Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์ 974 ผู้ใช้วิชาดาบหรือ หึ!

ตอนที่ 974 ผู้ใช้วิชาดาบหรือ หึ!

ช่วง​ที่​มังกร​มาร​เข้าสู่​อาณาจักร​หนาม​

อีก​ด้าน​

ทางแยก​ของ​พื้นที่​จ้าว​โลก​และ​พื้นที่​เอก​ฐาน​

วิญญาณ​กรีดร้อง​ถูก​ขวางทาง​โดย​สุนัข​สีดำ​

เสียง​กรีดร้อง​ยาว​ค่อยๆ​ หาย​ไป​

ใน​สายลม​และ​ควัน​ ทุก​ชีวิต​ที่​ปรากฏ​ใน​มิติ​รอบข้าง​ถูก​ดูด​วิญญาณ​ ซากศพ​ถูก​พัด​ด้วย​สายลม​ใน​วังวน​ความว่างเปล่า​

สุนัข​สีดำ​ยืน​อยู่กับที่​ขณะ​ถือ​ไม้เท้า​ความตาย​ ดู​ปลอดภัย​หายห่วง​

“นี่​มัน​เป็นไปไม่ได้​!”

วิญญาณ​กรีดร้อง​จ้อง​ไม้เท้า​ใน​มือ​ของ​สุนัข​สีดำ​ เผย​สีหน้า​เหลือเชื่อ​ออกมา​เป็นครั้งแรก​

“ยุค​นั้น​มัน​จบ​ไป​นาน​แล้ว​ สิ่งที่​เรียก​ว่า​เทพ​หาย​ไป​นาน​แล้ว​ เจ้ามัน​ก็​แค่​เศษธุลี​ที่​หลง​เหลืออยู่​ใน​ความว่างเปล่า​ ทำไม​ยัง​มีพลัง​แห่ง​ความตาย​เหลืออยู่​อีก​!”

ประโยค​นี้​คล้าย​กับ​เป็นการ​ระบาย​ แต่​ก็​เหมือนกับ​เป็น​คำถาม​เช่นกัน​

สุนัข​สีดำ​ยืน​อยู่​ที่​เดิม​ บน​ใบหน้า​เผย​รอยยิ้ม​ลึกลับ​ออกมา​

“สัตว์ประหลาด​หุบเหว​ที่​น่าสงสาร​เอ๋ย​ เจ้าไม่รู้​อะไร​เกี่ยวกับ​อดีต​เลย​สินะ​ ความเข้าใจ​เรื่อง​พลัง​ของ​เจ้าถึงได้​ตื้นเขิน​เพียงนี้​”

สุนัข​สีดำ​กล่าว​เสียงดัง​ขณะ​ลอบ​เพ่ง​สติ​ไป​ยัง​ไม้เท้า​ความตาย​

มัน​ตรวจสอบ​ไม้เท้า​เงียบๆ​ หัวใจ​ค่อยๆ​ ดิ่ง​วูบ​

พลัง​แห่ง​ความตาย​บน​ไม้เท้า​ใกล้​หมด​แล้ว​ แต่​การต่อสู้​เพิ่งจะ​เริ่ม​เท่านั้นเอง​

วิญญาณ​กรีดร้อง​ผู้​เป็น​สัตว์ประหลาด​หุบเหว​นิรันดร์​คือ​ศัตรู​ที่​ทรงพลัง​

ใน​ฐานะ​ขุม​กำลัง​หุบเหว​และ​ผู้ส่งสาร​ความโกลาหล​ มัน​สามารถ​บัญชา​ทั้ง​พลัง​หุบเหว​และ​ความโกลาหล​พร้อมกัน​ได้​

เพื่อ​ขัดขืน​เสียง​กรีดร้อง​ สุนัข​สีดำ​ต้อง​ใช้ไม้เท้า​เพื่อ​กักเก็บ​พลัง​ความตาย​เอาไว้​หลาย​ปี​

ใช่แล้ว​ เพราะ​เทพ​จากไป​ หลาย​ปี​มานี้​จึงเป็นการ​ยาก​มาก​ที่จะ​ได้รับ​พลัง​แห่ง​ความตาย​

ยังไง​เสีย​พลัง​แห่ง​ความตาย​บน​ไม้เท้า​ความตาย​ถูก​สั่งสมโดย​ความพยายาม​ของ​สุนัข​สีดำ​

“ข้า​ไม่เชื่อ​! ยุค​ของ​เทพ​มัน​จบ​ลง​ไป​แล้ว​!”

