คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา 533 จิ้นอ๋องเป็นคนเช่นไร / 534 ซื้อข้าว

ตอนที่ 533 จิ้นอ๋องเป็นคนเช่นไร / ตอนที่ 534 ซื้อข้าว

ตอนที่​ 533 จิ้น​อ๋อง​เป็น​คน​เช่นไร​

โชคดี​ที่​ความสนใจ​ของ​บุรุษ​ทั้งสอง​ไม่ได้​อยู่​ที่​นาง​ จึงไม่พบ​ความผิดปกติ​อะไร​

ไป๋​จื่อ​ถามอย่าง​ต่อเนื่อง​ “ท่าน​อา​ ก่อนหน้านี้​ข้า​เคย​มาดื่ม​ชาและ​ฟังนิทาน​ที่นี่​ ได้ยิน​คน​เล่าเรื่อง​บน​เวที​บอ​กว่า​เซียว​อ๋อง​และ​จิ้น​อ๋อง​เป็น​องค์​ชาย​ที่​ฮ่องเต้​รักใคร่​เป็น​อย่างยิ่ง​ ทว่า​พระองค์​ยัง​ปล่อย​ตำแหน่ง​ไท่จื่อ​เว้น​ว่าง​ ไม่ทรง​เลือก​เสียที​ ใน​อดีต​ทุกคน​ต่าง​รู้สึก​ว่า​เซียว​อ๋อง​จะต้อง​ได้รับ​ตำแหน่ง​ไท่จื่อ​อย่าง​แน่นอน​ ทว่า​วันนี้​จิ้น​อ๋อง​กลับมา​แล้ว​ เรื่อง​นี้​เกรง​ว่า​จะไม่มีใคร​คาดเดา​ได้​แล้ว​กระมัง​”

พวกเขา​สอง​คง​ฟังแล้วก็​มีสีหน้า​เปลี่ยนไป​ทั้งคู่​ รีบ​กล่าวว่า​ “แม่นาง​น้อย​ เรื่อง​นี้​คงจะ​ถก​กัน​เรื่อยเปื่อย​ไม่ได้​ โชคดี​ที่​ที่นี่​เป็น​ทาง​ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ​ ฮ่องเต้​อยู่​ห่าง​ออก​ไป​ไกลโพ้น​ ขืน​เจ้ากล้า​พูด​เช่นนี้​ที่​เมืองหลวง​ วัน​ต่อมา​เจ้าคงจะ​เดิน​ไม่ได้​แล้ว​ล่ะ​”

ไป๋​จื่อ​ยิ้มแห้ง​ “ข้า​ก็​เพียง​ใคร่รู้​เท่านั้น​ เล่า​ให้​ฟังสักหน่อย​ไม่ได้​เลย​หรือ​เจ้าคะ​”

อีก​ฝ่าย​ส่ายหน้า​ “เจ้าไม่รู้​อะไร​ เซียว​อ๋อง​มีนิสัย​แปลกประหลาด​ คน​ของ​เขา​ก็​วางท่า​และ​ไร้​มารยาท​ อาศัยว่า​มีเซียว​อ๋อง​ผู้ยิ่งใหญ่​คอย​หนุนหลัง​ ทำ​เรื่อง​ชั่วช้า​อยู่​ใน​เมืองหลวง​ไม่น้อย​ หาก​พวกเขา​ได้ยิน​คำพูด​ของ​เจ้าเข้า​ ข้า​ก็​ไม่รู้​เลย​ว่า​พวกเขา​จะจัดการ​กับ​เจ้าอย่างไร​”

เสี่ยว​เฟิงหลุดปาก​ออก​ไป​ว่า​ “คน​เช่นนี้​คู่ควร​เป็น​อ๋อง​ด้วย​หรือ​”

ไป๋​จื่อ​ถอนใจ​กล่าว​ “นี่​ไม่ใช่ปัญหา​ว่า​คู่ควร​หรือไม่​ เมื่อ​ได้มา​เกิด​เป็น​เลือดเนื้อเชื้อไข​ของ​จักรพรรดิ​ก็​ถือว่า​เป็น​อ๋อง​แล้ว​ พวกเรา​ชาวบ้าน​ไม่มีสิทธิ์​ไป​วิจารณ์​ว่า​คู่ควร​หรือไม่​คู่ควร​”

