังสือ​ก็​เจอ​เข้ากับ​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ที่​กำลัง​เดิน​เข้ามา​หา​ ​ยาม​เห็น​ใบหน้า​ที่​ดู​น่ากลัว​ของ​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ ​เยี​่ย​หลีก​็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​หลบเลี่ยง​ ​แม้ว่า​นาง​จะ​ไม่​กลัว​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ ​แต่​หาก​ต้อง​เผชิญ​กับ​ใบหน้า​ที่​ราวกับว่า​มี​คนอื่น​ติดหนี้​เขา​อยู่​ห้า​ล้าน​ตำลึง​และ​ไม่ยอม​คืน​ ​อย่างไร​เสีย​ก็​รู้สึก​ไม่สบายใจ

​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ชะงัก​ไป​ชั่วครู่​ ​เขา​เห็น​นาง​แล้ว​ ​เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​เยี​่ย​หลี​ย่อม​ไม่​สามารถ​หันหลัง​กลับ​และ​เดิน​จากไป​ได้​อีก​ ​เยี​่ย​หลี​จำต้อง​ก้าว​ไป​ข้างหน้า​และ​พยักหน้า​ ​ก่อน​พูดว่า​ ​“​หลี​อ๋อง​”​ ​ใน​ช่วง​ไม่​กี่​วัน​มานี​้​ ​งาน​สำคัญ​หลายอย่าง​ใน​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​มี​เยอะ​มาก​ ​ไม่เพียงแต่​จะ​ยุ่ง​กับ​งาน​ต่างๆ​ ​ใน​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​และ​งานเลี้ยง​วันเกิด​เท่านั้น​ ​แต่​คน​จำพวก​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ที่​กินข้าว​อิ่ม​แล้ว​ว่าง​ไม่มี​อะไร​ทำ​ ​จึง​เข้ามา​หา​เพื่อน​พูดคุย​ก็​มีอยู่​มาก​เช่นกัน​ ​เพียงแค่​ไม่รู้​ว่าวั​นนี​้​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ต้องการ​พูด​อะไร​กับ​ม่อ​ซิว​เหยา​ ​แต่​ดู​จาก​ใบหน้า​ของ​ม่อ​จิ​่ง​หลีก​็​พอ​จะ​รู้​ว่าการ​สนทนา​ได้​พัง​ลง​แล้ว

​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ยืน​อยู่​หน้า​เยี​่ย​หลี​โดย​ไม่ได้​พูด​อะไร​ ​เขา​แค่​มอง​นาง​ ​สายตา​เช่นนี้​ทำให้​เยี​่ย​หลี​ขมวดคิ้ว​ไม่พอใจ​เล็กน้อย​ ​ก่อน​จะ​พูด​อย่าง​แผ่วเบา​ ​“​ถ้า​หลี​อ๋อง​ไม่มี​อะไร​จะ​พูด​ ​ข้า​ยัง​มีธุระ​ต้อง​คุย​กับ​ท่าน​อ๋อง​อีก​ ​ขอตัว​”​ ​ม่อ​จิ​่ง​หลี​มอง​นาง​ ​พลาง​เอ่ย​ ​“​ต้อง​พูด​กับ​ข้า​เช่นนี้​เลย​หรือ​”

​เยี​่ย​หลี​ตกตะลึง​ ​จับต้นชนปลายไม่ถูก​อยู่​พักใหญ่​ ​มอง​ม่อ​จิ​่ง​หลี​อย่าง​งุนงง​ ​ไม่เข้าใจ​คำพูด​ของ​เขา​โดยสิ้นเชิง​ว่า​หมายความว่า​อะไร​ ​นาง​คิด​ว่า​กิริยา​ของ​นาง​ไม่ได้​เสียมารยาท​ที่​ตรงไหน

