World of Warcraft ราชันต่างภพ 602

ตอนที่ 602

ติดตามผู้แปลได้ที่ Lazy Meow นิยายแปล

ชี่ชี่…… เมื่อเผ่าพันธุ์อันเดดได้สัมผัสกับเวทแสงของอูเธอร์ ควันสีดำก็ลอยขึ้นจากร่างของพวกมัน พวกอันเดดที่มีระดับต่ำต่างก็สลายกลายเป็นไอไป ด้วยเหตุนี้ ฉากอันแปลกประหลาดจึงปรากฏขึ้นในสนามรบ ตอนนี้กองทัพศาสนจักรอยู่ทางทิศตะวันออกของพวกอันเดด ตำแหน่งกึ่งกลางคือกองทัพอันเดด ขณะที่กองทัพของเซียวอวี๋อยู่ทางทิศตะวันตกของทัพอันเดด การแทรกสอดเข้ามาคั่นกลางของพวกอันเดดทำให้กองทัพทั้งสามตั้งประจันหน้ากันเป็นตรีศูล เมื่ออาร์ทัสพบเห็นอูเธอร์ ประแสงสีเขียวก็ปรากฏขึ้นวูบในแววตาของเขาก่อนจะจางหายไป หลังจากเงียบอยู่พักหนึ่ง อาร์ทัสก็ค่อยๆกล่าวขึ้นว่า “อูเธอร์ อาจารย์ข้า ครั้งหนึ่งท่านเคยเป็นผู้ชี้นำเส้นทางแห่งแสงต่อข้าและทำให้ข้ากลายเป็นพาลาดินที่ยอดเยี่ยม ทว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่ข้าต้องการ สิ่งที่ท่านให้ข้ามันยังไม่พอ ตอนนี้ข้าทั้งแข็งแกร่งและคงกระพัน ท่านไม่อาจเอาชนะข้าได้ อูเธอร์ แสงสว่างของท่าน เมื่ออยู่ต่อหน้าพลังแห่งความชั่วร้าย มันจะมอดดับตลอดกาล” “โอหัง เจ้าคิดจริงหรือว่าพลังแห่งความชั่วร้ายจะสามารถเอาชนะแสงสว่าง? มีเพียงแสงสว่างเท่าที่คงอยู่เป็นนิรันดร์ ตราบที่ดวงตะวันยังคงส่องแสง แสงจะดำรงคงอยู่ และชีวิตก็จะถือกำเนิด และเจ้า ผู้ไร้ซึ่งชีวิต เจ้าไม่สมควรดำรงอยู่ในโลกแห่งนี้ ข้า….ในนามของแสงสว่างจะชำระล้างเจ้าเอง…..” อูเะอร์กู่ร้องก่อนจะเหวี่ยงค้อนคู่ใจเข้าใส่อาร์ทัส อาร์ทัสเองก็ไม่ยอมถอย เขากวัดแกว่งดาบฟรอสต์มัวร์เข้าสู้ทันที ด้วยเหตุนี้ ฮีโร่ทั้งสองที่ต่างก็เป็นลูกน้องใต้สังกัดของเซียวอวี๋จึงเข้าโรมรันกัน เซียวอวี๋รู้สึกสมองพองโต เขาได้ปกปิดการดำรงอยู่ของพวกอันเดดเอาไว้จากทุกคน นั่นยังรวมถึงเหล่าฮีโร่ข้างกายเขาด้วย และตอนนี้เขาก็ยังคงปกปิดเรื่องนี้เอาไว้ ดังนั้นจึงไม่มีใครทราบว่าอาร์ทัสนั้นทำงานรับใช้เซียวอวี๋ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ทั้งสองจะเปิดฉากสู้กันทันทีที่พบหน้า ขณะที่ฮีโร่ทั้งสองกำลังประมือกันอยู่กลางสนาม สายตาของแอนโทนีดาสและเคลธูซาดก็สบประสานกัน และอย่างที่ทราบ คู่นี้เองก็มีความสัมพันธ์ฉันท์อาจารย์และศิษย์ เมื่อเออซ่าได้เห็นฉากนี้ เขาก็ประหลาดใจขึ้นมา เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าทั้งสองฝ่ายจะปะทะกันทันทีเช่นนี้ เขาเชื่ออย่างสนิทใจว่าพวกอันเดดนั้นมีเซียวอวี๋คอยบงการอยู่หลังฉาก แต่เมื่อได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เขาก็เริ่มไม่แน่ใจขึ้นมา เขาสัมผัสได้ว่านี่ไม่ใช่เรื่องหลอกตา ความเกลียดชังที่อูเธอร์และอาร์ทัสได้แสดงออกมานั้นเป็นของจริง ขณะเดียวกันเขาก็สัมผัสได้ถึงความเป็นปรปักษ์ระหว่างแอนโทนีดาสและเคลธูซาดได้อย่างเด่นชัด