บุรุษ​สอง​คน​รีบ​ตอบรับ​ว่า​นาง​กล่าว​ถูกต้อง​ ไป๋​จื่อ​จึงถามอี​กว่า​ “แล้ว​จิ้น​อ๋อง​เป็น​คน​เช่นไร​”

พวกเขา​ต่าง​ก็​ส่ายหน้า​ “ข้า​ไม่รู้​ ส่วนใหญ่​แล้ว​ข่าวลือ​ของ​จิ้น​อ๋อง​จะบอ​กว่า​เขา​กล้าหาญ​อย่างไร​ ชนะสงคราม​อย่างไร​ แต่​ไม่เคย​ได้ยิน​เรื่อง​อื่น​เลย​”

ไป๋​จื่อ​ฟังแล้วก็​ไม่รู้สึก​ข้องใจ​ เพราะ​เขา​ไม่ได้​ใช้ชีวิต​อยู่​ใน​เมืองหลวง​ตั้งแต่​เล็ก​ จะไม่มีข่าวลือ​ของ​เขา​ที่นั่น​ก็​เป็นเรื่อง​ปกติ​มาก​

ถามต่อไป​ก็​ไม่น่า​ได้ความ​อะไร​แล้ว​ พวก​นาง​นั่ง​ต่อ​อีก​สักพัก​ ก่อน​จะจากไป​ทั้งๆ ที่​ยัง​ดื่ม​ชาไม่หมด​เลย​ด้วยซ้ำ​

ระหว่างทาง​กลับ​หมู่บ้าน​ รถม้า​วิ่ง​ช้ามาก​ พื้นดิน​ที่​ปกคลุม​ด้วย​หิมะ​สีขาว​ยัง​เหมือน​เหมือน​เช่น​ขา​ไป​ มีเพียง​ร่องรอย​รถม้า​ของ​พวก​นาง​เท่านั้น​

อากาศ​เช่นนี้​ คนใน​หมู่บ้าน​แทบจะ​ไม่ออก​มาจาก​บ้าน​ ต่าง​ก็​คุดคู้​อยู่​ใน​ผ้าห่ม​ สร้าง​ความอบอุ่น​ให้​ตัวเอง​อยู่​ใน​บ้าน​ จนกว่า​อุ​ณภูมิจะเพิ่มขึ้น​มาบ้าง​

เมื่อ​กลับ​ถึงบ้าน​ หู​จ่างหลิน​รีบ​ส่งถ้วย​น้ำแกง​ที่​เตรียม​ไว้​แล้ว​ให้​แก่​สตรี​ทั้ง​สามคน​ พวก​นาง​เกาะกลุ่ม​กอด​กัน​ ทำให้​ร่างกาย​ที่​แทบจะ​แข็งทื่อ​อบอุ่น​ขึ้น​มาบ้าง​

“เป็น​อย่างไรบ้าง​ มีจดหมาย​หรือไม่​” หู​จ่างหลิน​ถาม

ไป๋​จื่อ​ส่ายหน้า​ “ไม่มีเจ้าค่ะ​” เมื่อ​เห็น​ความผิดหวัง​ผุด​ขึ้น​มาบน​ใบหน้า​ของ​หู​จ่างหลิน​ นาง​ก็​รีบ​กล่าว​อี​กว่า​ “แม้จะไม่มีจดหมาย​ แต่​ข้า​สอบถาม​ข่าวคราว​มาได้​จำนวน​หนึ่ง​ ตอนนี้​หู​เฟิงไม่เป็นอะไร​ อา​อู่​ก็​น่าจะ​อยู่​กับ​หู​เฟิงเช่นกัน​ พวกเขา​จะต้อง​สบายดี​ทั้งคู่​แน่​เจ้าค่ะ​”