​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ดูเหมือน​จะ​กระสับกระส่าย​เล็กน้อย​ ​เขา​ถลึงตา​มอง​เยี​่ย​หลี​อย่าง​ดุดัน​และ​พูดว่า​ ​“​ตอนนั้น​เพราะ​ข้า​ยกเลิก​งานแต่งงาน​กับ​เจ้า​ ​เจ้า​จึง​เกลียด​ข้า​เช่นนี้​เลย​หรือ​ ​จะ​ต้อง​ช่วย​ม่อ​ซิว​เหยา​ตั้งตัว​เป็น​ศัตรู​กับ​ข้า​ให้​ได้​เลย​ใช่​หรือไม่​ ​ตอนนี้​ม่อ​ซิว​เหยา​ครอบครอง​ฉู่​จิง​ได้​แล้ว​ ​เจ้า​พอใจ​หรือยัง​”

​เยี​่ย​หลี​อด​ไม่ได้​ที่จะ​กรอก​ตา​ ​แล้ว​ถาม​สวรรค์​ว่านี​่​มัน​เรื่อง​อะไร​กัน​ ​เยี​่ย​หลี​พ่นลม​หายใจ​เบา​ๆ​ ​ก่อน​จะ​เอ่ย​อย่างใจ​เย็น​ ​“​หลี​อ๋อง​ ​ข้า​คิด​ว่า​ท่าน​คง​จำได้​ว่า​ ​ท่าน​เป็น​คน​สละ​ฉู่​จิง​ไป​ก่อน​เอง​ ​จากนั้น​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​จึง​ไป​ช่วย​ฉู่​จิง​ ​ไม่​สิ​ ​ช่วย​ฉาง​ซิง​ไว้​ ​เรา​ไม่ได้​แย่ง​มาจาก​มือ​ของ​ท่าน​เสียหน่อย​”​ ​ม่อ​จิ​่ง​หลี​สูด​ลมหายใจ​เข้า​ ​สีหน้า​เคร่งขรึม​ ​ก่อน​จะ​เอ่ย​อย่าง​แข็งกร้าว​ ​“​ถึงกระนั้น​ ​นั่น​ก็​เป็น​ขอ​ของง​ต้า​ฉู่​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​การ​ที่​เป่ย​หรง​และ​เป่ย​จิ้ง​ไป​โจมตี​ต้า​ฉู่​ไม่ได้​อยู่​ใน​แผนการ​ของ​ม่อ​ซิว​เหยา​อยู่​แล้ว​หรือ​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​เจ้า​เป็น​คน​ช่วย​ม่อ​ซิว​เหยา​ ​เขา​จะ​เอาชนะ​ซี​หลิง​ได้​รวดเร็ว​เพียงนี้​ได้​อย่างไร​”

​เยี​่ย​หลี​หัวเราะ​อย่าง​โกรธเคือง​ ​“​หลี​อ๋อง​ ​การ​ที่​เป่ย​หร​งกับ​เป่ย​จิ้ง​มา​โจมตี​ต้า​ฉู่​เกี่ยว​อะไร​กับ​พวกเรา​ด้วย​ ​หรือ​เพราะ​ท่าน​อ๋อง​ของ​ข้า​หาเรื่อง​ให้​พวกเขา​ไป​โจมตี​ต้า​ฉู่​อย่างนั้น​สิ​ ​อีก​อย่าง​ ​ข้า​เป็น​ชายา​ติ้ง​อ๋อง​ ​ข้า​ไม่​ช่วย​สามี​ของ​ตัวเอง​ ​แล้ว​จะ​ไป​ช่วย​ใคร​ ​อีก​อย่าง​ ​เมื่อ​หลาย​ปีก่อน​ข้า​เคย​บอก​ท่าน​อ๋อง​ไป​แล้ว​ ​ไม่ทราบ​ว่า​ท่าน​อ๋อง​ยัง​จำได้​หรือไม่​”

​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​ไม่เข้าใจ​สิ่ง​ที่นาง​พูด

​เยี​่ย​หลี​ค่อยๆ​ ​พูด​ช้าๆ​ ​“​การ​คิด​เอง​เออ​เอง​ ​ถือเป็น​โรค​ ​ต้อง​ได้รับ​การรักษา​ ​ขอ​ท่าน​อ๋อง​โปรด​พิจารณา​ให้​มากกว่า​นี้​ ​ข้า​ขอตัว​”​ ​เมื่อ​นาง​เอ่ย​จบ​ ​ก็​เมินเฉย​ต่อ​ปฏิกิริยา​ของ​ม่อ​จิ​่ง​หลี​และ​ออก​เดิน​ต่อไป​ยัง​ทิศทาง​ของ​ห้อง​หนังสือ​ทันที