วิญญาณ​กรีดร้อง​คำราม​

ด้าน​หลังเขา​ หมอก​สีเทา​ไม่มีสิ้นสุด​ม้วน​เข้ามา​ก่อน​ค่อยๆ​ ปกคลุม​ท้อง​นภา​และ​ดวงตะวัน​

เสียง​มาจาก​หมอก​สีเทา​

“ผู้ส่งสาร​ของ​ข้า​ ข้า​มาตาม​เสียง​เรียก​ของ​เจ้าจน​มาถึงที่นี่​ด้วย​การ​เดิน​ทางพิเศษ​”

ทันทีที่​เสียง​สิ้นสุดลง​ อีก​เสียง​ก็​ดัง​ขึ้น​ใน​หมอก​สีเทา​

“ตาม​ข้อตกลง​ ข้า​ตอบรับ​เสียง​เรียกขาน​ของ​ผู้ส่งสาร​ก่อน​มาสู้เพื่อ​ความโกลาหล​”

เสียง​ไม่ขาดตอน​ราวกับว่า​มีผู้คน​จำนวนมาก​ปรากฏตัว​ขึ้น​ใน​หมอก​สีเทา​

“ข้า​มาแล้ว​”

“น่าสนใจ​จริงๆ​ ผู้ส่งสาร​จะแสดง​ความคืบหน้า​ให้​ข้า​ได้​เห็น​แล้ว​”

“ใน​เมื่อ​ข้า​ถูก​อัญเชิญ​มาแล้ว​ ไม่ว่า​ตัวตน​จะเป็น​อะไร​ มัน​ก็​ต้อง​ถูก​ข้า​ฆ่าอยู่ดี​”

“การต่อสู้​ยัง​ไม่เริ่ม​อีก​หรือ​”

หมอก​สีเทา​ค่อยๆ​ จางหาย​

หลาย​สิบ​คน​ปรากฏ​ขึ้น​ที่​ด้านหลัง​วิญญาณ​กรีดร้อง​

“ข้า​รู้จัก​เจ้า สุนัข​แห่ง​ความตาย​ใน​วิหาร​แห่ง​ความตาย​ เดิม​เจ้าไม่ได้​มีพลัง​ที่​แก่กล้า​เช่นนี้​ ไม่งั้น​คง​ไม่มีทาง​สู้กับ​ข้า​ที่​มีความโกลาหล​ใน​สภาพ​สมบูรณ์​ได้​”

วิญญาณ​กรีดร้อง​กล่าว​ต่อว่า​ “เอา​สิ ใน​เมื่อ​เจ้ารักษา​เจตจำนง​ของ​เทพ​แห่ง​ความตาย​ก็​ให้​ข้า​ดู​หน่อย​ว่า​เจ้าจะสามารถ​ต่อสู้​กับ​ผู้​แบกรับ​ความโกลาหล​ได้​นาน​แค่​ไหน​”

มัน​ส่งสัญญาณ

ผู้​แบกรับ​ความโกลาหล​หลาย​สิบ​คน​เคลื่อนตัว​เข้าหา​สุนัข​สีดำ​

สุนัข​สีดำ​ลอบ​คร่ำครวญ​ ใบหน้า​จริงจัง​มากขึ้น​

คน​เหล่านี้​มีแผง​ความโกลาหล​พิเศษ​เป็น​ของ​ตัวเอง​ พละกำลัง​เหนือกว่า​ระดับ​จ้าว​โลก​ แค่​พละกำลัง​เพียง​คนเดียว​ก็​เป็นการ​ยาก​ที่จะ​ต่อสู้​แล้ว​

เรื่อง​ดังกล่าว​ถูก​วิญญาณ​กรีดร้อง​สังเกตเห็น​ทันที​

ไม่มีทาง​!