หู​จ่างหลิน​ถอนหายใจ​ยกใหญ่​ รอยยิ้ม​ปรากฏ​ขึ้น​มาบน​หน้า​ในที่สุด​ “ไม่เป็นอะไร​ก็​ดีแล้ว​ เช่นนั้น​ดี​ที่สุด​”

ทันใดนั้น​มีเสียงเคาะ​ประตู​ดัง​มาจาก​ข้างนอก​ เสี่ยว​เฟิงรีบ​ไป​เปิด​ประตู​ พบ​ว่า​เป็น​จางซื่อ​และ​เจ้ารอง​ “พวก​ท่าน​มีธุระ​อะไร​หรือ​” เสี่ยว​เฟิงเอ่ย​ถาม

จางซื่อ​ยิ้ม​อย่าง​กระอักกระอ่วน​ ก่อน​จะรีบ​ส่ายหน้า​ “ข้า​มีธุระ​จะพูด​กับ​อา​จื่อ​สักหน่อย​ นาง​อยู่​หรือไม่​”

เสี่ยว​เฟิงหัน​หลับ​ไป​มอง​ไป๋​จื่อ​ใน​เรือน​ เมื่อ​เห็น​นาง​พยักหน้า​ เขา​ถึงจะเบี่ยง​ตัว​ให้​พวกเขา​เข้าไป​

ตอนนี้​เสี่ยว​เฟิงเกลียดชัง​คน​สกุล​ไป๋​ยิ่งนัก​ ถึงแม้จางซื่อ​และ​เจ้าจะแตกต่าง​จาก​คน​ที่​เหลืออยู่​บ้าง​ แต่​ถึงอย่างไร​พวกเขา​ก็​เป็น​คน​สกุล​ไป๋​ จึงรู้สึก​เกลียดชัง​เช่น​เดิม​

“มีธุระ​อะไร​หรือ​” ไป๋​จื่อ​ชี้ที่ว่าง​ข้าง​เตาผิง​ บ่งบอก​ให้​พวกเขา​นั่งลง​ผิง​ไฟ

ทั้งสอง​คน​รู้สึก​หนาว​จน​ทนไม่ไหว​ ครั้น​เห็น​ว่า​มีไฟก็​รีบ​ยื่นมือ​ไป​ผิง​

จางซื่อ​กล่าว​กับ​ไป๋​จื่อ​ว่า​ “อา​จื่อ​ พวก​ข้า​อยาก​ซื้อ​ข้าว​จาก​เจ้าสักหน่อย​”

ไป๋​จื่อ​เลิกคิ้ว​ “หลาย​วันก่อน​เพิ่ง​มาซื้อ​ไป​ไม่ใช่หรือ​ ผ่าน​ไป​ไม่นาน​เท่าไร​ก็​กิน​หมด​แล้ว​หรือ​นี่​” ครั้งก่อน​พวกเขา​ซื้อ​ข้าว​ไป​ไม่น้อย​ ตาม​หลัก​แล้ว​น่าจะ​พอให้​ครอบครัว​ของ​พวกเขา​สี่คน​ผ่าน​ฤดูหนาว​ไป​ได้​

……….

ตอนที่​ 534 ซื้อ​ข้าว​

จางซื่อ​ถอนใจ​ ก่อน​จะถลึงตา​มอง​เจ้ารอง​ที่อยู่​ข้างๆ​ “เดิมที​ก็​พอให้​พวก​ข้า​กิน​อยู่​หรอก​ แต่​บ้านใหญ่​เหมือนกับ​โจร​ก็​ไม่ปาน​ ทุกครั้งที่​หุงข้าว​ พวกเขา​ก็​จะมาขโมย​ไป​ นิสัย​เช่นนั้น​ของ​เจ้าใหญ่​ พวก​ข้า​สู้ไม่ได้​โดยสิ้นเชิง​ บวก​กับ​ความสามารถ​เล่นแง่​วาง​เล่ห์กล​ของ​หลิว​ก​ว้า​หัว​ พวก​ข้า​จึง…ต่อมา​เจ้ารอง​ทน​พวกเขา​ไม่ไหว​แล้ว​จริงๆ​ จึงแบ่ง​เสบียงอาหาร​ของ​พวก​ข้า​ให้​พวกเขา​ไป​ครึ่งหนึ่ง​”