​“​เยี​่ย​หลี​”​ ​จู่ๆ​ ​ม่อ​จิ​่ง​หลีก​็​อุทาน​ออกมา​ ​ก่อน​จะ​เอื้อมมือ​ไป​จับ​ข้อมือ​ของ​เยี​่ย​หลี​ไว้​ ​แต่​เยี​่ย​หลี​หา​ใช่​ผู้หญิง​อ่อนแอ​ทั่วไป​ที่จะ​ยอมให้​เขา​ดึง​ไว้​ได้​ง่ายๆ​ ​นาง​ยกมือ​ขึ้น​มากั​นมือ​ของ​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ ​ม่อ​จิ​่ง​หลี​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​หนักแน่น​ว่า​ ​“​ข้ามี​เรื่อง​จะ​คุย​กับ​เจ้า​!​”​ ​เยี​่ย​หลี​เอ่ย​อย่างสงบ​นิ่ง​ ​“​ข้า​ไม่มี​อะไร​จะ​พูด​กับ​หลี​อ๋อง​”​ ​เขา​ยื่น​อีก​มือหนึ่ง​มาค​ว้า​แขน​ของ​เยี​่ย​หลี​เอาไว้​ ​เยี​่ย​หลี​เบี่ยง​ตัว​หลบ​ ​ประกาย​เย็นวาบ​ที่​วิ่ง​ออกมา​จาก​แขน​เสื้อ​ทำให้​พวกเขา​ผะ​ออกห่าง​จากกัน​ ​เยี​่ย​หลี​ยกมือ​ขึ้น​ห้าม​องครักษ์​ลับ​ไม่​ให้​ออกมา​ ​นาง​จ้อง​ม่อ​จิ​่ง​หลี​และ​พูดว่า​ ​“​หลี​อ๋อง​ ​ที่นี่​คือ​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​ ​ไม่ใช่​ที่​ที่​ท่าน​สามารถ​ทำ​ทุกอย่าง​ตามอำเภอใจ​ได้​”

​ม่อ​จิ​่ง​หลี​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​และ​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​หนักแน่น​ว่า​ ​“​ข้ามี​อะไร​จะ​คุย​กับ​เจ้า​เป็นการ​ส่วนตัว​”

​เยี​่ย​หลี​ขมวดคิ้ว​ ​ก่อน​จะ​เอ่ย​ ​“​ข้า​ก็​บอก​แล้ว​อย่างไร​ ​ว่า​ไม่มี​อะไร​จะ​คุณ​กับ​ท่าน​อ๋อง​เป็นการ​ส่วนตัว​ ​ข้า​เคารพ​ท่าน​ใน​ฐานะ​แขก​ ​ท่าน​อ๋อง​โปรด​พึงระวัง​ใน​คำพูด​และ​การกระทำ​ของ​ตนเอง​ด้วย​ ​ขอตัว​”​ ​จากนั้น​นาง​ก็​หันหลัง​และ​เดิน​จากไป​ ​ม่อ​จิ​่ง​หลี​อยาก​จะ​ไล่ตาม​นาง​ ​ทว่า​ก็​มี​เงาดำ​สอง​เงา​วาบ​ผ่าน​ ​องครักษ์​ลับ​ใน​ชุด​ดำ​มายื​นอยู​่​ตรงหน้า​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ ​“​หลี​อ๋อง​ ​โปรด​พึงระวัง​ใน​คำพูด​และ​การกระทำ​ของ​ท่าน​ด้วย​”