สุนัข​สีดำ​ชูไม้เท้า​ความตาย​ก่อน​ร่าย​คาถา​เสียงดัง​

“ทุกสิ่ง​มีทั้ง​จุดเริ่มต้น​และ​จุดสิ้นสุด​”

“มาจาก​ธุลี​ หลับใหล​ใน​ธุลี​”

“มีเพียง​วิญญาณ​ที่​สามารถ​ก้าว​ข้าม​ทุกสิ่ง​และ​เข้าสู่​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​ลับ​ของ​ความตาย​ได้​”

เสียง​ของ​มัน​พลัน​ดัง​ขึ้น​

“วิญญาณ​เอ๋ย​!”

“ข้า​คือ​เจ้านาย​ของ​เจ้า!”

แสงสีดำ​ระเบิด​ออกจาก​ไม้เท้า​ความตาย​ สาดส่อง​ใส่ผู้​แบกรับ​ความโกลาหล​เหล่านั้น​

ผู้​แบกรับ​ความโกลาหล​เคลื่อนไหว​คน​แล้ว​คน​เล่า​

กลุ่ม​ร่าง​มายา​ลอย​ขึ้น​จาก​พวกเขา​ก่อน​ถูก​แสงสีดำ​ดึง​เข้าไป​ใน​อากาศธาตุ​

ร่าง​มายา​เหล่านั้น​ขัดขืน​ด้วย​พละกำลัง​ทั้งหมด​ที่​มี เปล่งเสียง​ตะโกน​ที่​เงียบสงัด​และ​พยายาม​ทำ​ทุกสิ่ง​เท่า​ที่จะ​ทำได้​เพื่อ​กลับ​เข้า​ร่าง​

“วิญญาณ​เอ๋ย​ จงหลับใหล​เสียเถอะ​”

สุนัข​สีดำ​ร่าย​คาถา​สุดท้าย​ด้วย​น้ำเสียง​ลุ่มลึก​

วูๆ​

มีเสียง​กระซิบ​แห่ง​ความ​เศร้าโศก​มาจาก​ไม้เท้า​ความตาย​

ภายใต้​คาถา​ความตาย​นี้​ ทุก​ความพยายาม​ของ​ร่าง​มายา​ช่างไร้ประโยชน์​

พวก​มัน​กระโจน​เข้าสู่​ไม้เท้า​ความตาย​ร่าง​แล้ว​ร่าง​เล่า​

เพียงแค่​อึดใจ​สั้น​ๆ

คาถา​สิ้นสุดลง​

ผู้​แบกรับ​ความโกลาหล​ทั้งหมด​กอง​ลง​กับ​พื้น​ใน​สภาพ​ไร้​ลมหายใจ​

ถึงแม้แต่ละคน​จะมีแผง​ความโกลาหล​พิเศษ​ แต่​พวกเขา​ไม่สามารถ​ขัดขืน​คาถา​ตรงหน้า​นี้​ได้​

ลูกตา​ของ​วิญญาณ​กรีดร้อง​พลัน​หด​ลง​ก่อน​เปล่งเสียง​ตะโกน​ออกมา​

“เสียง​กระซิบ​ของ​เทพ​แห่ง​ความตาย​!”

มัน​อด​ที่จะ​ก้าว​ถอยหลัง​เพื่อ​มอง​สุนัข​สีดำ​ด้วย​สายตา​เคร่งขรึม​ไม่ได้​

นี่​คือ​วิชา​เทพ​โบราณ​ที่​หายสาบสูญ​ไป​นาน​แล้ว​ มัน​เคย​ถูก​บันทึก​ใน​หนังสือ​ศักดิ์สิทธิ์​ของ​วิหาร​แห่ง​ความตาย​ แต่​หลาย​พันปี​ที่ผ่านมา​ ไม่มีใคร​ใช้งาน​มัน​ได้​สำเร็จ​

ดังนั้น​ ทุก​ชีวิต​ใน​ทุก​โลก​รู้​ว่า​เทพ​แห่ง​ความตาย​ไม่ได้​อยู่​ที่นั่น​นาน​แล้ว​

แต่​ทำไม​ล่ะ​ เขา​เห็น​วิชา​วิเศษ​นี้​กับ​ตา​ตัวเอง​ว่า​มัน​ใช้ได้ผล​อีกครั้ง​ไม่ใช่หรือ​

