จอมใจจอมทัพ 26 พรมจูบ

ตอนที่ 26 พรมจูบ

มันทำให้นางน้อยเนื้อต่ำใจเป็นยิ่งนัก นางเองใช่หินผาที่จะไร้ความรู้สึก เขาคิดจะมาตอนไหนก็มา คิดจะกอดจูบลูบคลำก็ทำตามอำเภอใจ เบื่อก็ไปหาสตรีคนใหม่เช่นนั้นหรือ

คงจะเพราะนางไม่ยอมทอดกายให้เขาอย่างนั้นสินะ…

“ ทำไมจ้องมองข้าด้วยสายตาหมางเมินเช่นนั้นเล่า ซูเม่ย ข้าเป็นคนช่วยเจ้าออกมาจากพวกสวะเจี้ยนจิงเหล่านั้นนะ ขอบคุณสักคำก็หามีไม่ ” เขาตัดพ้อ ก่อนจะกระชับนางเข้ามาในอ้อมกอดแน่นขึ้น

“ ขอบคุณ ” นางตอบกลับอย่างขอไปที ทำให้เขาหัวเราะร่วนอย่างขัน ๆ

“ เด็กดื้อ ขอบคุณอย่างนี้มันใช้ได้ที่ไหนกันเล่า ”

ซูเม่ยค้อนขวับแต่ไม่ได้ต่อปากต่อคำ เพราะพึ่งสังเกตรอบตัวว่ามีแมกไม้นานาพรรณ บุปผาหลากสีสันส่งกลิ่นหอม อ่อน ๆ

“ ที่นี่ที่ไหนกันหรือ ”

“ ธารน้ำอุ่น ใจกลางหุบเขาเทียนเล่อ ”

“ หุบเขาเทียนเล่อมีสถานที่งดงามเช่นนี้ด้วยหรือ ” นางว่าพลางผุดลุกขึ้นนั่งเพื่อมองทัศนียภาพรอบตัวให้ชัดเจนอีกครั้ง

“ ช่างงดงามจริง ๆ ข้าเป็นคนหงโจวแท้ ๆ ยังมิเคยรู้มาก่อนว่ามีสถานที่งดงามเช่นนี้อยู่กลางหุบเขา ”

ร่างใหญ่ผุดลุกขึ้นนั่งตาม ยามนั้นนางจึงสังเกตได้ว่าเขาเองมีเพียงกางเกงตัวสวมอยู่เพียงตัวเดียว ใบหน้างามซับสีเลือดแดงระเรื่อขึ้นมาทันที

“ เหตุใดท่านจึงมิสวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ”

“ ก็ข้าใช้ปูให้เจ้านอนบนต้นหญ้าอย่างไรเล่า ประเดี๋ยวต้นหญ้าจะแทงผิวนวล ๆ ให้เป็นรอยหมด ”

เขาว่าพลางขยับเข้ามาอุ้มยกนางขึ้นไปนั่งบนตัก ก่อนจะก้มลงพรมจูบไปทั่วซอกคอขาวเนียน ตอเคราสากที่ล้อมกรอบใบหน้าคมเข้มครูดไล้ผิวนวลเบา ๆ นางร้อนวูบวาบไปทั่วสรรพางค์

“ ไม่มีต้นหญ้าที่ไหนจะมาแทงผิวข้าได้หรอก นอกจากหนวดเคราของท่านในตอนนี้ ” นางว่าพลางผลักไสใบหน้าเขาให้ออกห่าง เขาหัวเราะเบา ๆ แล้วยังดึงดันพรมหอมจูบ

“ ท่านแม่ทัพ อย่านะ ! ”

“ อย่าอะไร เจ้าเองก็ไม่ได้สวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อยเช่นกัน ไม่หนาวหรอกหรือ ข้าแค่จะช่วยให้เจ้าอุ่นขึ้น ไม่ได้คิดจะทำอะไรเสียหน่อย ” เขาว่าอย่างเจ้าเล่ห์พลางซุกไซ้ไม่หยุด มือใหญ่ข้างหนึ่งซุกซนลูบไล้ไปที่แผ่นหลังนวลเนียน ซูเม่ยจึงรู้สึกตัวว่าตนนั้นก็เปลือยเปล่า มีเพียงเสื้อคลุมตัวนอกที่คลุมไว้เท่านั้น