ความเป็นศัตรูกันระหว่างภาคีหัตถ์เงินและกองทัพอันเดดเองก็ไม่อาจหลุดรอดสายตาเขาไปได้ ในขณะนั้นเอง ทหารศาสนจักรบางคนที่เห็นฉากนี้ก้เริ่มที่จะชักอาวุะตรงเข้าสู้กับพวกอันเดด ถึงที่สุดแล้ว กระบวนการล้างสมองของศาสนจักรก็ไม่พ้นยกอูเธอร์ขึ้นเป็นพระเจ้าสูงสุดของศาสนจักร และหน้าที่ของสาวกก็คือชำระล้างเหล่าผู้ไม่ตาย เมื่อได้เห็นอูเธอร์เข้าปะทะกับอาร์ทัส พวกเขาก็รู้สึกอยากช่วยเหลืออูเธอร์ขึ้นมา กระทั่งลืมความจริงที่ว่าพวกเขาเคยคิดว่าอูเธอร์ผู้นี้อาจจะเป็นตัวปลอม ในเวลานี้พวกทหารต่างก็รู้สึกว่าอูเธอร์ผู้นี้คือตัวจริง และพวกเขาควรสนับสนุน พวกอันเดดนั้นได้รับแรงหนุนจากแน็กแรม ดังนั้นความแข็งแกร่งของพวกมันจึงเพิ่มขึ้นมาก แต่เมื่อถูกกระหนาบโจมตีจากกองทัพของเซียวอวี๋และกองทัพศาสนจักรทั้งสองทาง จำนวนที่มากกว่าจึงค่อยๆเผยข้อได้เปรียบออกมา เมื่อเหตุการณ์ดำเนินไปในรูปแบบนี้ เซียวอวี๋จึงรีบลอบสั่งการให้อาร์ทัสล่าถอย หากเขายังอยู่ต่อไป ไม่แน่ว่าเขาจะต้องตายจริงๆ แม้จะไม่เต็มใจ แต่อาร์ทัสก็ยังคงฟังคำสั่งของเซียวอวี๋ เขากู่ร้องคราหนึ่งก่อนจะนำทัพอันเดดของเขาตีฝ่าวงล้อม เนื่องด้วยทัพอันเดดมีอันเดดระดับต่ำจำนวนมากเป็นโล่เลือดเนื้อ การสละตัวเองของพวกมันได้ซื้อเวลาให้พวกอันเดดระดับสูงถอยร่นออกไปได้อย่างปลอดภัย แม้ทหารศาสนจักรและภาคีหัตถ์เงินจะพยายามติดตามไป พวกเขาก็ไล่ฝีเท้าของอีกฝ่ายไม่ทัน และเมื่ออาร์ทัสนำทัพอันเดดจากไป นครลอยฟ้าแน็กแรมก็เคลื่อนตัวไปในทิศทางเดียวกัน “ท่านย่ามันเถอะ แน็กแรมถูกควบคุมโดยอาร์ทัส?” เซียวอวี๋พลันตั้งข้อสงสัยขึ้นในใจ แต่ตอนนี้เขายังไม่มีเวลามาขบคิดเรื่องนี้ เพราะที่เบื้องหน้า กองทัพของดินแดนไลอ้อนและกองทัพของศาสนจักรอยู่ในตำแหน่งจ่อประชิดใส่กัน อย่างไรก็ตาม มีเรื่องแปลกเกิดขึ้นเมื่อเหล่าทหารของศาสนจักรต่างก็เข้ามาล้อมรอบอูเธอร์ไว้ หากแต่ไม่มีท่าทีคุกคามแต่อย่างใด ทันใดนั้นเอง ทหารศาสนจักรทุกนายก็ตะโกนขึ้นพร้อมกัน “ท่านอูเธอร์จงเจริญ ความยุติธรรมจงเจริญ….” เหล่าภาคีหัตถ์เงินเองก็เข้าร่วมการตะโกนนี้ด้วย จากนั้น กองทัพศาสนจักรก็เริ่มเปล่งเสียงตะโกนตาม แรกเริ่มนั้นมีเพียงพวกทหารที่อยู่ใกล้ๆ และไม่นาน เหล่าทหารที่อยู่ไกลๆเองก็เปล่งเสียงตาม นั่นอยู่รวมถึงเหล่าพาลาดินที่อยู่ข้างกายของเออซ่าด้วย ในชั่วขณะนั้น เสียงตะโกนได้ดังก้องไปทั่วสนามรบ ทุกคนต่างก็ได้รับอิทธิพลจากเสียงตะโกนนี้ เออซ่าที่มีไหวพริบย่อมทราบว่าเวลานี้เขาไม่ควรหยุดยั้ง เพราะหากเขากล้าก้าวออกไปขัดขวางมวลชนในเวลาเช่นนี้ เขาคงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย ในใจเขาตระหนักดีว่าความกระตือรือร้นของมวลชนเวลานี้จะไปได้ถึงระดับ และเมื่อพวกทหารต่างก็ร่วมเปล่งเสียงตะโกนพร้อมกันเช่นนี้ เขาก็ทราบแล้วว่าการเปลี่ยนแปลงได้หยั่งลึกเข้าไปถึงกระดูกของเหล่าทหารแล้ว ตัวเขาเพียงลำพังไม่อาจเปลี่ยนแปลงสิ่งใด