หลังจาก​ร่าย​คาถา​ สุนัข​สีดำ​จ้อง​วิญญาณ​กรีดร้อง​อีกครั้ง​

“เจ้ายังมี​อะไร​อีก​ เอา​ออกมา​ให้​หมด​เลย​”

สุนัข​สีดำ​ถือ​ไม้เท้า​ความตาย​ขณะ​กล่าว​อย่าง​แผ่วเบา​

ฉวยโอกาส​จาก​ความ​ตกตะลึง​ของ​อีก​ฝ่าย​ สุนัข​สีดำ​สื่อสาร​กับ​ไม้เท้า​ใน​ใจอีกครั้ง​

วิญญาณ​ความโกลาหล​ทั้งหมด​เพิ่ง​เก็บเกี่ยว​ได้​เมื่อ​ครู่​ พลัง​แห่ง​ความตาย​บน​ไม้เท้า​ความตาย​ถูก​ใช้จน​หมดสิ้น​

เมื่อ​เห็น​ผลลัพธ์​ดังนี้​ ใน​ใจของ​สุนัข​สีดำ​ค่อยๆ​ แตกตื่น​จน​ไม่อาจ​หักห้าม​ได้​

ถ้าไม่มีไม้เท้า​นี่​ พลัง​ของ​สุนัข​สีดำ​เพียง​อย่าง​เดียว​ย่อม​ไม่สามารถ​เทียบ​กับ​วิญญาณ​กรีดร้อง​ได้​แน่​

มัน​จะถูก​กิน​วิญญาณ​โดย​อีก​ฝ่าย​อย่าง​แน่นอน​

“วิญญาณ​กรีดร้อง​ ถอย​ไป​เสีย​ เจ้าไม่สามารถ​ไป​ต่อเมื่อ​อยู่​ตรงหน้า​ความตาย​ได้​หรอก​”

สุนัข​สีดำ​ยังคง​สงบ​ขณะ​กล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​ลุ่มลึก​

ตรงข้าม​มัน​ วิญญาณ​กรีดร้อง​ไม่ขยับ​

“บัดซบ​ นี่​มัน​เป็นไปไม่ได้​”

วิญญาณ​กรีดร้อง​กระซิบ​ ดวงตา​จับจ้อง​สุนัข​สีดำ​

เห็นได้ชัด​ว่า​อีก​ฝ่าย​เป็น​แค่​ข้า​รับใช้​ของ​เทพ​ ทำไม​ถึงทรงพลัง​ได้ขนาด​นี้​

มัน​ยัง​ซ่อน​อะไร​ไว้​อีก​

วิญญาณ​กรีดร้อง​กำหมัด​ ลอบ​ชั่งพละกำลัง​ของ​ทั้งสองฝ่าย​

หรือ​จะบุกเข้าไป​ลอง​สัก​ตั้ง​ดี​

วิญญาณ​กรีดร้อง​กระตือรือร้น​ที่จะ​ลอง​ แต่​ทันใดนั้น​ก็​พบ​กับ​สถานการณ์​ใหม่​เข้า​

เดี๋ยว​สิ

สุนัข​สีดำ​นี่​

หาง​ของ​มัน​ ตอนแรก​ตั้งขึ้น​สูง ตอนนี้​กลับ​ค่อยๆ​ หย่อนยาน​และ​ตกลง​ช้าๆ จน​มาอยู่​ตรง​หว่าง​ขา​

นี่​มัน​หมายความว่า​อย่างไร​

หรือว่า​มัน​กำลัง​เตรียม​จะใช้อย่าง​อื่น​เพื่อ​ฉวยโอกาส​แซงหน้า​ข้า​งั้น​หรือ​

วิญญาณ​กรีดร้อง​ลังเล​ก่อน​สลัด​ความคิด​ที่​พุ่ง​เข้า​โจมตี​ชั่วคราว​

อีก​ด้าน​

อีกา​สีดำ​พา​ซูเสวี่ยเอ้อร์​ แอน​นา​และ​หนิง​เย​ว่​ฉาน​บิน​เข้าสู่​วังวน​ความว่างเปล่า​อย่าง​รวดเร็ว​

“สู้ๆ! ท่าน​อีกา​ดำ​!”