ครั้น​พูดถึง​ตรงนี้​แล้ว​นาง​ก็​พลัน​โมโห​ขึ้น​มา เพราะ​สามีตน​แบ่ง​เสบียงอาหาร​ให้​ผู้อื่น​ไป​ครึ่งหนึ่ง​ โดยที่​ไม่มาหารือ​กับ​นาง​เลย​ด้วยซ้ำ​

จางซื่อ​ใช้แววตา​อัน​คม​ปลาบ​มอง​เจ้ารอง​ แล้ว​พูด​ต่อ​อี​กว่า​ “เดิมที​เสบียงอาหาร​เหลืออยู่​ครึ่งหนึ่ง​ พวก​ข้า​กิน​อย่าง​ประหยัด​สักหน่อย​ ก็​พอ​ประทังชีวิต​ต่อไป​ได้​หลาย​วัน​ แต่​ใคร​ระ​รู้​ว่า​เมื่อวาน​บ้าน​แม่ของ​หลิว​ก​ว้า​หัว​ส่งคน​มา บอ​กว่า​แม่ของ​นาง​ใกล้​จะอดตาย​แล้ว​ ไม่ได้​กิน​อะไร​ลงท้อง​มาหลาย​ อยาก​ให้​นาง​ช่วย​เจียด​ข้าว​ให้​สักหน่อย​”

“หลิว​ก​ว้า​หัว​เอง​ก็​อยาก​เจียด​ข้าว​ให้​ ทว่า​เจ้าใหญ่​และ​แม่สามีกลับ​ยืนกราน​ไม่ยอม​ สตรี​ชั่วช้า​ไร้ศีลธรรม​เช่น​หลิว​ก​ว้า​หัว​จึงถือโอกาส​ตอนที่​ข้า​ไป​ที่​ห้องครัว​ ขโมย​เสบียงอาหาร​ที่​เรือน​ของ​ข้า​ไป​จน​หมด​ ก่อน​จะมอบให้​พี่น้อง​บ้าน​แม่ของ​นาง​ไป​”

นาง​ยิ่ง​พูด​ก็​ยิ่ง​โมโห​ อยาก​จะหัก​มือ​ของ​สตรี​ร้ายกาจ​ผู้​นั้น​ทิ้ง​เสีย​

เสี่ยว​เฟิงที่อยู่​ข้างๆ​ พูด​ต่อ​ “ใน​เมื่อ​เป็น​เช่นนั้น​ เจ้าก็​แย่ง​เสบียงอาหาร​กลับ​มาจาก​นาง​สิ”

“ทีแรก​ข้า​ก็​คิด​เช่นนั้น​ ตอนนั้น​จะไป​ทวงถาม​เสบียงอาหาร​จากห​ลิ​วก​ว้า​หัว​ ให้​นาง​ตัก​ส่วน​ที่​ให้​พวกเขา​ไป​ก่อนหน้านี้​กลับมา​ แต่​เจ้ารู้​หรือไม่​ว่า​นาง​หญิง​ชั่ว​นั่น​พูดว่า​อะไร​ นาง​บอ​กว่า​เสบียงอาหาร​เหล่านั้น​ให้​พวก​นาง​บ้านใหญ่​แล้ว​ เช่นนั้น​ก็​เท่ากับ​เป็น​ของ​พวก​นาง​ อยาก​จะทวง​คืน​หรือ​ ไม่มีทาง​! ไม่เพียง​ไม่ให้​ข้า​เท่านั้น​ แม้แต่​ทำ​ข้าวเย็น​ก็​ไม่เหลือ​ให้​พวก​ข้า​บ้าน​รอง​สักนิด​ กิน​เสบียงอาหาร​ของ​พวก​ข้า​ แต่กลับ​ทำให้​พวก​ข้า​ต้อง​หิว​ โลก​นี้​ยังมี​ความยุติธรรม​อยู่​หรือไม่​” จางซื่อ​กล่าว​