​เมื่อ​เห็น​คน​สอง​คนที​่​เห็นได้ชัด​ว่า​ฝีมือ​ไม่ธรรมดา​ตรงหน้า​ ​แล้ว​มอง​เยี​่ย​หลี​ที่​จากไป​อีกครั้ง​ ​ในที่สุด​ม่อ​จิ​่ง​หลีก​็​สบถ​ออกมา​อย่าง​เย็นชา​ ​ก่อน​จะ​สะบัด​แขน​เสื้อ​แล้ว​จากไป

​เมื่อ​เข้าไป​ใน​ห้อง​หนังสือ​ที่​ม่อ​ซิว​เหยา​กำลัง​นั่ง​อ่านหนังสือ​อยู่​ ​พอได้​ยิน​เสียง​ฝีเท้า​ ​แล้ว​เงยหน้า​ขึ้น​เห็น​เยี​่ย​หลี​ ​เขา​ก็​เผย​รอยยิ้ม​ออกมา​อย่าง​อด​ไม่ได้​ ​“​อา​หลี​ ​องค์​หญิง​อัน​ซี​ไป​แล้ว​หรือ​”​ ​เยี​่ย​หลี​พยักหน้า​และ​พูดว่า​ ​“​ข้า​พบ​กับ​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ใน​สวนดอกไม้​ ​อารมณ์เสีย​เหมือน​ไป​โกรธ​ใคร​มา​ ​พวก​เจ้า​คุย​อะไร​กัน​หรือ​”​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​เอื้อมมือ​ไป​ดึง​เยี​่ย​หลี​มา​ไว้​ใน​อ้อมแขน​ ​การถู​กบั​งคับ​ให้​นั่งลง​บน​ตัก​ของ​ใคร​บางคน​ ​ทำให้​เยี​่ย​หลี​รู้สึก​ขัดเขิน​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​ยิ้ม​บาง​ๆ​ ​ก่อน​จะ​โบกมือ​ ​แล้วจึง​มี​ลม​พัด​ปิดประตู​อย่างแรง​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​พูด​พลาง​ยิ้ม​ ​“​จะ​คุย​อะไร​ได้​อีก​เล่า​ ​ก็​ว่า​ข้า​ต่ำต้อย​และ​ฉวยโอกาส​น่ะ​สิ​ ​แล้วก็​มา​ลอง​หยั่งเชิง​ว่า​จะ​เอา​เมือง​ฉาง​ซิง​กลับ​ไป​ได้​หรือไม่​”

ชายาเคียงหทัย

ชายาเคียงหทัย

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1-37 อ่านนิยาย

(อ่านตอนต่อไปด้านล่าง)


หลังถูกน้องสาวร่วมบิดาแทงข้างหลัง ทำให้ เยี่ยหลี คุณหนูสามแห่งจวนตระกูลเยี่ยถูกถอนหมั้นจาก ม่อจิ่งหลี ท่านอ๋องรูปงามแห่งเมืองหลวง แต่นางก็ยังมองโลกในแง่ดี หวังว่าตนจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขไปอีกสักสองสามปี ทว่าเหตุไฉนสามวันให้หลัง ฝ่าบาทถึงได้พระราชทานสมรสให้นางอีกครั้งเล่า!

การแต่งงานครั้งนี้แม้ฉากหน้าจะดูเหมือนเป็นเรื่องที่น่ายินดีนัก แต่คนที่นางต้องอภิเษกสมรสด้วยกลับเป็น ม่อซิวเหยา ท่านอ๋องพิการไร้ประโยชน์ อีกทั้งยังมีรูปโฉมอัปลักษณ์ เล่าลือกันว่าเขาเคยผ่านการแต่งงานมาแล้วถึงสองครา ทว่าหญิงสาวทั้งสองคนที่เขาสมรสด้วยกลับต้องมีอันเป็นไปภายหลังจากการแต่งงานได้ไม่นาน

แต่ช้าก่อน…บุรุษที่แสนอ่อนโยนและเก่งกาจตรงหน้านางนี้น่ะหรือคือม่อซิวเหยา บุรุษที่กล่าวกันว่าเป็นคนน่ากลัว ไร้ค่า ไม่ได้เรื่องได้ความคนนั้น นี่คงมีอะไรที่เข้าใจผิดไปแล้วกระมัง

Options

not work with dark mode
Reset