แอน​นา​ส่งเสียง​ปลุกใจ​

“อย่า​ห่วง​ไป​เลย​ แอน​นา​ พวกเรา​จะถึงอาณาจักร​หนาม​ก่อน​วิญญาณ​กรีดร้อง​แน่นอน​” อีกา​สีดำ​กล่าว​

แอน​นา​มอง​ลง​ไป​แล้ว​กล่าวว่า​ “ข้า​ไม่รู้​ว่า​จะเกิด​อะไร​ขึ้นกับ​ท่าน​เทพ​สุนัข​สีดำ​บ้าง​”

“ไม่ต้อง​ห่วง​หรอก​ มัน​ผ่าน​ลม​ฝน​มามากมาย​ ไม่มีทาง​เป็น​อะไร​ง่ายๆ​ หรอก​” อีกา​สีดำ​กล่าว​

“แต่​มัน​มีจุดอ่อน​ใหญ่หลวง​อยู่​อย่างหนึ่ง​ เกรง​ว่า​ศัตรู​ก็​คง​มองออก​เช่นกัน​” แอน​นา​กล่าว​

“จุดอ่อน​หรือ​” อีกา​สีดำ​กล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​แปลกประหลาด​

“อืม​ มัน​ไม่สามารถ​ปกปิด​อารมณ์​ที่​แท้จริง​ได้​” แอน​นา​ถอนหายใจ​

มือ​อบอุ่น​หนึ่ง​คู่​แตะ​ไหล่​ของ​แอน​นา​เอาไว้​

ซูเสวี่ยเอ้อร์​

“แอน​นา​ อย่า​ห่วง​ไป​เลย​ ถ้าข้า​รับใช้​เทพ​ไม่สามารถ​รับมือ​กับ​มัน​ได้​ อย่าง​น้อย​พวกเรา​ก็​ยัง​มีโอกาส​หนีรอด​” ซูเสวี่ยเอ้อร์​ปลอบ​

แอน​นา​พยักหน้า​

พวก​นาง​สอง​คน​มอง​อีก​ฝั่ง

พวก​นาง​เห็น​ผู้ฝึก​ยุทธ​หญิง​สวม​ชุด​หลาก​สีสัน​ยืน​อยู่​ด้านหน้า​เพียงลำพัง​ขณะ​มอง​วังวน​ความว่างเปล่า​อัน​ไร้​ที่​สิ้นสุด​

แอน​นา​ครุ่นคิด​สักพัก​ เดิน​ไปหา​แล้ว​กล่าวว่า​ “ขอบคุณ​ที่​ก่อนหน้านี้​ช่วย​พวก​ข้า​เอาไว้​นะ​”

หนิง​เย​ว่​ฉาน​ไม่ได้​หันหลัง​กลับมา​มอง​ก่อน​กล่าว​อย่าง​แผ่วเบา​ว่า​ “ไม่ต้อง​คิดมาก​หรอก​”

ซูเสวี่ยเอ้อร์​กล่าวว่า​ “จะไม่ให้​สน​ผู้​ที่มา​ช่วยชีวิต​ได้​ยังไง​ ข้า​ขอ​แนะนำ​อะไร​สัก​อย่าง​แล้วกัน​”

“ว่า​มา”

ซูเสวี่ยเอ้อร์​ชี้ไป​ที่​แอน​นา​แล้ว​กล่าวว่า​ “เจ้าอาจจะ​มีสิทธิ์​ใน​การปลุก​บัญญัติ​นั่น​ให้​กับ​คู่หู​ของ​ข้า​เช่นกัน​ ข้า​จะไป​อาณาจักร​หนาม​กับ​นาง​ เจ้าไม่ต้อง​กลับ​ไป​หรอก​ เพราะ​อาณาจักร​หนาม​จะต้อง​กลายเป็น​สมรภูมิ​สำหรับ​การต่อสู้​อัน​ยิ่งใหญ่​อย่าง​แน่นอน​”

หนิง​เย​ว่​ฉาน​เงียบ​สักพัก​ น้ำเสียง​ของ​นาง​อบอุ่น​ขึ้น​มา “…ขอบคุณ​ที่​คิดถึง​ข้า​ แต่​ข้า​ต้อง​กลับ​ไป​”