จางซื่อ​เห็น​ภรรยา​โมโห​จน​เป็น​เช่นนั้น​ ก็​พลัน​รู้​ว่า​เป็น​ความรับผิดชอบ​ของ​ตน​ “ต้องโทษ​ที่​ข้า​ไม่ดี​เอง​ ข้า​ไม่ควร​ใจอ่อน​ คน​เช่น​พวกเขา​ไม่ควรค่า​ให้​เห็นใจ​เลย​”

“พวก​ท่าน​เคย​คิด​หรือไม่​ ว่า​เรื่อง​พรรค์​นี้​เกิดขึ้น​แล้ว​หนึ่ง​ครั้ง​ก็​จะมีครั้ง​ที่สอง​อีก​ ด้วย​ความสามารถ​ของ​พวก​ท่าน​แล้ว​ จะเลี้ยง​บ้านใหญ่​และ​หญิง​ชรา​รวมกัน​ห้า​คน​ได้​หรือ​” ไป๋​จื่อ​ถาม

จางซื่อ​ถ่มน้ำลาย​ทันที​ “เลี้ยง​พวกเขา​? จะเลี้ยง​อย่างไร​กัน​ พวกเขา​แต่ละคน​มีมือมีเท้า​ ไย​ต้อง​ให้​พวก​ข้า​เลี้ยง​ด้วย​ ข้า​คิด​ดีแล้ว​ พอ​ถึงฤดูใบไม้ผลิ​ปีหน้า​พวก​ข้า​จะปลูก​แตง​ดิน​ หลังจาก​ได้เงิน​แล้วก็​จะตั้งบ้าน​ของ​ตัวเอง​เช่นเดียวกับ​เจ้า และ​จะไม่พบ​หน้า​พวกเขา​อีก​นับตั้งแต่​นั้น​”

ไป๋​จื่อ​ส่ายหน้า​ ไม่ได้​พูด​อะไร​อีก​

สถานการณ์​ของ​พวกเขา​คล้าย​กับ​นาง​เช่นนี้​ได้​อย่างไร​ ไป๋​จื่อ​เป็น​เด็ก​ที่เก็บ​มาเลี้ยง​ จ้าว​หลาน​เอง​ก็​เป็น​ภรรยา​ที่​แต่ง​เข้ามา​ แต่​เจ้ารอง​เล่า​ เขา​เป็น​ลูก​แท้ๆ​ ของ​หญิง​ชรา​ เป็น​น้องชาย​แท้ๆ​ ของ​เจ้าใหญ่​ ความสัมพันธ์​ทาง​สายเลือด​เช่นนี้​ ตัด​กระดูก​แล้ว​เอ็น​ก็​ยัง​เชื่อม​กัน​อยู่​ อยาก​จะตัดขาด​ความสัมพันธ์​ไป​โดยสิ้นเชิง​ เห็นทีจะ​ยาก​ยิ่งกว่า​ยาก​

เด็กสาว​ลุกขึ้น​ยืน​ “พวก​ท่าน​รอ​ก่อน​ ข้า​จะไป​นำ​ข้าว​มาให้​” เรื่อง​ของ​พวกเขา​สกุล​ไป๋​ไม่เกี่ยวกับ​นาง​ นาง​คร้าน​จะยุ่งเกี่ยว​ คร้าน​จะถามไถ่ด้วย​เช่นกัน​ อีก​ฝ่าย​มาซื้อ​ข้าว​ ต้องการ​เท่าไร​ก็​ขาย​ไป​เท่านั้น​ ไม่เกี่ยว​อะไร​กับ​เรื่อง​น้ำใจ​ใน​อดีต​

“ไย​เจ้ายัง​ไม่นอน​” จ้าว​ซู่เอ๋อ​ลงมา​เข้า​ห้องน้ำ​ด้านล่าง​ ครั้น​กลับ​ห้อง​ตนเอง​เดินผ่าน​ห้อง​ของ​ไป๋​จื่อ​ เห็น​ว่า​ไฟด้านใน​ยัง​สว่างจ้า​ จึงเปิด​ประตูเข้า​ไปดู​