เซียวอวี๋ที่อยู่บนหลังของมังกรน้อยมองดูฉากที่ปรากฏขึ้นอย่างมึนงง นี่มันอะไรกัน? ไม่ใช่ว่าพวกเราจะสู้กันต่อหรือ? เหตุการณ์กลับดำเนินไปตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง ผู้คนทั้งหมดต่างก็เข้ามาล้อมอูเธอร์ก่อนจะคุกเข่าลง เซียวอวี๋สับสน เดิมทีเขาตั้งใจเรียกอาร์ทัสมาช่วยรับมือกับกองทัพศาสนจักร ทว่าเมื่อมาถึงสนามรบ อูเธอร์กับอาร์ทัสกลับหันมาห้ำหั่นกันเองเสียอย่างนั้น จากนั้นพวกทหารศาสนจักรก็พลันยอมรับอูเธอร์เป็นเทพแท้จริงของพวกเขา สถานการณ์เช่นนี้เขาควรทำอย่างไรกับมันดี? เสียงตะโกนดังต่อเนื่องไปกว่าหนึ่งชั่วโมง จากนั้นความพลุ่งพล่านของพวกทหารจึงค่อยๆลดลง และจากนั้น พวกทหารของทั้งสองฝ่ายต่างก็มองหน้ากันไปมา ไม่ทราบว่าสมควรสงบศึกหรือสู้กันต่อ…. “สหายทั้งหลายเอ๋ย ท่านอูเธอร์ได้นำพวกเราเข้ากำจัดความชั่วร้าย ในภายภาคหน้า ภายใต้การนำของท่านอูเธอร์ผู้ยิ่งใหญ่ พวกเราจะสามารถกวาดล้างสิ่งชั่วร้ายทั้งมวลในโลกและพิทักษ์ความยุติธรรมให้กับโลกต่อไป พวกเราคือผู้ส่งสารแห่งแสงสว่าง พวกเราจะดำรงอยู่ตลอดไป ถวายความภักดีต่อท่านอูเธอร์ มหาพาลาดินผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล” ในเวลาเช่นนี้ เซียวอวี๋ย่อมไม่หยิบยกเรื่องที่อูเธอร์เป็นตัวจริงหรือตัวปลอมขึ้นมากล่าว เขาเริ่มปลุกระดมให้พวกทหารหันมาสวามิภักดิ์ต่ออูเธอร์ พวกทหารแสดงความยินดีและโค้งคำนับไปทางอูเธอร์ เซียวอวี๋ฉีกยิ้ม จากนั้นจึงบังคับมังกรน้อยบินไปยังทิศทางที่เออซ่าอยู่ “แล้วเจ้าเล่า คนฉลาดคือคนที่รู้สถานการณ์ เจ้าคงรู้นะว่าควรทำอย่างไร?” เซียวอวี๋มองเออซ่าพลางแสยะยิ้ม เออซ่าเงยหน้าขึ้นมองเซียวอวี๋ จากนั้นจึงเบนสายตาไปยังมวลชนที่กำลังตื่นเต้นยินดี หลังจากเงียบอยู่พักใหญ่ เขาก็ค่อยๆกล่าวว่า “ข้าทราบ….ท่านอูเธอร์จงเจริญ” หลังจากเออซ่ากล่าวจบ เหล่าพาลาดินทั้งหมดที่อยู่โดยรอบก็รีบตะโกนตาม การต่อสู้นองเลือดที่ควรเกิดพลันจบลงไปในลักษณะนี้ และกองทัพศาสนจักรทั้งหมดก็เข้าร่วมกับเซียวอวี๋ มีเรื่องวิเศษเช่นนี้ด้วย?

World of Warcraft ราชันต่างภพ

World of Warcraft ราชันต่างภพ

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 - 300 อ่านนิยาย ตอนที่ 301 - 400 อ่านนิยาย ตอนที่ 401 - 450 อ่านนิยาย ตอนที่ 451 - 460 อ่านนิยาย ตอนที่ 461 - 465 อ่านนิยาย ตอนที่ 466 - 469 อ่านนิยาย

( อ่านต่อข้างล่าง )


เซียวอวี๋ นักศึกษาจากโลกยุคปัจจุบัน เกิดอุบัติเหตุบางอย่างทำให้เขาได้หลุดเข้าไปที่อีกโลกหนึ่งในฐานะลอร์ดแห่งดินแดน เขาได้เผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากมากมาย เขาสาบานว่าสักวันเขาจะต้องเอาธุรกิจของตระกูลกลับคืนมาให้จงได้ สร้างดินแดนของตัวเอง สังหารผู้ใดก็ตามที่มาขวางทางผลประโยชน์ของเขา โลกนี้เขาจะปกครองมันเอง!


Options

not work with dark mode
Reset