“ทำไม​ล่ะ​” ซูเสวี่ยเอ้อร์​ถามอย่าง​สงสัย​

หนิง​เย​ว่​ฉาน​ก้ม​ศีรษะ​ต่ำ​แล้ว​ตอบ​ด้วย​น้ำเสียง​แผ่วเบา​แต่​มุ่งมั่น​ว่า​ “มีคน​ที่​ข้า​รอ​พบ​อยู่​”

ประโยค​นี้​พลัน​เปลี่ยนบรรยากาศ​ระหว่าง​ทั้ง​สาม

สำหรับ​เด็กผู้หญิง​ คำพูด​เหล่านี้​เต็มไปด้วย​เรื่อง​ซุบซิบ​มากเกินไป​

ซูเสวี่ยเอ้อร์​และ​แอน​นา​มองหน้า​กัน​

แอน​นา​อาจหาญ​ถามก่อน​ว่า​ “ข้า​ขอ​เดา​นะ​ สหาย​เต๋า​กับ​เจ้าไป​ถึงขั้น​นั้น​แล้ว​สินะ​”

หนิง​เย​ว่​ฉาน​หันมา​มอง​แล้ว​ยิ้ม​ออกมา​ก่อน​ตอบ​ว่า​ “ข้า​ยัง​ไม่ไป​ถึงขั้น​นั้น​หรอก​นะ​”

“โห​”

แอน​นา​และ​ซูเสวี่ยเอ้อร์​มีตอบ​อยู่​ใน​ใจเหมือนกัน​

ผู้หญิง​คน​นี้​คือ​อารักขา​ของ​อาณาจักร​หนาม​ คน​ที่​นาง​รัก​ต้อง​เป็น​คน​จาก​อาณาจักร​หนาม​แน่นอน​ บางที​คง​เป็น​หวานใจ​สมัย​เด็ก​หรือไม่​ก็​นักรบ​ชาย​ที่​ทำหน้าที่​อารักขา​

แต่​มัน​ก็​น่าแปลก​เช่นกัน​

บรรยากาศ​ตึงเครียด​ของ​สงคราม​ถูก​เจือจาง​ด้วย​หัวข้อ​นี้​

เห็นได้ชัด​ว่า​นี่​เป็น​สถานการณ์​วิกฤติ​ แต่​สามสาว​กลับ​ผ่อนคลาย​เมื่อ​คิดถึง​เรื่อง​นี้​เล็กน้อย​ ระยะห่าง​ระหว่าง​กัน​จึงแคบ​ลง​

แอน​นา​ชี้ไป​ที่​ซูเสวี่ยเอ้อร์​ จากนั้น​ชี้มาที่​ตัวเอง​แล้ว​กล่าวว่า​ “นาง​คือ​ซูเสวี่ยเอ้อร์​ อายุ​สิบ​เจ็ด​ปี​ ส่วน​ข้า​คือ​แอน​นา​ อายุ​สิบ​แปด​ปี​ ข้า​ขอ​บังอาจ​ถามได้​ไหม​ว่า​ปี​นี้​เจ้าอายุ​เท่าไหร่​”

“ข้า​อายุ​เท่าไหร่​หรือ​ ปี​นี้​ข้า​อายุ​ยี่​สิบสอง​ปี​น่ะ​” หนิง​เย​ว่​ฉาน​ตอบ​

“ต้อง​เรียก​เจ้าว่า​พี่สาว​สินะ​ ที่จริง​ ข้า​อยากรู้​ว่า​ผู้ชาย​ที่​เจ้าคิดถึง​มีนิสัย​ยังไง​” ซูเสวี่ยเอ้อร์​กล่าว​พร้อม​รอยยิ้ม​

“ทำไม​อยากรู้​ล่ะ​” หนิง​เย​ว่​ฉาน​ถาม

“วิชา​ดาบ​ของ​เจ้าดีมาก​ คนธรรมดา​ไม่สามารถ​ไป​ถึงระดับ​นี้​ได้​หรอก​ แถมรูปลักษณ์​ของ​เจ้าก็​มีเสน่ห์​ อ่อนโยน​และ​ใจกว้าง​ แม้แต่​ข้า​ยัง​รู้สึก​ติดใจ​เลย​ ข้า​อยากรู้​ว่า​ใคร​กันที่​สามารถ​ทำให้​เจ้ารอคอย​ด้วย​ความคิดถึง​แบบนี้​ได้​” ซูเสวี่ยเอ้อร์​กล่าว​อย่าง​จริงจัง​