ไป๋​จื่อ​กำลัง​มอง​ดวงจันทร์​ข้างนอก​หน้าต่าง​ นาง​ยิ้ม​จาง “แสงจันทร์​สว่าง​เกินไป​ ข้า​นอนไม่หลับ​”

จ้าว​ซู่เอ๋อ​ขมวดคิ้ว​ “เหตุผล​อะไร​ของ​เจ้ากัน​ ข้า​ไม่เห็น​รู้สึก​เลย​ว่า​แสงจันทร์​สว่าง​เกินไป​ เจ้าพูด​กับ​ข้า​มาตามตรง​เถอะ​ กำลัง​คิดถึง​หู​เฟิงใช่หรือไม่​” นาง​เดิน​ไป​นั่งลง​ข้างๆ​ ไป๋​จื่อ​ ก่อน​จะยื่นมือ​ไป​ผิง​เตาถ่าน​

เด็กสาว​ส่ายหน้า​ “ไม่ใช่เจ้าค่ะ​ ข้า​เพียง​กำลัง​คิด​ว่า​ร้าน​ที่​พวกเรา​เพิ่ง​เช่ามีกิจการ​ดี​เช่นนี้​ ทว่า​เปิดร้าน​ได้​ไม่กี่​วัน​ก็​เจอ​หิมะ​ตกหนัก​เสียแล้ว​ เสียค่าเช่า​เดือน​นี้​ไป​เปล่าๆ​”

ขณะที่​จ้าว​ซู่เอ๋อ​กำลังจะ​พูด​ ก็​มีเสียงเคาะ​ประตู​ถี่กระชั้น​ดัง​มาจาก​ข้างนอก​ ฟังดู​แล้ว​เหมือน​มีคน​เรียกชื่อ​ของ​ไป๋​จื่อ​อยู่​ด้วย​ แต่​ฟังไม่ออ​กว่า​เป็น​ใคร​

คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา

คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา

Score 10
Status: Completed

จู่ๆ แพทย์หญิงยอดฝีมือจากยุคปัจจุบัน ดันตื่นขึ้นมาในร่างของเด็กสาวชาวบ้านยุคโบราณที่ถูกย่าและป้าสะใภ้ตีจนตายทั้งเป็น

ครั้นรอดชีวิตมาได้ ก็ถูกโขกสับไม่ต่างกับสาวใช้ในบ้าน ทั้งยังจะถูกจับขายแลกเงินให้แต่งกับบุรุษอายุคราวพ่อ

แต่ไป๋จื่อคนใหม่นี้จะไม่ปล่อยให้พวกนางใช้งานข่มเหงรังแกได้ตามใจชอบอีกต่อไปแล้ว

ให้ตายอย่างไรก็ต้องออกจากบ้านที่เหมือนกับขุมนรกแห่งนี้ไปให้ได้ จึงตัดสินใจสร้างอุบายทำให้ตนเองเสียชื่อ

เพื่อแยกบ้านกับเหล่าคนสกุลไป๋ได้อย่างสมบูรณ์ เพื่อให้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้ เพื่อให้มีข้าวกินอิ่มท้องสักมื้อ

หญิงสาวที่เคยมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งประเทศในยุคปัจจุบันต้องถกแขนเสื้อทำไร่ทำนา ใช้วิชาแพทย์แผนปัจจุบันรักษาคนไข้

และจัดการกับเหล่าคนในหมู่บ้านที่เข้ามาเอารัดเอาเปรียบนางด้วย

แต่ขณะเดียวกัน… ก็ต้องรักษาโรคความจำเสื่อมให้ชายหนุ่มกล้ามโตขี้น้อยใจอีก!

เดิมทีคิดจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุข หาเช้ากินค่ำ เลี้ยงชีพให้ตนและท่านแม่มีชีวิตที่ดี

แต่ความหวังพรรค์นั้นน่าจะไม่มีทางเป็นจริงได้ หนทางข้างหน้าไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเอาเสียเลย!

Options

not work with dark mode
Reset