“ เหตุใดข้าจึงมิได้สวมอาภรณ์ ”

“ อ้าว ก็ตอนที่ข้าไปช่วยเจ้าออกมาเจ้าก็เปลือยเปล่า ข้าใช้เสื้อคลุมเจ้าเท่านั้น พอมาถึงที่นี่เจ้าก็หลับอยู่ ข้าเห็นเจ้าเหนื่อยอ่อนหลับใหลก็เลยปล่อยให้นอนสบาย ๆ ไม่อยากสวมเสื้อผ้าให้เพราะกลัวจะปลุกให้เจ้าตื่น ” เป็นคำอธิบายที่แลดูดีเหลือเกิน แต่นางรู้ดีจากดวงตาระยิบระยับนั้นว่า เขาอยากจะให้นางเปลือยมากกว่าจะหวังดีอย่างอื่น

“ เอ่อ นั่นมีธารน้ำด้วยหรือ งามเสียจริง ราวกับอัญมณีเลยทีเดียว ” นางพยายามปัดป้องผลักไสใบหน้าหล่อเหลานั้นให้ ออกห่างแล้วเสพูดถึงเรื่องอื่น เขาจึงต้องหยุดการกระทำนั้น

“ เป็นน้ำร้อนที่ผุดจากใต้ดิน บ้างก็ลือกันว่าเป็นน้ำอมฤตจากสวรรค์ หากได้ดื่มกินร่างกายก็จะแข็งแรง ขับไล่โรคร้าย หากได้แช่อาบ เป็นแผลก็จะประสาน โรคภัยก็จะหายไป ” คำอธิบายนั้นทำให้นางตาโตอย่างแปลกใจ

“ ท่านรู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไร ท่านเป็นคนหงโจวเช่นกันหรือ ” เขาส่ายศีรษะ

“ เปล่า ข้ามาจากดินแดนอันไกลโพ้น แต่ข้าเคยช่วยเหลือนักพรตท่านหนึ่งไว้ก่อนที่จะเข้าไปเจอทัพหงโจว ท่านเคยบอกข้าว่าเคยมาบำเพ็ญเพียรที่นี่ และยังมอบคำทำนายแก่ข้าอีกด้วยว่า หงโจวจะชุบชีวิตและจิตใจของข้ากลับมาอีกครั้ง ”

“ หมายความว่าเช่นไรหรือ ” ชายหนุ่มส่ายศีรษะ

“ ข้าก็มิอาจรู้ได้ อาจจะเป็นครั้งใดครั้งหนึ่งที่ข้าคงจะบาดเจ็บจากการรบพุ่งกระมัง บ่อน้ำอมฤตนี้คงจะช่วยชุบชีวิตข้าเอาไว้ได้ เมื่อถึงยามนั้นข้าหวังว่าเจ้าคงไม่ใจร้ายปล่อยให้ข้าตายนะ เพราะเจ้าเป็นผู้เดียวที่รู้เรื่องบ่อน้ำนี้ ” เขาว่าติดตลก นางส่ายศีรษะช้า ๆ แววตามุ่งมั่น

“ ท่านเป็นผู้มีพระคุณของข้า คอยช่วยข้าไว้ตลอด โบราณว่าไว้บุญคุณต้องทดแทน ความแค้นต้องชำระ ”

“ แล้วเจ้าถือข้อไหนต่อข้าหรือ บุญคุณหรือความแค้น ” นางช้อนตาขึ้นค้อนขวับ นั่นทำให้เขาหัวเราะออกมา

“ ดูท่าแล้วจะเป็นความแค้นมากกว่าเสียกระมัง ซื่อหลุนเอ๋ย เจ้านี่มันทำคุณบูชาโทษจริง ๆ ขนาดคอยตามช่วยเหลือเขาขนาดนี้เขายังไม่นึกว่ามีบุญคุณ ”

“ บุญคุณก็อีกส่วน ก็ใครใช้ให้ท่านหายไปเลยนับจากคืนนั้นเล่า เห็นข้าเป็นตัวอะไร อยากมาก็มาอยากทำอะไรก็ทำ แล้วก็หายลับไปราวกับไร้ตัวตน ท่านคงไปหาหญิงสาวที่ยินยอมทอดกายให้มาร่วมสุขสมสินะ เพราะข้าให้ท่านไม่ได้ ”

Options

not work with dark mode
Reset