“เหลวไหล​น่า​ อย่า​พูด​แต่​เรื่อง​ข้า​เลย​ แล้ว​เรื่อง​ของ​เจ้าล่ะ​” หนิง​เย​ว่​ฉาน​อาย​เล็กน้อย​ก่อน​ยิ้ม​เพื่อ​กลบเกลื่อน​คำถาม​

“พวก​ข้า​”

ซูเสวี่ยเอ้อร์​และ​แอน​นา​สบตา​กัน​ก่อน​กล่าว​อย่าง​จนใจ​ว่า​ “น่าเสียดาย​ที่​พวก​ข้า​ดัน​มาชอบ​ผู้ชาย​คน​เดียวกัน​”

หนิง​เย​ว่​ฉาน​มองออก​นาน​แล้ว​ จากนั้น​จึงถามว่า​ “เขา​เป็น​คน​แบบ​ไหน​หรือ​”

“เออ​ มัน​ก็​พูด​ยาก​อยู่​ ใช่ เขา​เอง​ก็​เป็น​ผู้ฝึก​ยุทธ​เหมือนกัน​”

“โห​”

หนิง​เย​ว่​ฉาน​เกิด​สนใจ​ขึ้น​มาก่อน​ถามว่า​ “สหาย​เต๋า​คน​นี้​ฝึกฝน​อะไร​หรือ​ พวก​เจ้าน่าจะ​รู้​เกี่ยวกับ​ความแตกต่าง​ของ​การฝึกฝน​ใน​ลัทธิ​ของ​ผู้ฝึก​ยุทธ​นะ​ มัน​สามารถ​ตัดสิน​นิสัย​และ​พฤติกรรม​ของ​คน​คน​นั้น​ได้​คร่าวๆ​ ”

“จริง​หรือ​” แอน​นา​เริ่ม​สนใจ​เช่นกัน​

“จริง​ เรื่อง​นี้​ได้รับ​การ​ยืนยัน​มานาน​แล้ว​” หนิง​เย​ว่​ฉาน​พยักหน้า​

ซูเสวี่ยเอ้อร์พบ​ว่า​มัน​ช่างน่าสนใจ​จึงอุทาน​ออกมา​ “บอก​เจ้าก็ได้​ จาก​มุมมอง​ของ​ผู้ฝึก​ยุทธ​ เขา​ถึงกับ​เป็น​ผู้ใช้​วิชา​ดาบ​”

“ผู้ใช้​วิชา​ดาบ​หรือ​”

คิ้ว​เรียว​บาง​ของ​หนิง​เย​ว่​ฉาน​ยกขึ้น​ สีหน้า​ของ​นาง​น่าเกลียด​เล็กน้อย​

เมื่อ​รับรู้​ถึงการเปลี่ยนแปลง​ทาง​สีหน้า​ ซูเสวี่ยเอ้อร์​และ​แอน​นา​ถามพร้อมกัน​ว่า​

“ผู้ใช้​วิชา​ดาบ​มัน​ยังไง​หรือ​”

หนิง​เย​ว่​ฉาน​พ่นลม​ออก​จมูก​แล้ว​ตอบ​ว่า​ “นักพรต​ที่​ใช้ดาบ​สมัยนี้​มัก​มีวิธีการ​ที่​ยืดหยุ่น​และ​เจ้าเล่ห์​ นั่น​หมายความว่า​พวกเขา​มีความ​โลเล​เล็กน้อย​ด้วย​”

“ยิ่งกว่านั้น​ ความจริง​ก็​คือ​มีผู้ชาย​ที่​ใช้วิชา​ดาบ​น้อย​มาก​ๆ ข้า​คิด​เสมอ​ว่า​ผู้ใช้​วิชา​ดาบ​ไม่ได้​มีดี​อะไร​”

ใบหน้า​ของ​หนิง​เย​ว่​ฉาน​ไม่สู้ดี​ขณะ​พูด​กับ​ตัวเอง​ว่า​ “เขา​รู้ดี​ว่า​มัน​เกิด​อะไร​ขึ้น​ แต่​ถึงกับ​ใช้วิชา​เพื่อ​พิชิต​ใจพวก​เจ้าพร้อมกัน​จน​ทำให้​พวก​เจ้าทนทุกข์​กับ​ความปั่นป่วน​และ​อึดอัด​นี่​ ข้า​เกลียด​คน​แบบ​นั้น​จริงๆ​”

แอน​นา​และ​ซูเสวี่ยเอ้อร์​ตกตะลึง​

“อา​ นี่​คือ​ความตั้งใจ​ของ​พวก​ข้า​จริงๆ​” แอน​นา​โบกมือ​ด้วย​ความ​เขินอาย​

ซูเสวี่ยเอ้อร์​ถอนหายใจ​แล้ว​กล่าวว่า​ “ใช่ เขา​ไม่ได้​ใช้วิชา​อะไร​กับ​พวก​ข้า​เลย​ แต่​พูด​ตามตรง​ มัน​ก็​ไม่ค่อย​ชัดเจน​เท่าไหร่​ ท้ายที่สุด​ มัน​ลงเอย​ด้วย​ความ​สับสน​”

หนิง​เย​ว่​ฉาน​รู้สึก​ไม่ยินดี​มากขึ้น​เมื่อ​ได้ยิน​พวก​นาง​พูด​แบบนี้​

นาง​วาง​มือบน​มีด​ก่อน​กล่าว​อย่าง​แผ่วเบา​ว่า​

“พวก​เจ้าไม่ต้อง​อธิบาย​เรื่อง​ผู้ชาย​คน​นี้​อีกแล้ว​ พอ​ไป​ถึงอาณาจักร​หนาม​เมื่อไหร่​ ข้า​จะไปดู​เอง​ว่า​เขา​เป็น​คน​ยังไง​กัน​แน่​”

จิต​มีด​แรงกล้า​แผ่ออก​มาจาก​ร่างกาย​นาง​

ซูเสวี่ยเอ้อร์​และ​แอน​นา​มองหน้า​กัน​ ทั้งสอง​เห็น​ความ​จนใจ​ใน​แววตา​ของ​อีก​ฝ่าย​

ใช่แล้ว​ หนิง​เย​ว่​ฉาน​ช่วย​พวก​นาง​ทันทีที่​ปรากฏตัว​

หนิง​เย​ว่​ฉาน​เป็นห่วง​จริงๆ​ ว่า​พวก​นาง​ทั้งสอง​จะเผชิญหน้า​กับ​สวะ​เข้า​ ดังนั้น​นาง​จึงยิ่ง​เป็นห่วง​เข้าไป​ใหญ่​

แอน​นา​มองเห็น​ถึงสิ่งนี้​ ซูเสวี่ยเอ้อร์​ก็​มองเห็น​เช่นกัน​

ดังนั้น​พวก​นาง​ทำได้​เพียง​ปิดปาก​ เป็นเวลา​เนิ่นนาน​ที่​พวก​นาง​ไม่รู้​ว่า​จะพูดถึง​กู่​ฉิงซาน​อย่างไร​ดี​

Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์

Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 307 อ่านนิยาย

อาณาจักรทั้งมวลถึงคราวล่มสลาย  จอมมารหมายจะเก็บเกี่ยวชีวิตมนุษย์ทุกชีวิต  ท่ามกลางความสิ้นหวังอันมืดมน  ชายคนหนึ่งได้ฉีกเส้นแบ่งของเวลาและมิติ  หวนคืนสู่โลกในช่วงเวลาก่อนที่มันจะถูกทำลายลงโดยสมบูรณ์  หมายมุ่งที่จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตน  ทว่า  เมื่อวันเวลาได้ผ่านไป เขากลับพบว่ามันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด …

ปล. เนื้อหาทั้งหมดในเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องแต่ง หากมีส่วนใดคล้ายคลึงกับความเป็นจริงขอให้รู้ไว้ว่ามันเป็นเพียงเรื่องบังเอิญ!

Options

not work with dark mode
Reset